Super God Gene – ตอนที่ 2315

มังกรหินบินโฉบเข้ามาที่หัวของหมาป่าโลหะสีฟ้า แต่หานเซิ่นยังไม่เคลื่อนไหว

 

แม้แต่อูฐที่ผอมแห้งก็ยังใหญ่กว่าม้า ดังนั้นถึงแม้หมาป่าโลหะสีฟ้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่มันก็ยังมีพละกำลังเหลืออยู่ มันไม่มีทางที่จะล้มลงไปง่ายๆ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงมีแผนที่จะปล่อยให้มังกรหินผาและหมาป่าโลหะต่อสู้กันไปก่อน

 

มังกรหินผาบินโฉบลงถึงพื้น แสงแห่งเทพของมันแพร่ออกเป็นวงกว้างและครอบคลุมหมาป่าโลหะสีฟ้า เครื่องหมายหินปรากฏขึ้นบนร่างกายของหมาป่า

 

ดูเหมือนว่ามังกรหินผาจะมีความสามารถในการสาปสิ่งต่างให้กลายเป็นหินเช่นกัน และเมื่อดูจากผลลัพธ์แล้ว พลังของมันก็เหนือกว่าของวัวหินผาปีศาจมาก

 

หมาป่าโลหะสีฟ้าไม่ได้ตอบสนองต่อคลื่นกระแทกของหานเซิ่น แต่แสงแห่งเทพของมังกรหินผาทิ้งเครื่องหมายหินเอาไว้บนร่างของหมาป่า และดูเหมือนว่าพลังนั้นจะยังฝังลึกเข้าไปในบาดแผลของหมาป่า ขณะที่หินเริ่มจะก่อตัวและแข็งตัวรอบๆหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บ

 

กรงเล็บของมังกรหินผายื่นออกมาเพื่อจะคว้าคอของหมาป่า

 

หมาป่าโลหะก้มหัวอยู่ตลอดการเดินทาง มันไม่ได้ใช้แสงแห่งเทพระดับราชันของตัวเอง แต่เมื่อกรงเล็บของมังกรหินผาเข้ามาใกล้ เจ้าหมาป่าก็เงยหัวของมันขึ้น

 

กรงเล็บของมังกรหินผากระแทกเข้ากับหน้าของเจ้าหมาป่า แต่หมาป่าโลหะสีฟ้าไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ กรงเล็บของมังกรหินผาไม่สามารถเจาะทะลุผิวหนังของเจ้าหมาป่าได้

 

ชหมาป่าโลหะสีฟ้ากัดปีกของมังกรหินผาและฉีกพวกมันขาดในทันที

 

หานเซิ่นมองดูด้วยความตกใจ ขณะที่มังกรหินผาส่งเสียงกรีดร้องออกมา หมาป่าโลหะสีฟ้าก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา มันแค่ใช้กรงเล็บและเขี้ยวของมันฉีกร่างของมังกรหินผาระดับราชันจนขาด เลือดกระเด็นออกไปทุกหนทุกแห่ง

 

เมื่อร่างของมังกรหินผาถูกฉีกขาดไปแล้ว เครื่องหมายหินบนตัวของหมาป่าโลหะสีฟ้าก็หายไป พลังของมังกรหินผาดูเหมือนจะไม่มีผลต่อเจ้าหมาป่าอีก

 

หมาป่าโลหะฉีกร่างของมังกรต่อไปเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง มันฉีกเอากระดูกสันหลังที่เป็นหินของมังกรออกมา หานเซิ่นคิดว่านั่นคงจะเป็นยีนซีโน่เจเนอิคของมังกรหินผา เจ้าหมาป่าขบเคี้ยวเล็กน้อยก่อนที่จะกลืนมันเข้าไปในคำเดียว หลังจากนั้นเจ้าหมาป่าก็เดินจากไป

 

หานเซิ่นอึ้งไป หมาป่าโลหะสีฟ้าไม่แม้แต่จะใช้แสงแห่งเทพ แต่มันก็เอาชนะเจ้ามังกรหินผาระดับราชันได้อย่างง่ายดาย ความแข็งแกร่งของมันน่าสะพรึงกลัวกว่าที่หานเซิ่นคาดคิดเอาไว้

 

ในตอนแรกหานเซิ่นคิดจะใช้ประโยชน์จากสภาพบาดเจ็บของเจ้าหมาป่า แต่หลังจากที่ได้เห็นความโหดร้ายของมัน เขาก็ล้มเลิกความคิดนั่นไป

 

‘หมอนี่ต้องเป็นซีโน่เจเนอิคระดับราชันกลายพันธุ์ไม่ผิดแน่’ หานเซิ่นคิด

 

แต่มันมีเรื่องที่หานเซิ่นยังไม่เข้าใจ หมาป่าโลหะสีฟ้าตัวนี้แข็งแกร่งมาก มันสามารถฆ่าศัตรูระดับราชันได้ในเวลาอันสั้น แม้แต่มังกรหินผาระดับราชันก็ไม่สามารถเจาะทะลวงร่างกายโลหะของเจ้าหมาป่าได้ และหลังจากที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน เจ้าหมาป่าก็สามารถพื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่ามันมีพลังในการฟื้นฟูที่สุดยอด

 

ไม่ว่าจะดูยังไงมันก็เป็นซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัว แต่ทว่ามันมีบาดแผลที่ตัวมันเองไม่สามารถรักษาได้อยู่และมันยังคงมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้หานเซิ่นสงสัยว่ามันตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ยังไง

 

จากข้อมูลที่เขาหามาได้เกี่ยวกับพิมานของอัศวิน ภายในนี้มีสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าอยู่ก็จริง แต่มันไม่มีประวัติที่บอกว่ามีสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าอาศัยอยู่บนดาวคิงคอง

 

“นี่ดาวคิงคองเป็นที่อยู่อาศัยของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ยังไม่ถูกค้นพบอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นแปลกใจ เขาพอจะรับมือกับซีโน่เจเนอิคระดับราชันตามลำพังได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า

 

การเห็นหมาป่าโลหะสีฟ้าเดินทางลึกเข้าไปในทะเลทราย ทำให้หานเซิ่นลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจตามหมาป่าโลหะสีฟ้าไป เขาอยากจะเห็นว่าเจ้าหมาป่ากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน

 

หานเซิ่นคิดว่าถ้าหมาป่าโลหะสีฟ้ากำลังจะตายจริงๆ เขาก็อาจจะยังมีโอกาสอยู่

 

หมาป่าโลหะสีฟ้าเดินไปบนทะเลทรายเรื่อยๆ ในตอนนี้เมื่อหานเซิ่นได้เห็นเจ้าหมาป่าต่อสู้ เขาก็ไม่คิดจะประมาทอีก ถ้ามันต้องการจะเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้น มันก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน

 

ที่ไหนก็ตามที่หมาป่าโลหะสีฟ้าเดินผ่าน ซีโน่เจเนอิคทุกตัวที่เห็นต่างก็พากันหนีไป ไม่มีซีโน่เจเนอิคตัวไหนอยากจะเข้ามาใกล้เจ้าหมาป่ายักษ์ตัวนี้

 

ยกเว้นก็แต่เหล่าแมลงวันหิน พวกมันยังคงบินตอมรอบบาดแผลของหมาป่าโลหะสีฟ้าเพื่อดื่มเลือดของเจ้าหมาป่า

 

แต่หมาป่าโลหะไม่คิดจะฆ่าพวกมัน เจ้าหมาป่ายังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินลึกเข้าไปในทะเลทรายต่อไป

 

หานเซิ่นติดตามมันไปกว่า 70-80 ชั่วโมง จนในที่สุดหมาป่าโลหะสีฟ้าก็หยุดเท้าของมัน

 

หุบเขาตรงหน้าพวกเขาดูยิ่งใหญ่ แต่แทนที่จะมีน้ำไหลผ่านหุบเขา มันกลับมีลาวาไหลผ่านแทน หมาป่าโลหะสีฟ้ามองไปที่สายธารลาวาอยู่สักครู่ หลังจากนั้นมันก็กระโดดลงไปในลาวา

 

หานเซิ่นบินไปรอบๆหุบเขาขนาดใหญ่ หลังจากที่หมาป่าโลหะสีฟ้ากระโดดลงไปในลาวา มันก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว มันเหมือนกับว่าเจ้าหมาป่าจมลงไปในลาวา

 

“แปลกจริงๆ เจ้าหมาป่านั่นดูไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตธาตุไฟ มันไม่น่าจะอยู่ในลาวาไปตลอด แต่ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วทำไมมันถึงมาที่นี่? หรือว่ามันคิดว่าตัวมันเองกำลังจะตายจริงๆ และต้องการจะจบทุกสิ่งที่นี้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกินโดยสิ่งมีชีวิตอื่น?”  หานเซิ่นคิดว่านี่มันแปลกมากๆ

 

หานเซิ่นมองไปรอบๆ และในที่สุดเขาก็เห็นว่าลาวาเป็นที่อยู่อาศัยของงูที่ดูเหมือนกับก้อนหิน แต่พวกมันไม่ได้เข้าไปในตำแหน่งที่หมาป่าโลหะสีฟ้ากระโดดลงไป

 

เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหานเซิ่น แต่เขาอยากรู้อยากเห็น เขาไม่อยากจะจากไปทั้งๆอย่างนั้น

 

หานเซิ่นตัดสินใจล่าซีโน่เจเนอิคที่อยู่ใกล้เคียง ขณะที่รอคอยให้หมาป่าโลหะสีฟ้าตัวนั้นกลับออกมา

 

เกือบจะผ่านไป 4 วันแล้ว แต่ธารลาวาก็ยังคงเงียบสงบ มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกหดหู่

 

หานเซิ่นอยากจะดำลงไปในลาวาเพื่อดูใกล้ๆ แต่เขาไม่สามารถตัดสินใจได้

 

ซีโน่เจเนอิคหลายตัวอาศัยอยู่ในลาวา แต่ไม่มีพวกมันตัวไหนที่กล้าเข้าไปในบริเวณที่เจ้าหมาป่าดำลงไป บางทีพวกมันอาจจะหวาดกลัวหมาป่าโลหะสีฟ้า หรือไม่มันก็อาจจะมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าข้างล่างนั่น

 

“ซีโน่เจเนอิคงูหินระดับมาร์ควิสผาถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกพบ”

 

หานเซิ่นฆ่างูหินผาตัวหนึ่งด้วยความเบื่อ มันไม่มีซีโน่เจเนอิคอยู่แถวๆนี้มากนัก และนี่ก็เป็นซีโน่เจเนอิคตัวสุดท้ายที่อยู่บริเวณนี้

 

หานเซิ่นกัดฟันและกลับไปในบริเวณที่หมาป่าโลหะสีฟ้าหายตัวไป เขาคิดว่าการรอต่อไปเป็นอะไรที่เสียเวลา ดังนั้นตอนนี้เขามีตัวเลือกอยู่ 2 ทาง เขาจะไปจากที่นี่และออกล่าต่อ หรือเขาจะลงไปในลาวาเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ในนั้นกันแน่

 

เพราะความอยากรู้อยากเห็น หานเซิ่นจึงเลือกตัวเลือกที่ 2 เขาสวมใส่ชุดเกราะกุ้งมังกรกาแลกติกและเปิดใช้งานออร่าศาสตร์ตงเสวียน หลังจากนั้นเขาจุ่มหัวของตัวเองลงไปในลาวา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset