Super God Gene – ตอนที่ 2314

ดวงตาหานเซิ่นแว็บเหมือนกับฟ้าแลบ ขณะที่เขาหันหน้าไปมองสิ่งที่ออกมาจากทราย

 

มันเป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ที่ทำขึ้นมาจากหิน มันทะยานออกมาจากทรายและชกหมัดเข้าใส่หานเซิ่นในทันที

 

หานเซิ่นก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหมัดของมนุษย์หิน

 

เห็นได้ชัดว่าหินคือธาตุของมัน ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่ซีโน่เจเนอิคตัวนี้จะปลดปล่อยพลังออกมาจากร่างกายของมัน แต่ทว่ามันเชี่ยวชาญในการใช้พลังเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของตัวเอง ดังนั้นพละกำลังทางกายภาพของมันจึงน่าประทับใจอย่างมาก

 

ขณะที่มนุษย์หินแกว่งหมัดใส่เขาอีกครั้ง หานเซิ่นใช้วิชากายหยก หลังจากนั้นเขาก็ชกหมัดของตัวเองไปปะทะกับหมัดของมนุษย์หิน

 

Pang!

หมัดหยกของหานเซิ่นปะทะกับหมัดของมนุษย์หิน หมัดขนาดใหญ่ของมนุษย์หินแตกเป็นเสี่ยงๆด้วยหมัดของหานเซิ่น เศษหินกระจัดกระจายไปทั่วพื้นทรายรอบตัวของพวกเขา

 

หานเซิ่นชกใส่มนุษย์หินอย่างต่อเนื่องโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว หลังจากชกไม่กี่หมัดร่างกายของมนุษย์หินก็ไม่เหลืออะไร นอกจากเศษหินที่กองอยู่บนพื้นทราย

 

“ซีโน่เจเนอิคดยุกปีศาจหินถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกพบ”

 

หานเซิ่นไม่ได้รับวิญญาณอสูร แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังอะไร เขาขุดคุ้ยเศษซากของศัตรูจนกระทั่งเขาพบคริสตัลสีโคลนอันหนึ่ง

 

หานเซิ่นหยิบคริสตัลขึ้นมาและเริ่มเดินต่อไปบนทะเลทราย ตอนนี้เมื่อวิชากายหยกปลดล็อคยีนขั้นแรกแล้ว เขาก็สามารถยืนพลังจากดวงดาวมาใช้ได้ ความสามารถนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างมีประโยชน์ เขายืนอยู่บนดาวคิงคองและฟื้นคืนพลังงานที่ใช้ไปในตอนที่เขาสังหารปีศาจหิน

 

หานเซิ่นเดินต่อไปหนึ่งร้อยไมล์ และในระหว่างนั้นเขาได้พบกับปีศาจหินเพียงแค่ 2 ตัว ซีโน่เจเนอิคบนดาวดวงนี้หายากมาก แต่เพราะอย่างนั้นมันจึงไม่มีความเสี่ยงอะไร หานเซิ่นแค่ต้องใช้เวลานานขึ้นเพื่อสะสมยีนระดับดยุกเท่านั้น

 

หานเซิ่นสามารถบินได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงทะยานขึ้นสู่อากาศเพื่อจะเร่งความเร็วขึ้นหน่อย เขาเดินทางข้ามทะเลทรายจนกระทั่งเขาเห็นหมอกสีดำปกคลุมดินแดนตรงหน้า

 

หานเซิ่นคิดว่ามันอาจจะเป็นพายุทะเลทรายหรือการรวมตัวกันของเมฆดำ แต่มันมีบางสิ่งที่ผิดปกติ ชั้นบรรยากาศของดาวดวงนี้เบาบางเกินกว่าที่จะก่อตัวเป็นพายุทะเลทรายหรือเมฆจริงๆ

 

หมอกสีดำเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าจริงๆแล้วมันเกิดจากฝูงของแมลงวันหินไม่ใช่พายุทราย

 

แมลงวันหินดูเกือบจะเหมือนกับแมลงวันทั่วๆไป เพียงแต่ร่างกายของพวกมันประกอบด้วยหินสีดำ พวกมันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับต่ำที่เห็นได้ทั่วไปบนดาวคิงคอง พวกมันเป็นซีโน่เจเนอิคชนิดเดียวบนดวงดาวที่จู่โจมเป็นกลุ่ม

 

การฆ่าพวกมันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ เพราะแมลงวันหินส่วนใหญ่เป็นระดับบารอน แม้แต่ตัวที่เป็นระดับไวเคานต์ก็หาได้ยากมากๆ ไม่มีราชองครักษ์คนไหนที่จะมาสนใจเกี่ยวกับยีนซีโน่เจเนอิคของแมลงวันหิน

 

ขณะที่แมลงวันหินเข้ามาใกล้ หานเซิ่นก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากฝูงของพวกมัน มันฟังดูเหมือนกับว่ามีบางสิ่งที่ใหญ่โตกว่าอยู่ท่ามกลางฝูงของแมลงสีดำ

 

แต่มันมีแมลงวันหินอยู่มากเกินไปราวกับก้อนเมฆสีดำ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน

 

“แมลงวันหินเยอะแยะจริงๆ จากประวัติของดาวคิงคอง มันเป็นอะไรที่ผิดปกติที่จะได้เห็นพวกมันเยอะขนาดนี้ ทำไมพวกมันทั้งหมดถึงมาอยู่ที่นี่ อะไรกันที่ดึงดูดพวกมันมา?” หานเซิ่นสงสัย

 

หานเซิ่นสวมใส่ชุดเกราะกุ้งมังกรกาแลกติกที่สามารถปกป้องได้แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับราชัน หานเซิ่นจึงไม่ได้กังวลอะไรกับเหล่าแมลงตรงหน้า ดังนั้นเขาจึงเดินตรงเข้าไปในฝูงของแมลงวันหิน เขาอยากจะเห็นว่าอะไรอยู่ข้างในนั้น

 

ถึงแม้มันจะมีซีโน่เจเนอิคระดับราชันตัวหนึ่งอยู่ หานเซิ่นก็สามารถต่อกรกับมันได้ และถ้าเขาสังหารซีโน่เจเนอิคระดับราชันได้ ยีนซีโน่เจเนอิคของมันก็จะเป็นรางวัลที่เยี่ยมยอดสำหรับเขา

 

แมลงวันหินมีจำนวนมากจนตกใจ  หานเซิ่นเดินฝ่าฝูงของพวกมันเข้าไปและมันก็เกิดเป็นเสียงคล้ายกับพายุฝน ขณะที่แมลงวันหินชนเข้ากับชุดเกราะของเขา

 

แต่แมลงวันหินไม่ได้พยายามจะโจมตีเขา พวกมันแค่มีจำนวนเยอะเกินไปจนและพวกมันชนกับชุดเกราะของหานเซิ่นโดยบังเอิญ

 

หานเซิ่นเดินฝ่าฝูงแมลงวันหินไป และหลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็เห็นเงาเบลออยู่ตรงหน้า ยิ่งเขาเข้าไปใกล้เงานั้นมากเท่าไหร่ แมลงวันหินรอบๆก็เยอะขึ้นมากเท่านั้น ในที่สุดเงาเบลอนั้นก็เริ่มจะชัดเจนขึ้นมา มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนกับเสือหรือสิงโตตัวหนึ่ง

 

แต่เงานั้นถูกปกคลุมไปด้วยแมลงวันหินจำนวนมาก ซึ่งทำให้หานเซิ่นมองไม่เห็นผิวของมันแม้แต่นิดเดียว นอกจากเค้าโครงหยาบๆแล้ว ร่างของสิ่งมีชีวิตนั้นก็ถูกซ่อนจากสายตาของเขา หานเซิ่นบอกได้แค่ว่ามันมีความสูง 20 เมตรและยาว 30 เมตร

 

ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นกำลังเดินฝ่าฝูงแมลงวันหินเข้ามาทางเขา แมลงหินบินรอบตัวของมันอย่างคลุ้มคลั่ง ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นเข้ามาใกล้กับหานเซิ่น แต่มันก็ยังคงเดินหน้าต่อไปโดยไม่แสดงทีท่าที่ว่าจะจู่โจมหานเซิ่น

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขากระทืบเท้าและปล่อยคลื่นกระแทกออกไปรอบตัวเพื่อทำให้ทุกอย่างกลายเป็นหิน ถึงแม้แมลงวันหินจะเป็นธาตุหิน ซึ่งทำให้มันมีภูมิต้านทานต่อพลังแบบนั้น แต่เหล่าแมลงวันหินก็มีระดับที่ต่ำเกินไป

 

หานเซิ่นปล่อยคลื่นกระแทกออกไปรอบตัวและทำให้แมลงวันหินถูกสาปกลายเป็นหินเมื่อถูกสัมผัส เมื่อเหล่าแมลงวันหินรอบๆถูกสาปกลายเป็นหินและเริ่มร่วงตามๆกันลงไปที่พื้น โฉมหน้าที่แท้จริงของซีโน่เจเนอิคตัวนั้นก็ถูกเปิดเผยขึ้นมาให้เห็น

 

มันเป็นหมาป่าที่ทำขึ้นมาจากโลหะสีฟ้า แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างมันได้รับบาดเจ็บอย่างมาก เลือดอาบทั่วร่างกายของมัน

 

และที่แมลงวันหินบินตอมรอบๆตัวหมาป่าก็เพราะต้องการจะดื่มเลือดสีฟ้าที่ไหลออกมาจากร่างกายของมัน

 

ทันใดนั้นหมาป่าโลหะสีฟ้าก็กระอักเลือดออกมา 2 ครั้ง มันยังคงพยายามจะเดินต่อไปข้างหน้า ขณะที่แมลงหินมากมายบินรอบๆตัวของมัน

 

หานเซิ่นส่งคลื่นกระแทกออกไปเพื่อสาปเหล่าแมลงให้กลายเป็นหินอีกครั้ง แต่ฝูงของแมลงวันหินนั้นทอดยาวออกไปไกลเหนือระยะการโจมตีของเขา ในเวลาเพียงแค่ 2 วินาทีแมลงตัวอื่นก็เข้าปกคลุมร่างกายของหมาป่าโลหะสีฟ้าอีกครั้งหนึ่ง

 

หมาป่าโลหะสีฟ้าแทบดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นเหล่าแมลงวันหิน มันยังคงเดินหน้าต่อไป ทุกก้าวของมันทิ้งรอยอุ้งเท้าขนาดใหญ่เอาไว้บนพื้นทราย

 

“โชคดีจริงๆที่ได้มาพบกับซีโน่เจเนอิคระดับราชันที่ได้รับบาดเจ็บ”

หานเซิ่นดีใจ หมาป่าโลหะสีฟ้าดูบาดเจ็บสาหัส และหานเซิ่นก็เชื่อว่ามันอ่อนแอพอที่จะฆ่าตายได้ง่ายๆ เขาหยิบมีดเขี้ยวผีสิงและธันเดอร์ก็อตสไปค์ออกมา เขาตั้งใจจะโจมตีหมาป่าโลหะที่ได้รับบาดเจ็บ

 

ในจังหวะที่หานเซิ่นกำลังจะจู่โจม เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากท้องฟ้า

 

เสียงกรีดร้องนั้นเป็นเหมือนกับคลื่นกระแทกที่แพร่กระจายออกมาจากจุดไหนสักแห่งเหนือหัวของเขา แมลงวันหินนับไม่ถ้วนระเบิดภายใต้แรงกดดันของเสียงกรีดร้องที่ดุร้ายนั้น ในชั่วพริบตาฝูงแมลงที่ปกคลุมท้องฟ้าก็สลายกลายเป็นผุยผง

 

ดวงตาของหานเซิ่นเบิกกว้าง มังกรหินผาตัวหนึ่งโบยบินอยู่บนท้องฟ้า ร่างกายของมังกรหินผานั่นดูเหมือนกับหยกดำ มันกระพือปีกและบินโฉบลงมาด้วยความเร็วสูง ปีกของมันตัดอากาศราวกับใบมีดหินที่คมกริบ และกรงเล็บที่แหลมคมของมันก็ยื่นเข้าหาหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บ

 

“ซีโน่เจเนอิคระดับราชันงั้นหรอ?”

หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาจ้องไปที่หมาป่าโลหะตัวใหญ่และเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ “พยายามที่จะขโมยของจากข้าอย่างนั้นหรอ? ข้าจะบอกแกซะตอนนี้ว่าแกไม่มีความสามารถพอจะทำอะไรแบบนั้น”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset