Super God Gene – ตอนที่ 2154

“มันหายไปได้ยังไง?” หานเซิ่นพึมพำด้วยความสับสน

 

เรเวนอาทิตย์นั้นถึงจะเป็นแค่ทารก แต่มันก็เป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าจากจักรวาลจีโน ยีนระดับเทพเจ้าของมันเสถียรอย่างมาก ถึงขนาดที่หานเซิ่นไม่สามารถดูดซับเข้าไปได้ ดังนั้นมันไร้ประโยชน์ที่ใครในสหพันธ์จะขโมยมันไป

 

นอกจากนั้นที่นี่ก็เป็นสถานที่ของหานเซิ่น มันมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอาศัยอยู่ที่นี่มากมาย ซึ่งพวกมันแต่ละตัวสามารถยึดครองทั้งสหพันธ์ได้เลยถ้าต้องการ แบบนั้นใครมันจะกล้ามาขโมยของไป?

 

หานเซิ่นไม่ได้ลืมว่าเอาร่างของมันไปวางไว้ที่ไหน แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะถูกขโมยไปเช่นกัน แถมมันก็ใหญ่เกินกว่าจะถูกเคลื่อนย้ายไปง่ายๆ

 

ในตอนแรกที่หานเซิ่นนำร่างของเรเวนอาทิตย์มานั้น เขาไม่สามารถดูดซับมันได้ ดังนั้นเขาจึงเก็บมันเอาไว้ในโกดังเพื่อความปลอดภัย และตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้เหลียวมองมันแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่ามันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

 

หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อสแกนบริเวณรอบๆ แต่มันไม่มีร่องรอยร่างของเรเวนอาทิตย์อยู่เลย ร่างกายของมันเป็นของแข็ง ด้วยเหตุนั้นมันควรจะทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้บ้าง

 

โชคดีที่ภายในโกดังติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ หานเซิ่นจึงตรงไปที่ห้องควบคุมเพื่อดูวิดีโอที่กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ แต่ทันใดนั้นเป่าเอ๋อก็กระโดดลงจากไหล่ของหานเซิ่นและวิ่งไปยังมุมๆหนึ่งของโกดัง

 

หานเซิ่นเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าเป่าเอ๋อพบอะไรบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงตามหลังเธอไป เป่าเอ๋อไปหยุดอยู่ตรงหน้ากล่องไม้กล่องหนึ่ง เธอปีนขึ้นไปบนกล่องและมองเข้าไปข้างใน

 

หานเซิ่นจำได้ว่ากล่องนั้นเก็บถังไวน์ที่จีเหยียนหรันซื้อมา พวกมันถูกผลิตบนดวงดาวไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง แต่เนื่องจากวัตถุดิบไม่สามารถหาได้อีกแล้ว การผลิตไวน์จึงถูกหยุดอย่างถาวร

 

จีเหยียนหรันได้พยายามเก็บสะสมมันเอาไว้ให้ได้มากที่สุด พวกเขาไม่ได้ดื่มด้วยกันบ่อยมักนัก ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บพวกมันเอาไว้ในโกดัง การที่กล่องถูกเปิดออกเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่ามีใครบางคนมาที่นี่

 

นอกจากนั้นกล่องอื่นๆก็ถูกเปิดออกด้วยเช่นกัน

 

“มันมีหัวขโมยบุกเข้ามาจริงๆหรอเนีย?”  หานเซิ่นเดินเข้าไปหาเป่าเอ๋อและตรวจเช็คภายในกล่อง

 

หานเซิ่นเห็นถังไวน์สีดำถูกเปิดออกเช่นกัน แถมไวน์ที่ถูกเก็บเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็แห้งเหือด แต่เมื่อหานเซิ่นมองไปข้างใน เขาก็ได้เห็นสิ่งสุดท้ายที่คาดคิดว่าจะได้เห็น

 

มันไม่มีไวน์เหลือแม้แต่หยดเดียว แต่ที่ก้นถังมีไข่ขนาดพอๆกับกำบั้นอยู่ เปลือกของมันเป็นสีแดง มันดูงดงามอย่างมาก

 

หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อสแกนมัน และเขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่คุ้นเคย เขาสามารถบอกได้ว่ามันเป็นสิ่งเดียวกับนกสีแดงตัวน้อยที่เคยติดตามเป่าเอ๋อ

 

หลังจากที่คิดอย่างนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าไม่ได้เห็นนกน้อยมานานแล้ว เขายุ่งเกินไปและนกน้อยก็มักจะตามเป่าเอ๋อไปไหนมา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับมันมาก

 

หานเซิ่นเก็บไข่ขึ้นมาจากถังที่ว่างเปล่า หลังจากนั้นเขาก็ตรวจสอบมันอย่างละเอียด เขาสามารถบอกได้ว่าพลังชีวิตของมันเป็นของนกสีแดงตัวน้อยจริงๆ

 

“แปลกจริงๆ ทำไมมันถึงมาอยู่ในนี้ได้? และทำไมมันถึงได้กลายเป็นไข่?” หานเซิ่นรู้สึกสงสัย หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองเป่าเอ๋อ

 

เป่าเอ๋อส่ายหัวเพื่อบอกว่าเธอไม่รู้เช่นกัน

 

นกน้อยตัวนี้มีประวัติที่แปลกประหลาด ในตอนที่พวกเขาพบมันครั้งแรก มันว่ายอยู่ในบ่อน้ำในร่างปลา แต่เมื่อมันออกจากผิวน้ำ มันก็กลายเป็นนกสีแดงตัวน้อย มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด

 

แต่เนื่องจากนกน้อยสีแดงไม่มีพลังในการโจมตีใดๆ หานเซิ่นจึงเลิกให้ความสนใจมัน และเขาก็ให้เป่าเอ๋อเก็บมันไปในฐานะสัตว์เลี้ยง

 

แต่ตอนนี้เมื่อนกสีแดงตัวน้อยเข้ามาอยู่ในโกดัง ดูเหมือนมันจะดื่มไวน์ทั้งถังเข้าไปและเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นไข่ เรื่องทั้งหมดเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกประหลาด

 

หานเซิ่นนำไข่ไปที่ห้องควบคุมและเริ่มย้อนดูวีดีโอจากกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

หลังจากผ่านไปสักพัก หานเซิ่นก็เห็นว่าเมื่อราวๆ 2 ปีก่อน หลังจากที่เขานำร่างของเรเวนอาทิตย์มาเก็บไว้ในโกดัง นกสีแดงตัวก็บินเข้ามาและเริ่มกินมัน

 

ถึงแม้หานเซิ่นจะดูดซับร่างของเรเวนอาทิตย์ไม่ได้ แต่ดูเหมือนนกน้อยสีแดงจะกินมันได้โดยไม่มีปัญหาอะไร แต่มันกินได้แค่ทีละนิดๆเท่านั้น และหลังจากที่กัดแทะทีละนิดละหน่อย ในที่สุดร่างทั้งร่างของเรเวนอาทิตย์ก็ถูกมันกินจนหมด

 

ขณะที่มันกินร่างของเรเวนอาทิตย์ ร่างกายของมันก็ค่อยๆเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และหลังจากที่มันกินร่างของเรเวนอาทิตย์เข้าไปจนหมด ร่างกายของมันก็กลายเป็นคริสตัลสีแดงที่ลุกไหม้ด้วยเปลวไฟ

 

หลังจากที่นกสีแดงตัวน้อยกินร่างของเรเวนอาทิตย์เข้าไปจนหมด มันก็บินไปที่ถังไวน์และเปิดผามันออก หลังจากนั้นมันก็กระโดดลงไปในไวน์พร้อมกับเปลี่ยนร่างเป็นปลาสีแดง ไฟที่ห่อหุ้มตัวของมันดับไป แต่ความร้อนของมันก็ทำให้ไวน์ที่อยู่ภายในระเหย ซึ่งในเวลาเพียงไม่กี่นาทีไวน์ภายในถังก็แห้งเหือดไปจนหมด

 

หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นนกน้อยสีแดงอีกครั้ง ก่อนที่จะทำแบบเดียวกันนี้กับถังไวน์อื่นๆ

 

แต่หลังจากที่นกสีแดงตัวน้อยไปถึงถังไวน์ถังสุดท้าย มันก็หายเข้าไปและไม่กลับออกมาจนกระทั่งหานเซิ่นมาเจอกับมันเข้า

 

“ว้าว! เจ้าตัวนี้มันคืออะไรกันแน่?” หานเซิ่นมองไปที่ไข่ในมือด้วยความแปลกใจ

 

หานเซิ่นไม่สามารถดูดซับร่างกายระดับเทพเจ้าของเรเวนอาทิตย์ได้ ดังนั้นมันยากที่จะจินตนาการได้ว่านกสีแดงตัวน้อยทำแบบนั้นได้ยังไง

 

“ช่างเถอะ ยังไงซะเราก็กินร่างกายนั้นไม่ได้อยู่แล้ว แต่หวังว่ามันจะกลายไปเป็นสิ่งที่มีประโยชน์” สุดท้ายแล้วหานเซิ่นก็ตัดสินใจนำไข่กลับไปวางที่เดิม

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะทำให้เจ้าตัวน้อยฝักออกมาได้ยังไง แต่ถ้ามันเลือกเข้าไปอยู่ในถังไวน์ด้วยตัวเอง อย่างนั้นแล้วนั่นก็คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

หานเซิ่นพักอยู่ที่บ้านต่ออีกหลายวัน เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับพวกอวี้เอียะอยู่ แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เขาได้แต่หวังว่าคนอื่นๆจะหนีออกไปเมืองไจแอนท์เมทัลก็อตได้อย่างปลอดภัย

 

หานเซิ่นอุ้มหานหลิงเอ๋ออยู่ในอ้อมแขน ขณะที่เป่าเอ๋อนั่งอยู่ข้างๆ พวกเขาทั้ง 3 คนกำลังนั่งดูหนังและกินขนม หานหลิงเอ๋อกำลังดูดขวดนมเหมือนกับที่เป่าเอ๋อเคยทำในตอนที่เธอเด็กกว่านี้

 

เมื่อจีเหยียนหรันกลับมาจากบริษัท เธอก็เห็นหานเซิ่นและเป่าเอ๋อกำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา หานหลิงเอ๋อนอนอยู่บนตัวของหานเซิ่นโดยที่มีจุกนมอยู่ในปาก ขนมและของเล่นนั้นกระจัดกระจายไปทั่ว

 

“นี่หรอวิธีที่นายเลือกเป็นพ่อน่ะ?” จีเหยียนหรันบ่น แต่เธอก็ยิ้มออกมา เธอไม่ได้ปลุกพวกเขาเช่นกัน เธอนำผ้าห่มมาคลุมพวกเขา

 

4 วันต่อมา หานเซิ่นกลับไปยังโกดังที่ตัวกินโลหะอาศัยอยู่ ตอนนี้เขามีแผนที่จะพาตัวกินโลหะไปด้วย เขาหวังจะให้มันเจรจากับอสูรโลหะตัวน้อยถ้าเกิดเขาต้องเจอกับมันอีกครั้ง

 

ก่อนจะกลับเข้าไป หานเซิ่นเรียกปีกมังกรที่หลังและหูออกมาเตรียมไว้เพื่อความปลอดภัย แบบนั้นเมื่อมันไม่ได้ผล เขาจะได้เทเลพอร์ตถอยออกห่างจากอสูรโลหะตัวน้อยและหนีกลับมาในก็อตแซงชัวรี่อีกครั้ง การมีชีวิตต่อไปนั้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset