Super God Gene – ตอนที่ 2211

ภายในยานอวกาศที่มุ่งหน้าสู่ระบบจักรวาลเคออส หานเซิ่นและหานเหยียนกำลังเล่นไพ่กันอยู่ พวกเขาเดินทางมาเป็นเวลานาน และความน่าเบื่อก็เริ่มเข้าครอบงำ

 

อัศวินไอซ์บลูไม่สามารถเล่มไพ่ได้ ถึงแม้พวกเขาจะรู้สึกเบื่อสักแค่ไหนก็ตาม

 

แต่ในตอนนนี้หานเซิ่นและคนอื่นๆเป็นองครักษ์ส่วนตัวของมิสเตอร์ไวท์ ดังนั้นพวกเขาสามารถเล่นอะไรก็ได้ ตราบใดที่มิสเตอร์ไวท์อนุญาต และตอนนี้มิสเตอร์ไวท์ก็กำลังเล่นอยู่กับพวกเขาด้วย

 

หานเซิ่น มิสเตอร์ไวท์ หานเหยียน จีชิงและเป่าเอ๋อกำลังเล่นไพ่อยู่ด้วยกัน ซีโร่และนางฟ้าไม่สนใจ หานเมิ่งเอ๋อกำลังหมกมุ่นอยู่กับธนูสุดที่รักของเธอ ส่วนจิ้งจอกสีเงินและอสูรกาแล็คซี่กำลังนอนพัก

 

ภายในห้องที่พวกเขากำลังเล่นไพ่กันอยู่นั้น บุคคลที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับหานเซิ่นมีแค่มิสเตอร์ไวท์กับองครักษ์อีกคนหนึ่ง องครักษ์คนนั้นเป็นผู้ชายที่มีชื่อว่าครามจากเผ่าเลน

 

เขาสูงถึง 3 เมตร ร่างกายดูผอมแต่แข็งแรง เขามีผมทองที่ยาวมาถึงไหล่ของเขา ใบหน้าสี่เหลี่ยมดูจริงจังอย่างน่าหวาดกลัว และดวงตาของเขาก็เปล่งประกายอย่างเจิดจรัส

 

ชุดเกราะสีดำของเขามีเครื่องหมายสีทอง และดาบสิงโตทองเล่มหนึ่งคาดอยู่ที่เอวของเขา มันดูเป็นอาวุธที่ทนทานอย่างมาก

 

เขาแตกต่างไปจากหานเซิ่น ครามเป็นหนึ่งในองครักษ์ของมิสเตอร์ไวท์เช่นเดียวกัน แต่เขาเป็นระดับราชัน เขาเป็นบุคคลที่ชาญฉลาด แต่ทุกครั้งที่เขามองหานเซิ่นและคนอื่น เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

 

กลุ่มของมาร์ควิสและแม้แต่เอิร์ลกลายเป็นองครักษ์ มันดูเหมือนเป็นมุขตลกที่แย่ เขาไม่คิดว่าพวกหานเซิ่นคู่ควร พวกเขาคงจะช่วยอะไรไม่ได้นอกจากก่อปัญหา และเมื่อพวกหานเซิ่นก่อปัญหาขึ้น คนที่ต้องคอยตามแก้มันก็คือเขา

 

แต่ครามไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะการตัดสินใจมาจากมิสเตอร์ไวท์ เขาแค่ทำหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น และในขณะเดียวเขาก็คอยจับตามองคนอื่นเอาไว้

 

“พอกันที นี่มันน่าเบื่อ” หานเซิ่นพูดเมื่อเขาแพ้อีกครั้ง เขายืดแขนของตัวเองอย่างช้าๆ

 

เหรียญทั้งหมดบนโต๊ะกองอยู่ใกล้ๆกับเป่าเอ๋อ มันเหมือนกับว่าเธอกำลังนั่งอยู่ข้างภูเขาเล็กๆ ตอนนี้หานเซิ่นติดหนี้เธออยู่เป็นจำนวนมาก

 

จีชิง หานเหยียนและมิสเตอร์ไวท์ก็เสียเงินเช่นเดียวกัน แต่เขาไม่ได้สูญเสียมากอย่างหานเซิ่น

 

“ขออีกตาหนึ่ง…” จีชิงพูด เธอเป็นหนี้มากกว่าหานเซิ่นซะอีก

 

ดวงของจีชิงไม่เคยแย่แบบนี้มาก่อน ทุกคนสูญเสียเว้นแต่เป่าเอ๋อคนเดียว และเธอเกือบจะคิดว่าเป่าเอ๋อกำลังเล่นขี้โกง

 

หานเซิ่นอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด เสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นมา หานเซิ่นรีบลุกขึ้นในทันที

 

มิสเตอร์ไวท์ยิ้มและพูด “อย่าได้กังวล นี่ไม่ใช่สัญญาณเตือนภัยว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้น พวกเราไปที่ห้องควบคุมกันเถอะ“

 

คนอื่นๆรออยู่ในห้อง ขณะที่หานเซิ่นไปที่ห้องควบคุมพร้อมกับมิสเตอร์ไวท์และคราม

 

เมื่อหานเซิ่นไปถึงห้องควบคุม เขาสังเกตเห็นว่าราชาอัศวินไอซ์บลูอยู่ที่นั่น สมาชิกอัศวินคนอื่นก็อยู่ด้วยเช่นเดียวกัน และนั่นรวมถึงราชาไนท์ริเวอร์ด้วย

 

ราชาไนท์ริเวอร์มองหานเซิ่นด้วยสายตาที่เย็นชา เขาไม่ได้ดูโกรธ แต่หานเซิ่นรู้ว่ารีเบทคนนั้นต้องการจะฆ่าเขา

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูก้าวมาหามิสเตอร์ไวท์และอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

“มิสเตอร์ไวท์ พวกเรามองเห็นแมงมุมหลุมดำ พวกเราจึงได้เข้าสู่โหมดเงียบเพื่อหลีกเลี่ยงการไปรบกวนมัน”

 

หานเซิ่นมองไปที่หน้าจอและเห็นแมงมุมสีดำตัวหนึ่งลอยตัวอยู่ในอวกาศ มันมีขนาดใหญ่โตพอๆกับดวงดาว และใยของแมงมุมก็ห้อมล้อมดวงดาวจำนวนมากทำให้บริเวณแห่งนั้นดูเหมือนกับตาข่ายที่มีขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ แมงมุมหลุมดำนั้นกำลังนอนอยู่ที่ศูนย์กลางของตาข่าย

 

นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่โตแบบนั้น มนุษย์ดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่เล็กยิ่งกว่าแบคทีเรียเมื่อเทียบกับขนาดของมันแล้ว

 

กองทัพยานของหน่วยอัศวินไอซ์บลูเข้าสู่โหมดเงียบ และไฟทุกดวงของพวกเขาก็ถูกปิด เครื่องมือสแกนและเครื่องมือสื่อสารทั้งหมดของพวกเขาก็ถูกปิดเช่นเดียวกัน แถมยานอวกาศของพวกเขาใช้พลังงานขับเคลื่อนที่ต่ำที่สุดเพื่อเคลื่อนที่ผ่านแมงมุมหลุมดำไปอย่างช้าๆและเงียบเชียบ

 

‘ระบบจักรวาลเคออสนี่น่ากลัวกว่าที่เราจินตนาการเอาไว้’ หานเซิ่นคิด แมงมุมหลุมดำนั่นต้องเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย และแม้แต่อัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ไม่กล้าไปรบกวนมัน

 

ยานอวกาศค่อยๆขับเคลื่อนเข้าไปใกล้แมงมุมหลุมดำอย่างช้าๆ และขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปนั้น หานเซิ่นก็ขมวดคิ้ว มันมีสิ่งมีชีวิตที่เล็กกว่าจำนวนมากอาศัยอยู่บนตัวเจ้าแมงมุมหลุมดำ

 

เมื่อเห็นอย่างนั้นหานเซิ่นก็ดูประหลาดใจ มิสเตอร์ไวท์จึงอธิบายให้เขาฟัง

“ตัวแมงมุมหลุมดำไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไร มันไม่คิดจะเสียเวลาล่าสิ่งมีชีวิตที่เล็กกระจิดริดอย่างพวกเราด้วยซ้ำ มันจะกินดวงดาว อุกกาบาตหรือแม้แต่ยานรบ แต่ตราบใดที่พวกเราไม่เข้าไปในบริเวณของมัน พวกเราก็จะปลอดภัย แต่ทว่ามันมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนแมงมุมหลุมดำนั่น รวมถึงซีโน่เจเนอิคระดับราชันด้วย สำหรับพวกเราแล้วพวกมันเป็นภัยคุกคามยิ่งกว่าตัวแมงมุมเองซะอีก”

 

“ถ้ามันมีซีโน่เจเนอิคอาศัยอยู่บนเจ้าแมงมุมหลุมดำเป็นจำนวนมาก พวกเราล่าพวกมันได้ไหม?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

“แน่นอนว่าได้ ถ้าเจ้าไม่กลัวว่าจะไปดึงความสนใจของแมงมุมหลุมดำเข้าล่ะก็นะ” อัศวินคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังราชาอัศวินไอซ์บลูพูด

 

มันใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงก่อนที่ยานอวกาศของพวกเขาจะเคลื่อนที่ผ่านแมงมุมหลุมดำไปได้อย่างปลอดภัย พวกเขาไม่ได้ทำให้เจ้าแมงมุมหลุมดำรู้สึกถึงตำแหน่งของพวกเขา และพวกเขาก็ไม่ได้ดึงความสนใจของสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนนั้นเช่นเดียวกัน

 

ทุกคนรู้สึกโล่งใจที่ผ่านมาได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าหน่วยอัศวินไอซ์บลูจะไม่ต้องการรับมือกับแมงมุมหลุมดำและสิ่งมีชีวิตบนตัวมัน

 

หานเซิ่นคิดว่าอันตรายสิ้นสุดลงแล้ว แต่ทันใดนั้นก็มีการระเบิดเกิดขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา ทำให้ยานอวกาศทั้งลำสั่นไหว เสียงสัญญาเริ่มดังขึ้นมา

 

“มันคือกุ้งกาแลกติก บอกยานทุกลำของพวกเราให้เข้าสู่รูปขบวนและเตรียมตัวต่อสู้!” ราชาอัศวินไอซ์บลูออกคำสั่ง

 

ยานลำอื่นในกองทัพเริ่มยิงอาวุธของพวกเขาใส่ภัยที่เข้ามา ลำแสงพุ่งออกมาทุกหนทุกแห่งผ่านอวกาศ ขณะที่แรงระเบิดปะทุขึ้นรอบด้านของพวกเขา

 

หานเซิ่นสามารถเห็นจากวิดีโอถ่ายทอดสดที่แสดงภาพถึงสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนกับกุ้ง เพียงแต่ว่าพวกมันเรืองแสงสีฟ้าออกมาและมีความยาวราวๆสิบเมตร พวกมันว่ายเข้ามารอบๆยานอวกาศ

 

เมื่อไรก็ตามที่พวกมันเข้ามาใกล้ได้มากพอ เหล่ากุ้งก็จะกลายเป็นแสงสีฟ้าที่พุ่งเข้าชนกับยานอวกาศ และเปลือกของพวกมันก็สามารถระเบิดที่กว้างกว่า 50 เมตร

 

ปืนหนักที่ทรงพลังของยานอวกาศหันไปยิงใส่กุ้งกาแลกติก แต่ละลูกนั้นเป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่สามารถกลืนกินฝูงของกุ้งกาแลกติกได้ในนัดเดียว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีพวกมันตรงเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

 

แสงสีฟ้าจำนวนมากส่องสว่างรอบๆพวกเขา กุ้งกาแลกติกดูเหมือนมีจำนวนไม่จำกัด

 

ตู! ตูม! ตูม!

 

กุ้งกาแลกติกยังคงพุ่งชนยานอวกาศเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่และสร้างแรงระเบิดขึ้นมาในทุกๆครั้ง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset