Super God Gene – ตอนที่ 2295

ครามกวัดแกว่งอาวุธของเขา และพลังบนมีดของเขาก็กลายเป็นราชางูดำที่ดูเหมือนกับว่าจะกลืนกินทั้งท้องฟ้า มันพุ่งเข้าหาหานเซิ่นอย่างรวดเร็ว

 

ร่างกายของหานเซิ่นระเบิดพลังออกมา แต่เชือกสีขาวยังคงรัดตัวของเขาเอาไว้ ทำให้ยากต่อการป้องกัน มีดนั่นจะตัดร่างของเขาขาดเหมือนริบบิ้น

 

หานเซิ่นกัดฟัน แต่ในจังหวะที่เขาเตรียมตัวจะเปิดใช้งานโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด มีดแสงที่พุ่งเข้ามาก็แตกสลายไป

 

หานเซิ่นตกใจ เขามองไปที่คราม มือข้างหนึ่งที่ดูเหมือนกับหยกทะลุอกของครามออกมา นิ้วของมือนั้นเรียวยาวและดูงดงาม

 

“กุนซือไวท์!” หานเซิ่นไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง กุนซือไวท์ยืนอยู่ด้านหลังของครามและดึงมือของเขากลับออกมา

 

แต่มือของกุนซือไวท์ยังคงดูสะอาดหมดจดและไม่เปื้อนเลือดเลยแม้แต่นิดเดียว

 

มีดหักของครามตกลงบนพื้น เขามองรูที่เต็มไปด้วยเลือกบนอกของตัวเอง ก่อนที่จะหันไปมองกุนซือไวท์ด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
“ไหนว่าพลังของท่านบอกเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ในการต่อสู้… ท่าน… ท่านทำลายร่างสิงโตดำของข้าได้ยังไง?”

 

“ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยเรื่องน่าประหลาดใจ เจ้าควรจะเคยชินกับมันได้แล้ว”
เปลือกหอยสีขาวปรากฏขึ้นในมือของกุนซือไวท์ เขาเปิดมันออกและยื่นมันเข้าหาคราม หลังจากนั้นครามที่ได้รับบาดเจ็บก็ถูกดูดเข้าไปภายในนั้น

 

เมื่อเปลือกหอยปิดตัวลง กุนซือไวท์ก็เก็บมันเข้ากระเป๋า เขาหยิบตาข่ายนภาและกล่องหยกน้อยๆขึ้นมา ดูเหมือนกับว่าเขากำลังยิ้ม แต่มันไม่ใช่  เขาหันมาหาหานเซิ่นและพูด
“หานเซิ่น ดูเหมือนว่าเจ้าจะแพ้อย่างหมดท่า”

 

หานเซิ่นยังคงถูกจับโดยตาข่ายนภา เขายิ้มแห้งๆให้กับกุนซือไวท์
“เจ้าเป็นฝ่ายชนะ อย่างนั้นแล้วเจ้าจะทำยังไงกับข้าล่ะ?”

 

“แน่นอนว่าข้าจะฆ่าเจ้า เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะปล่อยให้ศัตรูที่น่ากลัวอย่างเจ้ามีชีวิตต่อไปและเติบใหญ่ในโลกนี้น่ะ?” กุนซือไวท์มองหานเซิ่นอย่างไร้ความรู้สึก

 

“กุนซือไวท์ เจ้าประเมินข้าสูงเกินไปแล้ว ข้าก็เป็นแค่ทหารไร้ชื่อคนหนึ่ง”
หานเซิ่นไม่เคลื่อนไหว เขารวบรวมพลังทั้งหมด ขณะที่ยังคงจ้องไปที่กุนซือไวท์ เขาคิดที่จะลองเสี่ยงดู

 

กุนซือไวท์หันไปหารูปปั้นแมวหยก ขณะที่เขายังถือตาข่ายนภาที่จับหานเซิ่นและเป่าเอ๋อเอาไว้ในมือ “แมวเก้าชีวิต ตอนนี้พวกเราไปได้แล้วใช่ไหม?”

 

หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ กุนซือไวท์รู้ว่ารูปปั้นแมวหยกนั้นคือแมวเก้าชีวิต

 

รูปปั้นแมวเก้าชีวิตมองมาที่กุนซือไวท์ “ถ้าพวกเจ้าผ่านการทดสอบแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับเจ้าว่าจะมาหรือไป มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องขออนุญาตจากข้า”

 

“ลาก่อน” กุนซือไวท์ดึงตาข่ายนภาและลากหานเซิ่นกับเป่าเอ๋อออกไปจากเมืองศักดิ์สิทธิ์

 

ครั้งนี้พลังของเมืองไม่ได้ห้ามพวกเขา กุนซือไวท์ลากหานเซิ่นกับเป่าเอ๋อออกไปจากเมืองอย่างง่ายดาย

 

มืออีกข้างของกุนซือไวท์เรืองแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา ขณะที่ถือกล่องหยกเอาไว้ แสงสว่างนั้นขับไล่สิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดในระยะ 3 เมตรรอบๆตัวพวกเขา สุดท้ายแล้วกุนซือไวท์ก็ลากหานเซิ่นและเป่าเอ๋อกลับออกไปจากร่องน้ำได้อย่างปลอดภัย

 

หานเซิ่นคิดว่ากุนซือไวท์จะฆ่าพวกเขาในเมืองศักดิ์สิทธิ์ แต่กุนซือไวท์ไม่ทำอย่างนั้น และหลังจากที่เขาออกมาจากที่นั่น เขาไม่ได้พยายามจะหนีไปจากที่นี่ เขาพาหานเซิ่นและเป่าเอ๋อเข้าไปในวาฬขาวตัวใหญ่แทน

 

การต่อสู้ระหว่างราชินีจิ้งจอกและอี๋ซาดูเหมือนจะจบลงแล้ว เนื่องจากมันไม่มีความเคลื่อนไหวในทะเลอีก

 

กุนซือไวท์พาหานเซิ่นและเป่าเอ๋อเข้าไปในวาฬขาวตัวใหญ่ เขายิ้มและมองไปที่หานเซิ่น “ตอนนี้ข้าฆ่าเจ้าได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร เจ้าคิดแผนการหนีได้หรือยัง?”

 

“ทำไมเจ้าถึงไม่ฆ่าข้าภายในเมืองศักดิ์สิทธิ์?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน

 

“เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเมืองนั่นซ่อนสมบัติที่แท้จริง?” กุนซือไวท์ถามด้วยโทนเสียงขบขัน

 

“มันไม่ได้ซ่อนสมบัติเอาไว้?” หานเซิ่นถาม

 

“มันจะซ่อนสมบัติเอาไว้ แต่นั่นก็ต่อเมื่อผู้นำของเซเคร็ดบ้าไปแล้ว มันมีแต่คนบ้าเท่านั้นที่จะใช้ความพยายามมากขนาดนั้นเพื่อซ่อนสมบัติของตัวเอง”
กุนซือไวท์ยิ้ม “ที่นี่ต้องมีความลับที่เจ้าจินตนาการไม่ถึง นอกจากนั้นรูปบนหลังของเจ้าก็ดูเป็นอะไรที่พิเศษ”

 

“ข้าคิดว่ารูปภาพนั้นมันหายไปแล้ว” หานเซิ่นตกใจ

 

กุนซือไวท์หัวเราะและพูด “เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว เพียงแค่บางสิ่งหายไป นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะหายไปจริงๆ ข้าไม่รู้จักคนที่วาดมันบนตัวเจ้า แต่ข้ารู้ว่าเขาวาดมันด้วยการใช้สิ่งมีชีวิตที่ถูกรู้จักกันในชื่อแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ มันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้ากลายพันธุ์ เลือดของนางคือยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ ข้าไม่คิดว่าเลือดแบบนั้นจะหายไปง่ายๆ”

 

หานเซิ่นตกใจเมื่อได้ยินอย่างนี้ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่านั่นเป็นถึงสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้ากลายพันธุ์

 

“ทำไม? ทำไมเขาถึงวาดบนตัวของข้า?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน

 

“ข้าไม่รู้ บางทีเจ้าอาจจะเป็นคนที่ถูกเลือกตั้งแต่แรกแล้ว”
กุนซือไวท์พูดต่อว่า “แต่มันไม่ได้สำคัญอีกต่อไป ข้าจะฆ่าเจ้าและทุกอย่างจะถึงจุดจบ”

 

หลังจากนั้นกุนซือไวท์ดูโกรธ เขากระตุกตาข่ายและหานเซิ่นกับเป่าเอ๋อก็ถูกดึงไปตรงหน้าของเขา

 

หานเซิ่นจำได้ว่าร่างกายของครามถูกเจาะทะลุอย่างง่ายดายด้วยมือของกุนซือไวท์ เขาตกใจและเตรียมตัวที่จะใช้ร่างเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด

 

แต่เมื่อกุนซือไวท์สะบัดมือของเขา ตาข่ายนภาก็ถูกปล่อยออกไป รังนกกลับมาหาหานเซิ่นอีกครั้ง

 

“กุนซือไวท์…” หานเซิ่นรับรังนกเอาไว้และมองไปที่กุนซือไวท์ด้วยความสับสน

 

กุนซือไวท์เก็บตาข่ายนภาไปและโยนกล่องหยกให้กับหานเซิ่น

 

หานเซิ่นรับกล่องหยกน้อยๆเอาไว้ขณะที่สับสนยิ่งกว่าเดิม เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

กุนซือไวท์ยิ้มให้กับหานเซิ่น กล้ามเนื้อและกระดูกของเขาเริ่มบิดเบี้ยวและเปลี่ยนไป ใบหน้าของเขาเองก็เช่นกัน

 

เพียงไม่นานกุนซือไวท์ก็กลายเป็นคนอื่นไป ตัวตนของเขาดูเปลี่ยนไปอย่างมาก

 

ตอนนี้กุนซือไวท์ดูหนุ่มกว่าเดิม เขาดูอายุไม่เกิน 20 ปี แต่ร่างกายของเขามีออร่าที่พิเศษ มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกว่าคนๆนี้ใช้ชีวิตผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง เขาเป็นเหมือนกับคนที่คอยควบคุมหมากบนกระดาน หานเซิ่นอ้าปากค้าง

 

“เจ้า! ทำไมมันถึงเป็นเจ้าได้!” หานเซิ่นชี้ไปที่เขาด้วยความตกตะลึง

 

“ทำไมถึงจะเป็นข้าไม่ได้?” กุนซือไวท์มองหานเซิ่นด้วยความสนใจ

 

“เจ้าอยู่ในก็อตแซงชัวรี่หนิ? ทำไม…ทำไมเจ้าถึงออก…”
คำพูดของหานเซิ่นตัดขาดไปก่อนที่เขาจะพูดจบ เขานึกขึ้นได้ว่าทั้งพยุหะโลหิตและชูร่าต่างก็มีหนทางจะออกมา ตอนนี้มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนๆนี้จะออกมาจากก็อตแซงชัวรี่ได้เช่นกัน

 

“เรื่องมันยาว ถ้าจะให้สรุปสั้นๆก็คือในตอนที่ข้าคิดจะฝ่ามิติและกลายเป็นเทพเจ้าของโลกได้ ข้ากลับออกมาในที่แห่งนี้แทน มันเป็นอะไรที่น่าผิดหวังจริงๆ” กุนซือไวท์ยักไหล่ขณะที่ดูเสียใจ

 

“เจ้า… ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย…” หานเซิ่นพึมพำ เขายังคงตกตะลึง

 

หานเซิ่นรู้จักคนๆนี้ พวกเขาไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันอะไรนานนัก แต่หานเซิ่นจำเขาได้ดี นั่นเป็นเพราะว่าชายคนนี้คือผู้สืบทอดที่แท้จริงของสำนักเสวียน ส่วนหานเซิ่นเรียนรู้ศาสตร์ตงเสวียนมาจากตงเสวียนจือ นั่นทำให้เขาถูกนับว่าเป็นคนสำนักเสวียนเช่นกัน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset