Super God Gene – ตอนที่ 2413

อาณาเขตภูเขาดูจะเป็นอะไรที่ไร้เทียมทาน แต่หานเซิ่นกำลังจะถึงขีดจำกัดแล้วในตอนนี้

 

อาณาเขตภูเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่มันมีขีดจำกัดพลังที่ชุดเกราะตงเสวียนจะรับได้ ตอนนี้พลังถูกถ่ายโอนเข้าไปในชุดเกราะมากจนชุดเกราะเริ่มจะส่งเสียงแตกร้าวออกมา

 

ชุดเกราะตงเสวียนยังเป็นแค่ระดับราชันขั้นแรกเท่านั้น ถึงแม้มันจะดีกว่าชุดเกราะอื่นๆในระดับเดียวกัน แต่ระดับของมันยังต่ำเกินไป ความจริงที่ว่ามันทนมาได้นานถึงขนาดนี้ก็เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากแล้ว

 

‘ถ้าชุดเกราะตงเสวียนถึงระดับราชันขั้นที่ 9 และรีเซ็ตได้เมื่อไหร่ การรวมกันระหว่างอาณาเขตภูเขาและชุดเกราะตงเสวียนก็จะทำให้เราเผชิญหน้ากับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าแบบซึ่งๆหน้าได้’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

ตูม!

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิด คอร์เตาหลอมก็เปิดออกเพื่อดูดซับพลังงานจักรวาลเข้าไปอีกครั้ง ไฟในเตาหลอมนั้นลุกโชติช่วงขึ้น

 

ตัวเตาหลอมเองก็ดูเหมือนจะกำลังเปลี่ยนแปลงภายใต้ความร้อนสูง ทองแดงกลายเป็นอะไรที่กึ่งโปร่งใส มันทั้งดูประหลาดและงดงามอย่างมาก

 

เมื่อดาบดูดซับพลังอาณาเขตชั้นที่ 5 เข้าไป พวกมันก็เริ่มเคลื่อนไหวราวกับว่าพวกมันมีจิตวิญญาณของตัวเอง และมันก็มีเงาที่อันตรายอยู่ด้านหลังของพวกมัน

 

“อาณาเขตเพลิงชั้นที่ 5 นี่มันใกล้เคียงกับพลังของโซ่สสาร คอร์เตาหลอมนี่ขี้โกงเกินไปแล้ว”
ดราก้อนและเดียร็อบเบอร์ตกตะลึง ร่างกายของพวกเขาสั่นด้วยความเกรงกลัว ถึงแม้จะมองจากระยะใกล แต่พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลของดาบแต่ละเล่ม

 

“บางทีหลังจากการต่อสู้นี้ คอร์เตาหลอมอาจจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า” ดราก้อนวันพึมพำ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เจ้าเตาหลอม

 

“ดอลลาร์จะทนรับมันได้ไหมนะ?” เดียร็อบเบอร์มองสายธารดาบที่ชี้ไปที่หานเซิ่น ชุดของเขาเริ่มจะเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

หานเซิ่นเห็นว่าดาบของเตาหลอมทั้งหมดกำลังเล็งมาที่เขา แต่เขาไม่หวาดกลัว เขาเอยชมพวกมันเบาๆ
“เป็นซีโน่เจเนอิคที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้ มันน่าเสียดายจริงๆ”

 

ขณะที่หานเซิ่นพูดกับตัวเอง เขาก็ยื่นมือของเขาออกไปข้างหน้า เหรียญๆหนึ่งปรากฏขึ้นระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วกลางของเขา

 

หานเซิ่นไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน พลังที่อาณาเขตภูเขาถ่ายโอนไปสู่ชุดเกราะตงเสวียนนั้นหนักอึ้งเกินไป แถมชุดเกราะตงเสวียนก็ถึงขีดจำกัดของมันแล้ว ถ้ามันดูดซับพลังไปมากกว่านี้ มันก็ต้องระเบิดอย่างแน่นอน

 

ดังนั้นหานเซิ่นจะต้องต่อสู้อย่างซึ่งๆหน้า เขาไม่มีทางเลือกอื่น

 

“เขาคิดจะต่อสู้กับมันตรงๆ?” เมื่อเห็นท่าทางของหานเซิ่น ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ก็รู้สึกแปลกใจ

 

ระดับราชั้นขั้นแรกกำลังจะต่อสู้กับเตาหลอมที่เกือบจะถึงระดับเทพเจ้า โอกาสตายนั้นสูงมากๆ

 

พวกเขาเห็นสถานการณ์ของหานเซิ่นและได้ยินเสียงแตกร้าวของชุดเกราะ มันเริ่มจะมีรอยร้าวปรากฏขึ้นมาให้เห็น ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันทนรับการโจมตีที่น่ากลัวแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว พวกเขาคิดว่าที่หานเซิ่นตัดสินใจต่อสู้ในตอนนี้ก็เพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่น

 

หานเซิ่นไม่เห็นด้วยในเรื่องนั้น กองทัพดาบของเตาหลอมนั้นน่ากลัวมากก็จริง แต่ในตอนนี้พลังอันสุดยอดของพวกมันได้สะสมอยู่ภายในชุดเกราะของเขาเช่นกัน และพวกมันก็เป็นสิ่งที่หานเซิ่นสามารถใช้งานได้

 

“เอาล่ะ! แสดงให้โลกนี้ได้เห็นถึงพลังของคอลเลคติ้งแท็กซ์!”
หานเซิ่นคำรามขณะที่ถือเหรียญเอาไว้แน่นระหว่างนิ้วมือของตัวเอง

 

เหรียญส่งเสียงดังขึ้นมาและตัวเลขบนเหรียญก็ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว

 

1 2 10 50

ตัวเลขบนเหรียญเบลอไป ขณะที่พวกมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันกองทัพดาบก็มารวมตัวกันและเตรียมตัวที่จะจู่โจมหานเซิ่น

 

เหรียญของหานเซิ่นมีความสามารถอยู่ 2 อย่าง เซฟวิ่งมันนี่กับคอลเลคติ้งแท็กซ์ เซฟวิ่งมันนี่นั้นจะสะสมพลังเพื่อใช้โจมตี ส่วนคอลเลคติ้งแท็กซ์นั้นมาจากจีโนคอร์ของหานเซิ่น มันเป็นความสามารถที่จะพึ่งพาพลังจากภายนอก

 

ภายในรัศมีของเหรียญ ทุกสิ่งมีชีวิตต้องเสียสละพลังของพวกมันมาเป็นเชื้อเพลิงให้กับเหรียญ ยิ่งพลังของสิ่งมีชีวิตรอบข้างแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ คอลเลคติ้งแท็กซ์ก็จะสะสมพลังได้มากเท่านั้น

 

ดาบทุกเล่มของเตาหลอมนั้นทรงพลังอย่างมาก พวกมันเทียบได้กับครึ่งเทพที่ใกล้จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว แถมพวกมันยังมีกันอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

 

ดาบทุกเล่มสูญเสียพลังบางส่วนของพวกมันไป และหานเซิ่นก็สะสมพลังของพวกมันเอาไว้ที่เหรียญ พลังมากมายมหาศาลมารวมกันอยู่ที่เหรียญในมือของหานเซิ่น พลังของเหรียญนั้นเพิ่มสูงขึ้นจนหานเซิ่นเกือบจะควบคุมมันไม่อยู่

 

เมื่อดาบนับไม่ถ้วนของเตาหลอมได้รับพลังเสริมของพวกมันแล้ว พวกมันก็เริ่มเคลื่อนไหว สายธารดาบดูเหมือนกับคลื่นสึนามิที่ซัดเข้ามาหาหานเซิ่น พลังของมันปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างราวกับว่าพวกมันกำลังจะฉีกอวกาศขาดเป็นเสี่ยงๆ

 

ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เริ่มถอยห่างออกไป กองทัพดาบนั้นน่าสะพรึงกลัวเกินไป หลังจากการโจมตีครั้งนี้ เตาหลอมตัวนั้นก็คงจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้สำเร็จ

 

ติ๊ง!

 

ในที่สุดหานเซิ่นก็ดีดเหรียญออกไปหาเจ้าเตาหลอม พลังของเหรียญนั้นเพิ่มสูงขึ้นจนหานเซิ่นควบคุมไม่ได้ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากดีดมันออกไป ซึ่งถ้าเขาไม่ทำแบบนั้น มันก็จะระเบิดในมือของเขา ขณะที่เหรียญถูกดีดออกไปตัวเลขบนเหรียญก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

เมื่อเทียบกับแสงของดาบแล้วแสงของเหรียญนั้นเล็กกระจิ๊ดริด แต่เมื่อดาบของเตาหลอมสัมผัสกับเหรียญ พวกมันก็ถูกทำลายในทันที พวกมันดูอ่อนแอยิ่งกว่าฟองสบู่ และแสงสีทองของเหรียญก็พุ่งต่อไปที่เตาหลอมทองแดง

 

ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ยังคงถอยห่างออกไป พวกเขาเห็นหานเซิ่นดีดเหรียญออกไป แต่เนื่องจากแสงสว่างของดาบ พวกเขาจึงไม่สามารถจับตามองแสงสีทองอันน้อยนิดของเหรียญได้

 

สายธารดาบที่น่ากลัวพุ่งเข้ามาหาร่างกายของหานเซิ่น ขณะที่เหรียญพุ่งไปปะทะกับเตาหลอมทองแดงและมีเสียงกรุบของโลหะดังขึ้นมา

 

เสียงนั้นไม่ได้ดังอะไร แต่มันกลับได้ยินอย่างชัดเจนท่ามกลางเสียงที่ดังกระหึ่มของกองทัพดาบ ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์หันกลับมามองและพวกเขาก็เหลือบไปเห็นเตาหลอมขนาดยักษ์

 

พวกเขาเห็นเหรียญไปถูกกับเตาหลอม และวินาทีต่อมาเหรียญก็ทะลุเข้าไปข้างในเตาหลอม

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset