Super God Gene – ตอนที่ 2062

หอกแสงทลายหมื่นมาร

หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ลงมาจากฝากฟ้า พวกดราก้อนถอยออกห่างจากเขาอย่างพร้อมเพียงราวกับกระแสคลื่น แต่พวกเขายังคงล้อมหานเซิ่นเอาไว้

 

หานเซิ่นเงยหัวขึ้นและเห็นอสูรสิบตัวที่ดูเหมือนกับนกบินเข้ามา แต่พวกมันไม่ได้ดูเหมือนกับนกซะทีเดียว พวกมันกำลังลากรถม้าเข้ามา

 

หานเซิ่นรู้สึกแย่ อสูรทั้งสิบนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกดราก้อนระดับดยุกซะอีก พวกมันอาจจะเป็นถึงระดับราชันเลยก็ได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าบุคคลที่อยู่ในรถม้าต้องน่ากลัวยิ่งกว่านั้น

 

หานเซิ่นไม่เข้าใจถึงสังคมของเผ่าดราก้อนมากนัก แต่เขาได้ยินมาจากดราก้อนไนน์ทีนว่าดราก้อนวันเป็นพี่ชายของเธอ ดังนั้นหานเซิ่นจึงเชื่อไปว่าเขาเป็นดราก้อนหนุ่มระดับดยุกคนหนึ่ง

 

แต่ทว่าหานเซิ่นหลงลืมสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งไป การเป็นคนหนุ่มของดราก้อน และคนหนุ่มของมนุษย์เป็น 2 สิ่งที่แตกต่างกันอย่างมาก

 

มนุษย์ที่อายุต่ำกว่า 30 ปีถือว่ายังหนุ่มอยู่ แต่เมื่อก็อตแซงชัวรี่ถูกค้นพบ อายุขัยของมนุษย์ก็เพิ่มขึ้น แต่ดราก้อนมีอายุขัยมากยิ่งกว่ามนุษย์ที่ค้นพบก็อตแซงชัวรี่ซะอีก คนหนุ่มของพวกเขามีอายุเป็นร้อยๆปี ดังนั้นมันจึงอยู่เหนือความคาดคิดของหานเซิ่น

 

ผ้าม่านถูกเปิดออกและเผยให้เห็นดราก้อนที่สวมมงกุฎนั่งอยู่ข้างใน ร่างของเขาถูกห่อหุ้มด้วยชุดเกราะสีดำ หานเซิ่นไม่ได้สัมผัสถึงพลังชีวิตของเขา แต่จากรูปลักษณ์ของเขา หานเซิ่นก็จะบอกได้ว่าเขาเป็นระดับราชัน

 

ในรถม้ายังมีดราก้อนหนุ่มสาวอีกคู่หนึ่งนั่งอยู่ข้างด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาไม่ใช่ระดับราชัน แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็สัมผัสได้ว่าพวกเขาอันตรายอย่างมาก

 

ดราก้อนฟิฟทีนและดราก้อนไนน์ทีนวิ่งเข้าไปหาดราก้อนราชันที่สวมมงกุฎสีดำและโค้งคำนับ “คารวะพี่เซเว่น พี่ไนน์และพี่ใหญ่”

 

‘ดราก้อนระดับราชันคือดราก้อนวันอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิด

 

“เจ้าคือหานเซิ่น ลูกศิษย์ของราชินีแห่งมีดอย่างนั้นใช่ไหม?” ดราก้อนวันถามขึ้นมา แต่เขายังคงนั่งอยู่ในรถม้า

 

“ใช่แล้ว” หานเซิ่นพูด

 

ดราก้อนวันไม่ได้ถามอะไรอีก เขาหันไปพูดกับดราก้อนหนุ่มที่อยู่ข้างๆ

“ไนน์ เจ้าไปต่อสู้กับเขา ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะคิดว่าพวกเราอ่อนแอ ถ้าแค่มาร์ควิสคนหนึ่งยังจัดการไม่ได้”

 

“พี่ใหญ่วางใจได้” ดราก้อนหนุ่มคนนั้นออกมาจากรถม้าและเดินเข้าไปหาหานเซิ่น

 

เมื่อซิวซือเห็นดราก้อนหนุ่มเดินเข้าไปหาหานเซิ่น สีหน้าของเธอก็ดูตรึงเครียดขึ้นมา

 

‘บุตรชายทั้ง 9 ของเผ่าดราก้อนแตกต่างจากดราก้อนธรรมดาทั่วๆไป พวกเขาทุกคนมีพลังที่น่ากลัว แถมวันนี้ดราก้อนวันยังมาที่นี่ด้วยตัวเองอีก ไม่มีทางที่หานเซิ่นจะหนีรอดไป’ ซิวซือรู้สึกกังวลเกี่ยวกับพลังที่เขาใส่เข้าไปในร่างกายของเธอ

 

หานเซิ่นเห็นดราก้อนไนน์เดินเข้ามาพร้อมกับหอกในมือ เขาไม่ได้รู้สึกถึงพลังพิเศษอะไรจากชายคนนี้ แต่หานเซิ่นก็ยังเชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่อันตรายอยู่ดี หานเซิ่นคิดว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับชารอน

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับดราก้อนไนน์ ที่เขากังวลก็คือดราก้อนวัน ตราบใดที่ดราก้อนวันยังอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่สามารถหนีไปได้

 

‘เราควรหนีกลับไปในก็อตแซงชัวรี่อีกครั้งดีไหมนะ?’ หานเซิ่นไม่ต้องการทำแบบนั้น

 

“ดราก้อนไนน์!” ดราก้อนหนุ่มเดินมาหยุดตรงหน้าหานเซิ่น เขาสวมใส่ชุดเกราะสีแดง ทำให้เขาดูคล้ายคลึงกับหานเซิ่นที่ตอนนี้แดงทั้งตัว

 

เมื่อมองจากระยะไกล มันดูเหมือนกับว่าดราก้อน 2 คนกำลังจะต่อสู้กัน

 

“หานเซิ่น” หานเซิ่นเพียงแค่เอยชื่อออกไป

 

ดราก้อนไนน์ไม่ได้พูดอะไรอีก เขากวัดแกว่งหอกสีแดงเข้าใส่หานเซิ่น วิชาหอกของเขาเหมือนกับของดราก้อนเธอร์ทีนและดราก้อนฟิฟทีน แต่มันดูร้ายกาจกว่ามากเมื่อถูกใช้โดยดราก้อนไนน์

 

หานเซิ่นเริ่มกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิต เมื่อมีดลมปราณปะทะเข้ากับหอกแสง พวกมันก็แตกกระจาย และหอกที่แหลมคมก็ยังพุ่งต่อหาที่หานเซิ่น

 

เคร๊ง!

 

ใบมีดของมีดขนนกโลหิตปะทะกับหอก แต่หอกแสงไม่แตกสลาย มันหมุนควงเหมือนกับสว่าน หานเซิ่นเกือบจะไม่สามารถต้านทานมันเอาไว้ได้ ขณะที่เขาถูกกดดันให้ถอยออกไปด้านหลัง

 

หานเซิ่นต้องกวัดแกว่งมีดถึง 3 ครั้งเพื่อทำลายหอกแสงของดราก้อนไนน์

 

หานเซิ่นคุ้นเคยกับพลังพิชิตมาร แต่พลังชีวิตมารของดราก้อนไนน์ร้ายกาจกว่าของดราก้อนเธอร์ทีนมาก และถึงพลังของหานเซิ่นจะไม่ได้แย่ไปกว่าดราก้อนไนน์ แต่พลังของดราก้อนไนน์อัดแน่นไปที่จุดๆเดียว มันเป็นเหมือนกับเข็มเล็กๆที่แทงเข้าไปในในฝืนดิน มันมีแค่ส่วนเล็กน้อยของดินเท่านั้นที่จะถูกเข็มแทง มันจึงเป็นการโจมตีที่ยากจะป้องกันได้

 

หานเซิ่นใช้มีดลมปราณของวิชาใต้นภาเพื่อป้องกัน มันเน้นไปที่จุดๆเดียวเหมือนกัน แต่มันได้ไม่ดีเหมือนกับพลังพิชิตมารของดราก้อนไนน์

 

เผ่าพันธุ์ดราก้อนนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องการรวมพลังไปที่จุดๆเดียว ดังนั้นการต่อสู้กับพวกเขาแบบซึ่งๆหน้าก็ไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตาย

 

หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อตรวจเช็คหอกของดราก้อนไนน์ โครงสร้างลำดับของหอกเป็นเหมือนกับรังผึ้ง มันซับซ้อนจนเขาเกือบที่จะไม่สามารถแยกออกได้

 

หานเซิ่นเพิ่งจะป้องกันหอกแรกไป แต่หอกที่ 2 ก็พุ่งเข้ามาแล้ว และก่อนที่มันจะมาถึง หอกที่ 3 ก็ถูกปล่อยออกมา

 

หอกแสงแทงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ปล่อยหานเซิ่นมีโอกาสได้หยุดพัก

 

หานเซิ่นขยับเท้าเพื่อหลบหอกของดราก้อนไนน์ เขาไม่มีทางปะทะกับดราก้อนไนน์แบบซึ่งๆหน้าได้ ถ้าเขาไม่สามารถรวมพลังไปที่จุดเดียวได้เหมือนกัน

 

หลังจากที่หานเซิ่นหลบหอกแสง หอกแสงก็จะระเบิดออก พลังที่อัดแน่นนั้นน่ากลัวเกินกว่าที่มาร์ควิสคนหนึ่งจะป้องกันได้ หานเซิ่นจึงต้องกระพือปีกเพื่อเทเลพอร์ตหนีไป

 

แต่ดราก้อนไนน์ยังแทงหอกเข้ามาเรื่อยๆ ถ้าหอกแสงพลาดเป้า มันก็จะระเบิดออก ดังนั้นหานเซิ่นจำเป็นต้องเทเลพอร์ตหนีอยู่เรื่อยๆ ซึ่งทำให้เขาตกอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบ

 

เหล่าดราก้อนมองดูการต่อสู้อย่างมีความสุข พวกเขาตะโกนเรียกชื่อดราก้อนไนน์จนดังกระหน่ำ

 

เคร๊ง!

มีดขนนกโลหิตของหานเซิ่นปะทะเข้ากับหอก และหอกก็หมุนควงราวกับสว่าน เขากำมีดขนนกโลหิตเอาไว้แน่น ขณะที่ถูกกดดันให้ถอยออกไปด้านหลัง เท้าทั้ง 2 ข้างของเขาลากไปกับพื้นเป็นทางยาว

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset