Super God Gene – ตอนที่ 2460

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มและพูดขึ้นมา “การมียีนขั้นสุดยอดนั้นหมายความว่าคนๆนั้นจะฆ่าเหล่าคนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าได้”

 

“ทำไมพวกเจ้าถึงพยายามทำอะไรแบบนั้น?”

หานเซิ่นตกใจ เขารู้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นน่ากลัวขนาดไหน โชคดีที่พวกเขาไม่สามารถโจมตีสิ่งมีชีวิตของจักรวาลจีโนโดยตรงได้ พลังของพวกเขาเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตไหนๆในจักรวาลจีโน แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถเทียบชั้นกับพวกเขาได้

 

ผู้หญิงคนนี้และผู้นำเซเคร็ดต้องการจะฆ่าเหล่าคนที่กล่าวอ้างตัวว่าเป็นพระเจ้า ซึ่งหานเซิ่นเองก็มีความปรารถนาเดียวกันกับพวกเขา แต่ในตอนนี้เขายังไม่แข็งแกร่งพอ หานเซิ่นไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะโค้นล้มสิ่งมีชีวิตที่กล่าวอ้างตัวว่าเป็นพระเจ้านี้ได้ยังไง

 

เพราะแบบนั้นหานเซิ่นจึงยังไม่มีแผนจะฆ่าสิ่งมีชีวิตที่กล่าวอ้างตัวว่าเป็นพระเจ้า ในตอนที่เขาเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตาของเอ็กซ์ตรีมคิง ถ้าไม่ใช่เพราะเกราะคริสตัลสีดำช่วยเหลือเขาล่ะก็ เขาก็ไม่มีทางเอาชนะสิ่งนั้นได้

 

หานเซิ่นไม่สามารถจินตนาการได้ว่ามันจะน่ากลัวขนาดไหน ถ้าเขาต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่กล่าวอ้างตัวว่าพระเจ้านั่นจริงๆ

 

“ข้าไม่รู้ว่าทำไมผู้นำเซเคร็ดถึงได้ไล่ตามเป้าหมายนี้ แต่ข้ามีเหตุผลของตัวเอง”

มันเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ต้องการจะบอกเหตุผลของตัวเองกับคนอื่น

 

“การมียีนขั้นสุดยอดจะทำให้คนๆหนึ่งฆ่าพระเจ้าเหล่านั้นได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

“ใช่ ตามการวิจัยของข้ามันจะทำให้คนๆหนึ่งฆ่าพระเจ้าได้” ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าและพูดอย่างมั่นใจ

 

แต่หลังจากนั้นเธอก็ส่ายหัวและยิ้มแห้งๆออกมา “แต่การวิจัยของพวกเรายังคงล้มเหลว พวกเราค้นพบวิธีการที่จะเปลี่ยนร่างกายไปสู่ยีนขั้นสุดยอด แต่มันไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนในจักรวาลนี้ที่จะใช้วิธีการนั้นได้ มันเหมือนกับว่าพวกเราถือเทียบไขเล่มหนึ่งที่พวกเรารู้ว่าจะจุดมันได้ แต่พวกเราไม่มีไม้ขีดสักไม้ที่จะใช้ทำแบบนั้น พวกเรากำลังจะปัดเป่าความมืดออกไป แต่พวกเราทำไม่ได้ นั่นคือปัญหาที่พวกเราเผชิญ เรื่องราวของยีนดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคที่เราก้าวข้ามไม่ได้ มันทำให้ความพยายามทั้งหมดของพวกเราดูเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์”

 

“เรื่องราวของยีนนั่นฝึกได้ยากขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรอ? นี่มันไม่มีใครในจักรวาลที่จะฝึกมันได้เลยหรือยังไง?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน เพราะยังไงซะเขาก็เรียนรู้เรื่องราวของยีนสำเร็จเรียบร้อยแล้ว

 

ผู้หญิงคนนั้นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “ปัญหานี้เป็นอะไรที่ซับซ้อนมากๆ และการอธิบายมันทั้งหมดก็เป็นอะไรที่ใช้เวลา ข้าจะใช้การอุปมาแทน ม้าตัวหนึ่งจำเป็นต้องกินพืชเพื่อเอาพลังงานไปใช้ชีวิตในแต่ละวัน ส่วนรถจำเป็นต้องใช้น้ำมันเพื่อทำงาน เจ้าจะมอบน้ำมันให้กับม้าหรือเจ้าจะมอบหญ้าให้กับรถยนต์ไม่ได้ คำอธิบายนี้อาจจะไม่ได้ตรงกับปัญหาซะทีเดียว แต่เจ้าคงจะเข้าใจว่าข้าพูดถึงอะไร เรื่องราวของยีนนั้นมีข้อจำกัดมากมาย และมันก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนในจักรวาลที่จะตอบสนองข้อจำกัดทุกอย่างของมันได้”

 

หานเซิ่นแกล้งทำเป็นว่าเข้าใจ แต่จริงๆแล้วเขาค่อนข้างสับสน เขาอยากจะถามอีกคำถามหนึ่ง แต่เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายสิ่งที่ไม่เข้าใจได้ยังไง

 

“เหล่าคนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าเป็นใครกัน? ทำไมมีแค่คนที่มียีนขั้นสุดยอดเท่านั้นถึงจะฆ่าพวกเขาได้?” หานเซิ่นถาม

 

“คำถามนั่นเป็นอะไรที่ซับซ้อนเช่นกัน พูดง่ายๆก็คือพระเจ้าเหล่านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่การมีอยู่ของพวกเขาแตกต่างออกไป มันเหมือนกับความแตกต่างระหว่างสิ่งมีชีวิตที่มีรูปธรรมและจิตวิญญาณ แต่ความจริงแล้วมันเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านั้น โดยเพราะอย่างยิ่งเมื่อพยายามจะเข้าใจถึงวิธีการที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับจักรวาลของพวกเรา”

ผู้หญิงคนนั้นหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ “เจ้าถามว่าทำไมคนที่มียีนขั้นสุดยอดถึงฆ่าเหล่าคนที่กล่าวอ้างตัวว่าเป็นพระเจ้าได้อย่างนั้นใช่ไหม? ทั้งหมดมันเริ่มต้นจากการทดลองของผู้นำเซเคร็ด”

 

“การทดลองอะไร? “หานเซิ่นถาม

 

ผู้หญิงคนนั้นไม่ตอบหานเซิ่น เธอยืนขึ้นและพูด “โอเค ตอนนี้สวนของข้าสะอาดเหมือนเดิมแล้ว เจ้าอย่าได้ทำให้ที่นี่สกปรกอีกเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นล่ะก็ข้าจะเปลี่ยนเจ้าให้กลายเป็นหมู”

 

หานเซิ่นยังคงลอยตัวอยู่ในอากาศและไม่กล้าจะสัมผัสกับพื้น เขากลัวว่าเธอจะทำแบบนั้นจริงๆ ซึ่งเมื่อคำถึงถึงพลังของผู้หญิงคนนี้แล้ว เธอก็คงจะมีวิชาในการเปลี่ยนแปลงยีนที่เหนือกว่าเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าอย่างแน่นอน

 

“เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่าผู้นำเซเคร็ดทำการทดลองแบบไหน?” หานเซิ่นพูดกับเธอขณะที่ยังคงลอยตัวอยู่ในอากาศ

 

ผู้หญิงคนนั้นหันกลับมามองหานเซิ่นและพูด “ทำไมข้าถึงต้องบอกเจ้าด้วย?”

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไงดี เธอไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขา และเธอก็ไม่ได้ติดหนี้อะไรเขาเช่นกัน มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องตอบคำถามของเขา

 

ปัง!

 

ขณะที่หานเซิ่นพยายามครุ่นคิด ผู้หญิงคนนั้นก็กลับเข้าไปในบ้านและปิดประตูเสียงดัง

 

‘เราควรจะบอกผู้หญิงคนนี้ไปว่าเราฝึกเรื่องราวของยีนดีไหมนะ? ถ้าเราบอกกับเธอ เราอาจจะได้รู้ความลับจากเธอมากขึ้น แต่มันก็มีโอกาสที่เธอจะจับตัวเราและใช้เราเป็นเหมือนกับหนูทดลอง นั่นเป็นอะไรที่เลวร้าย’ หานเซิ่นตัดสินใจไม่ได้

 

ผู้หญิงคนนั้นห้ามหานเซิ่นไม่ให้สัมผัสข้าวของของเธอ หานเซิ่นไม่ต้องการทำให้เธอโกรธ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงบินข้ามรั้วออกไปสู่พื้นด้านนอก เขานั่งลงตรงนั้นและมองไปยังเมฆสีเหลือง เขานำรูบิคว่านเจียออกมาและส่งวิดีโอไปให้กับผู้อาวุโสแยกสมบัติ

 

เมื่อผู้อาวุโสแยกสมบัตินำวิดีโอที่หานเซิ่นส่งให้ไปถ่ายทอด มันก็ดึงความสนใจของทุกเผ่าพันธ์

 

เมฆสีเหลืองอ่อนกลายเป็นจุดสนใจของเหล่ายอดฝีมือ และเมื่อวิดีโอใหม่นี้ถูกปล่อยออกมา หลายๆฝ่ายก็ยืนยันถึงตำแหน่งของหานเซิ่นได้จากการเปลี่ยนแปลงของก้อนเมฆ

 

แต่เนื่องจากทุกคนคาดการณ์ว่าเดม่อนสปิริตยังคงอยู่บริเวณใกล้เคียง มันจึงไม่มีใครกล้าเดินทางเข้ามา

 

แต่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น เป่าฉินถอยกลับไปหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ แต่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงก็ได้ส่งยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามาเพิ่มเพื่อล่าตัวหานเซิ่นในระบบเทียนเซีย

 

หานเซิ่นนั่งอยู่บนเกาะหลายชั่วโมง ขณะที่พยายามตัดสินใจว่าควรจะบอกผู้หญิงคนนั้นว่าเขาฝึกเรื่องราวของยีนดีไหม

 

แต่ทันใดนั้นทะเลเมฆก็เริ่มสั่นสะเทือน มังกรเมฆหลายตัวคำรามและลากรถม้าปีศาจทะเลเข้ามาทางเกาะ

 

“เดม่อนสปิริตกลับมาที่นี่!” หานเซิ่นตกใจ เขาตัดสินใจว่าจะรีบหนีไปจากที่นั่น

 

ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ฆ่าเขา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเดม่อนสปิริตจะไว้ชีวิตเขา

 

“เข้ามาข้างใน” ผู้หญิงคนนั้นพูด เมื่อหานเซิ่นเงยหน้าขึ้นไป เขาก็เห็นเธอยื่นหัวออกมาจากหน้าต่าง

 

หานเซิ่นตอบเธอด้วยการวิ่งเข้าไปในสวน

 

“เท้า” ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้ว

 

หานเซิ่นรีบกระโดดขึ้นบนอากาศ เขาบินผ่านสวนและลอยตัวเข้าไปในบ้านโดยระมัดระวังไม่ให้ตัวเองสัมผัสกับอะไรทั้งนั้น เขาลอยตัวอยู่กลางบ้านเพื่อให้ตัวเองอยู่ไกลจากข้าวของทุกอย่างในบ้าน

 

“อย่าพูดหรือทำเสียงอะไร” ผู้หญิงคนนั้นพูดกับเขา

 

หานเซิ่นพยักหน้าและไม่ได้พูดไปมากกว่านั้น

 

“เด็กดี” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างพอใจกับความว่าง่ายของหานเซิ่น

 

เหมือนกับครั้งก่อนที่หานเซิ่นเคยเห็น เดม่อนสปิริตมายืนอยู่นอกรั้วบ้านและมองขึ้นไปที่หน้าต่าง ผู้หญิงคนนั้นเมินเฉยต่อเขาเป็นเวลากว่าครึ่งวัน และเธอก็อารมณ์เสียขึ้นเรื่อยๆทุกวินาทีที่ผ่านไป ในที่สุดแล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะเปิดหน้าต่างออกไปตะโกนใส่เขา

 

เมื่อผู้หญิงคนนั้นเบื่อจะตะโกนและเงียบไป เดม่อนสปิริตก็เดินทางกลับ มันเหมือนกับว่าเขามาที่นี่เพื่อให้ผู้หญิงคนนี้ตะโกนใส่เขา หานเซิ่นรู้สึกสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้กับเดม่อนสปิริตมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่ แต่เขารู้ดีว่าไม่ควรจะถามมัน เขาสามารถมองเห็นความโกรธและความดูถูกที่ยังคงฝังลึกอยู่บนใบหน้าของเธอ

 

“เจ้าอยากรู้ใช่ไหมว่าเขาเป็นใคร?” ผู้หญิงคนนั้นถาม เธอหันกลับมาและจ้องมองหานเซิ่นด้วยดวงตาที่ดูเอาจริงเอาจัง

 

“ไม่เลย” หานเซิ่นรีบส่ายหัวโดยไม่คิด เขารู้สึกกลัวเมื่อเธอถามเขาแบบนั้น

 

ผู้หญิงคนนั้นแปลกใจ แต่เธอก็หัวเราะออกมา เธอหลี่ตาลงเล็กน้อยขณะที่ยังคงจ้องมองมาที่หานเซิ่น

“เจ้าอยากจะรู้ว่าผู้นำเซเคร็ดทำการทดลองอะไรไม่ใช่หรอ?”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset