Super God Gene – ตอนที่ 2258

สะกดวิญญาณเป็นวิชาจีโนขั้นสูงสุดของเผ่าจิ้งจอกเปลี่ยนร่าง และการฝึกฝนวิชานั้นจำเป็นต้องใช้พรสวรรค์ทางดวงตาของจิ้งจอกเปลี่ยนร่าง

 

ถ้าคนหนึ่งพันคนถูกถามด้วยคำถามเดียวกัน มันก็เป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะตอบแตกต่างกันหนึ่งพันอย่าง ทุกคนมีความสนใจและความคิดของตัวเอง ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ใครบางคนจะตกหลุมรักต่อคนที่ผู้อื่นคิดว่าน่าเกลียด สำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิงรักแรกพบถือเป็นแนวคิดที่สำคัญมากๆ

 

ในตอนที่จิ้งจอกเปลี่ยนร่างคนหนึ่งใช้สะกดวิญญาณ มันจะทำให้จิ้งจอกเปลี่ยนร่างคนนั้นจับภาพความปรารถนาของเป้าหมายได้ พวกเขาจะดูสมบูรณ์แบบในสายตาของเหยื่อราวกับความฝันที่เป็นจริง

 

ดังนั้นไม่ว่าราชินีจิ้งจอกจะทำอะไร เป้าหมายของเธอก็จะเชื่อว่าเธอสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด

 

สิ่งที่มหัศจรรย์ก็คือวิชานี้จะไม่มีผลเสียต่อจิตใจของเป้าหมาย เป้าหมายแค่จะหลงเสน่ห์คนที่พวกเขาเห็นเท่านั้น เพราะยังไงซะมันก็คือผู้หญิงในความฝันของเป้าหมาย

 

หานเซิ่นจ้องมองราชินีจิ้งจอกด้วยความประหลาดใจ วันนี้ราชินีจิ้งจอกดูสวยเป็นพิเศษ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ดูเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ความงดงามของเธอทำให้ยากที่จะหายใจ

 

“วันนี้ท่านดูพิเศษ” ขณะที่หานเซิ่นมองราชินีจิ้งจอก สีหน้าของเขาก็อ่อนลง

 

“อะไรที่ทำให้เจ้าพูดว่าข้าดูพิเศษ?” ราชินีจิ้งจอกยิ้ม

 

หานเซิ่นยิ้มกลับ แก้มของเขาเปลี่ยนสีแดงเล็กน้อย ขณะที่เขาทำอย่างนั้น ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย

 

“ท่านดูสวยเป็นพิเศษ” หานเซิ่นพูด เขาไม่สามารถคิดหาคำบรรยายถึงความงดงามของราชินีจิ้งจอกในตอนนี้ได้ และนั่นเป็นทั้งหมดที่เขาสามารถพูดออกไปได้

 

“ก่อนหน้านี้ข้าไม่สวยอย่างนั้นหรอ?” ราชินีจิ้งจอกพูดอย่างชั่วร้าย

 

“ท่านสวยอยู่ตลอด แต่วันนี้ท่านดูสวยเป็นพิเศษ มันมีบางสิ่งต่างออกไป…” ขณะที่หานเซิ่นพูด เขาก็ดูประหม่าอย่างมาก

 

มันเหมือนกับว่าเขาถูกส่งกลับไปในวันที่เขามีความรักครั้งแรก หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับว่าหัวใจกำลังจะหลุดออกมาจากอก

 

“เจ้าชอบลุคของข้าในตอนนี้ไหม?” ราชินีจิ้งจอกถามขณะที่จ้องมองไปที่หานเซิ่น

 

“ข้าชอบมัน” หานเซิ่นกลืนน้ำลาย

 

“ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้ายังยืนอยู่ตรงนั่นอีก?” ราชินีจิ้งจอกหันร่างของเธอเพื่อนอนตะแคง ขณะที่ทำอย่างนั้นเธอก็ปลดชุดออกเพื่อเผยให้เห็นไหล่และขาที่ละเอียดอ่อนของเธอ

 

“ข้า…ข้า…” ใบหน้าของหานเซิ่นแดงอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าควรจะวางสายตาหรือมือของเขาเอาไว้ที่ไหน

 

ราชินีจิ้งจอกดูพึงพอใจ เธอคิดกับตัวเอง ‘ไม่ว่าจิตใจของเจ้าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่เมื่อตกภายใต้สะกดวิญญาณของข้า เจ้าก็ไม่มีทางจะทนต่อความยั่วยวนของข้าได้’

 

หานเซิ่นดูเขินอายราวกับชายที่ไม่เคยมีเซ็กมาก่อน ราชินีจิ้งจอกยืนขึ้นและเดินเข้ามาตรงหน้าของเขา เธอยกมือขึ้นมาและนำพวกมันมาสัมผัสกับใบหน้า เธอถูใบหน้าของเธอกับมือของหานเซิ่นและจ้องมองไปที่เขาด้วยความใคร่

 

ถึงแม้ราชินีจิ้งจอกจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ดวงตาของเธอก็กำลังพูดแทน

 

ถ้าใบหน้าของหานเซิ่นแดงมากไปกว่านี้ มันก็จะเริ่มมีเลือดไหลออกมา เขารวบรวมความกล้าเพื่อจับใบหน้าที่งดงามของเธอ เขากัดริมฝีปากของตัวเอง มันดูเหมือนกับว่าเขามีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะจูบเธอ แต่เขาไม่กล้าทำ

 

ราชินีจิ้งจอกหลับตาและเงยใบหน้าที่งดงามของเธอขึ้นเหมือนกับเจ้าหญิงที่กำลังรอจุมพิตของเจ้าชาย ใบหน้าที่งดงามของเธอในตอนนี้ดูเหมือนกำลังบอกหานเซิ่นว่าสามารถจะทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ

 

การหายใจเข้าไปลึกๆของหานเซิ่นทำให้ราชินีจิ้งจอกรู้สึกอวดดี เธอเอาชนะหานเซิ่นได้อย่างรวดเร็ว และความสนใจของเธอในตัวเขาก็ดูเหมือนจะสลายไป

 

ราชินีจิ้งจอกคิดหาวิธีการที่จะเล่นกับเขา เธออยากจะดูว่าวิธีการไหนที่เธอจะทำให้เขาทุกข์ทรมานเพื่อเธอ

 

‘บางทีเราควรจะจับเขามัดเอาไว้ในตอนที่เขายังควบคุมตัวเองไม่ได้ นั่นจะเป็นภาพที่น่าสนใจ’ ราชินีจิ้งจอกคิด แต่ริมฝีปากของหานเซิ่นก็ยังคงมาไม่ถึงเธอสักที

 

ปัง!

ราชินีจิ้งจอกได้ยินเสียงดัง หลังจากนั้นตัวตนของหานเซิ่นก็หายไปจากตรงหน้าของเธอ เธอรู้สึกตกใจเพราะไม่รู้ว่าเพิ่งจะเกิดอะไรขึ้น

 

หลังจากนั้นเธอก็เข้าใจ เธอลืมตาขึ้นและหันไปมองที่รูปปั้นปลา พลังป้องกันของปราสาทในบริเวณนั้นอ่อนลงไป และหานเซิ่นกับอสูรกาแล็กซี่ก็รอดผ่านช่องว่างเล็กๆนั่นไป

 

“เขาหนีไป… เขาหนีไป… ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะหนีไปจริงๆ…”
ราชินีจิ้งจอกยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น เธอไม่สามารถเชื่อได้ว่าหานเซิ่นจะหนีไปได้จริงๆ

 

ราชินีจิ้งจอกไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียวว่าหานเซิ่นจะหนีไปจากกำแพงของปราสาทได้ และยังเรื่องที่หานเซิ่นไม่ได้รับผลจากสะกดวิญญาณของเธออีก

 

เมื่อเธอรู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของเธอก็ดูมึงทึงด้วยความโกรธ เธอเพิ่งจะถูกหลอกโดยดยุกคนหนึ่ง

 

ราชินีจิ้งจอกต้องการจะปลดปล่อยความโกรธกับเขา แต่เธอไม่สามารถทำได้ หานเซิ่นได้จากไปแล้ว แม้แต่การสาบานว่าจะแก้แค้นก็เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ เนื่องจากเธอยังไม่มีวิธีที่จะหนีไปที่นี่

 

หานเซิ่นรวมตัวเองเข้ากับนางฟ้าและเปิดใช้พลังของวิชากายหยกและโลหิตชีพจร หลังจากนั้นเขาก็ใช้ท่าตบขั้นสุดยอดใส่บริเวณปากของรูปปั้นปลา

 

พลังป้องกันที่หลวมอยู่แล้วเปิดกว้างมากขึ้น และหานเซิ่นก็ขี่อสูรกาแล็กซี่ออกจากปราสาทไปโดยผ่านปากของมัน

 

นี่เป็นโอกาสดีที่สุดที่เขาจะหนีไป ราชินีจิ้งจอกเชื่อว่าเขาตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของเธอ ดังนั้นเธอจึงตอบสนองได้ไม่ทันเวลา

 

หานเซิ่นคิดว่าทุกอย่างนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นเกินไปจนเขาเกือบจะไม่สามารถเชื่อว่าหนีออกมาได้สำเร็จจริงๆ

 

“ฉันหนีออกมาได้! มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่จะมีผู้หญิงที่งดงามอยู่ข้างกาย แต่ฉันอยู่ที่นั่นไปตลอดไม่ได้”
หานเซิ่นขี่อสูรกาแล็กซี่เพื่อเดินทางผ่านหินไป เขารู้สึกดีใจอย่างมากจนเริ่มที่จะร้องเพลงออกมา เขาคิดกับตัวเอง ‘เรามีพรสวรรค์จริงๆ เราไปสมัครเป็นนักแสดงได้เลยนะเนี่ย’

 

หานเซิ่นปล่อยให้อสูรกาแล็กซี่เดินทางไปตามท่อโลหะ เขาอยากจะกลับไปยังระบบถ้ำใต้ดินก่อนที่จะคิดว่าต้องทำอะไรต่อไป

 

ไม่นานอสูรกาแล็กซี่ก็พาหานเซิ่นกลับมาที่แม่น้ำใต้ดิน หานเซิ่นยังคงนั่งอย่างผ่อนคลายอยู่บนหลังของอสูรกาแล็กซี่ขณะที่มันว่ายทวนกระแสน้ำไป

 

อสูรกาแล็กซี่พาหานเซิ่นออกมาจากแม่น้ำใต้ดิน และพวกเขาก็ลอยตัวอยู่เหนือผิวของแม่น้ำ

 

หานเซิ่นถอนหายใจและมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็แข็งทื่อไป

 

ราชาอัศวินไอซ์บลู คราม กุนซือไวท์ เอ็ดเวิร์ดและคนอื่นๆอยู่ยืนที่ริมแม่น้ำไม่ไกล พวกเขาอ้าปากค้างขณะที่จ้องมองหานเซิ่นที่เพิ่งจะออกมาจากน้ำ ทั้ง 2 ฝ่ายจ้องมองกันกว่า 3 วินาที

 

มันเงียบสงัด และมันมีเพียงแค่เสียงของแม่น้ำเท่านั้นดังให้ได้ยิน มันเหมือนกับว่าเวลาหยุดนิ่งไป

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset