Super God Gene – ตอนที่ 2222

หลังจากที่เอ็ดเวิร์ดกลับไปที่ฐานทัพของหน่วยอัศวินไอซ์บลู เขาก็ไปที่ห้องเก็บข้อมูล เขาตรวจสอบบันทึกของทีมอัศวินต่างๆ หลังจากที่ดูพวกมันเสร็จ เขาก็ขมวดคิ้ว เขาหันไปหาผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลและพูด

“วิดีโอที่ถูกบันทึกตลอดเดือนที่ผ่านมามีเพียงแค่นี้อย่างนั้นหรอ?”

 

“ใช่แล้ว ท่านผู้ตรวจการ” ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลตอบอย่างมีมารยาท

 

หลังจากหยุดคิดอยู่ชั่วครู่ เอ็ดเวิร์ดก็ถามขึ้นมา “มีทีมไหนหรือเปล่าที่นำเครื่องบันทึกที่ได้รับความเสียหายกลับมาและขอเปลี่ยนอันใหม่?”

 

“ตลอดเดือนที่ผ่านมามี 4 ทีมที่มาขอเปลี่ยนเครื่องบันทึกเครื่องใหม่”

ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลตอบหลังจากที่ตรวจเช็ดระบบข้อมูลของเขา

 

“มันมีทีมไหนบ้างที่มาขอเปลี่ยนในช่วง 2 อาทิตย์ก่อน?” เอ็ดเวิร์ดถามอีกครั้งก่อนที่ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลจะพูดจบ

 

“ในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา มีอยู่ 2 ทีมที่มาขอเปลี่ยนเครื่องบันทึก ทีม 79 ที่นำโดยจอห์นและทีม 354 ที่นำโดยหานเซิ่น สมาชิกของพวกเขาคือ…” ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลรีบอ่านรายชื่อที่อยู่ในไฟล์ของเขา

 

“ทีม 354? นั่นคือทีมใหม่ที่กัปตันพามาที่นี่อย่างนั้นหรอ?” เอ็ดเวิร์ดพูดขณะที่จ้องมองไปที่ข้อมูลของทีม 354

 

“ใช่แล้วท่านผู้ตรวจการ ทีมนี้เป็นทีมพิเศษ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นทีมสำรอง แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ในรายชื่อของอัศวินสำรอง พวกเขาเป็นองครักษ์ส่วนตัวของกุนซือไวท์” ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลพูด

 

“องครักษ์ของกุนซือไวท์?” เอ็ดเวิร์ดถามขณะที่ตรวจดูข้อมูล สีหน้าที่แปลกๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพูดขึ้นมา

“เขาคือลูกศิษย์ของราชินีแห่งมีด นั่นเป็นอะไรที่น่าสนใจ”

 

หานเซิ่นยังคงอยู่ระหว่างการเก็บกวาดหุบเขาลาวา แต่มันมีซีโน่เจเนอิคอยู่มากเกินไป และมันก็ไม่มีทางที่ทีมของเขาจะสามารถกำจัดพวกมันได้หมด หานเซิ่นถูกส่งมาที่นี่เพื่อถ่ายภาพซะมากกว่า ถ้าซีโน่เจเนอิคไม่ได้เข้ามาจู่โจมทีมของพวกเขา โดยปกติแล้วพวกเขาก็จะไม่เข้าไปยุ่งกับพวกมัน

 

หานเซิ่นเดินไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวของหุบเขาลาวาเพื่อค้นหาซีโน่เจเนอิคระดับดยุก

 

หานเซิ่นบอกให้เป่าเอ๋อโฟกัสไปที่การถ่ายซีโน่เจเนอิคที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำลาวาและหันกล้องมาทางพวกเขาเฉพาะตอนที่พวกเขาสังหารซีโน่เจเนอิคธรรมดาๆ เขาไม่อยากให้กล้องถ่ายภาพในตอนที่พวกเขาสังหารซีโน่เจเนอิคระดับดยุก

 

น่าเสียดายที่หานเซิ่นยังไม่พบวิญญาณอสูรที่กำลังตามหา ตลอด 2 วันที่ผ่านมาเขาได้สังหารซีโน่เจเนอิคระดับดยุกไป 3 ตัว แต่ไม่มีตัวไหนที่มอบวิญญาณอสูรให้กับเขา

 

“ทุกคนระวัง!” หานเซิ่นพูดขึ้นมาขณะที่จ้องมองไปที่แม่น้ำลาวา กระดูกสันหลังที่ยาวกว่าสิบเมตรโผล่ขึ้นมาจากผิวของลาวา แต่หานเซิ่นรู้ว่าสิ่งที่มองเห็นเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยของมันเท่านั้น

 

ทุกคนหันไปมองที่แม่น้ำลาวา เงาของตัวอะไรบางอย่างนั้นกำลังว่ายอยู่ในหุบเขาและไม่แสดงทีท่าที่จะออกมาจากแม่น้ำลาวา แต่ถึงอย่างนั้นซีโน่เจเนอิคธาตุไฟตัวอื่นๆก็ออกห่างจากทางของมัน แม้แต่นกซีโน่เจเนอิคก็ยังบินหนีและกลับเข้าไปซ่อนในรัง ทันใดนั้นหุบเขาก็เงียบสะงัดไป

 

เมื่อเงานั้นจากไปแล้ว ซีโน่เจเนอิคตัวอื่นถึงจะพากันกลับออกมาอีกครั้ง

 

“ซีโน่เจเนอิคระดับราชัน?” จีชิงถาม

 

“คงจะอย่างนั้น” หานเซิ่นพยักหน้า

 

หานเซิ่นและพวกพ้องเดินทางกันต่อไป จนกระทั่งพวกเขาไปถึงจุดมืดของแม่น้ำลาวา มันมีฝูงนกที่ดูเหมือนกับกระเรียนอยู่ที่นั่น พวกมันมีขนสีขาวและหัวสีแดง หานเซิ่นยิ้มออกมาเมื่อมองเห็นพวกมัน

 

มันมีกระเรียนสีแดงอยู่ที่นี่เป็นพันตัว และตัวที่อ่อนแอที่สุดของพวกมันเป็นระดับเอิร์ล บางตัวเป็นระดับมาร์ควิสและแม้แต่ตัวที่เป็นระดับดยุกก็ยังมี

 

“พวกมันจะให้วิญญาณอสูรแบบไหนกันนะ?”

หานเซิ่นบอกให้เป่าเอ๋อหันไปถ่ายทางอื่น ขณะที่เขาและทีมเริ่มสังหารเหล่ากระเรียนสีแดง

 

พวกเขาอยู่ห่างออกไปจากเหล่ากระเรียนสีแดงหลายพันเมตร แต่ในที่สุดพวกมันก็สังเกตเห็นถึงการเข้ามาของพวกเขา เปลวไฟลุกโชติช่วงขึ้นบนหัวของนกกระเรียนหลังจากนั้นก็ปกคลุมทั่วร่างของพวกมัน พวกมันส่งเสียงร้องขึ้นมาพร้อมกับพุ่งเข้าหากลุ่มของหานเซิ่นราวกับมิสไซล์

 

กระสุนของหานเซิ่นและลูกธนูของหานเมิ่งเอ๋อเริ่มจู่โจมเหล่ากระเรียน แต่เมื่อพวกเขาสังหารกระเรียนตัวแรก มันก็ระเบิดกลางอากาศ ไฟพุ่งออกมาจากศพของนกกระเรียนและเผาไหม้ดินแดนโดยรอบ

 

“โอ้ไม่นะ! นกกระเรียนพวกนี้เป็นนักบินคามิกาเซะ! เรียกใบเสมาออกมา!” หานเซิ่นตะโกน

 

หานเมิ่งเอ๋อเรียกใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีฟ้าออกมา และนกกระเรียนสีแดงที่ลุกเป็นไฟมากมายก็พุ่งเข้ามาชนกับมัน พวกมันเริ่มจะระเบิดใส่ผิวของโล่ป้องกันราวกับดวงอาทิตย์

 

กระเรียนสีแดงนับพันพุ่งเข้ามาหาใบเสมาราวกับลูกระเบิด มันเป็นภาพที่เหลือเชื่อ มันเหมือนกับว่ากำลังมีลูกไฟพุ่งเข้ามาใส่ใบเสมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่กำแพงไฟที่ยิ่งใหญ่แพร่ขยายออกไปและเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่าง

 

“เจ้าพวกนี้ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่จริงๆ” หานเซิ่นมองดูเหล่ากระเรียนระเบิดใส่โล่ป้องกันอย่างไม่หยุด

 

โชคดีที่กลุ่มของหานเซิ่นมีใบเสมาราชาแมลงปีศาจป้องกันตัวเองอยู่

 

มันมีกระเรียนสีแดงเป็นพันๆตัวอยู่ที่นี่ และมันใช้เวลากว่าสิบนาทีก่อนที่พวกมันจะฆ่าตัวเองกับผิวของใบเสมาจนหมด ไม่มีตัวไหนที่เหลือรอด และพวกมันทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ว หานเซิ่นสงสัยว่าพวกมันอยู่รอดมานานถึงขนาดนี้ได้ยังไง

 

ซีโน่เจเนอิคตัวอื่นๆในบริเวณแห่งนั้นทั้งหมดหนีไปด้วยความกลัวต่อพวกนกกระเรียนสีแดงที่บ้าคลั่ง แต่มีซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งออกมาจากลาวาโดยที่ไม่ได้กลัวเหล่านกกระเรียนสีแดง มันค่อยๆร่อนข้ามแม่น้ำลาวาเข้ามาหาหานเซิ่นอย่างไม่รีบไม่ร้อน

 

ซีโน่เจเนอิคที่ออกมาจากลาวาตัวนั้นดูเหมือนกับนกยูงสีทอง ร่างกายของมันประกอบขึ้นมาจากลาวาที่ร้อนแรง และขณะที่มันบินเข้ามา ลาวาสีทองก็หยดไปตามทาง

 

เมื่อเจ้านกยูงเข้ามาใกล้กับใบเสมาราชาแมลงปีศาจ มันก็อ้าปากและพ่นลาวาออกมา ของเหลวสีทองเข้าปกคลุมใบเสมาราชาแมลงปีศาจอย่างรวดเร็ว แต่ของเหลานั้นไม่ร้อนพอที่จะเจาะผ่านการป้องกันของใบเสมาราชาแมลงปีศาจได้

 

“นั่นคือซีโน่เจเนอิคระดับดยุกกลายพันธุ์อย่างนั้นหรอ?”

หานเซิ่นประหลาดใจขณะที่มองไปที่นกยูงลาวา เขาดูดีใจที่ได้เห็นมัน

 

“เปิดใบเสมาและปล่อยให้พ่อออกไปฆ่ามัน” หานเซิ่นชักมีดเขี้ยวผีสิงออกมาและวิ่งออกไปจากโล่ป้องกัน เขาฟันเข้าใส่นกยูงลาวาด้วยมีดลมปราณสีม่วงคล้ำ

 

ขณะที่มีดปีศาจฟันเข้าไปหามัน นกยูงลาวาก็พ่นลาวาออกมามากขึ้นและส่งน้ำพุของหินหลอมเหลวขึ้นสู่บนอากาศ มันสามารถละลายมีดลมปราณของหานเซิ่นได้สำเร็จ ซึ่งทำให้เขาต้องประหลาดใจ

 

หานเซิ่นเคลื่อนไหวราวกับผีพร้อมกับฟันมีดลมปราณออกไป แต่ดูเหมือนว่าการโจมตีของเขาจะไม่ได้ผลกับเจ้านกยูง

 

ขณะที่เขาพยายามจะฆ่านกยูงลาวา เจ้านกยูงก็กระพือปีกและหายตัวไป

 

“เจ้าตัวนี้…รวดเร็วจริงๆ” หานเซิ่นขมวดคิ้ว

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset