Super God Gene – ตอนที่ 2247

เมื่อวิสัยทัศน์ของหานเซิ่นกลับคืนมา ดวงตาของเขาก็มองเห็นภาพที่ไม่น่าดู

 

กระดูกอยู่ทุกหนทุกแห่ง และพวกมันก็กองรวมกันก่อตัวเป็นภูเขาเล็กๆ มันยากจิตนการได้ว่ามีชีวิตมากมายขนาดไหนที่สูญเสียไปที่นี่

 

ผืนดินนั้นเต็มไปด้วยกระดูกของสิ่งมีชีวิต ท้องฟ้าเป็นสีเลือด และฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าก็เป็นสีแดงเข้ม

 

แม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่านภูเขา และน้ำของมันก็เป็นสีแดงเช่นกัน หานเซิ่นก้าวเข้ามาสู่โลกใหม่ที่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเลือด

 

หานเซิ่นกำลังยืนอยู่บนกองภูเขากระดูก เขามองเห็นว่าทั้งภูเขานั้นประกอบไปด้วยหัวกะโหลก ประตูโครงกระดูกนรกนั้นตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของภูเขา

 

ราชินีจิ้งจอกยืนอยู่ถัดไปจากหานเซิ่นขณะที่ยังคงมีโซ่ล่ามคอ แขนและขาของเธออยู่

 

“ที่นี่คือที่ไหน?” หานเซิ่นถามขณะที่มอแงไปรอบๆ

 

ถ้าทั้งหมดนี้เป็นของจริง มันก็ยากที่จะจินตนาการได้ว่าสิ่งมีชีวิตมากมายขนาดไหนต้องถูกฆ่าถึงจะก่อตัวเป็นดินแดนที่พวกเขายืนอยู่ในตอนนี้

 

ราชินีจิ้งจอกตอบ “ราชาโกสต์โบนเป็นกัปตันของกองทัพเซเคร็ดบลัดของเซเคร็ด เขานำกองทัพเซเคร็ดบลัดไล่ฆ่าทุกสิ่งทุกอย่างในเส้นทางของเขา และในขณะเดียวกันเขาก็ยึดครองดินแดนมากมายในนามของเซเคร็ด สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนตายด้วยมือของพวกเขา กระดูกพวกนี้คือสิ่งที่เหลืออยู่ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ถูกฆ่าตายโดยราชาโกสต์โบน”

 

“ทำไมกระดูกทั้งหมดถึงได้ถูกรวบรวมมาไว้ในนี้?” หานเซิ่นถาม

 

มันจะเป็นอะไรที่สมเหตุสมผล ถ้าราชาโกสต์โบนใช้กระดูกของซีโน่เจเนอิคเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่การเอากระดูกทั้งหมดมาทิ้งเอาไว้ที่นี่ดูจะเป็นอะไรที่เสียของ

 

ราชินีจิ้งจอกลูบผมของเธอและยิ้ม “ราชาโกสต์โบนเป็นคนของเผ่าโบน ซึ่งที่นี่ก็คือไวท์โบนเฮลล์ถิ่นกำเนิดของเผ่าโบน เขาฝังศัตรูทั้งหมดเอาไว้ที่นี่ก็เพื่อให้กำเนิดชาวโบนขึ้นมา แต่มันไม่ได้เป็นไปตามที่เขาวางแผนเอาไว้ เพราะมันมีไม่เผ่าโบนเกิดขึ้นมาในที่นี้ แต่…”

 

“แต่อะไร?” หานเซิ่นถาม

 

ราชินีจิ้งจอกมองหานเซิ่นและถาม “เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับขุนพลที่มีชื่อเสียงด้านการทำลายเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของตัวเองไหม?”

 

หานเซิ่นพยักหน้า เขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

 

ราชินีจิ้งจอกมองภูเขากระดูกสีขาวด้วยสีหน้าที่เย้ยหยัน

“เผ่าพันธุ์โบนนั้นเป็นแบบนั้น เมื่อนานมาแล้วเผ่าโบนมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่การวิวัฒนาการของเผ่าโบนเป็นอะไรที่นองไปด้วยเลือด โกสต์โบนได้ฆ่าเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ทั้งหมดของเขา และการทำแบบนั้นก็ทำให้เขาได้กลายเป็นราชาเผ่าโบนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา ความแข็งแกร่งของเขาทำให้เผ่าพันธุ์ของเขาได้กลายเป็นมหาอำนาจ แต่มันก็ทำลายพวกเขาด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อทุกอย่างจบลงแล้วโกสต์โบนเป็นเผ่าโบนเพียงคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ ที่สุดแล้วความโดดเดี่ยวก็ทำให้เขาแสวงหาวิธีที่จะให้กำเนิดเผ่าโบนคนอื่นขึ้นมา แต่ความพยายามของเขาไม่ประสบผลสำเร็จ และการกระทำของเขาก็เป็นผลประโยชน์ต่อศัตรูของเขาซะมากกว่า”

 

หานเซิ่นยังคงไม่เข้าใจ

 

หลังจากนั้นราชินีจิ้งจอกก็พูดต่อ “โกสต์โบนจำกัดขอบเขตของข้าเอาไว้ที่นี่ ข้าจึงไม่รู้ว่าโลกภายนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากผ่านไปหลายล้านปีเขาก็ยังไม่กลับมา กระดูกในที่แห่งนี้ให้กำเนิดเผ่าโบนไม่ได้ พวกมันแค่ช่วยในการเติบโตของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ”

 

ขณะที่พูดราชินีจิ้งจอกก็ชี้ออกไปในระยะไกล เมื่อหานเซิ่นหันไป เขาก็เห็นทิวเขาที่เรียงกันเหมือนกับดอกบัว

 

“ระหว่างภูเขากระดูกขาวพวกนี้มีสระโลหิตอยู่ สระนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งที่กินกระดูกเป็นอาหาร ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นมีขนาดค่อนข้างเล็ก และมันเป็นแค่ทายาทของไวเคานต์ที่ถูกหลงลืมไปนานแล้ว มันเป็นหนึ่งในซีโน่เจเนอิคไร้ชื่อที่ขุนพลโกสต์โบนฆ่าและนำมาทิ้งเอาไว้ที่นี่ แต่ทว่าซีโน่เจเนอิคตัวนั้นตั้งครรภ์อยู่ และทารกก็รอดชีวิตมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครจะมีชีวิตอยู่ในไวท์โบนเฮลล์ได้ แต่ทายาทของซีโน่เจเนอิคตัวนั้นกลับทำได้ ความจริงแล้วมันกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ” ขณะที่ราชินีจิ้งจอกพูดเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคตัวนั้น เธอก็ดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

 

เธอถอนหายใจออกมา “นี่ควรจะไม่เกี่ยวอะไรกับข้า แต่ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และเหนือสิ่งอื่นใดมันรักความตาย ถ้ามันยังเติบโตต่อไป วันหนึ่งมันจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า และมันก็จะหาทางออกจากไวท์โบนเฮลล์ได้ในที่สุด ซึ่งเจ้าและข้าก็จะเป็นสิ่งมีชีวิตแรกที่ถูกมันฆ่า”

 

“ท่านหลอกข้ามาที่นี่เพื่อให้ฆ่ามันอย่างนั้นหรอ?” ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าเธอต้องการอะไร

 

ราชินีจิ้งจอกยิ้มให้กับหานเซิ่น “ถ้าเจ้าไม่อยากฆ่ามัน เจ้าก็ต้องอยู่ที่นี่กับข้าตลอดไป พวกเราจะรอจนกระทั่งมันกลายเป็นระดับเทพเจ้า และหลังจากนั้นมันก็จะฆ่าพวกเราทั้งคู่!”

 

หานเซิ่นจ้องมองเธออยู่สักครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นมา

“ถ้าข้าเข้าใจไม่ผิด ท่านเป็นระดับเทพเจ้าไม่ใช่หรอ? ทำไมท่านไม่ไปฆ่ามันด้วยตัวเอง? ด้วยระดับพลังของท่าน นั่นควรจะเป็นงานง่ายๆ”

 

ราชินีจิ้งจอกกรอกตาและยกแขนของเธอขึ้นเพื่อเขย่าโซ่ที่ล่ามข้อมือของเธออยู่

“โกสต์โบนจับข้ามาขังเอาไว้ที่นี่เพื่อคอยเฝ้าดูไวท์โบนเฮลล์แทนเขา แต่เขาก็กังวลว่าข้าจะทำลายงานของเขา ดังนั้นเขาจึงได้จำกัดพลังของข้าเอาไว้ด้วยโซ่พวกนี้ มันจะทำงานเมื่อข้าเข้ามาในไวท์โบนเฮลล์ ทำให้ข้าทำลายไม่ได้แม้แต่กระดูกชิ้นหนึ่ง”

 

หลังจากที่พูดอย่างนั้น ราชินีจิ้งจอกก็หยิบหัวกะโหลกหนึ่งขึ้นมาจากพื้น เธอเกร็งแขนของเธอเพื่อจะบดขยี้หัวกะโหลก แต่เมื่อเธอทำแบบนั้นโซ่ที่ล่ามเธออยู่ก็ปลดปล่อยหมอกหนาสีดำออกมา หมอกนั้นเข้ามาจับตัวของเธฮเอาไว้ราวกับมือสีดำและยกเธอขึ้นในอากาศ

 

คอของราชินีจิ้งจอกดูใกล้จะหักเต็มที ร่างกายของเธอหย่อนอย่างหมดเรี่ยวแรง และหลังจากที่ผ่านไปสักพักหมอกสีดำก็หายไป เธอตกลงมาบนพื้นและไอออกมา

 

“อย่างที่เจ้าเห็น ข้าทำอะไรไม่ได้” ราชินีจิ้งจอกพูดหลังจากที่ลุกกลับขึ้นมา

“เจ้าและข้าติดอยู่ที่นี่ด้วยกัน ถ้าซีโน่เจเนอิคตัวนั้นกลายเป็นระดับเทพ พวกเราก็จะหนีจากมันไม่ได้ การที่เจ้าฆ่ามันไม่ใช่แค่ช่วยเหลือข้า แต่มันจะช่วยตัวเจ้าเองด้วย”

 

หานเซิ่นเงียบไปชั่วครู่ “ตอนนี้ความแข็งแกร่งของซีโน่เจเนอิคตัวนั้นอยู่ระดับไหน?”

 

ราชินีจิ้งจอกดูเคร่งขรึม และนางบอกเขาว่า “ข้าได้มองหาความช่วยเหลือมาตลอดหลายปี แต่มันมีสิ่งมีชีวิตไม่มากนักที่จะเข้ามาที่นี่ ในตอนที่มันเป็นแค่ทารก บารอนคนไหนก็ฆ่ามันได้ แต่ตอนนี้น่ะหรอ? มันไปถึงระดับราชันเรียบร้อยแล้ว”

 

“ซีโน่เจเนอิคระดับราชัน…ท่านคิดว่าข้าที่เพิ่งกลายเป็นดยุกจะฆ่ามอนสเตอร์แบบนั้นได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

“เจ้าต้องทำให้ได้! นอกซะจากเจ้าอยากจะตายไปพร้อมกับข้าจริงๆ”

ราชินีจิ้งจอกหัวเราะและตบไหล่ของเขา “แต่อย่าได้กังวลไป มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับข้าที่จะหาหนุ่มที่น่ารักอย่างเจ้า ข้าไม่ได้มีเจตนาจะให้เจ้าถูกฆ่าตาย นอกจากนั้นข้าก็จะหาทางช่วยเหลือเจ้า”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset