Super God Gene – ตอนที่ 2245

ภายในสระน้ำที่ดูเหมือนจะทำมาจากหยกขาวนั้น หานเซิ่นเห็นผู้หญิงในชุดไหมพรม ไหมพรมสีขาวถูกถักร้อยเป็นชุดที่ดูโปร่งใสจนเกือบจะมองเห็นทุกส่วนของร่างกาย

 

หานเซิ่นเคยเห็นผู้หญิงที่งดงามมามากมายในชีวิต แต่น้อยคนนักที่จะดึงดูดเขา แต่ทว่าผู้หญิงคนนี้ดูมีเสน่ห์อย่างมาก และมันก็เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกแบบนี้

 

ผู้ชายคนไหนที่ได้ชายตามองผู้หญิงคนนี้จะไม่รักอะไรมากไปกว่าการมีสัมพันธ์กับเธอ

 

อสูรตัวนั้นที่หานเซิ่นติดตามมาว่ายเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น หลังจากนั้นเธอก็อุ้มมันขึ้นมาและลูบขนของมัน ดูเหมือนว่าเจ้าอสูรตัวน้อยจะมีความสุขกับเรื่องนั้นมาก แต่นั่นทำให้คนนอกที่ได้เห็นต้องการจะเตะเจ้าอสูรน้อยตัวนั้นออกไปให้พ้น เพื่อที่พวกเขาจะได้สัมผัสกับหน้าอกของเธอ

 

“มานี่” ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมา เธอไม่ได้พูดออกมาเป็นคำ แต่คำเชิญนั้นถูกส่งออกไปอย่างชัดเจน

 

หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขาแข็งทื่อบนอากาศและมองไปที่เธออย่างกังวลใจ

 

“ข้าไม่ได้ตั้งใจเข้ามาที่นี่ตามอำเภอใจ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้” หานเซิ่นพูดและสะกิดให้อสูรกาแล็กซี่รีบพาเขาไปจากที่นี่

 

“ไหนๆเจ้าก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมถึงได้รีบร้อนจะจากไปซะล่ะ?”

ในที่สุดผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยโทนเสียงที่ยั่วยวนอย่างมาก การได้ยินเธอพูดนั้นทำให้หานเซิ่นสั่นไปทั้งตัว

 

แต่หานเซิ่นไม่กล้าจะอยู่ต่อ เขาขึ้นไปบนหลังของอสูรกาแล็กซี่และเตรียมตัวจะหนีไป อสูรกาแลกซี่เปิดใช้พลังของมันเพื่อเดินทางผ่านกำแพงไป แต่หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงปังดังขึ้นมา อสูรกาแล็กซี่และหานเซิ่นชนเข้ากับกำแพง ทำให้จมูกของหานเซิ่นมีเลือดไหลออกมา

 

อสูรกาแล็กซี่รู้สึกไม่ดีเช่นเดียวกัน มันใช้อุ้งมือถูจมูกของตัวเอง ขณะที่น้ำตาเริ่มไหลลงมาจากดวงตาของมัน

 

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะและพูด “เจ้าคิดว่าที่นี่คือที่ไหนกัน? เจ้าคิดว่าที่นี่คือสถานที่ที่เจ้าจะไปจะมาก็ได้หรือยังไง?”

 

“ข้าไม่ได้ล่วงละเมิดอะไรท่าน ดังนั้นทำไมไม่ปล่อยข้าไปสักครั้งล่ะ?” หานเซิ่นจ้องมองไปที่เธอและขมวดคิ้ว

 

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะออกมา “เมื่อไหร่กันที่ข้าบอกว่าจะไม่ปล่อยเจ้าไป? เชิญจากไปถ้าเจ้าต้องการ เพราะข้าจะไม่หยุดเจ้าเอาไว้”

 

“ถ้าท่านจะไม่หยุดข้าเอาไว้ อย่างนั้นก็ปิดการป้องกันของกำแพงนี่” หานเซิ่นขมวดคิ้ว

 

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะจนร่างกายเริ่มจะสั่น หน้าอกในน้ำของเธอทำให้หัวใจของผู้คนเต้นรัวและจ้องมองไปที่พวกมันอย่างจดจ่อ

 

“นี่ข้าพูดอะไรน่าขำหรือยังไง?” หานเซิ่นพูด

 

“ถ้าข้าทำแบบนั้นได้ ข้าจะยังอยู่ที่นี่ไปอีกทำไม?” หลังจากที่พูดอย่างนั้นเธอก็เดินออกมาจากสระ

 

หานเซิ่นรู้สึกตกใจ เขาเห็นว่าที่คอ ข้อมือและข้อเท้าของเธอถูกล่ามไปด้วยโซ่โลหะ โซ่นั้นดูเล็กพอๆกับเส้นผมเส้นหนึ่ง และมันก็ทอดยาวลงไปถึงก้นสระ

 

ผู้หญิงคนนั้นเดินออกมาจากสระและไปนอนลงบนเตียงหยก เธอเท้าคางและมองมาที่หานเซิ่นอย่างยั่วยวน

“ในตอนที่เจ้าเข้ามาในนี้ ข้าพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำลายการป้องกันของกำแพง ไม่ทำอย่านั้นเจ้าก็คงจะเข้ามาข้างในไม่ได้”

 

“ถ้าอย่างนั้นได้โปรดช่วยพวกข้าอีกครั้ง โดยการปล่อยพวกข้าออกไป” หานเซิ่นดูหดหู่

 

หานเซิ่นคิดว่าผู้หญิงคนนั้นปล่อยเจ้าอสูรตัวน้อยออกมาอย่างจงใจด้วยจุดประสงค์เพื่อล่อพวกเขามาหาเธอ

 

แต่ดูจากหน้าของเธอ ดูไม่เหมือนว่าเธอจะสมคบคิดกับเอ็ดเวิร์ด แต่นั่นก็ทำให้ตัวตนของเธอดูลึกลับยิ่งกว่าเดิม

 

“ไม่ล่ะ ข้าไม่ได้เห็นใครคนอื่นมาเป็นเวลายาวนาน มันหาได้ยากที่จะมีแขกคนหนึ่งมาเยือนที่นี่ ดังนั้นข้าคงจะปล่อยออกไปเร็วๆนี้ไม่ได้”

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มออกมาขณะที่จ้องมองมาที่หานเซิ่น “อีกอย่างข้าใช้พลังทั้งหมดไปกับปิดการป้องกันเพื่อให้เจ้าเข้ามาได้ ตอนนี้ถึงแม้ข้าอยากจะช่วยเจ้า ข้าก็ไม่มีพลังเหลือพอที่จะทำอะไรแบบนั้น ดังนั้นอยู่ที่นี่กับข้าซะเถอะ”

 

หานเซิ่นเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นมีหางจิ้งจอกสีขาวอยู่ เขาจึงถามขึ้นมา

“ท่านคือจิ้งจอกเปลี่ยนร่างอย่างนั้นหรอ?”

 

ผู้หญิงคนนั้นยิ้ม “ราชินีจิ้งจอก”

 

“อะไรนะ?” หานเซิ่นไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูด

 

“ราชินีก็คือราชินี จิ้งจอกก็คือจิ้งจอก” ราชินีจิ้งจอกลูบขนของอสูรตัวน้อยในอ้อมแขนขณะที่เธอพูด

 

“ท่านเป็นราชินีของราชาคนไหนกัน?” สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป เมื่อตัดสินจากเผ่าพันธุ์ที่จะอาศัยอยู่ตามลำพัง เอ็กซ์ตรีมคิงเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเรื่องนั้น

 

ราชินีจิ้งจอกยิ้ม “ข้าคือราชินีของราชาโกสต์โบน”

 

“หนึ่งในสิบขุนพลของเซเคร็ด? ขุนพลโกสต์โบนนั่นน่ะหรอ?” หานเซิ่นพูด เขารู้ว่าใครกันที่เธอกำลังพูดถึงอยู่

 

ทุกคนเรียกขุนพลโกสต์โบนและคนอื่นในสิบอันดับสูงสุดของเซเคร็ดว่าขุนพล หานเซิ่นไม่คาดคิดว่าจริงๆแล้วชื่อของเขาคือราชาโกสต์โบน หานเซิ่นสรุปเรื่องนี้จากสิ่งที่เธอพูด

 

“ดี เจ้าคุ้นเคยกับสามีของข้าอย่างนั้นหรอ?” ราชินีจิ้งจอกยิ้มและมองไปที่หานเซิ่น

 

“เปล่า ข้าแค่รู้จักชื่อของเขาเท่านั้น ถ้าท่านเป็นภรรยาของเขา อย่างนั้นทำไมท่านถึงถูกล็อคเอาไว้ที่นี่ล่ะ? นี่ขุนพลโกสต์โบนไม่ได้มาช่วยท่านออกมาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่ปราสาทขณะที่ถาม

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าขุนพลโกสต์โบนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ถ้าภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่ มันก็เป็นไปได้ที่ขุนพลโกสต์โบนจะยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน

 

“เขาล็อคข้าเอาไว้ที่นี่ อย่างนั้นทำไมเขาต้องมาช่วยข้าออกไปด้วย?” ราชินีจิ้งจอกหัวเราะ

 

“ท่านเป็นภรรยาของเขาไม่ใช่หรอ? ทำไมเขาต้องล็อคท่านเอาไว้ที่นี่ด้วย?” หานเซิ่นมองไปที่ราชินีจิ้งจอกด้วยความประหลาดใจ

 

“มันเป็นเพราะเขาหวาดกลัวข้า” ราชินีจิ้งจอกหลี่ตาของเธอ

 

“เขาหวาดกลัวท่าน?” หานเซิ่นตรวจดูเธอ มันยากที่จะจิตนาการได้ว่าผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าขุนพลโกสต์โบน

 

“ใช่แล้ว เขาหวาดกลัวข้า และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เขาล็อคข้าเอาไว้ที่นี่ เขาไม่ปล่อยให้ใครคนไหนมาเยี่ยมข้าเช่นกัน”

ราชินีจิ้งจอกยิ้ม หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ “เจ้ารู้ว่าข้าคือจิ้งจอกเปลี่ยนร่างสินะ? ข้าจะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่งดงามของเผ่าพันธุ์ไหนก็ได้ ดังนั้นมันมีโอกาสที่ข้าจะยั่วยวนชายคนไหนๆที่ชายตามองข้า ถ้าเจ้าเป็นสามีของข้า เจ้าจะไม่หวาดกลัวหรือยังไง?”

 

“ข้าคงจะหวาดกลัวเหมือนกัน” หานเซิ่นยิ้มแห้งๆออกมา

 

“ฮ่าๆ อย่างน้อยเจ้าก็เป็นคนซื่อตรง” ราชินีจิ้งจอกเงินมองหานเซิ่นและถามขึ้นมา

“เจ้าคือหนึ่งในคริสตัลไลเซอร์หรือหนึ่งในเอ็กซ์ตรีมคิงกัน?”

 

“ข้าคือหนึ่งในคริสตัลไลเซอร์ ท่านคิดจริงๆหรือว่าข้าดูเหมือนคนของเอ็กซ์ตรีมคิงน่ะ?” หานเซิ่นดูประหลาดใจ

 

“เผ่าพันธุ์ของข้าเชี่ยวชาญเรื่องการปรับเปลี่ยนยีน ข้าพอจะบอกได้ว่าร่างกายของเจ้ามียีนของเอ็กซ์ตรีมคิงอยู่บางส่วน บางทีข้าอาจจะเข้าใจผิดไป แต่เอ็กซ์ตรีมคิงไม่ควรจะมีความสัมพันธ์กับหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ต้อยต่ำกว่าอย่างคริสตัลไลเซอร์” ราชินีจิ้งจอกพูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่

 

สิ่งที่ราชินีจิ้งจอกพูดทำให้หานเซิ่นสะดุ้ง “มนุษย์คือเผ่าพันธุ์ผสมของคริสตัลไลเซอร์และเผ่าพันธุ์อื่น? หรือว่าเผ่าพันธุ์นั้นจะคือเอ็กซ์ตรีมคิง? นั่นก็ดูเป็นไปได้ โครงสร้างของเอ็กซ์ตรีมคิงดูเหมือนกับของมนุษย์อย่างมาก”

 

“ไหนๆเจ้าก็ไปจากที่นี่ไม่ได้ เจ้าอยากจะเห็นอะไรสนุกๆไหม?” ราชินีจิ้งจอกกระพริบตาให้กับหานเซิ่น

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset