Super God Gene – ตอนที่ 2259

“เวรเอ้ย! ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” หานเซิ่นตอบสนองอย่างรวดเร็วและสั่งให้อสูรกาแล็กซี่กลับลงไปในแม่น้ำอันมืดมิด

 

ก่อนที่อสูรกาแล็กซี่จะหนีลงไปใต้น้ำ หานเซิ่นก็รู้สึกได้ว่าพลังอันน่าสะพรึงกลัวกำลังเข้ามาหาเขา ในเวลาไม่ถึงวินาทีน้ำในแม่น้ำก็สลายกลายเป็นความว่างเปล่า

 

หานเซิ่นเรียกใบเสมาราชาแมลงปีศาจออกมาเพื่อป้องกันการโจมตีที่น่ากลัวนั้น แต่โล่ป้องกันของเขาก็ได้รับความเสียอย่างมาก มันกำลังจะแตกสลายอย่างสมบูรณ์

 

โชคดีที่เอ็ดเวิร์ดยังไม่คิดจะฆ่าหานเซิ่น จนกว่าพวกเขาจะรู้ว่าโบราณวัตถุอยู่ที่ไหน ถ้าเกิดพวกเขาฆ่าหานเซิ่นตายไปซะเดี๋ยวนั้นและเกิดว่าหานเซิ่นไม่มีโบราณวัตถุอยู่กับตัว มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะหามันไม่เจอ ถ้าพวกเขาเพียงแค่ต้องการจะฆ่าหานเซิ่น อย่างนั้นแล้วใบเสมาราชาแมลงปีศาจก็ไม่มีทางรอดจากการโจมตีของพวกเขาไปได้

 

ถึงอย่างนั้นใบเสมาราชาแมลงปีศาจก็ไม่สามารถใช้ป้องกันได้อีกต่อไป ดังนั้นหานเซิ่นจึงเก็บมันกลับไป

 

หลังจากที่หานเซิ่นป้องกันการโจมตีครั้งแรก อสูรกาแล็กซี่ก็วิ่งเข้าไปในกำแพงหินเพื่อหนีไป

 

แต่กำแพงหินไม่เพียงพอจะหยุดเอ็ดเวิร์ดได้ พลังที่น่ากลัวห่อหุ้มร่างกายของเขาและถูกปล่อยออกไปใส่กำแพงหิน ทำให้เกิดเป็นเส้นทางที่ทอดยาวไปกว่าหนึ่งพันเมตร

 

หานเซิ่นชักนำอสูรกาแล็กซี่ให้เปลี่ยนเส้นทาง มันดูเหมือนว่าคนที่กำลังไล่ล่าพวกเขามีพลังพอที่จะทำได้ทุกอย่าง กำแพงหินใต้ดินไม่ต่างอะไรจากฟองสบู่สำหรับพวกเขา ที่ไหนก็ตามที่หานเซิ่นหนีไป พวกเขาก็สามารถไล่ตามไปได้อย่างรวดเร็ว

 

มันเหมือนกับว่าพวกเขามีเครื่องสะกดรอยตามหานเซิ่น ถึงแม้หานเซิ่นและอสูรกาแล็กซี่จะนำหน้าพวกเขาไป แต่หานเซิ่นก็ไม่สามารถสลัดพวกเขาหลุดไปได้

 

“หานเซิ่น เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า! มอบของมาให้กับข้าและเจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้” กุนซือไวท์พูด

 

“สิ่งนั้นคือของๆ ข้า ทำไมข้าต้องมอบมันให้ด้วย?”
หานเซิ่นถามขณะที่ยังคงหนีต่อไป แผ่นหินนั้นไม่ใช่ของของพวกเขา ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่มีแผนจะส่งมันให้กับพวกเขา

 

“เจ้าไม่มีทางเลือก ถ้าเจ้าอยากจะมีชีวิต เจ้าก็ต้องมอบมันมา เจ้าอยากจะมีชีวิตต่อหรือเจ้าอยากจะตายเพราะมัน?” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูดต่อ

 

“ข้าอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ แต่ข้าก็อยากจะเก็บมันไว้ด้วย” หานเซิ่นพูด

 

เนื่องจากเอ็ดเวิร์ดยังไม่คิดจะฆ่าหานเซิ่น ทำให้มีกำแพงหินพอเหลืออยู่บ้าง ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงสามารถหนีไปจากการจับกุมได้

 

แต่เขาไม่สามารถหนีไปได้ตลอดไป หานเซิ่นกัดฟันและให้อสูรกาแล็กซี่พาเขากลับไปที่ปราสาท

 

ราชินีจิ้งจอกยังไม่หายโกรธ และจู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมา เมื่อเธอหันไป เธอก็เห็นหานเซิ่นและอสูรกาแล็กซี่กลับเข้ามา

หานเซิ่นมองไปที่ราชินีจิ้งจอกและยิ้มออกมาอย่างเก้ๆกังๆ
“ราชินีจิ้งจอกคนสวย ข้าลองคิดดูแล้ว… ข้าคิดถึงท่านมากเกินไป ข้าจึงอดไม่ได้ที่จะกลับมา”

 

เมื่อราชินีจิ้งจอกเห็นเขา เธอก็ขมวดคิ้ว มันเหมือนกับว่าเธอพยายามจะฟังอะไรบางอย่าง ในที่สุดเธอก็หลี่ตาและยิ้มให้กับหานเซิ่น
“ดูเหมือนเจ้าจะไปละเมิดคนอื่นเข้าสินะ พวกเขาได้มาอยู่ด้านนอกปราสาทเรียบร้อยแล้ว และพวกเขาก็ค่อนข้างแข็งแกร่งกันทั้งนั้น”

 

“นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ท่านจะเมินเฉยต่อคนพวกนั้นก็ได้ เพราะยังไงซะพวกเขาก็พังการป้องกันของที่นี่เข้ามาไม่ได้ คนสวย พวกเราควรจะเริ่มเกมส์จูบของพวกเรากันต่อดีไหม?” หานเซิ่นพูดพร้อมกับไอกลบเกลื่อน

 

“ในตอนนี้ข้าอยากจะเล่นบางสิ่งที่ตื่นเต้นยิ่งกว่า”
ราชินีจิ้งจอกสะบัดมือของเธอ หลังจากนั้นพลังที่มองไม่เห็นก็เข้ามารัดตัวหานเซิ่นกับอสูรกาแล็กซี่ราวกับเชือก เธอแขวนพวกเขากับหนึ่งในคานของปราสาทโดยการห้อยหัวลงมา

 

ราชินีจิ้งจอกหยิบแส้ขึ้นมาและเดินเข้ามาหาหานเซิ่นที่ถูกแขวนอยู่ เธอลูบแก้มของหานเซิ่นและยิ้ม
“ก่อนหน้านี้เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจอย่างมาก ข้าควรจะตอบแทนเจ้ายังไงดี?”

 

หลังจากนั้นราชินีจิ้งจอกก็ยกแส้ของเธอขึ้นมา หานเซิ่นรีบพูดขอร้อง
“อย่าทำข้าเลย พวกเราควรจะพูดกันดีๆ”

 

“ในตอนนี้ข้าอยากจะทำแบบนี้เท่านั้น ข้าไม่อยากจะพูดคุย!” ใบหน้าของราชินีจิ้งจอกดูเย็นชา

 

เธอเคยเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาลจีโน เธอเคยถูกรู้จักในฐานะผู้เจรจาที่เก่งกาจ และแม้แต่การเจรจากับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่ทำให้เธอเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เธอเกลียดชังหานเซิ่นอย่างที่สุด และตอนนี้เธอก็อยากจะสั่งสอนบทเรียนให้กับเขาเหนือสิ่งอื่นใด

 

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน ราชินีจิ้งจอกก็ยกแส้ในมือขึ้น เธอต้องการจะมอบบทเรียนที่ไม่มีวันลืมให้กับเขาเพื่อระบายความโกรธของเธอ

 

“คนสวย! พวกเรามาทำข้อตกลงกัน ข้าจะช่วยท่านออกไปจากที่นี่ แบบนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเราจะต้องบาดหมางอะไรกัน” หานเซิ่นรีบพูด

 

ราชินีจิ้งจอกแปลกใจ ถ้าหานเซิ่นเสนอข้อตกลงนี้ขึ้นมาก่อนหน้านี้เธอคงจะไม่สนใจ แต่เขาเพิ่งจะพิสูจน์ความสามารถโดยการหนีออกไปจากปราสาท ตอนนี้เธอเริ่มจะเชื่อเขา

 

“เจ้ายังคิดจะเล่นลูกไม้กับข้าอีกอย่างนั้นหรอ?” ราชินีจิ้งจอกยิ้ม แต่ดวงตาของเธอเย็นชาอย่างน่ากลัว

 

“ถ้าข้าโกหกท่านล่ะก็ ก็ขอให้ข้าตกนรก” หานเซิ่นสาบานอย่างลนลาน

 

ราชินีจิ้งจอกยังคงยิ้มออกมา เธอลูบแก้มของหานเซิ่นและพูด
“เป็นน้องชายที่ดีอะไรอย่างนี้ เจ้ามักจะทำให้ข้าประหลาดใจอยู่เสมอ ข้าจะปล่อยให้เจ้าตายไปได้ยังไง?”

 

หลังจากนั้นรอยยิ้มของราชินีจิ้งจอกก็เปลี่ยนเป็นอะไรที่ดูโหดร้าย และเธอก็ใช้แส้ฟาดใส่หานเซิ่น

 

แส้หนามฟาดผ่านกางเกงของหานเซิ่นไป มันไปถูกกำแพงที่อยู่ด้านหลังของหานเซิ่นและที่ร่างกายท่อนล่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง

 

“ถ้าเจ้าหลอกข้าอีกครั้งล่ะก็ ข้าจะจับเจ้าทำหมัน”
ราชินีจิ้งจอกพูดอย่างเย็นชา หลังจากนั้นเธอก็กลับไปนอนลงบนเตียงหยกและมองมาที่หานเซิ่น “บอกข้ามาว่าเจ้าจะช่วยข้าออกไปได้ยังไง?”

 

“ที่นี่คือที่ไหนกัน?” เอ็ดเวิร์ดมองกำแพงด้วยความสงสัย

 

พวกเขาไล่ตามหานเซิ่นต่อไปด้วยการทำลายกำแพงหินที่ขวางทาง แต่เมื่อไปถึงจุดนั้น พวกเขาก็ไม่สามารถทำลายกำแพงหินตรงหน้าได้อีก

 

แม้แต่พลังของราชาอัศวินไอซ์บลูก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆต่อกำแพงหินได้

 

เอ็ดเวิร์ดเริ่มจะทำลายหินรอบๆ และไม่นานพวกเขาก็รู้ตัวว่าตรงหน้าพวกเขาคือปราสาทหินที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งแม้แต่พลังของพวกเขารวมกันก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้

 

“ข้าเชื่อว่าหานเซิ่นซ่อนอยู่ในปราสาทหินนี้ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้พลังของข้าบอกถึงที่อยู่ของเขาไม่ได้” กุนซือไวท์พูดขณะมองไปที่ปราสาทหิน

 

“กุนซือไวท์ มันมีหนทางไหนไหมที่พวกเราจะเข้าไปในปราสาทหินนี่ได้?” เอ็ดเวิร์ดถามอย่างมีมารยาท

 

“ข้าไม่ถนัดเรื่องอะไรแบบนี้” กุนซือไวท์ส่ายหัวของเขา

 

“ข้าไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนสร้างปราสาทหินนี้ขึ้นมา แต่ถ้าพลังของพวกเรารวมกันก็ยังไม่พอที่จะทำอะไรมันได้ แบบนั้นคนที่สร้างมันขึ้นมาก็ต้องเป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้า” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูด

 

“การใช้กำลังพังปราสาทเข้าไปนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าพวกเราลองขุดให้ทั่วปราสาทหิน บางทีพวกเราอาจจะหาทางเข้าได้” เอ็ดเวิร์ดพูด

 

พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าพวกเขาอยากจะหาทางเข้าไป พวกเขาก็ต้องขุดทั่วทั้งปราสาท

 

หานเซิ่นเข้าออกจากปราสาทไปตามเส้นท่อโลหะที่เป็นเส้นทางไหลเข้าออกของน้ำ เขาเองก็ไม่รู้ว่าทางเข้าหลักอยู่ที่ไหนเช่นกัน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset