Super God Gene – ตอนที่ 2264

ขณะที่อาวุธค่อยๆถูกดึงออกมาอย่างช้าๆ สัญลักษณ์ลึกลับบนผิวของมันก็เริ่มเต้นระบำอย่างบ้าคลั่ง มันดูเหมือนกับว่าแฟรี่นับไม่ถ้วนกำลังเต้นรำบนผิวของอาวุธ

 

เนื่องจากสายฟ้าในตอนนี้รุนแรงเกินไป หานเซิ่นจึงรีบถอยออกห่างไป แม้แต่เจ้ากิเลนโลหิตเองก็ถอยออกไปเช่นกัน

 

กิเลนโลหิตดูตื่นเต้นอย่างมาก มันยังคงถอยหลังไป แต่ดวงตาของมันไม่เคยหันหนีไปจากร่างกายของกิเลนสีดำ

 

สายฟ้าของจิ้งจอกสีเงินสว่างไสวขึ้นในระดับที่น่าสะพรึงกลัว ด้ามจับของดาบถูกคาบเอาไว้แน่นด้วยปากของมัน มันดึงดาบออกมาจากร่างของกิเลนสีดำได้สำเร็จ

 

ดาบนั้นมีความยาวเพียงแค่หนึ่งเมตรครึ่งเท่านั้น แต่รูปร่างของมันเป็นอะไรที่แปลกประหลาด ใบมีดนั้นแยกออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันและปลายของแต่ละส่วนก็เป็นอะไรที่แหลมคม มันดูเหมือนกับปลายของหอก

 

ขณะที่เขามองดูสายฟ้าปะทุออกมาจากใบมีด หานเซิ่นก็สามารถบอกได้ทันทีว่ามันเป็นอาวุธที่พิเศษ มันอาจจะเป็นอาวุธระดับเทพเจ้าเลยก็เป็นได้

 

เคร๊ง! เคร๊ง!

 

จิ้งจอกสีเงินกระโดดลงมาจากหลังของกิเลนสีดำ มันปล่อยด้ามจับออกจากปากและปล่อยให้ดาบสีเงินหล่นลงไปกับพื้น หลังจากนั้นจิ้งจอกสีเงินก็ปล่อยให้ร่างจิ้งจอกสายฟ้าที่ทรงพลังของมันสลายไป

 

ถึงแม้จิ้งจอกสีเงินจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่มันก็ดูเหนื่อยล้าอย่างมาก

 

หานเซิ่นรีบอุ้มจิ้งจอกสีเงินขึ้นมาและมอบลูกเพียร์โลหิตลูกหนึ่งให้กับมัน จิ้งจอกสีเงินส่ายหัวและนอนลงบนอ้อมแขนของหานเซิ่นแทน มันค่อยๆหลับตาลง ดวงตาของมันดูเหนื่อยมากๆ

 

เมื่อเห็นว่าดาบสีเงินถูกดึงออกมาได้สำเร็จ เจ้ากิเลนโลหิตก็กระโดดเข้าไปหาร่างของกิเลนสีดำด้วยความปิติยินดี

 

‘เป็นมอนสเตอร์ที่กตัญญูอะไรขนาดนี้ ทั้งหมดที่มันต้องการก็คือให้แม่ของมันได้ไปสู่สุขคติ มันเป็นอะไรที่ยากจะได้เห็นบางสิ่งที่น่าประทับใจแบบนี้’ หานเซิ่นถอนหายใจ

 

แต่วินาทีต่อมา ดวงตาของหานเซิ่นก็เบิกกว้าง เจ้ากิเลนโลหิตวิ่งเข้าไปหาร่างของกิเลนสีดำและใช้เขี้ยวของมันฉีกเนื้อหนังที่เหลืออยู่ออกมา กิเลนโลหิตฉีกซากศพของกิเลนสีดำและกัดกินอย่างหิวกระหาย

 

กิเลนโลหิตใช้กงเล็บของมันฉีกร่างกายขนาดใหญ่ขาดออกจากกัน อวัยวะภายในและเลือดกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่ว

 

หานเซิ่นอึ้งไปสักพัก ใบหน้าของเขาซีดลงเล็กน้อย สิ่งที่เขาสันนิษฐานในตอนแรกดูเหมือนจะผิดอย่างมหันต์ เขาไม่รู้อีกต่อไปว่ากิเลนสีดำเป็นแม่ของเจ้ากิเลนโลหิตจริงๆหรือเปล่า ถ้านั่นเป็นแม่ของมันจริงๆละก็ เจ้ากิเลนโลหิตก็เป็นปีศาจร้ายอย่างแท้จริง

 

แต่นั่นก็เป็นอะไรที่สมเหตุสมผล เจ้ากิเลนโลหิตกำเนิดมาจากร่างของสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว มันใช้เวลาของชีวิตดูดกลืนพลังจากกระดูกและเลือดภายในไวท์โบนเฮลล์ การมีอยู่ของมันเกิดมาจากความตายและความโหดร้าย การกินศพแม่ตัวเองเพื่อได้รับความแข็งแกร่งจึงไม่ใช่เรื่องที่อยู่เหนือขอบเขตความเป็นไปได้

 

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นการกระทำที่ไร้หัวใจอยู่ดี

 

หานเซิ่นมีแผนที่จะส่งเป่าเอ๋อและจิ้งจอกสีเงินกลับเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตาอีกครั้ง เพราะถ้าเจ้ากิเลนโลหิตเกิดบ้าคลั่งขึ้นมา พวกเขาก็ต้องวิ่งหนี

 

แต่ก่อนที่เขาจะส่งเธอเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตาได้ เป่าเอ๋อก็วิ่งไปหาดาบสีเงิน เธอเอื้อมมือออกไปจับมันก่อนที่หานเซิ่นจะตะโกนเพื่อเตือนเธอได้

 

แต่เมื่อเป่าเอ๋อสัมผัสมัน ใบมีดก็ไม่ได้ปล่อยสายฟ้าสีเงินออกมา และเป่าเอ๋อก็ลากดาบกลับมาหาหานเซิ่นได้อย่างปลอดภัย

 

“พ่อ! ดาบนี้เจ๋งมากๆ พวกเราควรจะเอามันไปด้วย” เป่าเอ๋อส่งดาบให้กับหานเซิ่นขณะที่พูด

 

แต่หานเซิ่นไม่กล้าจะรับดาบมา ถึงแม้เป่าเอ๋อจะไม่ถูกไฟฟ้าช็อต แต่มันก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าหานเซิ่นจะไม่ถูกช็อตเหมือนกัน

 

“พ่อไม่ต้องกลัว ตอนนี้มันไม่เป็นอันตรายอะไรอีกแล้ว” เป่าเอ๋อขยิบตาให้กับหานเซิ่น

 

“ทำไมพ่อต้องกลัวด้วย? พ่อไม่ได้กลัวสักหน่อย พ่อแค่เป็นคนรอบคอบเท่านั้น นี่เป็นพฤติกรรมของคนที่เป็นผู้ใหญ่” หานเซิ่นหน้าแดง เขายื่นมือออกไปรับดาบสีเงินมา

 

เป็นอย่างที่เป่าเอ๋อบอกจริงๆ ดาบไม่ได้ปลดปล่อยสายฟ้าออกมาเมื่อเขาสัมผัสมัน ตอนนี้มันดูเหมือนกับอาวุธปกติทั่วๆไป

 

“แปลกจริงๆ ทำไมมันถึงกลายเป็นดาบปกติไปได้?”
หานเซิ่นหันไปมองกิเลนโลหิตที่ยังคงกัดกินร่างของกิเลนสีดำอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นเขาก็คิดกับตัวเอง ‘หรือบางทีร่างของกิเลนสีดำจะกระตุ้นพลังของดาบนี่? บางทีนั่นจะเป็นเหตุผลที่ทำให้มันยังทำงานอยู่ และสายฟ้าของมันก็ขัดขวางกิเลนโลหิตจากการกินร่างของกิเลนสีดำ เพราะอย่างนั้นมันถึงอยากจะนำดาบออกก่อนสินะ’

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าการคาดเดาของเขาถูกต้องหรือเปล่า แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรอีกแล้ว หานเซิ่นหันไปตรวจเช็คดาบแทน สัญลักษณ์ของสายฟ้าบนผิวของมันเป็นอะไรที่เจริญตาเจริญใจที่จะได้เห็น พวกมันทำให้ดาบดูงดงามอย่างที่สุด มันเกือบจะดูไม่เหมือนกับอาวุธแต่เป็นงานศิลปะที่ทำขึ้นมาจากเงินแทน

 

หลังจากที่ได้เห็นพลังของมัน หานเซิ่นก็เห็นด้วยกับเป่าเอ๋อ เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นอาวุธระดับไหนกันแน่ แต่เขาค่อนข้างแน่ใจว่ามันเป็นอาวุธระดับเทพเจ้า

 

เมื่อเขามองดูใบมีดใกล้ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่ามันมีตัวอักษรสลักอยู่ที่ด้านหลัง เขาสามารถอ่านพวกมันได้ มันถูกเขียนด้วยภาษาสามัญของจักรวาลจีโนที่อ่านได้ว่า “ธันเดอร์ก็อตสไปค์”

 

“นี่คงจะเป็นชื่อจริงของมันสินะ” หานเซิ่นยกอาวุธขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เขาพยายามจะใส่พลังตัวเองเข้าไปในธันเดอร์ก็อตสไปค์เพื่อปลุกพลังของมันให้ตื่นขึ้นมา แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถทำให้มันทำงานได้

 

ไม่ว่าเขาจะใช้พลังหรือวิชาแบบไหน มันก็ไม่มีอะไรกระตุ้นให้สายฟ้าปะทุขึ้นมาจากธันเดอร์ก็อตสไปค์

 

หานเซิ่นตัดสินใจใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อจำลองพลังสายฟ้าของจิ้งจอกสีเงิน หลังจากนั้นเขาก็ใส่พลังที่จำลองเข้าไปในธันเดอร์ก็อตสไปค์ ทันใดนั้นสัญลักษณ์สายฟ้าบนธันเดอร์ก็อตสไปค์ก็เริ่มเคลื่อนไหว พวกมันเป็นเหมือนกับงูสีเงินที่เลื่อยขึ้นลงบนใบมีด

 

แต่ศาสตร์ตงเสวียนของหานเซิ่นยังเป็นแค่ระดับมาร์ควิสเท่านั้น ดังนั้นพลังสายฟ้าที่เขาจำลองได้จึงไม่ได้ทรงทรงพลังนัก ด้วยเหตุนั้นมันจึงมีเพียงแค่พลังอันน้อยนิดของธันเดอร์ก็อตสไปค์ที่ถูกปลดปล่อยออกมา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ถือเป็นอะไรที่ทรงพลังมากแล้ว มันทรงพลังยิ่งกว่าการที่หานเซิ่นใช้พลังทั้งหมดของเขาร่วมกับวิชากายหยกซะอีก

 

“นี่ต้องเป็นอาวุธระดับเทพเจ้าไม่ผิดแน่ๆ!” หานเซิ่นรู้สึกมีความสุข ธันเดอร์ก็อตสไปค์ไม่ได้ทำร้ายอะไรเขาเมื่อเขาเปิดใช้พลังของมัน นั่นหมายความว่าเขาสามารถใช้มันในการต่อสู้ได้

 

หานเซิ่นเก็บธันเดอร์ก็อตสไปค์เข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา และต้องขอบคุณที่มันไม่ได้ต่อต้านเหมือนอย่างเจดดรัม เจดดรัมนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่ง แต่ธันเดอร์ก็อตสไปค์เป็นเพียงแค่อาวุธเล่มหนึ่ง

 

หานเซิ่นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีอย่างมากที่มาพบอาวุธดีๆแบบนี้ แต่มันก็เป็นอันตรายสำหรับเขาที่จะพกสมบัติระดับเทพเจ้าติดตัวไปไหนมาไหนด้วย หานเซิ่นมีแผนที่จะซ่อนอาวุธเอาไว้นอกซะจากว่าจะจำเป็นจริงๆ

 

หานเซิ่นส่งเป่าเอ๋อกับจิ้งจอกสีเงินกลับเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา ตอนนี้เจ้ากิเลนโลหิตยังคงกัดกินร่างของกิเลนสีดำอยู่ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดตัวไม่ใหญ่อะไร แต่พื้นที่ในกระเพาะของมันดูเหมือนกับว่าจะไร้ขีดจำกัด ร่างของกิเลนสีดำนั้นใหญ่โตราวกับภูเขาลูกหนึ่ง แต่ตอนนี้ร่างกายส่วนใหญ่ของมันถูกกินไปเรียบร้อยแล้ว

 

กิเลนโลหิตกินจนเต็มอิ่มและเรอออกมาด้วยความพึงพอใจ หลังจากนั้นมันก็หันกลับมาส่งเสียงเพื่อดึงความสนใจของหานเซิ่น มันเขี่ยหัวของกิเลนสีดำให้กับเขา ราวกับว่ามันจะเชิญให้หานเซิ่นมากินด้วย

 

“ไม่เป็นไร นายกินมันไปเถอะ” หานเซิ่นส่ายหัว ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังโกสต์โบนอยู่แล้ว ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะกินร่างของกิเลนสีดำเข้าไปในตอนนี้

 

แต่การเชิญชวนของกิเลนโลหิตทำให้เขาวางใจยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่าเจ้ากิเลนโลหิตจะไม่ได้มีจิตมุ่งร้ายต่อเขาจริงๆ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset