Super God Gene – ตอนที่ 2321

หานเซิ่นไม่ตอบ เขาแพร่กระจายพลังอีเทอร์นิตี้ไปทั่วร่าง ร่างกายของเขากลายเป็นสิ่งที่แข็งตัวและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การบุกรุกของไป๋อี้ถูกหยุดไปอย่างสมบูรณ์ อีเทอร์นิตี้นั้นแช่แข็งร่างแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์เช่นกัน มันไม่สามารถบุกรุกเข้าไปในเซลล์ของหานเซิ่นได้มากกว่านั้น และมันก็ไม่สามารถถอยออกไปได้เช่นกัน

 

แต่พลังของอีเทอร์นิตี้ทำได้แค่หยุดทุกอย่างให้คงอยู่ในสภาพเดิมเท่านั้น มันไม่สามารถขจัดร่างแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ที่อยู่ภายในร่างกายของหานเซิ่นได้

 

“ไป๋อี้ ข้าขอแนะนำให้เจ้าตอบคำถามของข้าแต่โดยดี ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าโหดร้ายกับเจ้า”

หานเซิ่นบินขึ้นจากหุบเขาลาวาและหาสถานที่ซ่อนตัวเพื่อพูดคุยกับไป๋อี้

 

“เจ้าขู่ข้ากลัวไม่ได้หรอก” ไป๋อี้พูดกลับ

“ถึงแม้พลังของเจ้าจะหยุดกระบวนการของรีเทิร์นออริจินได้ แต่ร่างกายของเจ้าก็ถูกหยุดไปด้วยเช่นกัน เจ้าคงจะอยู่แบบนี้ไปตลอดไม่ได้ และเจ้าก็ทำอะไรกับตัวตนของข้าไม่ได้”

 

“เจ้าคือองค์ชายสิบหกจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอย่างสงสัยโดยเมินเฉยต่อสิ่งที่ไป๋อี้พูด

 

“มันเป็นความจริง เจ้าไปถามคนอื่นได้ถ้าต้องการ และเจ้าจะได้รู้ถึงชื่อเสียงของข้า” ไป๋อี้พูดอย่างอวดดี

 

“ถ้าเจ้าเป็นองค์ชาย แล้วเจ้ามาทำอะไรในพิมานของอัศวิน? และทำไมเจ้าถึงต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงตุ๊กตาโลหะ?” หานเซิ่นถาม เขารู้สึกว่าการกระทำของไป๋อี้นั้นผิดปกติ

 

พิมานของอัศวินเป็นสถานที่สำหรับราชองครักษ์ โดยปกติแล้วคนของราชวงศ์จะไม่เข้ามาที่นี่ มันดูบ้าบอที่องค์ชายคนหนึ่งจะมาต่อสู้กับหานเซิ่นเพื่อแย่งชิงตุ๊กตาโลหะระดับดยุก

 

นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นมาที่นี่เช่นกัน ดังนั้นเรื่องทั้งหมดดูจะบังเอิญเกินไป

 

“มันเป็นเพราะไป๋หลิงซวงคนนั้น” ไป๋อี้พูดอย่างไม่พอใจ

“ไม่อย่างนั้นข้าจะมาที่นี่ไปทำไม?”

 

เมื่อหานเซิ่นได้ยินอย่างนี้ เขาก็เข้าใจ ไป๋หลิงซวงคือองค์หญิงสิบ เธอคือคนที่ไป๋เวยไม่ชอบหน้ามากที่สุด

 

เมื่อหานเซิ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ตั้งแต่ที่เขามาถึง เขาก็ได้พบกับไป๋อู๋ฉางในสถานีอวกาศ และตอนนี้เขาก็พบกับไป๋อี้ที่นี่อีก มันไม่มีทางที่ทั้ง 2 เหตุการณ์จะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ เขากลัวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเพราะการบ่งการของไป๋หลิงซวงด้วยเช่นกัน

 

ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่เคยเจอกับไป๋หลิงซวงมาก่อน แต่เขาก็พอเข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนยังไง

 

“ไป๋หลิงซวงบอกให้เจ้ามาฆ่าข้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

“ไม่ใช่ซะทีเดียว แต่จะยังไงก็ช่าง ข้าจะแก้แค้นนางให้ได้”

เห็นได้ชัดว่าไป๋อี้ไม่อยากจะพูดเกี่ยวกับมัน ไป๋หลิงซวงคงจะถูกหลอกให้มาติดกับ และตอนนี้สถานการณ์ก็ไปไกลเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้

 

ทั้งหมดเป็นเพราะหานเซิ่นและไป๋หลิงซวง เหตุการณ์นี้จะฝังลึกในหัวใจของไป๋อี้ไปตลอดการ ไป๋หลิงซวงคงจะต้องการให้พวกเขาทั้งคู่ตายด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน

 

“แต่ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องราวในอนาคต พวกเรามาพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้กันดีกว่า เจ้าต้องการร่างกายของข้าใช่ไหม? ต้องเสียใจด้วยที่นั่นเป็นไปไม่ได้ บอกข้ามาว่าเจ้ามีแผนที่จะทำอะไรต่อไป” หานเซิ่นพูด

 

ไป๋อี้พูด “รีเทิร์นทูออริจินนั้นเป็นกระบวนการที่ไม่มีวันหวนกลับได้ ข้าจะยึดครองร่างกายของเจ้า มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ไม่ช้าก็เร็วร่างกายของเจ้าจะกลายเป็นของข้าในที่สุด”

 

“เจ้าแน่ใจหรือว่ามันไม่มีหนทางอื่น?” หานเซิ่นถามอย่างจริงจัง

 

“มีแค่หนึ่งในพวกเราเท่านั้นที่จะรอดไปได้” ไป๋อี้ตอบอย่างเยือกเย็น เขาดูมั่นใจในความสามารถของรีเทิร์นทูออริจินอย่างมาก

 

“ข้าคิดจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อไป แต่ถ้าเจ้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว อย่างน้อยก็รับรู้เอาไว้ว่าเจ้าทำตัวเจ้าเอง” หานเซิ่นถอนหายใจ

 

การฆ่าองค์ชายภายในอาณาจักรกษัตริย์นั้นเป็นอะไรที่น่ากลัว ราชาไป๋จะต้องสั่งตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

หรืออย่างน้อยๆเขาก็คงจะไม่ทำถ้ามันมีทางเลือกอื่นอยู่ ถ้าไป๋อี้ไม่สามารถออกไปจากร่างกายของเขาได้ อย่างนั้นแล้วเขาก็ต้องไปบอกให้ราชาไป๋ทราบว่าไป๋อี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีโอกาสที่ราชาไป๋จะช่วยไป๋อี้ช่วงชิงร่างกายของหานเซิ่น

 

เมื่อไป๋อี้พูดอีกครั้ง เสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความดูถูก “ในตอนนี้ข้าเป็นส่วนหนึ่งของร่ายกายเจ้าแล้ว นอกซะจากเจ้าจะฆ่าตัวตาย ข้าก็จะยังอยู่ที่นี่ เจ้าทำอะไรกับมันไม่ได้”

 

“ถ้าทั้งตระกูลไป๋ไร้เดียงสาอย่างเจ้า มันก็จะเป็นอะไรที่เยี่ยมไปเลย”

หานเซิ่นถอนหายใจ ไป๋อี้เป็นคนที่โง่เขลาที่สุดในบรรดาคนตระกูลไป๋ที่เคยเขาพบ แม้แต่ไป๋เวยก็ฉลาดกว่าเขามาก

 

เขาถูกไป๋หลิงซวงหลอกใช้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอวดดีอยู่ หานเซิ่นไม่รู้เลยว่าเขาสามารถเอาชีวิตรอดภายในราชวงศ์ของเอ็กซ์ตรีมคิงที่มีการแข่งขันสูงได้ยังไงกัน

 

‘จริงด้วย… บางทีมันจะไม่มีใครสนใจถ้าคนที่โง่เขลาอย่างเขาตายไป’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว

 

แสงสีขาวลุกโชติช่วงขึ้นจากร่างของหานเซิ่น เขาเริ่มดูเหมือนกับเทพศักดิ์สิทธิ์

 

“นี่…นี่เป็นไปไม่ได้!” ไป๋อี้กรีดร้องออกมา เขาสังเกตได้ว่าร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์กำลังถูกขจัดออกจากเซลล์ของหานเซิ่น

 

ไป๋อี้เริ่มรู้สึกกลัวเมื่อรู้ตัวว่าร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ของเขาด้อยกว่าพลังใหม่นี้

 

“นี่มันอะไรกัน…พลังนี่คืออะไรกัน?! ทำไมร่างกายแห่งราชันของข้ารู้สึกหวาดกลัว? นี่เป็นไปไม่ได้! ร่างกายแห่งราชันของพวกเราเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้… พวกเรามียีนที่แข็งแกร่งที่สุด… มันไม่มีทางจะยีนไหนแข็งแกร่งกว่าของพวกเราไปได้…”

ไป๋อี้รู้สึกว่าร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ของเขาเริ่มจะแยกจากร่างกายของหานเซิ่น เขาหวาดกลัวอย่างที่สุดและความเยือกเย็นก่อนหน้านี้ของเขาหายไปหมดแล้ว

 

หานเซิ่นเมินเฉยต่อเสียงกรีดร้องของไป๋อี้ ตอนนี้เขาเข้าสู่โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดแล้ว ในโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดเขาสามารถขจัดร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ของไป๋อี้ออกไปได้อย่างง่ายดาย

 

ยีนของร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ต่อหน้าร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด ร่างกายแห่งราชันก็เป็นเหมือนกับดินโคลนสกปรก ยีนของพวกเขาทั้ง 2 ไม่สามารถรวมเข้าด้วยกันได้

 

ต่อหน้าร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของหานเซิ่น ไป๋อี้รู้สึกราวกับว่าร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ของเขากลายเป็นยีนของสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ ตอนนี้เขาได้แต่จ้องมองพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้น

 

“ไม่ อย่าฆ่าข้า… ข้าจะออกไปจากร่างของเจ้า!”

ในที่สุดไป๋อี้ก็รับรู้ถึงความหวาดกลัวที่แท้จริง เขาไม่รู้ว่าดยุกคนหนึ่งมีพลังที่น่ากลัวอย่างนี้ได้ยังไง หานเซิ่นไม่ได้แข็งแกร่งและเป็นระดับราชันเหมือนกับเขา แต่ถึงอย่างนั้นไป๋อี้ก็พอจะบอกได้ว่ายีนของหานเซิ่นนั้นเหนือกว่ายีนของร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ของเขา

 

“มันสายเกินไปแล้ว” หานเซิ่นพูดอย่างง่ายๆ ขณะที่ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

 

เนื่องจากเขาใช้พลังนี้แล้ว เขาไม่คิดจะปล่อยให้ชายคนนี้รอดไปได้

 

“เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้! ข้าคือองค์ชายสิบหก! ข้าเป็นบุตรชายของราชาไป๋! ข้า…” เสียงของไป๋อี้ขาดหายไป

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset