Super God Gene – ตอนที่ 2127

ไผ่เดียวดายไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแค่เอื้อมมือไปหาดาบหยกของเขา

 

ไม่มีใครรู้ว่าเนตรมารจะมาเกิดใหม่เป็นคนเผ่านภา และมันก็ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะปลอมตัวเพื่อแอบเข้ามาในปราสาทนภาแบบนี้

 

ไผ่เดียวดายไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะใครกล้าแอบเข้ามาในปราสาทเหมือนกับชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้ เพราะแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ยากจะฝ่าเข้ามาในปราสาทนภาได้

 

เมื่อไผ่เดียวดายเปิดประตูเข้ามา เขาก็รู้สึกว่าตัวเลือกของเขาหายไปทันที และทางเลือกเดียวของเขาก็คือต่อสู้กับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า

 

แต่ที่นี่คือปราสาทนภา ถ้าพวกเขาต่อสู้กันไม่ว่าไผ่เดียวดายจะชนะหรือแพ้ ผู้คนของปราสาทนภาก็คงจะรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แบบนั้นไผ่เดียวดายก็ไม่คิดว่าเนตรมารจะหนีรอดออกไปจากปราสาทนภาได้

 

ตอนนี้เนตรมารเป็นเพียงแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง และถึงจิตใจของเขาจะอยู่ในระดับเทพเจ้า แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหนีออกจากปราสาทนภาโดยไม่ถูกสังเกตเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่กับเขาด้วย

 

ไผ่เดียวดายแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเนตรมารจะทำอะไรที่บ้าระห่ำแบบนี้ มันยากที่จะเชื่อได้ว่าเขาจะแอบเข้ามาในปราสาทนภาเพียงเพื่อจะประลองกับไผ่เดียวดาย

 

แน่นอนว่ามันไม่มีทางที่ไผ่เดียวดายจะรู้ได้ว่าเนตรมารต้องการอะไร แต่นั่นไม่เป็นไร เพราะถ้าเขาเอาชนะเนตรมารได้ ทุกอย่างก็จะกระจ่างแจ้งออกมา

 

ไผ่เดียวดายไม่ได้ใช้ดาบหยกในการฝึกฝน มันไม่ปลดปล่อยแสงระยิบระยับหรือลมปราณดาบออกมา แต่แรงกดดันที่มันปลดปล่อยออกมาก็มากพอที่จะนำพลังงานที่สงบไปสู่เนตรมาร

 

เนตรมารเพียงแค่ยืนขึ้นโดยไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เขามองตรงไปที่ดวงตาของไผ่เดียวดาย

 

พวกเขาทั้งคู่ไม่เคลื่อนไหว และมันก็ไม่มีการต่อสู้ที่มองเห็นได้เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา พวกเขาทั้งคู่แค่จ้องหน้ากัน

 

เมื่อเวลาผ่านไป บ้านไม้ไผ่ก็ดูเหมือนกับว่าถูกแช่แข็งในการเวลา เนตรมารและไผ่เดียวดายยืนนิ่งอย่างเงียบสงบราวกับก้อนหิน

 

พวกเขาสังเกตกันและกันอย่างละเอียดโดยรอคอยช่องโหว่เพียงแค่เล็กน้อย แต่ยิ่งเวลาผ่านไป พวกเขาก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถพ่ายแพ้ให้กับอีกฝ่ายหนึ่งได้ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าการโจมตีที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาในครั้งแรกจะเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขาเช่นกัน มันจะไม่มีโอกาสครั้งที่ 2

 

ด้วยเหตุนั้นจึงไม่มีฝ่ายไหนเคลื่อนไหว และมันก็ไม่มีฝ่ายไหนที่พบโอกาสที่พวกเขากำลังมองหาอยู่

 

“เนตรมาร ข้าหิวแล้ว” เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเนตรมารพูดออกมาพร้อมกับดึงแขนของเขา

 

แต่หลังจากการดึงนั้น สถานการณ์ที่ถูกแช่แข็งก็เปลี่ยนไป

 

การต่อสู้ของเนตรมารและไผ่เดียวดายเป็นอะไรที่สูสี ความผิดพลาดเพียงแค่นิดเดียวก็จะนำไปสู่ความพ่ายแพ้

 

เด็กผู้หญิงดึงแขนของเนตรมาร แต่เนตรมารทำให้แน่ใจว่าตัวเขาจะไม่ถูกรบกวน แต่โชคร้ายสำหรับเขาที่มันสร้างความผันผวนเล็กๆในพลังชีวิตของเขา ไผ่เดียวดายยกดาบหยกของเขาขึ้นและเทเลพอร์ตไปตรงหน้าเนตรมาร

 

มันเป็นดาบที่ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้ เนตรมารทำพลาด และเขาก็รู้ตัวว่าไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีที่เข้ามาได้ เขากำลังจะพ่ายแพ้และมันก็ไม่มีอะไรที่เขาจะทำเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่น่าเศร้าได้

 

แต่ในวินาทีต่อมา เนตรมารก็ดึงเด็กผู้หญิงเข้ามาตรงหน้าดาบของไผ่เดียวดาย

 

มันเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์ ดาบของไผ่เดียวดายสามารถตัดร่างของเด็กผู้หญิงก่อนที่จะตัดร่างของเนตรมารไปด้วย

 

แต่ถึงอย่างนั้นดาบของไผ่เดียวดายก็หยุดชะงักไป เขาไม่ใช้ดาบตัดผ่านร่างของเด็กผู้หญิง เขาดึงดาบกลับและจับตัวของเด็กผู้หญิงคนนั้น

 

ในจังหวะนั้นเนตรมารพุ่งตรงเข้าหาไผ่เดียวดายเพื่อคว้าหัวใจของเขา

 

ไผ่เดียวดายทำพลาดเช่นเดียวกับเนตรมารเนื่องจากยั้งมือเอาไว้ ทำให้ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาถูกสับเปลี่ยนกัน การโจมตีที่กำลังเข้ามาไม่ใช่สิ่งที่ไผ่เดียวดายจะป้องกันได้ ตอนนี้ไผ่เดียวดายกำลังเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ซะเอง

 

แต่ดวงตาของไผ่เดียวดายยังคงกระจ่างใส ดวงตานภานภาบนหน้าผากของเขาเปิดออกและเรืองแสงสีแดงออกมา หลังจากนั้นพละกำลังและพลังของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

 

“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าก็เป็นชาวนภาเช่นกัน?”

เนตรมารยิ้มอย่างวิกลจริต ดวงตาดวงที่ 3 ของเขาเปิดออกเช่นกัน แต่ภายในดวงตานภาของเขามีรูม่านตาสีม่วง 4 รู พวกมันดูเหมือนกับดอกไม้น้อยๆ

 

เมื่อเนตรมารเปิดดวงตาที่ 3 ของตัวเอง ไผ่เดียวดายก็ไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน เขาแค่ยกดาบหยกขึ้นมา

 

แต่ในจังหวะนั้นเด็กผู้หญิงที่ไผ่เดียวดายคว้าตัวมาก็ยกมือของเธอขึ้น มือของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและเธอก็ตบฝ่ามือใส่อกของไผ่เดียวดาย ในขณะเดียวกัน 4 เนตรมารสีม่วงของเนตรมารก็เรืองแสงขึ้นมา

 

ไผ่เดียวดายโยนเด็กผู้หญิงออกไปและใช้ดาบหยกป้องกันมือของเนตรมารเอาไว้ แต่มืออีกข้างของเนตรมารเข้ามาสัมผัสที่หัวของเขาเรียบร้อยแล้ว พลังนั้นพรั่งพรูเข้าไปในสมองของไผ่เดียวดายราวกับสายฟ้า

 

ไผ่เดียวดายมองไปที่คู่ต่อสู้ด้วยสายตาที่เย็นชา ขณะที่เนตรมารก็จ้องกลับไปที่ไผ่เดียวดายด้วย 4 เนตรมาร ดวงตาสีม่วงที่ดูเหมือนกับดอกไม้ทั้ง 4 เริ่มจะหมุน หลังจากนั้นพลังของ 4 เนตรมารก็บุกเข้าไปในดวงตานภาของไผ่เดียวดาย

 

“ถึงแม้จะประสบกับฝันร้ายมา แต่เจ้าก็ยังไม่เรียนรู้ถึงความโหดเหี้ยม เจ้าทำให้ตัวเองพ่ายแพ้เอง” เนตรมารยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ขณะที่ดวงตาสีแดงของไผ่เดียวดายเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง ไม่นานดวงตาสีแดงก็กลายเป็นดวงตาที่มีรูม่านสีม่วงทั้ง 4 เหมือนกับของเนตรมาร

 

ร่างกายของเนตรมารล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น และเหลือเพียงแค่ไผ่เดียวดายที่ยังยืนอยู่ แต่ตอนนี้ดวงตานภาของเขามีรูม่านตาสีม่วงที่ดูเหมือนกับดอกไม้ 4 ดอก

 

ไผ่เดียวดายปิดดวงตานภาของเขาและมองไปที่ร่างของเนตรมาร เขาพูดออกมาอย่างเลือดเย็น

“มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย เขาแข็งแกร่ง แต่เขากลับพลาดท่าให้กับบางสิ่งที่ง่ายๆอย่างอารมณ์ความรู้สึกซะได้”

 

“เขาจะฆ่าข้าได้ แต่ทำไมเขาถึงได้โยนข้าออกไปแทนที่จะฆ่าข้าล่ะ?” เด็กผู้หญิงมองไผ่เดียวดายด้วยความสับสน

 

“นั่นเป็นแค่หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาโง่เขลา” เนตรมารพูดอย่างเลือดเย็น

 

ไม่นานหลังจากนั้นแสงสว่างก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าด้านบน เหล่ายอดฝีมือระดับราชันของปราสาทนภาต่างพากันมาที่เกาะ

 

“ไผ่เดียวดายเกิดอะไรขึ้นที่นี่?” เหล่าราชามองร่างที่อยู่บนพื้น ก่อนที่จะหันมาถามไผ่เดียวดาย

 

“ชายคนหนึ่งมาที่นี่และพยายามลอบสังหารข้า” ไผ่เดียวดายพูด

 

ไม่นานหลังจากนั้นเหล่าราชาก็นำร่างของเนตรมารไป และวันต่อมาไผ่เดียวดายที่ตอนนี้คือเนตรมารก็พาเด็กผู้หญิงเดินทางออกจากปราสาทนภา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset