Super God Gene – ตอนที่ 2432

ไนท์วินด์เดินมาถึงตรงหน้าคุณหญิงมิร์เรอร์และชูดาบให้เธอดูด้วย 2 มือ

 

“ดาบมันหักอย่างนั้นหรอ?” คุณหญิงมิร์เรอร์ถามขณะที่มองไปที่ไนท์วินด์ตรงๆ เธอไม่ได้ยื่นมือออกไปสัมผัสดาบ

 

มันดูเหมือนเป็นคำถามที่ไร้ประโยชน์ แต่มันมีความหมายที่ลึกกว่าแฝงอยู่ในคำถาม

 

ไนท์วินด์รู้ว่าเธอต้องการจะถามอะไร เขาจึงตอบในทันที

“ในตอนที่ข้าดึงมันออกมา ดาบก็หักเรียบร้อยแล้ว และข้าก็หาชิ้นส่วนใบมีดอื่นไม่ได้เช่นกัน แต่ข้าได้ลองทดสอบส่วนที่เหลือของดาบนี่ดูแล้ว และถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าระดับของมันคืออะไรกันแน่ แต่มันก็ตัดหินได้อย่างง่ายดายราวกับเนย”

 

หานเซิ่นเข้าใจ ไนท์วินด์ตอบ 3 คำถามของคุณหญิงมิร์เรอร์ เขาบอกว่าเขาไม่ใช่คนที่ทำให้ดาบหัก และดาบนั้นไม่ได้หักเมื่อเร็วๆนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพลังของดาบก็ยังคง

 

“เจ้าลองดูว่าจะใช้มันเพื่อขยายรูของต้นไม้ได้ไหม” คุณหญิงมิร์เรอร์สั่งไนท์วินด์ ขณะที่เธอยังคงไม่สัมผัสดาบด้วยตัวเอง

 

หานเซิ่นรู้ว่าทำไมคุณหญิงมิร์เรอร์ไม่คิดจะรับดาบไป เธอยังคงไม่รู้ว่าไนท์วินด์จะทรยศเธอหรือไม่ ถ้าเขามีเจตนาที่จะทรยศจริงๆล่ะก็ เขาก็จะเผยมันออกมาและฆ่าคุณหญิงมิร์เรอร์ในทันทีที่เธอรับดาบไป

 

คุณหญิงมิร์เรอร์ยังไม่คิดจะเผชิญหน้ากับไนท์วินด์ในตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่อยากจะสัมผัสดาบ ก่อนอื่นเธอต้องการจะดูก่อนว่าไนท์วินด์สามารถตัดรูของต้นไม้ให้เปิดออกได้หรือเปล่า

 

ถ้าเขาไม่สามารถขยายรูให้กว้างขึ้นได้ แบบนั้นไข่ต้นเรเควี่ยมก็เป็นอะไรที่พวกเขาเอื้อมไม่ถึง ในกรณีนั้นมันก็ไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาต้องฆ่าฟันกันเอง พวกเขาสามารถร่วมมือกันต่อเพื่อหาวิธีลบล้างพลังที่เปลี่ยนดวงตาของพวกเขาเป็นสีแดงได้

 

ไนท์วินด์คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี่ ดังนั้นคุณหญิงมิร์เรอร์จึงยังจำเป็นต้องใช้ความช่วยเหลือของเขา

 

“ทราบแล้ว” ไนท์วินด์บินขึ้นไปหารูของต้นไม้ เขายกดาบใหญ่ขึ้นและฟันไปใส่รู

 

ในตอนที่ไนท์วินด์ใช้โซ่สสารแห่งความมืดฟันใส่รูของต้นไม้ ความมืดนั้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

 

แต่เมื่อใบมีดของดาบที่หักฟันถูกรูของต้นไม้ เปลือกไม้ส่วนหนึ่งก็ถูกฉีกขาดเป็นรอยดาบลึกแคบๆ

 

“มันได้ผล!” ไนท์วินด์รู้สึกตื่นเต้น เขาดึงดาบกลับมา หลังจากนั้นเขาก็ฟันใส่รูของต้นไม้อีกครั้ง เศษไม้ถูกตัดออกทีละนิดและรูขนาดเท่ากำปั้นก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

 

หานเซิ่นและคุณหญิงมิณืเรอร์เพียงแค่ยืนมองดูใต้ต้นไม้ ถึงแม้ดาบหักนั้นจะตัดเปลือกของต้นไม้ได้ เปลือกของต้นไม้ก็ยังแข็งมากอยู่ดี ในการฟันแต่ละครั้ง ไนท์วินด์สามารถตัดไม้ออกไปได้เพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น

 

หลังจากที่ฟันใส่ต้นไม้อยู่ครึ่งชั่วโมง รูก็ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดพอๆกับกระทะ แต่นั่นก็ยังไม่พอที่จะนำไข่ต้นเรเควี่ยมออกมา

 

“พวกเราเกือบจะทำสำเร็จแล้ว ลองดึงไข่ออกมาเพื่อจะยืนยันได้ว่ามันเป็นของจริง” คุณหญิงมิร์เรอร์พูดจากด้านล่าง

 

ไนท์วินด์เก็บดาบใหญ่ไว้บนหลังและยื่นมือเข้าไปข้างในรู หลังจากนั้นเขาก็ดึงไข่ออกมาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่มีเพียงแค่ส่วนหนึ่งของไข่เท่านั้นที่ปรากฏออกมา รูนั้นยังมีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะดึงไข่ออกมาทั้งหมดได้

 

จากส่วนที่ถูกแสดงออกมา ไข่เรเควี่ยมนั้นดูโปร่งใส มันดูเหมือนกับอำพันที่แต่งแต้มด้วยสีเหลืองทอง มันดูงดงามและมอบกลิ่นหอมที่ปลุกประสาทสัมผัสของหานเซิ่นราวกับว่าร่างกายของเขากำลังถูกชำละล้างด้วยน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์

 

“มันคือไข่ต้นเรเควี่ยม!” ไนท์วินด์พูดด้วยรอยยิ้ม

 

คุณหญิงมิร์เรอร์ดูตกตะลึงเช่นเดียวกัน หานเซิ่นไม่เคยเห็นไข่ต้นเรเควี่ยมมาก่อน ดังนั้นเขาไม่รู้ว่ามันมีลักษณะเป็นอย่างไร แต่คริสตัลสีทองนั้นไม่ว่าจะดูยังไง มันก็ดูเป็นของดีอย่างเห็นได้ชัด

 

เมื่อพวกเขายืนยันถึงสิ่งที่อยู่ในต้นไม้ได้แล้ว ไนท์วินด์ก็ปล่อยไข่กลับเข้าไปในรูและเริ่มฟันใส่ต้นไม้ด้วยดาบหักต่อ เศษไม้กระเด็นออกไปทุกหนทุกแห่ง ขณะที่รูขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

 

หานเซิ่นและคุณหญิงมิร์เรอร์มองหน้ากัน พวกเขามองเห็นความละโมบในดวงตาของไนท์วินด์

 

ไข่ต้นเรเควี่ยมที่ใหญ่ขนาดนั้นเป็นสมบัติที่หายากที่สุด ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการมันไปเป็นของตัวเอง แต่ไนท์วินด์นั้นแข็งแกร่งเกินไป หานเซิ่นกับคุณหญิงมิร์เรอร์ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าไนท์วินด์จะทรยศพวกเขาหรือไม่

 

แถมไม่เพียงแค่เป็นระดับเทพเจ้าเท่านั้น ในตอนนี้เขายังมีดาบหักที่ทรงพลังอีก ถ้าไนท์วินด์ตัดสินใจทรยศพวกเขา หานเซิ่นและคุณหญิงมิร์เรอร์ก็จะตกอยู่ในอันตราย

 

หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง รูของต้นไม้ก็กว้างประมานหนึ่งเมตร ตอนนี้มันดูเหมือนกับว่าพวกเขาสามารถดึงไข่ออกมาจากต้นไม้ได้แล้ว

 

ไนท์วินด์เก็บดาบเอาไว้ด้านหลังและเอนตัวเข้าไปในรูที่ขยายใหญ่แล้วเพื่อใช้ 2 มือดึงไข่ออกมา

 

ไนท์วินด์นั้นค่อยๆดึงไข่ออกมาอย่างระมัดระวัง แต่หลังจากที่ดึงไข่ต้นเรเควี่ยมออกมาได้เพียงแค่เล็กน้อย พวกเขาทั้ง 3 คนก็ต้องเบิกตากว้าง แต่พวกเขาไม่ได้จ้องไปที่ตัวไข่ สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจคือสิ่งที่อยู่ข้างในเปลือกนอกของไข่ที่โปร่งใส

 

ภายในส่วนของไข่ทองที่ยื่นออกมา พวกเขามองเห็นหัว มันเป็นหัวของสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับมนุษย์หรือเอ็กซ์ตรีมคิง

 

หัวนั้นดูเหมือนจะเป็นของเด็กสาวที่อายุประมาท 15-18 ปี ดวงตาของเธอปิดอยู่และผมของเธอเป็นสีทอง พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่านั่นเป็นเพราะสีทองของไข่ที่โปร่งใสหรือนั่นเป็นสีผมธรรมชาติของเธอ

 

ในท่วงท่าที่สงบเงียบตอนนี้เธอดูเหมือนกับเจ้าหญิงนิทราในเทพนิยาย

 

“ทำไมไข่ต้นเรเควี่ยมถึงได้มีสิ่งมีชีวิตอยู่ภายในได้?” ไนท์วินด์ถามขณะที่มองไปที่ไข่ด้วยความสับสน

 

คุณหญิงมิร์เรอร์ส่ายหัวและพูด “ข้าไม่รู้ ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับไข่ต้นเรเควี่ยมยักษ์แบบนี้มาก่อน และข้าก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับการที่มันมีสิ่งมีชีวิตอยู่ภายใน”

 

“หรือว่าต้นเรเควี่ยมเป็นซีโน่เจเนอิค? ต้นเรเควี่ยมให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอย่างไม่แน่ใจ

 

“บางทีนางอาจจะเข้าไปและตายในรูของต้นไม้ด้วยความบังเอิญ หลังจากนั้นร่างกายของนางก็ถูกห่อหุ้มด้วยยางของต้นไม้ บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้นางตกอยู่ในสภาพแบบนี้” ไนท์วินด์พึมพำกับตัวเอง

 

ทันใดนั้นดวงตาของหานเซิ่นก็เบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม เขากัดฟันและพูดขึ้นมา

“ตอนนี้พวกเรามีคนเพิ่มอีกคน!”

 

เมื่อไนท์วินด์และคุณหญิงมิร์เรอร์ได้ยินอย่างนั้น พวกเขาก็ขมวดคิ้ว คำทำนายของรูปภาพทั้ง 6 เผยให้เห็นบุคคลไร้ใบหน้าทั้ง 4 คน พวกเขาคิดว่าการกำจัดคนงานระดับดยุกไปจะทำให้คำนายไม่เป็นความจริง

 

แต่ตอนนี้ภายในไข่ต้นเรเควี่ยมนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนมนุษย์อยู่ภายใน ซึ่งนั่นทำให้จำนวนของพวกเขากลับมาเป็น 4 คนอีกครั้ง

 

พวกเขามองหน้ากันอย่างเป็นกังวล ไนท์วินด์กัดฟันและต้องการจะดันไข่ต้นเรเควี่ยมกลับเข้าไปในรู

 

แต่ทันใดนั้นไข่ต้นเรเควี่ยมก็เรืองแสงสีทองออกมา มีพลังบางอย่างซัดไนท์วินด์กระเด็นออกไปจากไข่ และไข่ก็พุ่งออกมาจากรูของต้นไม้ราวกับกระสุน

 

ตอนนี้พวกเขาเห็นรูปลักษณ์ของไข่ต้นเรเควี่ยมได้ทั้งหมด และมันก็เป็นอย่างที่คุณหญิงมิร์เรอร์พูดเอาไว้ ไข่นั้นยาว 2 เมตรและกว้างหนึ่งเมตร มันดูเหมือนกับไข่อำพันขนาดใหญ่

 

เด็กสาวอายุประมาท 15 ปีที่เปื่อยเปล่านั้นนอนอยู่ภายในไข่ต้นเรเควี่ยม ภายใต้เส้นผมสีทองที่ทอดยาวมาถึงไล่ พวกเขาเห็นรอยสักที่ปกคลุมทั้งหลังของเธอ

 

“แมวเก้าชีวิต!” หานเซิ่นรู้ได้ทันทีเมื่อเขาเห็นรอยสักนั้น

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset