Super God Gene – ตอนที่ 2364

“เขาหาเรื่องใส่ตัวเอง จัดการเขา” องค์ชายดาบดาราสั่ง

 

“ไป๋อี้นี่บ้าขึ้นทุกวันๆ เขาโชคดีที่ปลุกรูปปั้นอัลฟ่าและได้รับการคุ้มครองของคิงอีซ แต่มันทำให้เขาหน้ามืดตามัว เขากลายเป็นคนที่อวดดีและมองไม่เห็นว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นใคร” องค์ชายสิบเก้าพูด

 

ไป๋หลิงซวงอยู่ใกล้ๆ เธอขมวดคิ้วและคิดว่าการกระทำของไป๋อี้เป็นอะไรที่บ้าบิ่นเกินไป

 

ในตอนที่หานเซิ่นได้รับการคุ้มครองจากคิงอีซ ไป๋หลิงซวงก็สงสัยว่าควรจะญาติดีหรือไปเป็นพันธมิตรกับเขาดีไหม แต่ตอนนี้เมื่อไป๋อี้กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ความอวดดีก็เข้าครอบงำเขา

 

เธอไม่กลัวศัตรูที่เป็นดังเทพ แต่เธอกลัวที่จะร่วมมือกับคนที่อวดดีและทำอะไรเกินตัว ความใจร้อนและความบุ่มบ่ามของไป๋อี้มีแต่จะสร้างปัญหาให้กับเธอ ไป๋หลิงซวงเคยสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของเขาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เธอไม่สงสัยแล้ว

 

หานเซิ่นไม่ได้กังวลว่าคนอื่นจะคิดกับเขายังไง เขาแค่ต้องการเลียนแบบนิสัยของไป๋อี้และพยายามปฏิบัติตัวเหมือนอย่างที่องค์ชายคนนั้นจะทำ

 

แถมหานเซิ่นก็ไม่ค่อยชอบหน้าองค์ชายดาบดาราเท่าไหร่ นี่ถือเป็นข้ออ้างอย่างดีที่หานเซิ่นจะสั่งสอนบทเรียนให้กับเขา

 

เมื่อหานเซิ่นใช้หมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิง องครักษ์ทั้ง 4 ก็ก้าวออกมาเพื่อป้องกันองค์ชายดาบดารา พวกเขาล้มเลิกความคิดที่จะโจมตีกิเลนโลหิตและหันมารับมือกับหมัดของหานเซิ่นก่อนเป็นอันดับแรก

 

แต่พวกเขาไม่กล้าฆ่าหานเซิ่น พวกเขาแค่จะกำราบความหลงตัวเองของหานเซิ่นเท่านั้น

 

การฆ่าฟันในสวนกษัตริย์ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง แต่ถ้าพวกเขาฆ่ากิเลนโลหิต พวกเขาก็จะไม่ถูกประหาร แต่แค่จะถูกจับขังคุกเท่านั้น เพราะยังไงซะลุงขององค์ชายดาบดาราก็เป็นกัปตันของศาลยุติธรรม

 

ในทางกลับกันผลที่จะตามมาจากการฆ่าไป๋อี้นั้นเป็นอะไรที่ร้ายแรง

 

หานเซิ่นดูไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขารวบรวมพลังของหมัดช็อคกิ้งสกายจนถึงขีดสุด และหมัดนี่ของเขายังรวมกับสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาจากการมองดูแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อต เขาปรับปรุงหมัดช็อคกิ้งสกายให้เข้ากับความสามารถใหม่ที่ได้เรียนรู้มา

 

เมื่อเขาใช้มันหมัดช็อคกิ้งสกาย หมัดของเขาก็เป็นเหมือนกับคลื่นลูกใหญ่ คลื่นลูกแรกถูกปล่อยออกไป หลังจากนั้นคลื่นอีกลูกก็ตามมา พลังของคลื่นแต่ละลูกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หานเซิ่นสามารถต่อกรกับองครักษ์ทั้ง 4 ได้ด้วยสิ่งนี้ และองครักษ์ทั้ง 4 ก็พบว่าพวกเขาตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

 

ในตอนแรกองครักษ์ระดับครึ่งเทพทั้ง 2 คนไม่กล้าจะลงมือ พวกเขากลัวว่าจะพลั้งมือฆ่าองค์ชายสิบหก แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่หมัด ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง

 

มันไม่ใช่แค่องครักษ์ทั้ง 4 เท่านั้นที่ตกใจ องค์ชายดาบดารา ไป๋หลิงซวง องค์ชายสิบเก้าและคนของราชวงศ์คนอื่นก็ยืนมองอย่างตกตะลึง

 

หานเซิ่นเป็นเหมือนกับกษัตริย์ที่ปกครองทั้งจักรวาล หมัดของเขาหนักหน่วงยิ่งกว่าท้องทะเล องครักษ์ทั้ง 4 กระเด็นออกไปด้านหลังพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังก้อง มีด ดาบ หอกและหมัดแสงของพวกเขาถูกทำลาย

 

ภายใต้หมัดที่เหมือนกับมังกรจากท้องทะเลนั้นแม้แต่องครักษ์ระดับครึ่งเทพก็ไม่สามารถเอาตัวรอดจากมันได้ พวกเขาเป็นเหมือนกับเรือเล็กที่ล่องอยู่ในทะเลที่มีคลื่นลมแรง

 

“องค์ชายสิบหกฝึกหมัดช็อคกิ้งสกายจนถึงขั้นนี้เชียว?” องค์ชายสิบเก้าไม่สามารถเชื่อสายตาตัวเอง

 

ไป๋หลิงซวงรู้สึกตกใจเช่นกัน สมาชิกของเอ็กซ์ตรีมคิงคนอื่นสามารถใช้หมัดช็อคกิ้งสกายเวอร์ชั่นที่ทรงพลังกว่านี้ได้เช่นกัน แต่พวกเขาต้องฝึกฝนจนถึงระดับราชันขั้นที่ 8 หรือขั้นที่ 9 ก่อน ความจริงที่หานเซิ่นสามารถใช้หมัดช็อคกิ้งสกายที่ทรงพลังได้ตั้งแต่ระดับราชันขั้นแรกนั้นเป็นอะไรที่น่าตกตะลึง แม้แต่คนในราชวงศ์ระดับครึ่งเทพก็ไม่สามารถทำสิ่งที่หานเซิ่นทำได้

 

หานเซิ่นฝึกฝนหมัดช็อคกิ้งสกายที่พื้นฐานที่สุด ขณะที่ราชวงศ์คนอื่นฝึกฝนฉบับที่ล้ำลึกกว่า ไป๋เวยเองก็ฝึกหมัดเอ็กซ์ตรีมคิงไฟนอล มันควรที่จะมีพลังเหนือกว่าวิชาฉบับพื้นฐานมาก

 

หานเซิ่นกำลังใช้หมัดช็อคกิ้งสกายฉบับพื้นฐานก็จริง แต่มันได้ถูกผสมผสานกับสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อต มันเป็นวิชาฉบับใหม่ที่หานเซิ่นปรับปรุงด้วยตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ไป๋หลิงซวงรู้สึกแปลกใจ

 

การปรับปรุงวิชาหมัดช็อคกิ้งสกายให้เหมาะสมกับตัวเองนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครๆจะทำก็ได้

 

ไป๋หลิงซวงมองหานเซิ่นที่กำลังไล่ต้อนองครักษ์ทั้ง 4 ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน

 

องค์ชายดาบดารากัดฟัน เขาอายุยังน้อย ด้วยเหตุนั้นเขาจึงพึ่งพาอำนาจของแม่ตัวเอง เขาเป็นที่รู้จักดีในหมู่คนของราชวงศ์ และการที่องครักษ์ทั้ง 4 คนของเขาถูกองค์ชายอย่างไป๋อี้ไล่ต้อนนั้นถือเป็นอะไรที่ยอมรับไม่ได้

 

มันจะไม่เป็นไรถ้าหานเซิ่นเป็นครึ่งเทพและองครักษ์ของเขามาจากเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอ แต่มันไม่ใช่แบบนั้นองครักษ์ของเขาถูกคัดเลือกมาจากฝ่ายอำนาจของเอ็กซ์ตรีมคิง องครักษ์ระดับครึ่งเทพทั้ง 2 คนของเขาถึงจะเป็นเลือดผสม แต่พวกเขาก็มีสายเลือดของเอ็กซ์ตรีมคิงอยู่ในตัว พวกเขาไม่ควรจะพ่ายแพ้ให้กับองค์ชายสิบหก

 

แต่ตอนนี้องครักษ์ระดับครึ่งเทพ 2 คนและองครักษ์ระดับราชันขั้นที่ 9 อีก 2 คนกำลังถูกไล่ต้อนโดยหานเซิ่น และองค์ชายดาบดาราเองก็รู้ดีกว่าตัวเขาเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน เขารู้สึกราวกับว่ามีงูมาฝังเขี้ยวลงในหัวใจของเขา ใบหน้าของเขามืดมนและบิดเบี้ยวด้วยความเกลียดชัง

 

“ไม่รู้มาก่อนเลยว่าน้องสิบหกจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ น่าประหลาดใจจริงๆ”
ชายที่นั่งอยู่บนหัวมังกรกษัตริย์ตัวหนึ่งพูดขึ้นมา เขาสวมใส่ชุดคลุมสีทองและเสียงของเขาก็หนักแน่น

 

ชายในชุดเกราะสีเขียวที่นั่งอยู่ข้างๆชายในชุดคลุมสีทองพูด
“ข้าไม่แน่ใจว่าเขาใช่น้องสิบหกจริงๆหรือเปล่า แบบนั้นท่านพี่ที่เป็นถึงองค์รัชทายาททำไมพูดราวกับว่าเขาเป็นคนสำคัญแบบนั้นล่ะ?”

 

“น้องสี่ เจ้าพูดผิดแล้ว ถ้าท่านพ่อยอมรับเขา นั่นก็หมายความว่าเขาคือน้องสิบหก” องค์รัชทายาทพูด

 

องค์ชายสี่หัวเราะ “ข้าไม่คิดแบบนั้น พวกเราต่างก็รู้ดีว่าน้องสิบหกเป็นคนยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาฉลาดถึงขนาดนี้? เขาต่อสู้กับองครักษ์ 4 คนพร้อมกันโดยใช้เพียงแค่วิชาหมัดวิชาเดียว และเขาก็เล่นงานเหล่าองครักษ์จนหมดท่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่น้องสิบหกจะทำได้ เขาเป็นคนที่โง่เขลา”

 

องค์รัชทายาทหลี่ตาขณะที่มองไปที่หานเซิ่น
“ใครจะรู้? บางทีพวกเราอาจจะประเมินเขาต่ำเกินไป”

 

องค์ชายสี่ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาจ้องมองหานเซิ่นที่กำลังเฉิดฉาดด้วยความรุ่งโรจน์ของทั้งเทพและปีศาจ

 

ปัง!

 

หานเซิ่นชกหมัดเข้าไปถูกองครักษ์ระดับครึ่งเทพคนหนึ่ง หมัดช็อคกิ้งสกายของเขาถูกใช้ติดต่อกันหลายครั้ง และพลังของมันก็ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ยอดฝีมือระดับครึ่งเทพก็ไม่สามารถทนต่อหมัดของเขาได้ หานเซิ่นชกไปถูกอกขององครักษ์คนนั้นจนยุบเข้าไปเข้าใน

 

วินาทีต่อมา หานเซิ่นก็ชกอีกหมัดไปที่หัวขององครักษ์ราวกับดาวตก พลังอันน่ากลัวนั้นเป็นเหมือนกับแม่น้ำที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

 

“ไป๋อี้! ถ้าเจ้าฆ่าองครักษ์ของข้า! ข้าจะฆ่าเจ้า!” องค์ชายดาบดาราร้องตะโกน ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง

 

“ข้าไม่กล้า” หานเซิ่นพูดขณะที่ชกหมัดช็อคกิ้งสกายเข้าไปที่องครักษ์ระดับครึ่งเทพคนเดิม

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset