Super God Gene – ตอนที่ 2415

คุณหญิงมิร์เรอร์นั่งอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ของเธอ เธอมองดูข้อมูลบนหน้าจอขณะที่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ที่อยู่บนหน้าจอเป็นข้อมูลของหานเซิ่น มันเป็นข้อมูลตั้งแต่ตอนที่ข่งเฟยประกาศสงครามกับเผ่าเฟเธอร์และจุดดวงไฟในจีโนฮอลล์ มันบอกข้อมูลทุกอย่างที่หานเซิ่นทำตั้งแต่ตอนนั้นจนมาถึงตอนที่เขาปลอมตัวเป็นไป๋อี้ ข้อมูลทั้งหมดถูกบันทึกอยู่ในเอกสารนี้

“เป็นผู้ชายที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้ บันทึกพวกนี้ทำให้ชีวิตของเขาดูเหมือนกับว่าเขากำลังเล่นเกมส์โดยการใช้สูตรโกง เขาทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากมาย และมันยากที่จะจินตนาการได้ว่าคริสตัลไลเซอร์ที่เหลือรอดคนหนึ่งจะเริ่มต้นจากไม่มีเลยจนประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้ยังไง”
ข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมมานั้นละเอียดมากๆ คุณหญิงมิร์เรอร์ต้องยอมรับว่าถ้าเธอตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับหานเซิ่น เธอไม่คิดว่าตัวเธอเองจะประสบความสำเร็จได้ถึงครึ่งของเขา

“น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่ไป๋อี้ตัวจริง ไม่อย่างนั้นด้วยความสามารถของเขา เขาจะกลายเป็นตำนานในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิง” คุณหญิงมิร์เรอร์ถอนหายใจ เธอปิดคอมพิวเตอร์และลูบขมับของตัวเอง

เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก คนที่มีแหวนมิร์เรอร์สปิริตอายคือคนที่ปลอมตัวเป็นองค์ชายคนหนึ่ง เธอไม่สามารถบอกมันกับราชาไป๋ได้ และเธอก็ไม่สามารถโกหกเขาได้เช่นกัน ราชาไป๋ไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกได้ง่ายๆ

“เรดิโอเวฟน่าจะกำลังสืบสวนหานเซิ่นอยู่ ถ้าพวกเขาสืบรู้ความลับของหานเซิ่นเข้าล่ะก็ สถานการณ์ก็อาจจะเลวร้ายสำหรับเรา และถ้าเราต้องมอบตัวหานเซิ่นให้กับราชาไป๋ แหวนมิร์เรอร์สปิริตอายก็คงจะรับความเสียหายอีกครั้งไม่ไหว” คุณหญิงมิร์เรอร์เริ่มจะรู้สึกปวดหัว

คุณหญิงมิร์เรอร์หลับตา แต่เธอไม่สามารถคิดหาทางออกได้

ลูกน้องคนหนึ่งของเธอมาเคาะประตู “คุณหญิงมิร์เรอร์ ตำแหน่งของโบราณสถานก็อตแบทเทิลที่ 7568 ถูกยืนยันเรียบร้อยแล้ว”

“เอาข้อมูลมาให้ข้า” คุณหญิงมิร์เรอร์กลับมานั่งตัวตรงและดูเหมือนกับคุณหญิงที่สง่างามอีกครั้ง

ลูกน้องคนนั้นเปิดประตูเข้ามาและวางเอกสารลงตรงหน้าเธอ คุณหญิงมิร์เรอร์ตรวจดูพวกมันอยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมา “เผ่าพันธุ์อื่นอีกเผ่าถูกค้นพบที่โบราณสถานที่ 7568 เนี่ยนะ?”

“ใช่แล้ว คุณหญิง คนของพวกเราพบร่องรอยการขุดและการก่อสร้างที่เพิ่งจะเริ่มต้นเมื่อไม่นานมานี้” ลูกน้องคนนั้นอธิบาย

“โอเค เจ้าไปได้แล้ว” คุณหญิงมิร์เรอร์วางเอกสารลงบนโต๊ะและหลับตาครุ่นคิด

หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็ลืมตาขึ้นมาและมองไปที่เอกสารบนโต๊ะอีกครั้ง หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มและพูด “โบราณสถานที่ 7568 ถ้านั่นคือโบราณสถานที่เราตามหาจริงๆ บางทีเราอาจจะโน้มน้าวราชาไป๋ และพาหานเซิ่นไปที่นั่นได้ นี่ถือเป็นโอกาสดี”

เป็นครั้งแรกที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับหานเซิ่น เขาให้เตาหลอมนำทางให้กับเขา และเขาก็เก็บสะสมคอร์ยีนซีโน่เจเนอิคได้เป็นจำนวนมาก ในตอนนี้เขาถืออยู่ 4 ยีน เขากินเข้าไป 2 ยีนและโยนอีก 2 ยีนที่เหลือให้กับเจ้าเตาหลอม

มันไม่ใช่เพราะว่าหานเซิ่นกินทิ้งกินขว้าง เขาแค่ไม่สามารถย่อยพวกมันได้อีกแล้ว ถึงแม้จะใช้วิชาคอนซูมช่วย เขาก็สามารถกินได้แค่ 2 คอร์ยีนต่อหนึ่งวันเท่านั้น ถ้าเขาต้องการจะเก็บยีนระดับราชันให้ครบหนึ่งร้อย มันก็ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือน

เนื่องจากเตาหลอมตัวน้อยนั้นรับใช้เขาเป็นอย่างดี หานเซิ่นจึงมอบคอร์ยีนซีโน่เจเนอิคให้กับมัน เจ้าเตาหลอมนั้นมักจะดีใจที่ได้รับคอร์ยีน

ดาบของเจ้าเตาหลอมนั้นจำเป็นต้องใช้คอร์ยีนซีโน่เจเนอิคในการสร้าง

‘ไม่แปลกใจเลยที่เตาหลอมตัวใหญ่นั้นแข็งแกร่งนัก ดาบทั้งหมดที่มันสร้างขึ้นมานั้นมาจากยีนของซีโน่เจเนอิคระดับราชัน ไม่อยากจะคิดเลยว่าคอร์ซีโน่เจเนอิคระดับราชันกี่ตัวกันที่มันฆ่าตายไป น่าเสียดายที่ยีนซีโน่เจเนอิคพวกนั้นถูกละลายภายในเตาหลอม และถ้าเตาหลอมถูกทำลาย ดาบที่ถูกสร้างขึ้นมาก็จะถูกทำลายไปด้วย ไม่อย่างนั้นเราก็คงจะมียีนซีโน่เจเนอิคมากพอที่จะใช้ไปชั่วชีวิต’ หานเซิ่นคิดอย่างเสียใจ

เตาหลอมตัวน้อยนั้นเชื่อฟังหานเซิ่นเป็นอย่างดี และเมื่อหานเซิ่นออกไปจากคอร์แอเรีย มันก็จะไม่ไปไหนไกล มันจะรอจนกว่าหานเซิ่นจะกลับเข้ามา

หลายวันหลังจากนั้นเจ้าเตาหลอมน้อยก็หลอมดาบขึ้นมาหลายเล่ม

หานเซิ่นคิดว่าช่วงเวลาที่ผ่อนคลายนี้จะดำเนินต่อไปอีกสักพัก แต่เมื่อคุณหญิงมิร์เรอร์ปรากฏตัวขึ้น เธอก็ทำลายช่วงเวลาที่ผ่อนคลายของเขาในทันที

“เก็บข้าวของให้เรียบร้อย เจ้ามีภารกิจที่ต้องไปทำ” คุณหญิงมิร์เรอร์พูดก่อนที่จะจิบน้ำชา

“ภารกิจอะไรอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามด้วยความกังวล คุณหญิงมิร์เรอร์สั่งให้เขาเก็บข้าวของ นั่นหมายความว่าเขาต้องเดินทางออกจากอาณาจักรกษัตริย์

“นี่คือคำสั่งโดยตรงของราชาไป๋ เจ้ามีปัญหาอย่างนั้นหรอ?” คุณหญิงมิร์เรอร์ถามพร้อมกับวางเอกสารลงบนโต๊ะ

“ข้าจะพาคนของข้าไปได้ไหม?” หานเซิ่นถาม

“เจ้าจะพาคนอื่นไปด้วยก็ได้ แต่เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการจะพาพวกเขาไปในสถานที่ที่อันตรายน่ะ?” คุณหญิงมิร์เรอร์ดูเหมือนกับว่าเธอกำลังยิ้มอยู่ แต่มันไม่ใช่

หานเซิ่นรู้ว่าคุณหญิงมิร์เรอร์กำลังเตือนเขาว่าอย่าได้พยายามคิดจะหนีไป เขาจะไม่มีโอกาสทำอะไรแบบนั้นได้

“ถ้าเป็นไปได้ ข้าก็อยากจะพาเป่าเอ๋อไปด้วย” หานเซิ่นพูดและแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเธอจะบอกอะไร

“แน่นอน แต่ข้าเตือนเจ้าแล้ว ที่ที่พวกเราจะไปนั้นเต็มไปด้วยอันตราย ถ้ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เจ้าจะมาโทษว่าข้าไม่เตือนไม่ได้” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด

“ข้าจะรับผิดชอบกับการตัดสินใจนี้เอง” หานเซิ่นพูด

“ดี ไปเตรียมตัวให้พร้อม พวกเราจะออกเดินทางกันคืนนี้” หลังจากพูดจบคุณหญิงมิร์เรอร์ก็จากไป

หานเซิ่นเรียกเป่าเอ๋อมาหา เขาทิ้งกิเลนโลหิตเอาไว้ที่เมืองใต้น้ำเพื่อคอยจับตามองหลันไห่ซินเผื่อในกรณีที่เธอจะสร้างปัญหาอะไร

หานเซิ่นไม่ยังคิดจะหนีไป เอ็กซ์ตรีมคิงนั้นทรงอำนาจเกินไป นอกซะจากเขาจะมีแผนที่ดีพอ เขาจะไม่หนีไป เขาไม่สามารถกลับไปที่ดาวอุปราคาได้เช่นกัน เขาไม่อยากจะลากอี๋ซาเข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหานี้

ที่หานเซิ่นอยากจะพาเป่าเอ๋อไปด้วยนั่นก็เพราะเขารู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะทิ้งเธอเอาไว้ตามลำพัง แถมเขาก็เคยชินกับการมีเป่าเอ๋อติดไปไหนมาไหนด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเดินทางตามลำพัง เขาก็มักจะรู้สึกว่าขาดบางสิ่งไป

หานเซิ่นบอกให้กิเลนโลหิตคอยจับตาดูหลันไห่ซินเอาไว้ ลิลลี่ขอให้หานเซิ่นพาเธอไปด้วย แต่เขาปฏิเสธ

คุณหญิงมิร์เรอร์บอกว่าที่ที่พวกเขาจะไปนั้นเป็นสถานที่ที่อันตราย หานเซิ่นไม่คิดว่าเธอพูดแบบนั้นเพียงเพราะต้องการจะขู่ให้เขากลัว ลิลลี่เป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง เธอไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ และการพาเธองไปด้วยนั้นก็เหมือนกับการพาเธอไปตาย

หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อไปที่จุดนัดพบ สมาชิกหลายคนของสปริงเรนนั้นจะร่วมเดินทางไปด้วย มันมียอดฝีมือระดับราชันและครึ่งเทพหลายคนมารวมตัวกันอยู่ที่จุดนัดพบก่อนแล้ว หานเซิ่นยังเห็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้าถึง 2 คนอยู่ในกลุ่มพวกเขาด้วย

“พวกเขาจะกำลังไปที่ไหนกันแน่?” หานเซิ่นรู้สึกสงสัย คนที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่นั้นมีกำลังต่อสู้มากพอที่จะทำลายล้างเผ่าพันธุ์ชั้นสูงได้อย่างสบายๆ

เมื่อยานอวกาศเริ่มออกเดินทาง คุณหญิงมิร์เรอร์ก็ไม่ได้เรียกตัวเขาไปพบ หานเซิ่นมีเวลาว่างบนยานอวกาศ ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาไปกับการฝึกฝนและกินยีนระดับราชันที่เก็บสะสมมา

หานเซิ่นเริ่มพยายามจะหมุนฟันเฟืองจักรวาลของวิชากายหยก เขาอยากจะพัฒนากายหยกไปสู่ระดับราชัน ซึ่งการทำแบบนั้นเป็นอะไรที่ง่ายกว่าการเลื่อนศาสตร์ตงเสวียนไปสู่ระดับราชันมาก มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

ยานอวกาศทำการเทเลพอร์ตอยู่หลายครั้ง เมื่อยานอวกาศของพวกเขาเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง หานเซิ่นก็รู้สึกแปลกใจ เนื่องจากเขารู้จักที่แห่งนั้น

“ที่นี่คือซีโน่เจเนอิคสเปชที่หนิงเยวี่ยพูดถึงอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset