Super God Gene – ตอนที่ 2444

“เท่าที่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงรู้ ข้าพาเจ้ามาที่นี่ก็เพื่อขุดหาโบราณสถานก็อตแบทเทิล ด้วยการทำอย่างนั้นข้าต้องการให้เจ้าหายตัวไปจากสายตาของราชวงศ์ของเอ็กซ์ตรีมคิง”
คุณหญิงมิร์เรอร์พูดอย่างสงบนิ่ง เธอเอนตัวลงบนเตียงที่พวกเขาจัดไว้ให้และพูดต่อ “ถึงเจ้าจะปลอมตัวเป็นองค์ชายสิบหกมาได้เป็นเวลานาน แต่ตอนนี้คนของข้าทั้งหมดถูกฆ่าตายและเจ้ารอดชีวิตมาได้ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะแฝงตัวเป็นองค์ชายได้อีกแล้ว ราชาไป๋จะสืบสวนเจ้าและเจ้าจะไม่มีที่ไหนให้หนีไปได้ หนทางเดียวที่เจ้าจะมีชีวิตรอดต่อไปได้ก็คือการถวายตัว เข้าไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อถวายตัวเป็นสาวก เมื่อเจ้าได้รับพรของเอ็กซ์ตรีมคิงแล้ว ความอยู่รอดของเจ้าก็จะถูกรับประกัน”

 

“ข้าต้องไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์? นั่นหมายความว่ายังไงกัน?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว

 

“วิหารศักดิ์สิทธิ์คือสถานที่ที่เอ็กซ์ตรีมคิงทำการถวายตัวเองต่อเทพของพวกเขา ทุกรุ่นจะต้องมีระดับราชันคนหนึ่งถวายตัว พวกเขาจะถวายตัวเองต่อเทพและกลายเป็นสาวก พวกเขาจะรับใช้เทพภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ไปตลอดการ”

 

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ คุณหญิงมิร์เรอร์ก็พูดต่อ “มีแค่คนที่มีเลือดของเอ็กซ์ตรีมคิงเท่านั้นที่จะรับพรของเทพได้ ด้วยเหตุนั้นคริสตัลไลเซอร์คนหนึ่งไม่ควรจะกลายเป็นสาวกได้ แต่ถ้าเจ้ากลายเป็นสาวก นั่นก็จะพิสูจน์ว่าเจ้าเป็นองค์ชายสิบหกจริงๆ เมื่อถึงตอนนั้นมันก็จะไม่มีใครเปิดโปงคำโกหกของเจ้าได้อีก ถึงแม้คนอื่นจะยังสงสัย แม้แต่ราชาไป๋เองก็ทำอะไรตามใจชอบไม่ได้ มันจะไม่มีใครกล้ามาสืบสวนเจ้า”

 

“นั่นเท่ากับว่าข้าถูกตัดสินให้ติดคุกตลอดชีวิตน่ะสิ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว

 

“เจ้าชอบแบบไหนมากกว่าระหว่างการถูกกักขังหรือการถูกฆ่า? ถึงแม้เจ้าจะหนีไปในตอนนี้ เจ้าก็ไปที่ไหนได้? เจ้าคิดจริงๆหรือว่าอี๋ซาหรือข่งเฟยจะปกป้องเจ้าได้? ข้าขอบอกเจ้าเอาไว้เลยว่าถึงจักรวาลนี้จะกว้างใหญ่ แต่ถ้าเรื่องที่เจ้าฆ่าองค์ชายสิบหกถูกเปิดเผยขึ้นมา มันก็ไม่มีที่ไหนให้เจ้าหนีจากเอ็กซ์ตรีมคิงได้ เพื่อจะอยู่รอด เจ้าต้องแข็งแกร่งกว่าเหล่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิง และข้าจะเป็นหนึ่งในพวกเขาด้วย” คุณหญิงมิร์เรอร์พูดอย่างไร้ความรู้สึก

 

“ถึงแม้ข้าต้องการจะไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ของเอ็กซ์ตรีมคิง ข้าก็ไม่มีเลือดของเอ็กซ์ตรีมคิงอยู่ดี แบบนั้นข้าจะได้รับการยอบรับจากเทพได้ยังไง?” หานเซิ่นพูด

 

“ด้วยการช่วยเหลือของแหวนมิร์เรอร์สปิริตอาย แถมเจ้ายังมีร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ของไป๋อี้อีก การจะได้รับการยอมรับจากเทพควรจะไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป”
คุณหญิงมิร์เรอร์หยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ “นอกจากนั้นการไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เหมือนการถูกส่งไปขังคุกซะทีเดียว ถึงแม้เจ้าจะออกจากวิหารไม่ได้ แต่เจ้าก็ยังเข้าไปในคอร์แอเรียได้ ด้วยทรัพยากรในคอร์แอเรีย เจ้าจะกลายเป็นระดับครึ่งเทพได้อย่างแน่นอน”

 

หลังจากนั้นคุณหญิงมิร์เรอร์ดูลังเล เธอพูดต่อ “นอกจากนี้การเป็นสาวกยังมีผลประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง ถึงแม้เจ้าจะออกจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ เจ้าก็มีโอกาสที่จะได้อาบแสงแห่งเทพของวิหาร ยีนของเจ้าจะพัฒนาและมันจะเป็นอะไรที่ง่ายขึ้นที่เจ้าจะเลื่อนสู่ระดับเทพเจ้า”

 

“นี่เป็นหนทางเดียวอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามเบาๆ

 

“ใช่ นอกซะจากเจ้าต้องการจะถูกประกาศจับไปทั่วจักรวาลโดยเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง นี่เป็นเพียงตัวเลือกเดียวของเจ้า เมื่อเจ้ากลายเป็นสาวกแล้ว ราชวงศ์คนอื่นจะไม่เป็นปรปักษ์กับเจ้า เจ้าจะมีปัญหาน้อยลงไป” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด

 

“ถ้าข้าเข้าไปในวิหารนั่น แล้วพวกนางล่ะจะทำยังไง?” หานเซิ่นชี้ไปที่เป่าเอ๋อและหว่านเอ๋อที่หมดสติอยู่ไม่ไกลออกไป

วิหารศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้าไปก็ได้ แม้แต่คนของราชวงศ์ก็ยังจำเป็นต้องได้รับสิทธิ์ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นสาวกได้ ข้าจะช่วยขอสิทธิ์ในการเข้าไปในวิหารศักดิ์สิทธิ์ให้กับเจ้า ส่วนพวกนางต้องอยู่บนดาววอเทอร์โซน”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ คุณหญิงมิร์เรอร์ก็พูดต่อ “มันจะเป็นการดีที่สุด ถ้าพวกนางหายตัวไป ไม่อย่างนั้นพวกนางก็อาจจะต้องเผชิญกับการสืบสวนของราชาไป๋ ความจริงจะถูกเปิดเผยผ่านพวกนาง แน่นอนว่าถ้าเจ้ายืนกรานที่จะให้พวกนางอยู่ต่อ ข้าก็จะคิดหาวิธีช่วยเหลือพวกนาง”

 

เมื่อหานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็ขมวดคิ้ว เป่าเอ๋อและหนิงเยวี่ยสามารถถูกส่งกลับไปที่ดาวอุปราคาได้ เพราะยังไงซะพวกเธอก็มีนกแดงน้อยคอยปกป้องอยู่ แต่หว่านเอ๋อไม่สามารถออกห่างจากหานเซิ่นได้ ไม่อย่างนั้นผมและดวงตาของเธอก็กลายเป็นสีทองอีกครั้ง

 

ในตอนนี้พลังชีวิตของหว่านเอ๋อนั้นอ่อนมากๆ ถ้าเธอใช้พลังสีทองนั่นอีกครั้ง เธอก็คงจะต้องตาย หานเซิ่นต้องการถามหลายๆเรื่องกับเธอ ดังนั้นเขาจำเป็นต้องรักษาชีวิตเธอเอาไว้จนกระทั่งเขาจะสามารถพูดคุยกับเธอได้

 

“ให้ข้าได้ลองคิดดูสักหน่อย” หานเซิ่นรู้ว่าคุณหญิงมิร์เรอร์พยายามจะโน้มน้าวเขาต่อไป ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นมา
“ท่านคิดว่ารูปปั้นพันมือพันตาในเมืองดูก็อตและฉากกั้นที่ทำนายอนาคตจะเกี่ยวข้องกับก้อนหินก้อนแรกที่พวกเราขุดมาได้หรือเปล่า?”

 

หานเซิ่นได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับชายผมขาวจากเป่าเอ๋อเรียบร้อยแล้ว แต่เป่าเอ๋อบอกว่าเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่

 

“ข้าไม่รู้ ทุกอย่างในเมืองดูก็อตเป็นความลับและทุกอย่างที่พวกเราหาเจอก็ดูเหมือนจะโยงกลับไปถึงตำนานที่เล่าต่อกันมา ราชาไป๋คงจะต้องส่งคนมาที่นี่เพื่อสำรวจต่อไป ข้าเชื่อว่าคำตอบจะปรากฏออกมาสักวันหนึ่ง” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด

 

หานเซิ่นเงียบไป ในฐานะราชันคนหนึ่ง เขายังคงอ่อนแอเกินไป ถ้าเขากลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว แบบนั้นเขาก็จะมีคุณสมบัติพอที่จะสำรวจเมืองดูก็อตอย่างเต็มที่ มันเป็นสถานที่ที่น่ากลัวอย่างมาก และเขาก็อ่อนแอเกินกว่าจะกลับไปที่นั่นในสภาพนี้

 

“รีบตัดสินใจ เจ้าเหลือเวลาไม่มากแล้ว” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด หลังจากนั้นเธอก็หยุดพูดไป

 

ที่เธอพยายามโน้มน้าวหานเซิ่นไม่ได้เป็นเพราะว่าเขามีแหวนมิร์เรอร์สปิริตอาย แต่เป็นเพราะว่าเขาเลือกที่จะไว้ชีวิตเธอ หลังจากการต่อสู้กันภายในเมืองดูก็อต เขามีโอกาสที่จะฆ่าเธอ แต่เขาเลือกที่จะแสดงความเมตตากับเธอ นอกจากนั้นเขายังช่วยเธอจากเรดคลาวด์อีกด้วย ไม่อย่างนั้นล่ะก็เธอก็ไม่มีทางทำทั้งหมดนี่เพื่อหานเซิ่น

 

การช่วยหานเซิ่นเข้าไปในวิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสาวกคนหนึ่งนั้นถือเป็นอะไรที่ผิดกฎของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แถมเธอยังเป็นผู้สืบสวนที่ราชาไป๋เลือกมาโดยเฉพาะเพื่อให้ตรวจสอบหานเซิ่น

 

หานเซิ่นเดินไปหาหว่านเอ๋อและมองไปที่เด็กสาวอย่างครุ่นคิดว่าควรจะทำยังไงกับเธอดี

การไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์นั้นถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดอย่างเห็นได้ชัด แต่นั่นหมายความว่าเขาต้องยอมปล่อยความลับของหว่านเอ๋อให้หลุดมือไป

 

หานเซิ่นไม่กล้าใช้พลังเพื่อปลุกเธอให้ตื่น พลังชีวิตของหว่านเอ๋อในตอนนี้นั้นอ่อนแอเกินไป และหานเซิ่นไม่ต้องการจะเผลอฆ่าเธอโดยไม่ได้เจตนา

 

‘นี่มันน่าปวดหัวจริงๆ ถ้าเราไม่เข้าไปในวิหารศักดิ์สิทธิ์ เราก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุน มันไม่ใช่แค่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเท่านั้นที่จะตามล่าเรา เผ่าพันธุ์อื่นที่อยู่ภายใต้อาณานิคมของเอ็กซ์ตรีมคิงก็คงจะตามล่าเราเช่นกัน การหนีเอาตัวรอดจากอิทธิพลของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นเป็นอะไรที่ยากมากๆ’ หานเซิ่นคิดพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

ถ้าหานเซิ่นหนีไป มันก็จะไม่ได้ส่งผลต่อเขาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น มันจะส่งผลต่อชีวิตพวกพ้องของเขาบนดาวอุปราคา หรือแม้แต่อี๋ซาเองก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย

 

“ถ้าข้าหนีไป ท่านจะช่วยเหลือข้าไหม?” หานเซิ่นมองไปที่คุณหญิงมิร์เรอร์

 

“ข้าเป็นคนของเอ็กซ์ตรีมคิง” คุณหญิงมิร์เรอร์พูดอย่างเย็นชา

 

หานเซิ่นหัวเราะและถามต่อ “ถ้าข้าจากไปในตอนนี้ มันจะส่งผลกระทบต่ออี๋ซาไหม?”

 

“นั่นเป็นคำถามที่เจ้าควรจะไปถามอี๋ซาเอง มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนาง” คุณหญิงมิร์เรอร์ตอบ ดูเหมือนเธอรู้ว่าหานเซิ่นจะตัดสินใจเลือกทางไหน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset