Super God Gene – ตอนที่ 2408

ราชินีจิ้งจอกอยากจะไปที่ดาววอเทอร์โซนในทันทีเพื่อดูว่าหานเซิ่นนั้นเอากระจกไนน์สปินเดสทินี่ออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตาได้หรือเปล่า

 

แต่ไป๋ชางลังสั่งให้เธอไปทำบางอย่าง ทำให้เธอยังไม่มีเวลาไปที่ดาววอเทอร์โซน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวตนที่แท้จริงของเธอถูกเปิดเผย เธอต้องระงับความใจร้อนไปก่อน

 

แต่ราชินีจิ้งจอกไม่สามารถหยุดคิดเกี่ยวกับการที่หานเซิ่นทำให้รูปปั้นเซเคร็ดบลัดทำงานขึ้นมาแต่แล้วกลับรอดชีวิตมาได้ เธอคิดไม่ออกว่าเขาทำแบบนั้นได้ยังไง

 

เมื่อนานมาแล้ว ผู้นำของเซเคร็ดได้ใช้รูปปั้นเซเคร็ดบลัดเพื่อควบคุมลูกน้องของตัวเอง แม้แต่คนที่เป็นระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถต่อต้านมันได้ แถมรูปปั้นเซเคร็ดบลัดบนหลังของหานเซิ่นยังถูกวาดด้วยเลือดของแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้อีก รูปปั้นเซเคร็ดบลัดแบบนั้นจะถูกใช้กับคนที่เป็นระดับเทพเจ้าเท่านั้น แต่หานเซิ่นเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง เขายังไม่เป็นระดับราชันด้วยซ้ำ แล้วแบบนั้นเขารอดชีวิตมาได้ยังไงกัน?

 

ราชินีจิ้งจอกรู้สึกสับสนอย่างมาก แต่มันยังอีกสักพักเธอถึงจะมีเวลาไปที่ดาววอเทอร์โซนเพื่อหาคำตอบ

 

หลังจากที่หานเซิ่นกลับไปที่เมืองใต้น้ำ เขาก็เริ่มศึกษาเกี่ยวกับกระจกไนน์สปินเดสทินี่ แต่เขาไม่พบอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับมัน เขาลองใส่พลังของตัวเองเข้าไปในกระจก แต่เขาไม่สามารถทำให้มันทำงานขึ้นมาได้ ทางเลือกเดียวของเขาก็คือการหยดเลือดลงบนกระจกหินโดยหวังว่ามันจะยอมรับเขาในอนาคตข้างหน้า

 

แต่ทุกครั้งที่หานเซิ่นหยดเลือดลงบนกระจกหิน มันก็เรืองแสงขึ้นมาพร้อมกับเงาของจิ้งจอกเก้าหาง เมื่อเงานั้นหายไป เลือดของหานเซิ่นที่หยดลงไปก็จะหายไปด้วย

 

หานเซิ่นพยายามจะใช้วิธีการเดียวกับที่ใช้กับเจดดรัม แต่มันดูเหมือนจะไม่ได้ผล

 

“นี่ราชาเป่านำกระจกไนน์สปินเดสทินี่ไปไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตาและวางมันเอาไว้ใต้รูปปั้นอย่างนั้นหรอ? ถ้าใช่ ทำไมเขาถึงทำแบบนั้นกัน?”
หานเซิ่นไม่สามารถคิดหาคำตอบได้

 

หานเซิ่นใช้แฟรี่น้ำในน้ำเต้าหยกเพื่อช่วยฝึกฝนจิตแห่งดาบของตัวเอง และด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงรู้สึกราวกับว่าจิตแห่งดาบของเขากำลังจะเลื่อนขั้นไปอีกระดับหนึ่ง หานเซิ่นไม่สามารถลอกเลียนแบบจิตแห่งดาบพลาวด์โบนของดาบคลั่งได้ แต่เขาสามารถใช้จิตแห่งดาบของตัวเองเพื่อต่อสู้กับจิตแห่งดาบของดาบคลั่งที่ถูกจำลองโดยแฟรี่น้ำได้ ในตอนแรกจิตแห่งดาบของเขาพ่ายแพ้อย่างราบคาบ แต่หลังจากผ่านไปสักพักหานเซิ่นก็เริ่มจะต้านทานมันได้

 

จิตแห่งดาบของดาบคลั่งนั้นไม่เหมาะกับหานเซิ่น ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะใช้มันโดยตรง แต่เขาใช้มันเป็นเหมือนกับหินเจียรเพื่อลับจิตแห่งดาบของตัวเองแทน

 

‘ไม่สำคัญว่าจิตแห่งดาบของดาบคลั่งจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ยังไงมันก็ไม่ใช่ของเรา มันจะเป็นของเราได้ก็ต่อเมื่อเราเข้าใจมันอย่างถ่องแท้เท่านั้น’
ถึงแม้การพัฒนาแบบนั้นจะเป็นอะไรที่ช้ากว่ามาก เมื่อเทียบกันการลอกเลียนแบบจิตแห่งดาบของดาบคลั่งโดยตรง แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร เขามีเวลาที่จะค่อยๆพัฒนาจิตแห่งดาบของตัวเองไปทีละนิดๆ

 

ถึงแม้หานเซิ่นจะมีคอร์ยีนระดับราชันอยู่เป็นจำนวนมาก และเขายังมียีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันอีก 100 ยีน แต่เขาก็ยังจำเป็นต้องหาพวกมันอีกมากในวันข้างหน้า ดังนั้นหานเซิ่นจึงมีแผนที่จะกลับเข้าไปในคอร์แอเรียจักรวาลเพื่อล่าคอร์ยีนมาเพิ่ม เพราะยังไงซะมันก็เป็นเรื่องดีที่จะเก็บตุนพวกมันเอาไว้แต่เนิ่นๆ

 

ถ้าหานเซิ่นคาดเดาไม่ผิดล่ะก็ ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 100 ยีนอาจจะเพิ่มระดับอาณาเขตแห่งราชันของเขาแค่หนึ่งระดับเท่านั้น

 

หานเซิ่นผลักดันฟันเฟืองจักรวาลของตัวเองเพื่อเข้าไปในคอร์แอเรียจักรวาลอีกครั้ง เขากลับไปยังตำแหน่งเดิมที่จากมา ซึ่งมันไม่ไกลไปจากดาวดาร์คโซน

 

หานเซิ่นไม่กล้าไปเหยียบบนดาวดาร์คโซนอีกครั้ง จนกว่าเขาจะแข็งแกร่งพอ การไปยั่วยุแมลงประหลาดนั้นไม่ต่างไปจากการฆ่าตัวตาย ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดไม่ได้ทำให้เขาเป็นอมตะและเวลาจำกัดของมันก็เป็นอะไรที่น่าปวดหัว

 

“เมื่อเรากลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว เราจะใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดอย่างไม่จำกัดหรือเปล่านะ?” หานเซิ่นสงสัยขณะที่เริ่มบินออกไป

 

“ดอลลาร์ บังเอิญจังเลย เจ้าสนใจที่จะร่วมมือกับพวกเราอีกครั้งไหม?”
เมื่อหานเซิ่นบินไปได้ไม่นาน กลุ่มของดราก้อนวันและดราก้อนเอทก็บินเข้ามาหาเขา

 

ในครั้งก่อนมีเพียงแค่ดราก้อนวันและดราก้อนเอทเท่านั้นที่รอดชีวิตกลับมาได้ ดราก้อนที่ติดตามพวกเขามาในวันนี้จึงเป็นคนใหม่ทั้งหมด

 

หานเซิ่นยังไม่มีโอกาสได้ตอบ มันก็มีอีกกลุ่มบินเข้ามาจากอีกทิศทางหนึ่ง หัวหน้าของคนกลุ่มนั้นคือเดียร็อบเบอร์ ขณะที่เขาบินเข้ามาใกล้ เขาก็พูดขึ้นมา
“ถ้าพวกเจ้าจะร่วมมือกัน พวกเราขอร่วมมือด้วยคนจะได้ไหม?”

 

หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขาเพิ่งจะเข้ามาในคอร์แอเรีย แต่คน 2 กลุ่มนี้ก็หาตัวเขาพบแล้ว นี่ไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญไปได้

 

“ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่พวกเจ้าสละเวลามาชวนข้า แต่ครั้งนี้ข้าอยากจะออกล่าตามลำพัง บางทีโอกาสหน้า?”
หานเซิ่นปฏิเสธพวกเขาอย่างมีมารยาท เขาไม่รู้ว่าคนพวกนี้ต้องการอะไรกันแน่ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะร่วมมือด้วย

 

หานเซิ่นเตรียมตัวที่จะจากไป แต่เดียร็อบเบอร์ก็รีบพูดขึ้นมา
“ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าไม่คิดจะร่วมมือกับพวกเรา แต่ข้ามีซีโน่เจเนอิคระดับราชันกลายพันธุ์หลายตัวที่พวกเราล่าได้ เจ้าสนใจที่จะไปดูมันหน่อยไหม?”

 

หานเซิ่นหยุดชะงักไป ซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์เป็นอะไรที่หายาก ดังนั้นการที่สามารถเดินทางตรงไปหาพวกมันในทันทีจะช่วยหานเซิ่นได้มาก ถ้าพวกเขาล่าซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ได้ หานเซิ่นก็จะได้รับพลังของพวกมันโดยที่ไม่จำเป็นต้องฝึกฝน

 

“ไม่เลว ไม่เลว ข้าเองก็มีเบาะแสเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์เช่นเดียวกัน ถ้าเจ้าสนใจล่ะก็ เจ้ารู้กฎการแบ่งปันของพวกเรา” ดราก้อนวันพูดขึ้นมา

 

หานเซิ่นถูกยั่วยวนด้วยข้อเสนอทั้ง 2 ถ้ามันเป็นอย่างที่พวกเขาพูดจริงๆ การฆ่าซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ถือเป็นอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อหานเซิ่นอย่างมาก แถมเขายังได้ส่วนแบ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ของยีนทั้งหมดที่ล่ามาได้ มันไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องเสียเวลาตามหาซีโน่เจเนอิคให้เหนื่อย โอกาสแบบนี้ถือเป็นอะไรที่หาได้ยาก

 

หลังจากเงียบอยู่ชั่วครู่เพื่อครุ่นคิด หานเซิ่นก็ยังคงปฏิเสธข้อเสนอของพวกเขาทั้ง 2 ถ้าหานเซิ่นเลือกข้างในตอนนี้ เขาก็จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ

 

เนื่องจากหานเซิ่นไม่ร่วมมือด้วย พวกเขาก็ยังคงฆ่าซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์เหล่านั้นไม่ได้อยู่ดี ยังไงซะพวกเขาก็จำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือของหานเซิ่นในอนาคต บางทีเขาอาจจะได้รับผลประโยชน์มากกว่านี้ในภายหลัง

 

ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ดูจะคาดเอาไว้อยู่แล้วว่าหานเซิ่นจะปฏิเสธพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ผิดหวังอะไร พวกเขายังคงพูดคุยกับหานเซิ่นด้วยความร่าเริงโดยหวังว่าพวกเขาจะได้ร่วมมือกับหานเซิ่นในอนาคตอันใกล้

 

“ทำไมเจ้าถึงได้ดีกับเขานัก? เจ้าคิดว่าเดสทรอยเยอร์อย่างพวกเราจำเป็นต้องพึ่งราชันอย่างเขาอย่างนั้นหรอ?” บาร์ถามขึ้นมาเมื่อหานเซิ่นจากไปแล้ว

 

เดียร็อบเบอร์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่บาร์เชื่อฟัง ถ้าเดียร็อบเบอร์ไม่อยู่ที่นี่ เขาก็คงจะเริ่มต่อสู้กับหานเซิ่นไปแล้ว มันไม่ใช่เพราะว่าบาร์ไม่ชอบหานเซิ่น เขาก็แค่ชื่นชอบการต่อสู้กับคนที่เก่งกาจเท่านั้น

 

เดียร็อบเบอร์พยักหน้าและพูด “ใช่ พวกเราจำเป็นต้องพึ่งคนอย่างเขา”

 

เมื่อเห็นบาร์เงียบไป เดียร็อบเบอร์ก็ถอนหายใจออกมาและพูดต่อ
“พวกเราจำเป็นต้องพึ่งเขาก็เพราะเขาแข็งแกร่งกว่าพวกเรา สมาชิกระดับเทพเจ้าของเผ่าเราอาจจะแข็งแกร่งกว่าเขาก็จริง แต่เรื่องนั้นไม่ได้สำคัญอะไร เพราะพวกเขาเข้ามาในคอร์แอเรียไม่ได้”

 

“ถ้าพวกเขาเข้ามาไม่ได้ สมาชิกระดับเทพเจ้าของเผ่าอื่นๆก็เข้ามาไม่ได้เช่นกัน มันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร?” บาร์พูดอย่างไม่พอใจ

 

เดียร็อบเบอร์ยิ้มและพูด “มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่ถ้าพวกเราต้องการจะฆ่าคอร์ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าในคอร์แอเรีย พวกเราก็จำเป็นต้องพึ่งเขา เจ้าคิดว่าเดสทรอยเยอร์ระดับราชันจะหนีจากซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้อย่างที่ดอลลาร์ทำอย่างนั้นหรอ?”

 

“ถ้าพวกมันไม่มีอาณาเขตที่จำกัดพลัง ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าธรรมดาฆ่าข้าไม่ได้” บาร์พูด

 

“เจ้าเป็นเดสทรอยเยอร์ระดับราชันที่ดีที่สุดที่พวกเรามี แต่ลำพังแค่เจ้ากับข้าการล่าซีโน่เจเนอิคก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พวกเราอาจจะทำสำเร็จ แต่พวกเขาต้องสูญเสียอย่างมาก แต่ถ้าได้ด้วยความช่วยเหลือจากดอลลาร์ โอกาสสำเร็จของพวกเราก็จะสูงขึ้น และพวกเราก็ไม่ต้องสูญเสียมากนัก นั่นถือเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอ?” เดียร็อบเบอร์ถาม

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset