Super God Gene – ตอนที่ 2200

หานเซิ่นตรวจดูลวดลายสีแดงที่อยู่บนเจดดรัมอย่างระมัดระวัง และเขารู้สึกตัวว่าพวกมันเป็นรูปร่างของแมงป่อง โดยรวมแล้วมันมีขนาดพอๆกับฝ่ามือคน มันมีสีแดงเหมือนกับหยกซึ่งตัดกับผิวสีขาวของมัน ลวดลายนั้นดูไม่เหมือนกับว่าถูกสลักลงไป แต่มันดูเหมือนกับว่ามีแมงป่องจริงๆอาศัยอยู่ภายใต้ผิวของเจดดรัม

 

หวงฟูจิ้งมองไปที่บลัดสกอร์เปี้ยน เธอพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

“ข้าได้ยินมาว่าเจดดรัมคือดรัมที่ดีที่สุดที่คนคนหนึ่งจะหาได้ แต่อันนี้มีลวดลายแมงป่องอยู่ บางที่มันอาจจะเป็นอะไรที่ดียิ่งกว่า? มันอาจจะเป็นเจดดรัมระดับราชันที่บังเอิญเกิดมาแบบนี้”

 

หานเซิ่นพยักหน้า เขาดีใจอย่างมากกับการค้นพบในครั้งนี้ เจดดรัมปกติสามารถไปถึงระดับราชันได้ แต่ถ้านี่เป็นเจดดรัมที่เกิดมาในฐานะราชัน มันก็อาจจะไปถึงระดับเทพเจ้าได้ และถึงมันเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยๆมันก็คงจะกลายเป็นระดับครึ่งเทพได้

 

มันมีเผ่าพันธุ์ชั้นสูงหลายเผ่าพันธุ์ที่พึ่งพาการมีอยู่ของยอดฝีมือระดับครึ่งเทพสักคนเพื่อรักษาตำแหน่งของพวกเขา

 

หานเซิ่นรีบลงมือขุดบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมออกมา เขามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือหวงฟูจิ้งเท่านั้น และเขาไม่เคยคาดคิดว่าได้รับอะไรดีๆติดมือกลับไปด้วย

 

“คนที่ดีก็มักจะได้รางวัลที่ดี ถ้าอย่างนั้นฉันคงจะต้องทำเรื่องดีๆให้บ่อยขึ้นสินะ?” หานเซิ่นพึมพำขณะที่ขุดมันออกมา

 

แต่หินรอบๆนั้นแข็งเกินไป หานเซิ่นจำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจะขุดเอาบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมออกมา

 

เจดดรัมนี้มีขนาดเล็กกว่าเจดดรัมตัวอื่นที่พวกเขาเก็บมาได้ มันมีขนาดเท่ากับกำปั้นของผู้ใหญ่ 2 กำปั้นประกบกัน ทั้ง 2 ด้านของมันมีสัญลักษณ์แมงป่องสีแดงอยู่ และมันก็ดูเหมือนกับว่ามีแมงป่องที่มีชีวิตอยู่ภายใน

 

ด้านข้างของเจดดรัมยังสลักด้วยสัญลักษณ์สีแดงอีกจำนวนมาก ซึ่งมันแตกต่างไปจากสิ่งที่จะพบเห็นได้บนเจดดรัมทั่วๆไป

 

หานเซิ่นยกมันขึ้นมาในมือของเขาด้วยความดีใจ เขารวบรวมพลังของตัวเองและตีใส่เจดดรัมนั้น

 

สิ่งที่ถูกปล่อยออกมาไม่ใช่เสียงของเจดดรัม เมื่อหานเซิ่นตีเจดดรัม เจดดรัมกลับสะท้อนพลังมาใส่หานเซิ่น มันทำให้เขาตกอยู่ในความเจ็บปวดทันที

 

“มันไม่ทำงาน!” แต่หานเซิ่นไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ เพื่อจะได้รับการยอมรับจากเหล่าดรัม หานเซิ่นจะต้องแสดงพลังของตัวเองให้มันเห็น

 

หานเซิ่นรวบรวมพลังของวิชากายหยกและตีผิวของเจดดรัมอีกครั้ง

 

เจดดรัมไม่เคลื่อนไหวหรือปลดปล่อยเสียงดนตรีออกมา มันมีแค่เสียงมือของหานเซิ่นตีเข้ากับบางสิ่งที่แข็ง

 

หานเซิ่นไม่ต้องการยอมแพ้ เขาใช้พลังทั้งหมดเพื่อตีใส่เจดดรัม เขาพยายามทั้งทุบทั้งตบ แต่เจดดรัมนั้นเหมือนกับว่าเป็นใบ้ มันไม่ปล่อยเสียงอะไรออกมา ไม่ว่าหานเซิ่นจะพยายามสักแค่ไหนก็ตาม

 

ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ ถ้าเขาต้องการจะเอาเจดดรัมนั่นกลับไป เขาก็จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากมัน ไม่อย่างนั้นทางเผ่า1000สมบัติก็จะไม่ปล่อยให้เขาเอามันติดตัวออกไปได้

 

ปัง!

เสียงระเบิดดังขึ้นในหูของหานเซิ่น มันเกือบจะทำให้เขาหมดสติ เขาหันไปและเห็นเป่าเอ๋อกำลังตีใส่เจดดรัมอยู่

 

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

เป่าเอ๋อตีใส่มันอย่างสนุกสนาน ยิ่งไปกว่านั้นเธอกำลังเล่นเพลงที่ถูกเรียกว่าเจเนอรัล

 

เธออาจจะกำลังสนุกสนาน แต่หานเซิ่นและหวงฟูจิ้งไม่สนุกด้วย พวกเขาพยามยามจะไม่กระอักเลือดออกมา หานเซิ่นรีบอุ้มเป่าเอ๋อออกห่างจากเจดดรัม ขณะที่ตัวเขาเองเคลื่อนที่เข้าไปหาเจดดรัมสีขาวเพื่อลองดูว่าเขาจะสามารถเล่นมันได้หรือเปล่า

 

‘บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมอาจจะมีระดับสูงเกินไป แต่อย่างน้อยๆเจดดรัมนี้ก็ยังดูดี มันเป็นถึงระดับดยุกและมันก็มีโอกาสที่กลายเป็นระดับราชันได้ในอนาคต’ หานเซิ่นคิด เขาตีใส่เจดดรัมด้วยความมั่นใจ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาก็คือความรู้สึกเจ็บปวดเท่านั้นขณะที่เจดดรัมไม่ได้สร้างเสียงใดๆออกมา เขารวบรวมพลังมากขึ้นและตีใส่มันซ้ำๆ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน เจดดรัมก็ไม่สร้างเสียงออกมาเลย

 

หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ หลังจากนั้นเขาก็คิดกับตัวเอง ‘เป่าเอ๋อเล่นเพลงเจเนอรัล นั่นหมายความว่าเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเจดดรัม คนๆนั้นจำเป็นต้องใช้พลังเสียงอย่างนั้นหรอ?’

 

ทฤษฎีนั้นทำให้หานเซิ่นสนใจขึ้นมา เขาพยายามนึกถึงเพลงๆหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ใช้กำปั้นทุบใส่เจดดรัมเป็นทำนองเพลง

 

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

หานเซิ่นทุบตามท่วงทำนองเพลงเจเนอรัลที่เป่าเอ๋อเล่นก่อนหน้านี้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เหมือนกัน หานเซิ่นเล่นมันได้แย่จนสุดท้ายมือของเขาก็ปูดบวม แต่เจดดรัมสีขาวก็ยังคงไม่สร้างเสียงดนตรีออกมา เสียงทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือเสียงกำปั้นของเขา

 

‘นี่จังหวะดนตรีของเรามันแย่หรือยังไง? มันไม่มีทางที่เราจะไม่ได้รับการยินยอมจากพวกมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงความโชคดีของเรา บางทีเราควรจะลองเพลงอื่นดู’ หานเซิ่นนึกเพลงอีกเพลงขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมพลังทั้งหมดไปที่กำปั้นของเขา

 

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

เสียงของการตีใส่เหล็กดังขึ้นมา และหลังจากตีไม่กี่ครั้ง หานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่ามือกำลังจะแตกสลาย และถ้ายังเป็นแบบนี้เขาก็อาจจะกลายเป็นคนพิการ

 

หานเซิ่นลูบกำปั้นของตัวเองด้วยความรู้สึกหดหู่ แต่จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงกลองดังขึ้นมา

 

ปัง!

หานเซิ่นล้มลงกับพื้นและกระอักเลือดออกมา อวัยวะภายในทั้งหมดของเขาได้รับความเสียหาย ร่างกายของหานเซิ่นแข็งแกร่งยิ่งกว่าดราก้อนเลือดบริสุทธิ์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถทนต่อพลังเสียงของเจดดรัมได้

 

หวงฟูจิ้งเองก็ตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกัน เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของเธอ

 

เป่าเอ๋อรู้สึกแปลกใจ เธอรีบปล่อยมือออกจากบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัม เธอเข้าไปหาหานเซิ่นและจับหัวของเขา เธอแค่ตีบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมไปมั่วๆเนื่องจากเธอเบื่อ เธอไม่ได้คาดคิดว่ามันจะทำให้หานเซิ่นและหวงฟูจิ้งได้รับบาดเจ็บ

 

“เป่าเอ๋อ นี่หนูพยายามจะฆ่าพ่อหรือยังไง?!” หานเซิ่นพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้นด้วยความเจ็บปวด

 

“พ่อ หนูขอโทษ! หนูแค่ตีมันไปมั่วๆเท่านั้น” เป่าเอ๋อพูดอย่างไร้เดียงสา

 

“โชดดีที่หนูแค่ตีเบาๆ ถ้าหนูใช้แรงมากกว่านี้ พวกพ่อก็คงจะตายไปแล้ว!” หานเซิ่นพูดขณะที่พยุงหวงฟูจิ้งขึ้นมา

 

โชคดีที่อาการบาดเจ็บของพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรที่ถาวร และพวกเขาก็สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ด้วยวิชาจีโน แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาได้รู้ว่าบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมนั้นน่ากลัวถึงขนาดไหน

 

เมื่อรักษาตัวเสร็จแล้ว หานเซิ่นก็เรียกหอคอยแห่งโชคชะตาออกมา เขาตั้งใจจะเก็บบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมเข้าไปข้างในเพื่อทำการตรวจสอบในอนาคตข้างหน้า

 

เนื่องจากแต่ละคนสามารถนำดรัมออกไปได้แค่คนละตัวเท่านั้น และมีเพียงแค่หวงฟูจิ้งกับเป่าเอ๋อเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับจากเจดดรัม ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแอบเอามันออกไป

 

แต่เมื่อหอคอยแห่งโชคชะตาเข้าใกล้บลัดสกอรเปี้ยนเจดดรัน จู่ๆมันก็ส่องแสงและสร้างเสียงขึ้นมา พลังเสียงนั้นผลักหอคอยแห่งโชคชะตากระเด็นกลับเข้าไปในจิตของหานเซิ่น

 

“บ้าจริง! มันไม่ยอมเข้าไปหรอเนี่ย?” สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป ขณะที่เลือดไหลออกมาจากริมปากของเขา เขามองไปที่บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมด้วยความแปลกใจ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset