Super God Gene – ตอนที่ 2195

พลังในการกัดกร่อนของน้ำสีดำเป็นบางสิ่งที่เหมือนกับหินลับมีด มันดูเหมือนกับเครื่องฝนที่สามารถกร่อนเพชรจนกลายเป็นผุยผงได้ มันหมุนวนอย่างต่อเนื่องอยู่ภายนอกโล่สีฟ้า

 

ราชาไนท์ริเวอร์มั่นใจในไนท์ริเวอร์บีสต์ก็อตเป็นอย่างมาก ถึงมันจะไม่ได้เป็นวิชาจีโนที่มีพลังอย่างล้นหลามอย่างพลังเขี้ยว

 

แต่พลังกัดกร่อนนี้สามารถทำลายอาวุธระดับราชันได้ แม้แต่สิ่งของระดับเทพเจ้าก็อาจจะถูกทำให้กลายเป็นผุยผงได้ ถ้าการโจมตีของราชาไนท์ริเวอร์ถูกทิ้งเอาไว้เป็นเวลานานพอ

 

ราชาไนท์ริเวอร์ไม่เชื่อว่าโล่ป้องกันของหานเซิ่นจะเป็นสมบัติระดับเทพเจ้า และถึงมันจะเป็นอย่างนั้น หานเซิ่นก็ยังเป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง เขาไม่สามารถใช้พลังของมันได้อย่างเต็มศักยภาพ ดังนั้นไม่ว่าโล่สีฟ้าจะเป็นอะไร มันก็คงจะทนอยู่ได้ไม่นาน

 

นี่เป็นกฎของสมบัติทุกอย่าง ด้วยเหตุนั้นราชาไนท์ริเวอร์จึงเชื่อมั่นว่าพลังของเขาจะทำลายโล่ของหานเซิ่นได้ในที่สุด เขาแค่ต้องรอเวลาเท่านั้น

 

ราชาไนท์ริเวอร์หวังว่ามันจะไม่มียอดฝีมือคนอื่นมาสังเกตเห็นการกระทำของเขาก่อนที่หานเซิ่นจะตาย ถ้ามีใครบางคนเข้ามาขัดขวางล่ะก็ นั่นจะทำลายค่ำคืนของเขา

 

โชคร้ายที่ราชาไนท์ริเวอร์ไม่ได้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างวิญญาณอสูรกับสมบัติของจักรวาลจีโน มาร์ควิสคนหนึ่งไม่สามารถใช้พลังทั้งหมดของสมบัติที่เหนือกว่าระดับของตัวเองได้ นั่นเป็นความจริง แต่วิญญาณอสูรไม่ได้มีกฎข้อนั้นอยู่

 

สมบัติของจักรวาลจีโนจำเป็นต้องพึ่งพลังจากผู้ใช้ในการใช้งาน แต่สำหรับวิญญาณอสูรแล้ว พลังของผู้ใช้ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น

 

ภายใต้กงล้อน้ำสีดำที่กำลังหมุนวนอยู่นั้น ใบเสมาราชาแมลงปีศาจไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียว

 

ใบเสมาราชาแมลงปีศาจระดับครึ่งเทพ เมื่อย่อขนาดลงจนเพียงพอที่จะป้องกันคนเพียงคนเดียวนั้น มันจะมอบการป้องกันที่ไม่มีคู่ต่อสู้คนไหนที่จะเจาะทะลุได้ นอกซะจากว่าพวกเขาจะเป็นครึ่งเทพซะเอง ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ทำได้แค่ปัดฝุ่นออกจากผิวของมันเท่านั้น

 

ซึ่งสำหรับคนที่มีพลังระดับราชันแล้ว ความทนทานนี้ถือเป็นอะไรที่เหลือเชื่อ

 

“พลังของราชาไนท์ริเวอร์ค่อนข้างน่าสนใจ พลังโจมตีของเขาไม่ได้รุนแรงที่สุด แต่มันมีความสามารถในการกัดกร่อนที่สุดยอด และมันก็สร้างรูปร่างที่มีการทำงานเหมือนกับเครื่องเจียระไนอีกด้วย นั่นเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างชาญฉลาด” หานเซิ่นสังเกตน้ำสีดำที่กำลังหมุนวนเหมือนกับกงล้อ ขณะเดียวกันเขาก็เดินออกไป

 

ขณะที่หานเซิ่นเคลื่อนออกไปนั้นใบเสมาราชาแมลงปีศาจที่ติดตามเขาก็ทำลายน้ำสีดำที่ขวางทาง

 

ราชาไนท์ริเวอร์สังเกตเห็นว่าน้ำสีดำกำลังมีความเคลื่อนไหว และโล่สีฟ้าที่อยู่ภายในก็ดูสว่างขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่หานเซิ่นฝ่าตัวเองออกมาจากไนท์ริเวอร์บีสต์ก็อต

 

“เป็นสมบัติที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้” สีหน้าของราชาไนท์ริเวอร์ดูมัวหมองไป ขณะที่เขามองดูหานเซิ่นฝ่าออกมาจากน้ำสีดำด้วยโล่ป้องกันสีฟ้าของเขา

 

แต่ราชาไนท์ริเวอร์ดูเหมือนจะคิดเอาไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาเอื้อมมือไปหยิบมีดดาบที่เอวออกมา มันหยักเหมือนฟันปลาและรูปร่างของมันก็เหมือนกับพระจันทร์เสี้ยว เขายกมันขึ้นและฟันออกไปทางหานเซิ่น

 

ใบมีดเสี้ยวพระจันทร์หมุนออกไปพร้อมกับแบกรับพลังของไนท์ริเวอร์บีสต์ก็อตไปกับมันด้วย และมันก็พุ่งตรงไปที่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจของหานเซิ่น เมื่อมันปะทะกัน มันก็เกิดเป็นประกายไฟบินออกมาเป็นจำนวนมาก

 

“ดูสิว่าจะทนได้สักแค่ไหนกัน” ราชาไนท์ริเวอร์พึมพำ

 

มีดดาบเสี้ยวพระจันทร์ถูกฟันออกไปเป็นชุดไม่มีหยุด และกงล้อน้ำสีดำก็เริ่มกัดกร่อนโล่ป้องกันสีฟ้าอีกครั้ง

 

แต่หานเซิ่นเมินเฉยต่อพวกมันและยังคงเดินต่อไปบนดาวเบลด

 

ในตอนแรกราชาไนท์ริเวอร์มั่นใจมากว่าจะทำลายโล่ป้องกันของหานเซิ่นได้ก่อนที่จะมีใครสังเกตเห็น และเมื่อทำสำเร็จ เขาก็จะฆ่าหานเซิ่นซะ แบบนั้นเรื่องทุกอย่างก็จะจบลง และถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่ดูไม่ดีต่อชื่อเสียงของเขา แต่มันก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรขึ้นมาต่อการกระทำของราชาไนท์ริเวอร์

 

แถมหานเซิ่นก็ไม่ใช่รีเบท เขาเป็นแค่คนนอกคนหนึ่ง ถ้าทุกคนไม่ได้ยอมรับความจริงในข้อนี้ พวกเขาก็คงจะไม่เห็นด้วยที่มรดกของอี๋ซาถูกแบ่งในหมู่พวกเขาเอง

 

แต่กงล้อน้ำสีดำที่กัดกร่อนผิวของโล่สีฟ้าอย่างต่อเนื่องนั้นดูเหมือนจะไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ราชาไนท์ริเวอร์สร้างกงล้อน้ำสีดำขึ้นมาอันแล้วอันเล่า พลังทำลายล้างของพวกมันตอนนี้มุ่งเน้นไปที่โล่ป้องกันของหานเซิ่น แต่ผิวของโล่สีฟ้าไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว และหานเซิ่นก็ดูไม่เหนื่อยล้าเช่นกัน มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ใช้พลังของตัวเองเพื่อคงสภาพโล่ป้องกันนี้

 

“เป็นไปไม่ได้! ไม่ว่ามันจะเป็นสมบัติที่สุดยอดแบบไหน มันก็จำเป็นต้องกินพลังงานของเขา”

ใบหน้าของราชาไนท์ริเวอร์ดูมัวหมอง แต่เขายังคงโจมตีใส่โล่ป้องกันของหานเซิ่นต่อไป

 

แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน มันก็ไม่มีอะไรที่ได้ผล

 

กงล้อน้ำสีดำขนาดใหญ่ยักษ์มายมายกัดกร่อนโล่ป้องกัน แต่ถึงพวกมันจำนวนนับไม่ถ้วนจะถูกใช้ออกไป โล่ป้องกันก็ยังคงอยู่ดี มันเป็นอะไรที่ยากจะหยั่งถึงได้ เพราะพลังกัดกร่อนมากมายขนาดนั้นสามารถทำให้ดวงดาวทั้งดวงกลายเป็นผุยผงได้อย่างสบายๆ แต่โล่ป้องกันยังคงไม่มีทีท่าว่าจะแตกร้าวหรืออ่อนลงไปเลยแม้แต่น้อย

 

ราชาไนท์ริเวอร์ก่อเรื่องใหญ่โตแบบนี้ นั่นหมายความว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่ราชาคนอื่นจะสังเกตเห็น และพวกเขาก็เห็นจริงๆ

 

“นี่ราชาไนท์ริเวอร์กำลังทำอะไร? นี่ราชินีแห่งมีดเพิ่งจะจากไป แต่เขาก็เตรียมที่จะฆ่าลูกศิษย์เพียงคนเดียวของนางแล้วอย่างนั้นหรอ? นี่เขาไม่คิดหรือว่าลูกศิษย์ของตัวเองจะคิดยังไงกับเรื่องนี้?” ราชากงล้อจันทราดูถมึงทึง

 

เมื่อราชาแบล็คมูนเห็นอย่างนี้ เขาเองก็ดูมัวหมอง หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มและพูด

“ราชาไนท์ริเวอร์ นี่เจ้าทอดทิ้งเกียรติยศของตัวเองและพยายามจะฆ่าคนหนุ่มคนหนึ่ง แต่ดูเจ้าสิ เจ้าล้มเหลว เจ้าเป็นความอับอายอย่างที่สุด”

 

ราชาคนอื่นๆของแนร์โรว์มูนมองเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมองดูด้วยสีหน้าที่สับสน

 

พวกเขาทุกคนคุ้นเคยกับพลังของราชาไนท์ริเวอร์ดี ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าราชาไนท์ริเวอร์ไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ถ้าเขามีเวลา เขาก็ควรจะกัดกร่อนสมบัติระดับราชันได้สบายๆ

 

แต่โล่สีฟ้าของหานเซิ่นไม่แม้แต่จะสั่นไหวภายใต้การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของราชาไนท์ริเวอร์ เหล่าราชาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน

 

“นั่นเป็นสมบัติแบบไหนกันแน่? มันมีพลังป้องกันขนาดนั้นขณะที่อยู่ในมือมาร์ควิสคนหนึ่งได้ยังไง?” ทุกคนสงสัย

 

หานเซิ่นก้าวออกไปจากพื้นผิวของดาวเบลด ราชาไนท์ริเวอร์ยังคงพยายามที่จะฆ่าเขา แต่ความพยายามทั้งหมดของเขาไร้ประโยชน์ เขาไม่สามารถหยุดหานเซิ่นได้

 

ใบหน้าของราชาไนท์ริเวอร์เต็มไปด้วยความโกรธและความอับอาย ถึงแม้จะเสียสละชื่อเสียงของตัวเองต่อหน้าราชาคนอื่น เขาก็ไม่สามารถจะแตะต้องแม้แต่ปลายผมของหานเซิ่นได้ นั่นเป็นอะไรที่น่าอับอายอย่างมาก

 

ราชาไนท์ริเวอร์คำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า และน้ำสีดำก็พุ่งออกมาจากเขามากขึ้นอีก พลังของเขาระเบิดออกมาและก่อตัวรอบใบมีดเสี้ยวพระจันทร์ที่หยักเหมือนฟันปลา

 

เสี้ยวพระจันทร์พุ่งเข้าไปหาหานเซิ่นที่กำลังลอยออกไปจากดาวเบลดพร้อมกับแบกรับพลังของไนท์ริเวอร์บีสต์ก็อตเอาไว้ทั้งหมด มันชนเข้ากับโล่ป้องกันสีฟ้าอย่างเต็มกำลัง อาวุธระดับราชันหมุนปะทะกับโล่สีฟ้าอย่างไม่หยุด มันสร้างเสียงแสบแก้วหูและประกายไฟที่ส่องสว่างทั่วท้องฟ้า

 

ดาวเบลดถูกครอบงำไปด้วยเสียงและประกายไฟ ทุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนดวงดาวพยายามวิ่งหนีออกไปให้ไกลที่สุด มีเพียงแค่ยอดฝีมือระดับราชันเท่านั้นที่อยู่ดูต่อ ตอนนี้พวกเขากำลังจับจ้องไปที่ประกายไฟบนท้องฟ้า

 

“นั่นมันมีดดาบเสี้ยวพระจันทร์ที่เป็นอาวุธระดับราชันของราชาไนท์ริเวอร์ไม่ใช่หรอ?”

 

“นี่หานเซิ่นไปทำอะไรราชาไนท์ริเวอร์กัน ถึงได้ทำให้เขาโจมตีด้วยมีดดาบเสี้ยวพระจันทร์แบบนี้?”

 

ท้องฟ้าปะทุไปด้วยประกายไฟราวกับว่ากำลังมีงานแสดงพลุอยู่ เสี้ยวพระจันทร์ที่หยักเหมือนกับฟันปลายังคงฟันใส่ผิวของโล่ป้องกันสีฟ้าต่อไป แต่เหล่าราชาสังเกตเห็นว่าโล่ของหานเซิ่นยังคงไม่มีรอยร้าว ขณะที่มีดดาบเสี้ยวพระจันทร์เริ่มจะมี

 

มีดดาบเสี้ยวพระจันทร์กำลังจะสูญเสียฟันปลาของมันไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่สามารถทำลายโล่ป้องกันของหานเซิ่นได้

 

“ไนท์ริเวอร์บีสต์ก็อตสิ้นท่าแค่นี้หรอเนี่ย? มันไม่ได้พิเศษอะไร” เสียงของหานเซิ่นดังก้องทั่วแนร์โรว์มูน เขาเมินเฉยต่อมีดดาบเสี้ยวพระจันทร์และบินต่อไปพร้อมกับสายลม

 

ดวงตาของราชาไนท์ริเวอร์ปูดด้วยความโกรธ แต่เขาไม่สามารถหยุดหานเซิ่นเอาไว้ได้ เขาเห็นหานเซิ่นค่อยๆจากไปอย่างช้าๆ ตอนนี้เขามีความรู้สึกที่ผสมผสานทั้งความสิ้นหวัง ความอับอายและความโกรธ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset