Super God Gene – ตอนที่ 2216

เมื่อหานเซิ่นไปถึงห้องควบคุม มิสเตอร์ไวท์และครามก็รออยู่ที่นั่นแล้ว

 

จากภาพบนหน้าจอ ดูเหมือนมันจะมีอสูรใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่งอยู่ตรงหน้ายานอวกาศ มอนสเตอร์ตัวนั้นดูเหมือนกับเต่าทะเลขนาดใหญ่ยักษ์ ขนาดตัวของมันเทียบกับดวงดาวดวงหนึ่งได้เลย มันเกือบจะใหญ่โตเท่ากับยานอวกาศของเอ็กซ์ตรีมคิง

 

ร่างกายใหญ่ยักษ์ของมันดูเหมือนกับสิ่งที่ทำขึ้นมาจากหยกขาว ขาของมันเคลื่อนไหวและสร้างวังวนในอวกาศ มันบินไปในอากาศแต่เหมือนกับว่ามันกำลังว่ายน้ำอยู่

 

แต่สิ่งที่น่าแปลกที่สุดก็คือกระดองเต่าที่อยู่บนหลังของมัน กระดองหยกนั้นสูงใหญ่และสง่างามราวกับป้อมปราการ แต่แทนที่มันจะเรียบเนียนเหมือนเต่าทั่วไปๆ กระดองของเต่าตัวนี้กลับมีปราสาทและสิ่งก่อสร้างจำนวนมากตั้งอยู่ มันเป็นอะไรที่ดูน่าอัศจรรย์

 

ยานอวกาศทั้งหมดเข้าสู่โหมดต่อสู้ แต่เนื่องจากราชาอัศวินไอซ์บลูยังไม่ได้ออกคำสั่ง มันจึงไม่มียานอวกาศลำไหนยิงปืนออกไป พวกเขากำลังจ้องหน้ากับเต่ายักษ์โดยที่ยังไม่มีฝ่ายไหนลงมือทำอะไร

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูและอัศวินไอซ์บลูคนอื่นๆดูมีสีหน้าที่จริงจริง แต่ก็ดูโกธรและหวาดกลัวในขณะเดียวกัน

 

“นั่นคืออะไรอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นกระซิบถามมิสเตอร์ไวท์

 

มิสเตอร์ไวท์กระซิบตอบ “อันเดอร์โอเวอร์แบริ่ง มันคือหนึ่งในซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่น่ากลัวที่สุดในระบบจักรวาลเคออส”

 

หานเซิ่นตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เขาจำได้ถึงสิ่งที่ถูกบอกเกี่ยวกับความตายของอี๋ซา เขาได้ยินมาว่าอี๋ซาถูกฆ่าโดยอันเดอร์โอเวอร์แบริ่ง

 

“ภายในระบบจักรวาลเคออสมีอันเดอร์โอเวอร์แบริ่งอยู่กี่ตัว?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่เต่ายักษ์

 

มิสเตอร์ไวท์รู้ว่าจริงๆแล้วหานเซิ่นอยากจะถามอะไร ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นมา

“มันมีเพียงแค่ตัวเดียว อี๋ซาถูกมอนสเตอร์ตัวนี้ฆ่าจริงๆนั่นแหละ”

 

หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้นหานเซิ่นก็มีสีหน้าที่ซับซ้อน เขามองดูเจ้าตัวนั้นว่ายผ่านอวกาศ และเขาก็สามารถบอกได้ทันทีว่ามันน่ากลัวแค่ไหน ถึงแม้จะมองผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ตาม เขารู้ดีว่าตัวเองยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับมัน

 

ถึงแม้จะใช้วิญญาณอสูรใบเสมาราชาแมลงปีศาจทั้ง 3 สี เขาก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากศัตรูแบบนั้นได้อยู่ดี

 

หานเซิ่นรู้ว่าหน่วยอัศวินไอซ์บลูได้รับคำสั่งให้มาเก็บกวาดดาวยักษ์ดวงหนึ่งในระบบจักรวาลเคออส แต่การทำแบบนั้น พวกเขาได้ไปปลุกอันเดอร์โอเวอร์แบริ่งที่หลับใหลอยู่ให้ตื่นขึ้นมา มันจึงโกรธและจู่โจมพวกเขา

 

อี๋ซาเป็นหนึ่งในสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของหน่วยอัศวินไอซ์บลู และเธอก็มีวิชาที่สร้างความเสียหายได้สูงที่สุด เธอสามารถถ่วงเวลาอันเดอร์โอเวอร์แบริ่งได้นานพอที่หน่วยอัศวินอื่นเดินทางมาช่วยสนับสนุนได้ทัน

 

อี๋ซาถูกอันเดอร์โอเวอร์แบริ่งกลืนกินเข้าไป แต่กองกำลังของอัศวินสามารถปกป้องยานอวกาศและหนีออกไปจากดาวยักษ์ได้ พวกเขาไม่สามารถสร้างความเสียหายกับอสูรตัวนี้ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

ตอนนี้เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอันเดอร์โอเวอร์แบริ่งอีกครั้ง ทุกคนในหน่วยอัศวินไอซ์บลูก็มีสีหน้าที่ซับซ้อน พวกเขาดูโกรธกับความพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็ดูไม่มั่นใจที่จะเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ตัวนี้อีกครั้ง พวกเขารู้ว่ากองกำลังของพวกเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะอันเดอร์โอเวอร์แบริ่งได้ เพราะยังไงซะมันก็เป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า

 

อันเดอร์โอเวอร์แบริ่งกำลังว่ายเล่นในอวกาศ มันไม่ได้เข้ามาหาพวกเขา มันมองข้ามเหล่าอัศวินไอซ์บลูราวกับว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่แมลงวัน และหลังจากผ่านไปสักพัก มันก็ว่ายจากไป

 

เมื่ออันเดอร์โอเวอร์แบริ่งหายไปจากสายตาของทุกคน เหล่าอัศวินไอซ์บลูก็ถอนหายใจออกมาราวกับว่าพวกเขาเพิ่งจะยกภูเขาทั้งลูกออกจากอก

 

หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มเดินทางต่อในเส้นทางที่วางแผนเอาไว้

 

หานเซิ่นและมิสเตอร์ไวท์กลับไปที่ห้องของพวกเขา มิสเตอร์ไวท์ถอนหายใจและพูด

“การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปอย่างที่วางแผนเอาไว้ ตอนแรกพวกเราไปเจอกับแมงมุมหลุมดำและกุ้งกาแลกติก ตอนนี้พวกเราเพิ่งจะเจอกับอันเดอร์โอเวอร์แบริ่ง ข้าหวังว่าการเดินทางที่เหลือจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก”

 

หานเซิ่นถาม “มิสเตอร์ไวท์ สิ่งก่อสร้างที่ดูเหมือนกับปราสาทบนหลังของอันเดอร์โอเวอร์แบริ่งนั้นใครเป็นคนสร้าง?”

 

มิสเตอร์ไวท์ยิ้ม “ไม่มีใครรู้ เอ็กซ์ตรีมคิงได้สำรวจระบบจักรวาลเคออสมาหลายศตวรรษแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็เพิ่งจะยึดครองดินแดนได้เพียงแค่ 0.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ระบบจักรวาลเคออสเป็นเหมือนกับซีโน่เจเนอิคสเปชที่ใหญ่กว่าซีโน่เจเนอิคสเปชไหนๆที่พวกเรารู้จัก มีเพียงแค่เซเคร็ดเท่านั้นที่เทียบกับสถานที่แห่งนี้ได้ หรืออีกในนัยหนึ่งมันก็เป็นเหมือนกับซีโน่เจเนอิคสเปชขั้นสุดยอด”

 

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ มิสเตอร์ไวท์ก็อธิบายต่อ “จากที่ข้ารู้ ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา มันได้มีการเผชิญหน้ากับอันเดอร์โอเวอร์แบริ่งทั้งหมด 11 ครั้ง การพบกับมันครั้งแรกคือเมื่อ 200 ปีก่อน แม้แต่เมื่อก่อนมันก็มีปราสาทอยู่บนหลังของมันเหมือนกับตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าปราสาทและสิ่งก่อสร้างบนหลังของมันมาจากที่ไหน พวกเราได้พบเห็นมันหลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ไม่เคยมีใครเจอหลักฐานไหนที่บ่งบอกว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น มันเป็นปริศนาอย่างแท้จริง”

 

อัศวินไอซ์บลูหวาดระแวงตลอดการเดินทางที่เหลือ มันมีเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นมากเกินไปในระหว่างทาง และนั่นทำให้ทุกคนรู้สึกตึงเครียด

 

โชคดีที่พวกเขาไม่ได้เจอกับมอนสเตอร์ที่เลวร้ายตัวไหนอีก และในที่สุดยานอวกาศก็ไปถึงฐานทัพของหน่วยอัศวินไอซ์บลูในระบบจักรวาลเคออส

 

มันไม่ใช่ระบบที่ใหญ่อะไรมาก แต่เอ็กซ์ตรีมคิงก็วางรากฐานอันมั่นคงเอาไว้แล้ว

 

มันมีหน่วยอัศวินทั้งหมดสิบหน่วยด้วยกัน และ 4 หน่วยนั้นอยู่ภายในระบบจักรวาลเคออส หนึ่งในหน่วยอัศวินนั้นครอบครอง 2 ระบบ ในขณะที่อีก 3 หน่วยครอบครองหน่วยละหนึ่งระบบ

 

หน่วยอัศวินไอซ์บลูเป็นเจ้าของระบบนี้ และพวกเขาก็ใช้ชื่อหน่วยตั้งชื่อระบบแห่งนี้ ด้วยเหตุนั้นมันจึงถูกรู้จักกันในชื่อระบบไอซ์บลู

 

ระบบไอซ์บลูมีดาวทั้งหมด 6 ดวง ดาวดวงที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดมหึมา แม้แต่ยานอวกาศลำใหญ่ยักษ์ของอัศวินไอซ์บลูก็เป็นเพียงแค่ภูเขาเมื่อเทียบกับมัน

 

ฐานทัพของอัศวินไอซ์บลูอยู่บนดาวดวงนั้น แต่มันก็มีเพียงแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ที่ถูกพัฒนา มันยังเหลือผืนผิวอีกมากที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ

 

พวกเขาตั้งชื่อมันว่าดาวไอซ์บลู เมื่อพวกเขาลงจอด หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าฐานทัพนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากหินมหาสมุทร เขาไม่อยากจะนึกเลยว่าเอ็กซ์ตริมคิงต้องใช้เงินมากมายขนาดไหนเพื่อที่จะสร้างมันขึ้นมา

 

หานเซิ่นเป็นองครักษ์ของมิสเตอร์ไวท์ แต่เขาก็ยังอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของราชาอัศวินไอซ์บลูอยู่ดี เมื่อพวกเขาไปถึงฐานทัพของหน่วยอัศวินไอซ์บลู หานเซิ่นและพวกพ้องก็ได้รับมอบภารกิจบางอย่างเช่นเดียวกับอัศวินคนอื่นๆ ภารกิจของพวกเขาคือการเก็บกวาดและการออกสำรวจ

 

ภายในพื้นที่ที่หน่วยอัศวินไอซ์บลูครอบครอง หานเซิ่นได้รับภารกิจให้ระบุตำแหน่งของซีโน่เจเนอิคและวาดแผนที่

 

ฐานะของหานเซิ่นแตกต่างไปจากอัศวินธรรมดา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อยู่ในทีมอัศวินสำรอง เขามีทีมของตัวเองที่ประกอบไปด้วยพวกพ้องของเขาเอง ซึ่งนั่นคือข้อตกลงที่เขาทำเอาไว้ก่อนที่เขาจะเข้าร่วม

 

ถ้าเขาเข้าร่วมกับอัศวินไอซ์บลูแบบปกติล่ะก็ หานเมิ่งเอ๋อและคนอื่นๆก็คงจะถูกกระจายกันออกไปตามทีมต่างๆ แต่ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นทำงานให้กับมิสเตอร์ไวท์ ราชาอัศวินไอซ์บลูก็ไม่สามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้ ซึ่งไม่ใช่เพราะแบบนี้ หานเซิ่นก็คงจะไม่พาพวกพ้องของเขามาที่นี่ตั้งแต่แรก

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset