Super God Gene – ตอนที่ 2092

ข่าน

หานเซิ่นตามลี่ตั่วไปบนถนนไนท์ริงสายสิบสอง พวกเขาตรวจเช็คสถานที่หลายจุดที่เคยมีเหตุการณ์ฆาตกรรมเกิดขึ้น หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อสแกนทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียด

 

แต่น่าแปลกที่หานเซิ่นสัมผัสได้แค่ร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้โดยชาวไนท์โกสต์เท่านั้น เขาไม่สามารถสัมผัสร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นได้เลย

 

‘แปลกจริงๆ โดยปกติแล้วถ้าสิ่งมีชีวิตอื่นผ่านมา มันก็ควรจะทิ้งสสารบางอย่างให้ตามรอยบ้าง เป็นไปไม่ได้ที่มันจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย นอกจากฆาตกรจะควบคุมร่างกายของมันได้จนถึงระดับโมเลกุล แต่มันก็มีโอกาสที่ฆาตกรจะเป็นชาวไนท์โกสต์เหมือนกัน เพราะยังไงซะมันก็ไม่มีหลักฐานถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเลย’ หานเซิ่นคิด

 

‘เจ้าพบอะไรไหม?’ ลี่ตั่วอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

 

“ไม่เลย” หานเซิ่นส่ายหัว

 

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าพวกเราจำเป็นต้องให้ชาวนภามาจัดการเรื่องนี้ พวกเขาจำเป็นต้องมาตรวจดูสถานที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง” ลี่ตั่วพูด

 

“เขาจะมาด้วยตัวเอง ข้าแค่พยายามทำการตรวจสอบด้วยตัวเองก่อนเท่านั้น พาข้าไปสถานที่อื่นอีก ข้าจะได้กลับไปรายงานศิษย์พี่ชาวนภา” หานเซิ่นพูด

 

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ลี่ตั่วก็พาหานเซิ่นไปยังสถานที่เกิดเหตุอีกจุดหนึ่ง

 

“มันมีสิ่งมีชีวิตอื่นที่มีสติปัญญาอยู่บนดวงดาวนี้อีกไหม?” หานเซิ่นถาม

 

จักรวาลจีโนประกอบไปด้วยเผ่าพันธุ์ที่หลากหลาย มันเป็นเรื่องยากที่บนดวงดาวหนึ่งจะมีแค่เผ่าพันธุ์เดียวเท่านั้น หานเซิ่นเดินบนถนนไนท์ริงสายสิบสองมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่เขาก็เห็นแค่ชาวไนท์โกสต์เท่านั้น

 

“สภาพแวดล้อมของดวงดาวนี้นั้นพิเศษ เผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่จึงอาศัยอยู่ที่นี่ไม่ได้” ลี่ตั่วพูด

 

“มันไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่บนถนนไนท์ริงเลยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

ลี่ตั่วคิด หลังจากนั้นเธอก็พูดขึ้นมา “มันมีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่บนดวงดาวแห่งนี้ แต่พวกเขาไม่ได้อาศัยอยู่บนถนนไนท์ริงสายสิบสอง”

 

“นั่นหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นดูสับสน

 

ลี่ตั่วลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่เธอก็พูดออกมา “ไนท์โกสต์นั้นรักการกินเนื้อ แต่มันไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่บนดวงดาวไนท์โกสต์มากนัก ดังนั้นเนื้อจึงถูกนำเข้ามาจากดาวดวงอื่น ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา พวกเราได้ร่วมมือกับเผ่าพันธุ์ทอรัส พวกเขามีฐานอยู่ไม่ไกลจากถนนไนท์ริงสายสิบสอง”

 

“ข้าจำได้ว่าเผ่าพันธุ์ทอรัสเป็นเผ่าพันธุ์ใต้อาณานิคมของเดม่อนหนิ แล้วทำไมพวกเจ้าถึงไม่ซื้ออาหารจากปราสาทนภา แต่กลับไปพึ่งพาเผ่าทอรัสกันล่ะ?” หานเซิ่นถามหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่

 

“พวกเราไม่มีทางเลือก อาหารที่พวกเราต้องการนั้นค่อนข้างพิเศษ เนื้อของเผ่าพันธุ์ธรรมดาตอบสนองความต้องการของพวกเราไม่ได้ และทอรัสก็เป็นเผ่าพันธุ์เดียวที่จะตอบสนองความต้องการของพวกเรา ท่านผู้นำของปราสาทนภาได้อนุมัติความสัมพันธ์นี้ของพวกเรา” ลี่ตั่วพูด

 

“ตอนนี้ฐานของพวกเขาอยู่ที่ไหน?” หานเซิ่นคิดว่าจะไปดูสักหน่อย ทอรัสเป็นเผ่าพันธุ์ที่อันตราย และพวกเขาก็อาจจะเป็นคนที่ก่อเรื่องนี้ขึ้นมาก็เป็นได้

 

“มันไม่มีทางเป็นพวกเขา” ลี่ตั่วพูดขึ้นมาในทันที

 

“ทำไมล่ะ?” หานเซิ่นประหลาดใจกับความมั่นใจของเธอ

 

“พวกเรามีสัญญาอยู่ พวกเขาจะอยู่อาศัยได้เฉพาะในฐาน นอกจากนั้นมันยังมีกล้องจำนวนมากอยู่รอบฐานของพวกเขา ดังนั้นถ้าพวกเขาออกมา พวกเขาก็จะถูกพบในทันที และถ้าพวกเขามาเพ่นพ่านบนถนนไนท์ริงสายสิบสอง พวกเขาก็จะถูกพบอย่างง่ายดาย เพราะพวกเขาดูแตกต่างมากเกินไป”

 

หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ ลี่ตั่วก็พูดต่อ “หัวหน้าของฐานแห่งนั้นคือมาร์ควิสข่าน เขาเป็นคนเผ่าพันธุ์เดม่อน และเขายังเป็นขุนนางที่มีสกุล เขาไม่มีทางจะทำอะไรแบบนี้”

 

“ไม่เป็นไร ข้าแค่จะไปตรวจดูแทนศิษย์พี่เท่านั้น” หานเซิ่นยิ้มขณะที่พูดออกมา

 

หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ตามลี่ตั่วไปที่ฐานของทอรัส ขณะที่เดินทางไปนั้น หานเซิ่นก็คิดกับตัวเอง ‘เดม่อนเป็นเผ่าที่ปกครองเผ่าพันธุ์ทอรัส ดังนั้นมันก็ไม่ถือว่าแปลกจนเกินไปที่เดม่อนคนหนึ่งจะมาอยู่ที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นเดม่อนอาจจะมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงอยู่ก็เป็นได้”

 

เมื่อพวกเขาไปถึงฐานของทอรัส หานเซิ่นก็ได้พบว่าจริงๆแล้วมันเป็นสถานีอวกาศ และภายในนั้นก็เป็นพื้นที่ปิดอย่างสมบูรณ์

 

“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมของที่นี่ไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องสร้างสถานที่ที่เหมาะสมขึ้นมา”

หลังจากที่หานเซิ่นเข้าไป เขาก็รู้สึกว่าสภาพแวดล้อมภายในนั้นเหมาะสมกับมนุษย์มากกว่าเช่นเดียวกัน

 

“คุณหญิงลี่ตั่ว มาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไรอย่างนั้นหรอ?”

ทอรัส 2 คนที่ยืนรักษาการณ์อยู่ยิ้มออกมา ดูเหมือนว่าลี่ตั่วจะเป็นที่รู้จักกันดีโดยทุกคนแถวๆนี้

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้ประหลาดใจอะไร เขาไม่เชื่อว่าไนท์โกสต์ธรรมดาจะกล้าเข้ามาขวางทางเขาแบบนั้น เธอคงจะถูกส่งออกมาโดยดยุกสลีปเลสส์ แต่ตัวตนที่แท้จริงของเธอยังคงเป็นความลับสำหรับเขา

 

แต่หลังจากที่ได้ยินการพูดคุยของพวกเขา หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าลี่ตั่วเป็นลูกสาวของดยุกสลีปเลสส์

 

หานเซิ่นและลี่ตั่วถูกนำเข้าไปที่ห้องประชุม หลังจากนั้นไม่นานเดม่อนในชุดสูทสีดำก็เดินเข้ามา เขาดูสุภาพเรียบร้อยอย่างมาก

 

ลี่ตั่วยืนขึ้นและพูด “มาร์ควิสข่าน ข้าต้องขอโทษด้วยที่มารบกวน”

 

หานเซิ่นตรวจเช็คมาร์ควิสข่านอย่างละเอียด เขาดูเป็นเดม่อนที่มีเสน่ห์ ใบหน้าของเขาหล่อเหลาและน่าจดจำ

 

แต่ด้วยอะไรบางอย่างทำให้หานเซิ่นรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่อันตราย มันเป็นสัมผัสเดียวกันกับที่ตอนหานเซิ่นได้พบกับชารอน

 

‘ฐานเล็กๆของทอรัสกลับมีหัวหน้าเป็นชาวเดม่อนคนหนึ่ง? เรื่องทั้งหมดเริ่มจะน่าสนใจขึ้นมาแล้ว’ หานเซิ่นมองข่านด้วยความสนใจ

 

ในช่วงนี้หานเซิ่นใช้เวลาไปกับการฝึกฝนวิชาจีโน และเขาก็เพิ่งจะเรียนรู้วิชาผนึกมารไปได้แค่นิดเดียวเท่านั้น หานเซิ่นมาที่นี่ก็เพราะเขาได้รับคำสั่ง แต่ตอนนี้หานเซิ่นเริ่มจะรู้สึกสนใจในเรื่องราวทั้งหมดขึ้นมา เขาไม่คิดว่าภารกิจในครั้งนี้เลวร้ายอย่างที่เชื่อในตอนแรก

 

“มาร์ควิสข่าน นี่คือผู้ช่วยจากปราสาทนภา”

เมื่อมาร์ควิสข่านปรากฏตัว ลี่ตั่วก็แทบจะไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย ไม่ว่าใครก็บอกได้ว่าลี่ตั่วชอบมาร์ควิสข่านอย่างมาก

 

“ข้าชื่อข่าน มันถือเป็นความยินดีอย่างมากที่ได้พบกับมิสเตอร์หาน” ข่านมองหานเซิ่นด้วยรอยยิ้มและยื่นมือของเขาออกมา

 

“รู้จักเขาด้วยอย่างนั้นหรอ?” ลี่ตั่วประหลาดใจ เธอไม่ได้พูดชื่อของหานเซิ่น และเธอก็ยังไม่ได้แนะนำเขา แต่ข่านกลับรู้จักชื่อของเขา ซึ่งนั่นแสดงว่าเขาคุ้นเคนกับหานเซิ่นอยู่ก่อนแล้ว

 

“หานเซิ่นจากปราสาทนภา ข้ากลัวในจักรวาลแห่งนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขา” มาร์ควิสข่านพูด

 

ลี่ตั่วมองหานเซิ่นด้วยความสับสน

 

“มาร์ควิสข่าน เจ้าพอจะตอบคำถามของข้าสักหน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นจับมือของเขาและยิ้มออกมา

 

“แน่นอนอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้าข้าหวังว่าเจ้าจะมาดูอะไรบางอย่าง การฆาตกรรมที่เจ้ากำลังสืบสวนนั้นเกิดขึ้นที่นี่ด้วยเช่นกัน” ข่านพูด

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset