Super God Gene – ตอนที่ 2392

หานเซิ่นคิดหาหนทางที่จะรับมือกับพลังที่บุกเข้ามาในร่างกายได้ก่อนหน้านี้แล้ว เขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นพลังที่เลวร้ายเหนือจินตนาการเหมือนกับราชินีจิ้งจอก หานเซิ่นรู้สึกตัวว่ามันก็เป็นแค่พลังอย่างหนึ่งที่เหมือนกับพลังอื่น

 

หานเซิ่นใช้จิตใจเพื่อเรียกมนตราออกมา เธอปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาในร่างของหญิงสาว

 

หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนอย่างเต็มที่ มนตราเป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตจริงๆ เธอสามารถใช้เรื่องราวของยีนได้ตามลำพัง และเธอก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการควบคุมของหานเซิ่น

 

จิตใจของหานเซิ่นและมนตรานั้นเชื่อมต่อกัน เธอรู้ว่าหานเซิ่นต้องการอะไร เธอเริ่มใช้เรื่องราวของยีนและยื่นมือข้างหนึ่งมาวางบนหน้าผากของหานเซิ่น

 

สัญลักษณ์แห่งแสงปรากฎขึ้นบนหน้าผากของหานเซิ่น หลังจากนั้นมันก็ละลายเข้าไปในเนื้อหนังของเขา ไม่นานร่างกายของหานเซิ่นก็หยุดนิ่งไป มันเหมือนกับว่ารูปปั้นเซเคร็ดบลัดและจิ้งจอกเก้าหางถูกแช่แข็งอยู่กับที่

 

แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งวินาที รูปปั้นเซเคร็ดบลัดและจิ้งจอกเก้าหางก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง พวกมันกลืนกินร่างกายของหานเซิ่นเหมือนกับก่อนหน้านี้

 

มนตราเอาปืนพกของเธอออกมาและยิงใส่หานเซิ่น กระสุนแต่ละลูกอาบไปด้วยพลังอีเทอร์นิตี้ เธอระดมยิงไปที่หานเซิ่นและแช่แข็งร่างกายของเขา

 

หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนอย่างเต็มกำลังและเริ่มผลักดันมันไปสู่ระดับราชัน

 

ทั้งจักรวาลเป็นเหมือนกับเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยฟันเฟือง ฟันเฟืองแต่ละอันนั้นติดต่อกัน และฟันเฟืองของหานเซิ่นก็มีขนาดใหญ่กว่าปกติ มันมีความแข็งแกร่งของเหล็กกล้าและถูกห้อมล้อมไปด้วยฟันเฟืองที่เล็กเกินกว่า แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เชื่อมต่อกับฟันเฟืองมากมาย ซึ่งถ้าเขาต้องการจะหมุนฟันเฟืองจักรวาลของตัวเอง เขาก็ต้องหมุนฟันเฟืองทั้งหมดที่อยู่รอบๆด้วยเช่นกัน

 

หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนเกินขีดจำกัดและพยายามจะหมุนฟันเฟืองจักรวาลโดยใช้พลังทั้งหมดที่รวบรวมมาได้ ซึ่งนั่นรวมถึงพลังของรูปปั้นเซเคร็ดบลัดและพลังของจิ้งจอกเก้าหาง

 

มนตรายิงปืนใส่หานเซิ่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร่างกายส่วนใหญ่ของหานเซิ่นถูกแช่แข็ง แต่พลังแช่แข็งไม่เพียงพอที่จะหยุดรูปปั้นเซเคร็ดบลัดและสัญลักษณ์จิ้งจอกเก้าหาง แต่มนตราไม่ได้คิดที่จะหยุดพวกมันเอาไว้

 

มนตราใช้พลังแช่แข็งของอีเทอร์นิตี้เพื่อสร้างเส้นทางในร่างกายของหานเซิ่น มันเป็นเส้นทางที่ศาสตร์ตงเสวียนจะใช้งาน ซึ่งนอกจากเส้นทางนั้นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างถูกแช่แข็ง

 

พลังที่น่ากลัวทั้ง 2 ไหลในอุโมงค์ราวกับแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ด้วยการชี้นำของหานเซิ่น พลังเหล่านั้นไหลตรงไปเพื่อหมุนฟันเฟืองจักรวาลของเขา

 

ตูม!

พลังมหาศาลหลั่งไหลไปที่ฟันเฟืองจักรวาลและฟันเฟืองนั้นก็เริ่มจะสั่นไหวเล็กน้อย มันยังคงไม่หมุน แต่หานเซิ่นก็สังเกตเห็นความหวังเล็กๆ

 

ก่อนหน้านี้หานเซิ่นพยายามอย่างเต็มที่ แต่มันอะไรไร้ประโยชน์ เขาไม่สามารถขยับฟันเฟืองจักรวาลได้แม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้มันเริ่มจะเคลื่อนไหว ถึงแม้จะเพียงแค่เล็กน้อย แต่มันก็มอบความหวังให้กับเขา

 

หานเซิ่นหลับตาและใช้ศาสตร์ตงเสวียนต่อไป เขานำทางพลังทั้ง 2 ไปสู่ฟันเฟืองจักรวาลซ้ำๆ และทุกครั้งมันก็ทำให้ฟันเฟืองเกิดความเคลื่อนไหว

 

ในที่สุดฟันเฟืองก็ส่งเสียงแหลมออกมาขณะที่เริ่มจะหมุน มันเหมือนกับเครื่องจักรที่ถูกทิ้งไว้หลายปีและตอนนี้กลับมาทำงานอีกครั้ง

 

ใบหน้าของมนตรายังคงไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาขณะที่เธอยิงใส่ร่างกายของหานเซิ่นต่อไป เธอพยายามรักษาอุโมงค์ในร่างกายของหานเซิ่นเอาไว้

 

ร่างกายส่วนที่ถูกพลังอีเทอร์นิตี้เข้าไปนั้นเป็นเหมือนกับเขื่อนกั้นน้ำ ขณะที่พลังของรูปปั้นเซเคร็ดบลัดและสัญลักษณ์จิ้งจอกเก้าหอกเป็นเหมือนกับน้ำท่วมฉับพลัน พวกมันจะไหลไปทางตามเส้นทางของแม่น้ำและชนเข้ากับเขื่อนกั้นน้ำที่ขวางกั้นพวกมัน เขื่อนกั้นน้ำไม่สามารถปล่อยให้ถูกทำลายได้ เพราะถ้าพวกมันถูกทำลาย พลังทั้งหมดก็จะรั่วออกไปและทำลายร่างกายของหานเซิ่น

 

พลังแช่แข็งของอีเทอร์นิตี้เป็นระดับดยุก ดังนั้นมันจึงไม่เพียงพอที่จะต้านพลังของรูปปั้นเซเคร็ดบลัดและสัญลักษณ์จิ้งจอกได้อย่างสมบูรณ์ มนตราจึงต้องคอยยิงใส่ร่างกายของหานเซิ่นซ้ำๆเพื่อให้แน่ใจว่าเขื่อนกั้นน้ำจะไม่พังทลายลงมา

 

ตูม! ตูม! ตูม!

พลังไหลไปชนกับฟันเฟืองจักรวาลของหานเซิ่นซ้ำๆ และฟันเฟืองก็เริ่มหมุนทีละนิดๆ แต่ในแต่ละครั้งมันขยับเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นก่อนที่ฟันเฟืองจะหยุดนิ่งไปอีก

 

‘ฟันเฟืองจักรวาลของเรามันใหญ่เกินไป การจะทำให้มันหมุนอาจจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไป’ หานเซิ่นคิด

 

พลังทั้ง 2 ชนใส่ฟันเฟืองจักรวาลของหานเซิ่นซ้ำๆ แต่พวกมันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ฟันเฟืองหมุนอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นปัญหาใหญ่กว่าที่หานเซิ่นคิดเอาไว้

 

โชคดีที่หานเซิ่นเลือกจะเริ่มด้วยศาสตร์ตงเสวียนก่อน เขาเห็นฟันเฟืองจักรวาลของมันได้อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้เขาสามารถชักนำพลังไปในมุมที่จะส่งแรงได้มากที่สุดได้อย่างแม่นยำ ถ้าเขาเลือกวิชาจีโนตัวอื่นที่มองไม่เห็นฟันเฟืองจักรวาลล่ะก็ มันก็จะเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าเดิม

 

‘พลังทั้ง 2 นี้ทิ้งช่วงมากเกินไป ถ้าเกิดยังเป็นแบบนี้ต่อไป มันก็คงจะทำให้ฟันเฟืองจักรวาลของเราหมุนไม่ได้’ หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ หานเซิ่นก็คิดไอเดียอย่างหนึ่งขึ้นมาได้

 

หานเซิ่นคิดในใจและมนตราก็เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร ปืนพกของเธอเอนไปเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนเส้นทางของอุโมงค์ที่เธอสร้างภายในร่างกายของหานเซิ่น

 

พลังทั้ง 2 ถูกนำไปในร่างกายของหานเซิ่นผ่านเส้นทางที่แตกต่างกัน ตอนนี้พวกมันถูกนำมารวมกันในอุโมงค์ที่มาประสานกันในรูปเลขแปดก่อนที่จะปล่อยให้พลังไหลต่อไปสู่ฟันเฟืองจักรวาลของหานเซิ่น

 

เมื่อพลังทั้ง 2 เคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงกัน ฟันเฟืองจักรวาลของหานเซิ่นก็เริ่มจะหมุน และฟันเฟืองอื่นที่เชื่อมต่อกับฟันเฟืองจักรวาลของหานเซิ่นก็เริ่มหมุนด้วยเช่นเดียวกัน

 

หานเซิ่นรู้สึกปลาบปลื้มขณะที่ชักนำพลังทั้ง 2 ไปเพื่อหมุนฟันเฟืองต่อไป

 

มันหมุนอย่างช้าๆในตอนแรก แต่เมื่อฟันเฟืองจักรวาลของหานเซิ่นเคลื่อนไหวไปได้ระยะหนึ่ง ความเร็วในการหมุนของมันก็เริ่มเพิ่มขึ้น

 

เมื่อฟันเฟืองจักรวาลหมุนจนเกือบจะครบเริ่ม หานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่าทั้งร่ายกายตื่นขึ้นจากการหลับใหลอันยาวนาน มันเหมือนกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เริ่มทำงานอีกครั้ง และพลังงานที่ไร้ที่สุดก็เริ่มถูกปล่อยออกมา

 

ขณะที่ฟันเฟืองหมุนเร็วขึ้นจนเบลอๆ หานเซิ่นก็เห็นว่าแสงในฟันเฟืองเริ่มจะสว่างไสวขึ้นมา ยิ่งฟันเฟืองหมุนเร็วขึ้นเท่าไหร่ ความสว่างของแสงก็มากขึ้นเท่านั้น

 

ตูม!

 

ด้วยพลังของรูปปั้นเซเคร็ดบลัดและสัญลักษณ์จิ้งจอกเก้าหองรวมกัน มันก็ทำให้ฟันเฟืองจักรวาลของหานเซิ่นหมุนด้วยตัวของมันเอง ภายในฟันเฟืองจักรวาลนั้นแสงสว่างไสวยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ แสงนั้นดูเหมือนกับว่ามันสามารถละลายทุกสิ่งทุกอย่างได้ ร่างกายของหานเซิ่นรู้สึกเบาหวิวยิ่งกว่าขนนก และฟันเฟืองจักรวาลก็ไม่ต้องพึ่งพาพลังของเขาอีกต่อไป ตอนนี้มันสามารถหมุนได้ด้วยตัวเอง

 

อาณาเขตที่มองไม่เห็นเปิดออกและขยายออกไปนอกร่างกายของหานเซิ่น มันสร้างฟองสบู่ประหลาดที่มองไม่เห็นขึ้นมา

 

“ศาสตร์ตงเสวียนเลื่อนสู่ระดับราชันขั้นที่หนึ่ง”

 

“มันได้ผล!” หานเซิ่นยิ้มกว้าง ในที่สุดเขาก็เลื่อนสู่ระดับราชัน ถึงแม้มันจะเป็นแค่ระดับราชันขั้นแรก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความจริงที่ว่าเขาทำได้สำเร็จ

 

ขณะที่ฟันเฟืองจักรวาลหมุนต่อไป หานเซิ่นก็ได้ยินเสียงประตูโลหะถูกเปิดออก มิติรอบตัวของเขาเริ่มจะสั่นไหว ประตูนั้นถูกเปิดออกโดยฟันเฟืองจักรวาล และร่างกายของหานเซิ่นก็ถูกดูดเข้าไปข้างใน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset