Super God Gene – ตอนที่ 2205

หานเมิ่งเอ๋อและคนอื่นๆกำจัดผึ้งชาโดว์ที่เหลือได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร พวกเธอได้รับยีนซีโน่เจเนอิคมาเป็นจำนวนมากและหลายคนยังได้รับวิญญาณอสูรของผึ้งชาโดว์ด้วย

 

วิญญาณอสูรเป็นลูกธนูพิษ เมื่อหานเมิ่งเอ๋อฆ่าผึ้งชาโดว์ระดับดยุกตัวที่ 2 ได้ เธอก็ได้รับวิญญาณอสูรลูกธนูพิษระดับดยุก

 

เมื่อราชาไนท์ริเวอร์เห็นผึ้งชาโดว์ตัวสุดท้ายถูกฆ่า เขาก็รู้ว่าแผนการล้มเหลว และด้วยความโกรธเขาทุบหน้าจอที่กำลังดูอยู่จนพังเป็นชิ้นๆ

 

หลังจากที่หานเซิ่นกลับมาที่ดาวอุปราคาและรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาก็เดาว่าราชาไนท์ริเวอร์เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เพราะบนดาวอุปราคาไม่มีซีโน่เจเนอิคท้องถิ่นอย่างผึ้งชาโดว์

 

‘ดีที่เราทิ้งใบเสมาราชาแมลงปีศาจเอาไว้ ไม่อย่างนั้นถึงแม้หานเมิ่งเอ๋อและคนอื่นอาจจะเอาตัวรอดจากการจู่โจมได้ แต่ขุนนางมากมายก็คงจะถูกฆ่าตาย’ หานเซิ่นคิดและโล่งใจที่สถานการณ์ออกมาแบบนี้

 

แต่หานเซิ่นรู้ว่าผึ้งราชินียังคงมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเขาจึงเตรียมที่จะออกไปค้นหา

 

มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะหารังของราชินีผึ้งชาโดว์ และทางเข้าที่พวกผึ้งชาโดว์สร้างขึ้นมาก็เป็นอะไรมองเห็นได้อย่างชัดเจน

 

เนื่องจากพวกผึ้งชาโดว์ถูกฆ่าตายไปเมื่อหลายกันก่อน ทำให้ภายในรังมีพวกผึ้งชาโดว์เหลืออยู่ไม่มากนัก ดังนั้นหานเซิ่นจึงเข้าไปในรังผึ้งได้อย่างง่ายดายเพื่อค้นหาผึ้งราชินีชาโดว์ที่ดูเหมือนกับทับทิม

 

หานเซิ่นอ่านข้อมูลเกี่ยวกับผึ้งราชินีชาโดว์มาเรียบร้อยแล้ว และเขาก็รู้ว่ามันมาจากที่ไหน การได้เห็นผึ้งราชินีชาโดว์ในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างมาก

 

เขารับรู้ในทันทีว่าเธอคือผึ้งราชินีชาโดว์กลายพันธุ์ ซึ่งถือว่าหาได้ยากมากๆ

 

ผึ้งราชินีชาโดว์เคลื่อนไหวอย่างว่องไว เธอบินไปรอบๆราวกับเงามืดที่ทิ้งรอยเงาของตัวเองเอาไว้ ปีกของเธอกระพืออย่างรวดเร็ว และหานเซิ่นก็แทบจะมองตามไม่ทัน

 

แสงพิษส่องสว่างออกมาจากด้านหลังของผึ้งราชินีขณะที่เธอพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่น แต่แสงที่พุ่งเข้ามาปะทะเข้ากับใบเสมาราชาแมลงปีศาจและถูกทำให้ไร้ผลไป

 

‘ซีโน่เจเนอิคระดับดยุกกลายพันธุ์นี่แข็งแกร่งจริงๆ ด้วยความเร็วและการโจมตีด้วยแสงพิษ รวมเข้ากับความเร็วในการให้กำเนิดที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ… มันคงจะเป็นอะไรที่ฆ่าได้ยากมากถ้าเราไม่มีใบเสมาราชาแมลงปีศาจอยู่’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

ผึ้งราชินีชาโดว์บินไปรอบๆหานเซิ่นพร้อมกับปล่อยลูกดอกพิษออกมา แต่เมื่อยู่ต่อหน้าใบเสมาราชาแมลงปีศาจ มันก็เป็นอะไรที่ไร้ความหมาย

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้โจมตีเธอ เขาคิดว่ามันน่าเสียดายที่จะฆ่าผึ้งราชินีชาโดว์กลายพันธุ์ไป หานเซิ่นต้องการไว้ชีวิตเธอเพื่อที่เธอจะได้ให้กำเนิดลูกระดับดยุกและมาร์ควิสมาเพิ่มอีก แบบนั้นปัญหาเรื่องทรัพยากรระดับสูงของดาวอุปราคาก็จะบรรเทาลงไป

 

หานเซิ่นไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าผึ้งราชินีชาโดว์กลายพันธุ์ แต่เขาต้องการเอาตัวเธอไปใช้ให้เป็นประโยชน์

 

ถ้าหานเซิ่นเป็นดยุกคนหนึ่งล่ะก็ มันก็จะเป็นอะไรที่ง่ายขึ้นมากถ้าเขาจะจับตัวอีกฝ่าย แต่เขาเป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง ด้วยเหตุนั้นความเร็วและพละกำลังของเขาจึงไม่ได้ดีเหมือนกับผึ้งราชินีชาโดว์กลายพันธุ์

 

ผึ้งราชินีชาโดว์จู่โจมใส่หานเซิ่นอย่างเกรี้ยวกราด แต่เธอไม่สามารถทำอะไรโล่ป้องกันของเขาได้ หลังจากผ่านไปสักพักผึ้งราชินีชาโดว์ก็เหนื่อยไปเอง การโจมตีของเธอเริ่มอ่อนพลังและช้าลงไปเรื่อยๆ

 

ผึ้งราชินีชาโดว์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญหา และเธอก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่หวงดินแดนของตัวเอง ถึงแม้เธอจะเหนื่อยล้า เธอก็ไม่คิดที่จะหนีไป ตราบใดที่หานเซิ่นยังคงอยู่ในรังของเธอ เธอก็ยังพยายามจะโจมตีใส่เขาต่อไป

 

เมื่อเห็นว่าผึ้งราชินีชาโดว์เริ่มเหนื่อยล้า หานเซิ่นก็ตัดสินใจเก็บใบเสมาราชาแมลงปีศาจกลับไป

 

เมื่อผึ้งราชินีชาโดว์เห็นว่าโล่ป้องกันของหานเซิ่นหายไปแล้ว เธอก็กระพือปีกเพื่อจู่โจมหานเซิ่นอีกครั้ง แต่ตอนนี้เธอช้าลงไปมาก

 

หานเซิ่นนำเจดดรัมสีขาวออกมาและตีใส่มัน พลังเสียงพุ่งออกไปรอบทิศทางด้วยเสียงบูม พลังเสียงเข้าไปหาผึ้งราชินีชาโดว์ที่เหนื่อยล้า และทำให้เธอร่วงลงที่พื้น

 

พลังเสียงของเจดดรัมระดับดยุกไม่ควรจะมีประสิทธิภาพต่อดยุกกลายพันธุ์อย่างผึ้งราชินีชาโดว์ แต่ในตอนนี้เธอเหนื่อยล้าเกินไป ด้วยเหตุนั้นผึ้งราชินีชาโดว์จึงไม่สามารถทนต่อพลังเสียงของเจดดรัมได้

 

ผึ้งราชินีชาโดว์ลากตัวเองไปกับพื้นด้วยเจตนาที่จะโจมตีใส่หานเซิ่น

 

หานเซิ่นยังคงถือเจดดรัมอยู่ในมือ เขาตีมันอีก 2 ครั้ง คลื่นเสียงที่ออกมาทำให้ผึ้งราชินีชาโดว์กลิ้งไปมาบนพื้น มันดูเหมือนกับว่าผึ้งราชินีชาโดว์กำลังตกอยู่ในความเจ็บปวดอันทุกทรมาน

 

“ถ้าเจ้าฟังคำสั่งของข้า ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” หานเซิ่นพูดกับผึ้งราชินีชาโดว์ที่ตอนนี้นอนกองอยู่กับพื้น

 

ผึ้งราชินีชาโดว์ขาดสติปัญญา เมื่อเจดดรัมหยุดลงแล้ว เธอก็พยายามจะโจมตีใส่หานเซิ่นอีกครั้ง

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะทำยังไงนอกจากตีใส่เจดดรัมต่อไป ซึ่งทำให้ผึ้งราชินีชาโดว์กลิ้งไปมาบนพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เลือดเริ่มไหลออกมาจากปากของเธอ เมื่อเห็นอย่างนั้นหานเซิ่นก็หยุดมือ เขาไม่ต้องการฆ่าผึ้งราชินีชาโดว์ การฆ่าเธอเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์

 

ดังนั้นเมื่อเห็นว่าผึ้งราชินีชาโดว์กำลังจะตายภายใต้การทรมานซ้ำๆของเขา เขาก็ตัดสินใจออกไปจากรัง

 

ซีโน่เจเนอิคที่ขาดสติปัญญาจำเป็นต้องถูกจับมาทรมานอย่างช้าๆ

 

หานเซิ่นให้คนคอยจับตาดูรังผึ้งเอาไว้ ถ้าผึ้งราชินีชาโดว์ให้กำเนิดผึ้งขึ้นมาอีก พวกเขาก็จะไปฆ่าพวกมัน นั่นจะเป็นการสั่งสอนบนเรียนให้กับเธอ หานเซิ่นหวังว่าเมื่อผ่านไปสักพัก ผึ้งราชินีชาโดว์อาจจะยอมเชื่อฟังคำสั่งของเขา

 

‘พวกเราจะไม่มีวันปลอดภัยตราบใดที่ราชาไนท์ริเวอร์ยังอยู่’

หานเซิ่นคิด เขากำลังหาวิธีที่จะกำจัดราชาไนท์ริเวอร์

 

ด้วยพลังที่มีอยู่ตอนนี้ หานเซิ่นยังไม่สามารถเผชิญหน้ากับราชาไนท์ริเวอร์ได้ อย่างน้อยๆเขาก็ต้องกลายเป็นดยุกซะก่อน และเขาก็จำเป็นต้องมีสมบัติมากกว่านี้

 

ซึ่งมันจะเป็นการดีที่สุดถ้าเขาสามารถใช้บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมได้ นั่นเป็นอาวุธอย่างเดียวที่จะทำให้เขาโค้นล้มใครบางคนที่มีระดับที่สูงกว่าตัวเองได้

 

แต่ถึงเขาจะฆ่าราชาไนท์ริเวอร์ได้ เขาก็ไม่สามารถทำมันในแนร์โรว์มูนได้ เพราะถ้าเกิดพวกเขาต่อสู้กัน ทางรีเบทก็จะสนับสนุนราชาไนท์ริเวอร์อย่างไม่ต้องสงสัย คนนอกคนหนึ่งอย่างเขาไม่มีทางได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา

 

“ดูเหมือนว่าเราจำเป็นจะต้องกลายเป็นดยุกให้เร็วที่สุดและหาหนทางที่จะพาเขาออกไปที่ไหนสักแห่ง” หานเซิ่นสงบสติตัวเองและพยายามครุ่นคิดอย่างรอบคอบ

 

การปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำจะทำให้เขาทำอะไรบุ่มบ่าม แบบนั้นมันก็มีแต่จะเปิดเผยจุดอ่อนให้ศัตรูได้เห็น เขาต้องใจเย็นเอาไว้ถ้าเขาต้องการทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ

 

หานเซิ่นยังคงฝึกฝนต่อไป ทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือนเขาจะไปที่ตำหนักเย็นเพื่อดูดซับพลังจันทราและพลังน้ำแข็ง เพื่อเร่งการวิวัฒนาการขึ้นสู่ระดับดยุก

 

ในทุกๆวันหานเซิ่นจะหยดเลือดของตัวเองลงบนบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมและปล่อยให้พวกมันค่อยๆแทรกซึมเข้าไป เขาต้องการให้เลือดของเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับแมงป่อง หานเซิ่นรู้สึกว่าตัวเองค่อยๆเชื่อมต่อกับบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมได้อย่างช้าๆ การจะได้มันมาครอบครองก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

 

วันหนึ่งราชาแบล็คมูนแวะมาหาหานเซิ่นอย่างคาดไม่ถึง

“หานเซิ่น ทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะรับสมัครอัศวินจากแนร์โรว์มูน เจ้าสนใจจะสมัครไหม?”

 

“เอ็กซ์ตรีมคิงรับสมัครแค่ยอดฝีมือเท่านั้น ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะต้องการมาร์ควิสอย่างข้า” หานเซิ่นตอบอย่างสับสน เขาคิดว่าทางเอ็กซ์ตรีมคิงคงจะสนใจแค่ยอดฝีมืออย่างอี๋ซาเท่านั้น

 

“ทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะรับแค่คนที่จะกลายเป็นยอดฝีมือในอนาคต พวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา ดังนั้นเมื่อเอ็กซ์ตรีมคิงเปิดรับสมัครอัศวิน พวกเขาจะให้สิทธิ์กับพวกเรา ถ้าเจ้าอยากจะเข้าร่วมกับพวกเขา ข้าพอจะเสนอชื่อของเจ้าได้” ราชาแบล็คมูนพูด

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset