Super God Gene – ตอนที่ 2477

ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!…

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าเขาฆ่ายูนิคอร์นไปมากมายเท่าไหร่แล้ว แต่หลังจากที่ทำการฆ่าฟันเป็นเวลานาน ทุกอย่างก็เริ่มดูเป็นสีแดง

 

หัวของยูนิคอร์นสีดำระดับราชันถูกตัดเปิดออกโดยหานเซิ่น ขณะที่เลือดทะลักออกมาจากหัวของยูนิคอร์น หานเซิ่นก็ใช้มือล้วงเข้าไปข้างในและดึงเอาคริสตัลออกมาใส่เข้าปากของตัวเอง

 

มันคือยีนซีโน่เจเนอิคของยูนิคอร์นระดับราชัน หานเซิ่นกลืนมันเข้าไปในทันที ยีนซีโน่เจเนอิคเติมเต็มยีนระดับราชันและฟื้นคืนพลังงานให้กับเขา

 

หลังจากที่ฆ่าฟันศัตรูมากมาย หานเซิ่นก็สูญเสียพละกำลังไปมาก แต่เขาไม่สามารถใช้ชุดเกราะตงเสวียนเพื่อฟื้นคืนพลังได้ ดังนั้นเขาจึงดูดซับพลังจากอวกาศโดยตรง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มากพอที่จะทำให้เขาต่อสู้ไปตลอดได้

 

ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงหันมาใช้วิชาคอนซูมเพื่อสกัดยีนซีโน่เจเนอิคอย่างรวดเร็ว พลังจากพวกมันทำให้หานเซิ่นต่อสู้ต่อไปได้ เขาคงจะหมดแรงไปแล้วในตอนนี้ถ้าเขาไม่ทำแบบนั้น

 

ดินแดนก้อนเมฆของระบบเทียนเซียถูกย้อมด้วยเลือด เหล่ายูนิคอร์นไม่กลัวความตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพทั้ง 7 พวกมันทุกตัวปลดปล่อยแสงแห่งเทพออกมา และอาณาเขตสายรุ้งที่พวกมันปล่อยออกมาก็สร้างปัญหาให้กับหานเซิ่นอย่างมาก

 

เนื่องจากหานเซิ่นมีวิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อต เขาสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองเข้าไปในดวงตาของยูนิคอร์นได้ถ้าเขาพบว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย ถ้าเขาไม่ทำแบบนั้นอยู่เป็นช่วงๆ เขาก็คงจะถูกเสียบโดยเขาของยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพทั้ง 7 ตัวไปแล้ว

 

หานเซิ่นพยายามจะกระโดดเข้าไปในในดวงตาของยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพทั้ง 7 เขาต้องการจะโจมตีพวกมันจากภายในดวงตาเพื่อดูว่าเขาจะสามารถฆ่าพวกมันจากภายในได้ไหม

 

แต่ดวงตาของยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพทั้ง 7 เป็นอะไรที่พิเศษ ดวงตาของยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพแต่ละตัวประกอบด้วยสีสันที่แตกต่างกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นม่านตา ตาดำหรือตาขาวของพวกมัน บางสิ่งเกี่ยวกับดวงตาหลากสีของมันป้องกันพวกมันจากการสะท้อนภาพของหานเซิ่น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่สามารถใช้วิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อตกับพวกมันได้

 

ตอนนี้ยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพทั้ง 7 ตัวกำลังรุมโจมตีหานเซิ่น ยอดฝีมือระดับราชันธรรมดาทั่วไปคงจะถูกฆ่าโดยพวกมันไปนานแล้ว ที่หานเซิ่นรอดมาได้นานขนาดนี้ก็เพราะเขามีวิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อตอยู่

 

หลังจากที่หานเซิ่นกลืนยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันอีกยีนเข้าไป จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นในหัว

 

“ยีนระดับราชันถึง 100 อาณาเขตร่างต่อสู้พร้อมจะวิวัฒนาการ”

 

หานเซิ่นยิ้มออกมา ก่อนหน้านี้เขาได้ดูดซับยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันเข้าไปมากมาย และหลังจากที่กลืนยีนของเหล่ายูนิคอร์นระดับราชันเข้าไปอีก ตอนนี้เขาก็สะสมยีนระดับราชันได้ครบหนึ่งร้อย ยีนระดับราชันหนึ่งร้อยยีนสามารถใช้เพื่อเพิ่มอาณาเขตของเขาได้หนึ่งขั้น

 

โดยไม่ลังเล หานเซิ่นเลือกที่จะเพิ่มระดับอาณาเขตกายหยก เขาไม่สามารถใช้อาณาเขตตงเสวียนได้ นอกซะจากเขาจะใช้ตัวตนของดอลลาร์ ด้วยเหตุนั้นกายหยกจึงกลายเป็นพลังหลักของเขา

 

หานเซิ่นใช้ยีนระดับราชันที่สะสมจนครบหนึ่งร้อยเพื่อเพิ่มระดับอาณาเขตกายหยก และเมื่อเขาทำแบบนั้นความรู้สึกหนาวก็ไหลผ่านเนื้อหนังและกระดูกของเขา มันเหมือนกับว่าร่างกายของเขาเป็นแม่น้ำที่แห้ง และจู่ๆก็มีน้ำไหลผ่านมันอีกครั้งหนึ่ง

 

หลังจากการปรับแต่งยีน เซลล์ทั้งหมดภายในร่างกายของเขาก็เริ่มจะเปลี่ยนแปลง และทำให้ร่างกายของหานเซิ่นเปล่งรัศมีออกมา เขาดูสมบูรณ์แบบเหมือนกับเทพที่เกิดใหม่

 

การต่อสู้ที่ยาวนานทำให้หานเซิ่นอยู่ในสภาพที่เหนื่อยล้า แต่ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ไม่สิ เขาอยู่ในสภาพที่ดีกว่าสภาพที่ดีที่สุดเสียอีก

 

ปัง!

 

น้ำแข็งเข้าปกคลุมมีดเขี้ยวผีสิง มันฟันลงไปใส่หัวของยูนิคอร์นระดับราชันตัวหนึ่งที่วิ่งเข้ามาและตัดซีโน่เจเนอิคระดับราชันขั้นที่ 3 กับอาณาเขตของมันจนขาดครึ่ง

 

หานเซิ่นเริ่มทำการฆ่าฟันทุกอย่างรอบๆตัว มันเหมือนกับว่าเขากำลังอยู่ในฝูงแกะ เมื่อมีดแสงของเขาแว็บขึ้นมา ยูนิคอร์นมากมายก็ถูกฆ่าตายในฉับพลัน

 

“เขาเพิ่มระดับอาณาเขตของตัวเองในระหว่างการต่อสู้?” ยอดฝีมือของทุกเผ่าพันธุ์อึ้งไป

 

ถ้านักสู้คนหนึ่งเพิ่มระดับอาณาเขตแห่งราชันของพวกเขา ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จะลดลงในระหว่างกระบวนการวิวัฒนาการ การเพิ่มระดับอาณาเขตจะปรับปรุงยีนของคนๆนั้นเพื่อวิวัฒนาการเซลล์ในร่างกาย ร่างกายของพวกเขาจะอ่อนแอลงไปขณะที่เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้น และถึงแม้กระบวนการวิวัฒนาการจะไม่ได้เป็นอันตรายอะไรต่อชีวิต แต่มันก็ควรจะอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยขณะที่ทำการวิวัฒนาการ

 

การเพิ่มระดับอาณาเขตของตัวเอง ขณะที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นเป็นอะไรที่บ้ามากๆ

 

แต่การวิวัฒนาการอาณาเขตของหานเซิ่นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าปกติ ความเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วินาที การวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วแบบนั้นไม่ได้ถือว่าหายากอะไรในจักรวาลจีโน แต่ปกติแล้วมันจะเกิดขึ้นเฉพาะกับสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมเท่านั้น ยีนของสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมมีความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัด และภายใต้อิทธิพลจากภายนอก พวกมันจึงสามารถวิวัฒนาการได้อย่างรวดเร็ว

 

แต่ยิ่งสิ่งมีชีวิตมีระดับสูงมากเท่าไหร่ ยีนของพวกมันก็จะสมบูรณ์มากเท่านั้น มันจึงกลายเป็นอะไรที่ยากจะวิวัฒนาการ ด้วยเหตุนั้นความเร็วในการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตระดับสูงจึงเป็นไปอย่างช้าๆ

 

หานเซิ่นเป็นระดับราชันเรียบร้อยแล้ว แต่อาณาเขตของเขาเพิ่มระดับขึ้นในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที สำหรับยอดฝีมือที่มองดูการถ่ายทอดสดอยู่แล้ว มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ

 

“บางทีมันอาจจะเป็นเพราะยีนของเขาไม่เสถียร ทำให้ยีนของเขามีความเป็นไปได้มากมาย และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาวิวัฒนาการได้อย่างรวดเร็ว”

ยอดฝีมือระดับราชันหลายคนคิด และพวกเขาก็ไม่สามารถละสายตาไปจากหานเซิ่นได้

 

อาณาเขตกายหยกพัฒนาสู่ขั้นที่ 2 ได้สำเร็จ ซึ่งทำให้ร่างกายของหานเซิ่นมีพลังและความเร็วที่สูงขึ้น แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่เขาจะเอาชนะยูนิคอร์น 7 สีระดับเทพเจ้าได้

 

ปัง!

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง รอยแยกก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและลงมาทางเขา

 

ปัง!

 

ทันใดนั้นร่างของยูนิคอร์นก็จำนวนมากถูกฉีกขาดด้วยรอยแยกของอวกาศนั้น หานเซิ่นหลบหลีกพลังของมัน แต่หลังจากนั้นใครบางคนก็ร่วงลงมาจากช่องว่างของอวกาศ

 

“เลอตู้!” หานเซิ่นตกใจ ดูเหมือนว่าเลอตู้จะเป็นคนที่สร้างรอยแยกนั้น

 

รอยสักมังกรของเลอตู้แว็บขึ้นมา มันมีรูอยู่บนตัวของเขาและรูนั้นก็ทะลุผ่านร่างกายเลอตู้จนเผยให้เห็นก้อนเมฆที่ลอยอยู่ด้านหลังของเขา

 

เมื่อเห็นเลอตู้ในสภาพแบบนี้ หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าสถานการณ์นั้นเลวร้ายมากๆ เลอตู้ไม่สามารถต่อสู้กับยูนิคอร์นระดับเทพเจ้านั่นได้ และตอนนี้มันก็มีรูอยู่บนร่างกายของเขา

 

ถ้าเลอตู้ถูกฆ่า เป้าหมายต่อไปของยูนิคอร์นระดับเทพเจ้าก็คือหานเซิ่น แบบนั้นเขาจะไม่รู้สึกกลัวได้ยังไง?

 

“เลอตู้ เจ้าเป็นอะไรไหม?” หานเซิ่นตะโกนถาม เขาไม่กล้าเข้าไปใกล้ชายคนนั้น

 

ยูนิคอร์นสายรุ้งระดับเทพเจ้ากำลังเข้ามา มันรวดเร็วจนเหมือนกับว่ามันเทเลพอร์ตผ่านช่องว่างของจักรวาลมาชนใส่ร่างของเลอตู้

 

รอยสักบนร่างกายของเลอตู้แว็บแสงขึ้นมา ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็โยกตัวไปด้านข้างและหลบการโจมตีของยูนิคอร์นระดับเทพเจ้า

 

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีเลือดไหลออกมาจากรูบนอกของเขา มันไม่ฟื้นตัว

 

เลอตู้ยังคงดูสงบนิ่ง แต่หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่าพลังชีวิตของเขากำลังอ่อนลงไป มันถือเป็นอะไรที่น่าประทับใจแล้วที่ครึ่งเทพคนหนึ่งสามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าได้นานขนาดนี้ แต่ถ้าเขาตายไป หานเซิ่นก็จะถูกทิ้งให้เผชิญหน้ากับยูนิคอร์นระดับเทพเจ้าตามลำพัง ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ

 

“พยายามเอาชีวิตรอด ใช้ทุกอย่างที่เจ้ามีเพื่อเอาชีวิตรอด!”

เลอตู้ลอยตัวขึ้นไปบนอากาศ ดวงตาของเขาไม่ได้ดูหวาดกลัว และเขาก็ไม่ได้เหลียวไปมองรูเลือดบนอกของเขา เขาทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรอยู่

 

หลังจากนั้นหานเซิ่นก็จำได้ว่าเลอตู้เคยบอกว่าร่างกายของเขาถูกทำลายไปแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset