Super God Gene – ตอนที่ 2478

เลอตู้กลับเข้าไปต่อสู้กับยูนิคอร์นระดับเทพเจ้าอีกครั้ง แต่ทั้งหมดที่หานเซิ่นเห็นคือหยดเลือดนับไม่ถ้วนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า มันเห็นได้ชัดว่านั่นคือเลือดของเลอตู้

 

“นี่มันแย่แล้ว พวกเราต้องหาหนทางหนีออกไปจากที่นี่”
หานเซิ่นพยายามจะออกไปหลายต่อหลายครั้ง แต่พลังของเขาไม่เพียงพอที่จะทำลายโซ่สสารที่ก่อตัวเป็นกรงขังพวกเขาเอาไว้ หานเซิ่นจำเป็นต้องใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีทางที่เขาจะหนีออกไปได้

 

“ทำไมถึงไม่มีซีโน่เจเนอิคหรือคนจากเผ่าพันธุ์อื่นมามองดูพวกเรา? ถ้ามีใครสักคนอยู่นอกโล่ป้องกันล่องหนนี้ เราก็คงจะใช้วิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อตเพื่อเทเลพอร์ตออกไปข้างนอกได้” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เขามองไปรอบๆ แต่เขามองไม่เห็นสิ่งมีชีวิตอื่นเลย

 

หานเซิ่นคาดเดาว่ามีใครบางคนจงใจล็อคที่นี่เอาไว้ ไม่อย่างนั้นมันก็ต้องมีสิ่งมีชีวิตมาดูการต่อสู้บ้าง

 

“คนแบบไหนกันที่ต้องการให้พวกเราตายมากขนาดนี้?”
หานเซิ่นตะโกนและหันหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาหวังว่าจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์จากเลอตู้

 

“มันไม่มีใครต้องการให้เจ้าตาย พวกเราเป็นแค่วัวกระทิงในสนามต่อสู้”
เสียงของเลอตู้ดังก้องกลับมา เขาดูใจเย็นอย่างน่าตกใจ มันเหมือนกับว่านอกจากความรู้สึกเจ็บปวดแล้ว เขายังไม่สามารถแสดงอารมณ์อะไรออกมาได้

 

หานเซิ่นเข้าใจทันทีว่าเลอตู้หมายความว่าอะไร พวกเขาเป็นผู้เข้าแข่งขันในเกมส์กีฬา แต่พวกเขาไม่ใช่มาธาดอร์ที่หลอกล่อวัวกระทิงในขณะที่ผู้ชมส่งเสียงเชียร์ พวกเขาเป็นสุนัขที่ต่อสู้ในสนามโดยให้ผู้ชมวางเดิมพัน

 

เหตุผลที่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าที่น่ากลัวไม่มาฆ่าพวกเขาด้วยตัวเองเป็นอะไรง่ายๆ สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าคงจะกำลังเพลิดเพลินกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าหานเซิ่นและเลอตู้จะอยู่หรือตาย เขาก็ยังคงสนุกสนาน

 

ไม่มีใครต้องการเป็นสุนัขที่ดันทุรังต่อสู้ในการต่อสู้ที่ไม่มีโอกาสชนะ แต่หานเซิ่นไม่มีทางเลือก เขาเป็นเหมือนกับหุ่นเชิดที่ถูกชักใย ความรู้สึกไร้กำลัง ทำให้อกของหานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเขากำลังถูกบดขยี้

 

ปัง!

บนท้องฟ้าด้านบนมีรอยร้าวเกิดขึ้นและฉีกอวกาศอีกครั้ง เลอตู้ถูกส่งกระเด็นออกมา

 

ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยเลือด เขามีบาดแผลอยู่เต็มตัว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงต่อสู้ต่อไป

 

ดวงตาของเลอตู้ยังคงแจ่มใส หานเซิ่นแทบจะรู้สึกได้ถึงความปรารถนาของเขา มันเหมือนกับว่าเขากำลังพูดขึ้นว่า
“ถ้าเจ้าไม่ชอบอะไรแบบนี้? แบบนั้นก็ใช้พลังของเจ้าเพื่อเอาชนะพวกมัน!”

 

ตูม!

เลอตู้มีเลือดท่วมตัว แต่เขายังคงพยุงตัวเองขึ้นมาและพุ่งกลับเข้าไปปะทะกับยูนิคอร์นระดับเทพเจ้าอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะต่อสู้จนเลือดหยดสุดท้าย เลอตู้ไม่มีวันที่จะยอมแพ้

 

ความรู้สึกไร้กำลังของเลอตู้เหมือนกับภายในหัวของหานเซิ่น มันทำให้เขานึกย้อนไปถึงทุกสิ่งในชีวิตของเขา เขามีคำถามมากมายและในหัวของเขาก็เต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องมีคำอธิบาย แต่ไม่มีใครสามารถหาคำตอบให้กับเขาได้ เขาต้องตามหาคำตอบทั้งหมดตามลำพัง

 

หานเซิ่นรู้ว่าไม่มีใครมอบคำตอบให้กับเขาได้และรู้ว่าตัวเองนั่นอ่อนแอเกินไป

 

เหมือนอย่างหานอวี้เฟยพ่อของเขา หานอวี้เฟยเลือกที่จะประสบทุกสิ่งตามลำพังเพื่อปกป้องภรรยาและลูกๆ เขาไม่เคยเปิดเผยอดีตของตัวเองกับใครคนไหน แม้แต่หานเซิ่นก็ไม่เว้น

 

และนั่นเป็นเพราะหานเซิ่นเป็นแค่เด็กที่ไร้กำลัง การบอกหานเซิ่นไปนั้นไม่ได้ช่วยอะไร มันมีแต่จะทำให้เขามีภาระที่ต้องแบกรับเพิ่มขึ้น

 

พ่อคนนั้นไม่ต้องการให้ลูกของเขาต้องประสบหรือแบกรักภาระที่ไม่ควร

 

คนอื่นๆที่นอกเหนือจากพ่อของหานเซิ่นอาจจะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างออกไปในการเก็บข้อมูลเอาไว้เป็นความลับ แทนที่จะพยายามปกป้องหานเซิ่น พวกเขาแค่คิดว่าหานเซิ่นนั้นอ่อนแอ การมอบความลับให้กับคนที่อ่อนแอคนหนึ่งจะไปมีประโยชน์อะไร? มันจะไม่ช่วยอะไรพวกเขาเลยสักนิดและมันก็มีแต่จะนำปัญหามาให้

 

แต่หานเซิ่นจำเป็นต้องหาคำตอบของคำถามพวกนี้ เพราะในตอนที่ทุกอย่างมืดมิดและเงียบสงัด พวกมันจะผุดขึ้นมาในจิตใจของเขาซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่หยุด เขาอาจจะเกลียดการที่ตัวเองไร้กำลัง แต่เขาไม่สามารถทำอะไรกับมันได้

 

ความรู้สึกไร้กำลัง ความรู้สึกสิ้นหวัง การขาดอำนาจที่จะเลือกชะตากรรมของตัวเอง ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะเขาไม่แข็งแกร่งพอ

 

ความรู้สึกบนใบหน้าของเลอตู้ฝังลึกอยู่ในหัวใจของหานเซิ่นเช่นเดียวกัน และมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้หานเซิ่นต้องการจะแข็งแกร่งขึ้น เขาอยากจะได้รับคำตอบของคำถามเหล่านั้น

 

“หนี้นี้… ฉันต้องให้พวกเวรนั่นจ่ายคืนให้กับฉัน” หานเซิ่นกัดฟันขณะที่เลือดภายในร่างกายของเขาเดือด

 

การฆ่าฟันยังคงดำเนินต่อไป และยูนิคอร์นครึ่งเทพทั้ง 7 ก็ไม่สามารถหยุดยั้งหานเซิ่นได้อีกต่อไป เขาฆ่ายูนิคอร์นไปนับไม่ถ้วน และพวกมันก็กรีดร้องใส่เขาด้วยความโกรธ พวกมันคงจะเกลียดชังหานเซิ่นมากๆ

 

ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เห็นแสงสีรุ้งพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ยูนิคอร์นหลายตัวใช้อาณาเขตของพวกมันเพื่อเป็นโล่ป้องกันตัวเองจากแสงนั่น ยูนิคอร์นที่ไม่ได้ทำแบบนั้นลุกเป็นไฟขึ้นมา

 

แสงนั้นยังไปถึงตัวของยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพทั้ง 7 ตัว และพวกมันก็ลุกไหม้ภายใต้รัศมีของแสงสีรุ้งนั้น

 

‘โอ้ไม่นะ!’ หานเซิ่นคิด เขาเห็นยูนิคอร์นสีดำกรีดร้องขึ้นไปบนท้องฟ้า และทันใดนั้นมันก็วิ่งตรงเข้ามาหาหานเซิ่น

 

ในตอนนี้มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม มันเร็วกว่าที่หานเซิ่นจะเคลื่อนไหวได้ทัน หานเซิ่นต้องการจะใช้วิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อต แต่มันสายเกินไปแล้ว เขายกมีดเขี้ยวผีสิงและธันเดอร์ก็อตสไปค์ขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองการโจมตีของยูนิคอร์นสีดำ

 

ปัง!

ร่างกายของหานเซิ่นถูกยิงออกไปราวกับกระสุนของลูกปืนใหญ่ เลือดพุ่งออกมาจากปากและอกของเขาราวกับว่ามันจะระเบิด

 

เมื่อยูนิคอร์นระดับเทพเจ้าเสริมพลังให้กับเหล่ายูนิคอร์นครึ่งเทพ ความเร็วและพละกำลังของยูนิคอร์นสีดำก็เพิ่มสูงขึ้น กายหยกขั้นที่ 2 ของหานเซิ่นไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับมัน

 

ก่อนที่หานเซิ่นจะทรงตัวได้ ลำแสงสีขาว 2 เส้นก็พุ่งออกมาจากดวงตาของยูนิคอร์นสีขาว พวกมันทะลุร่างกายของหานเซิ่นไป

 

ร่างกายของหานเซิ่นระเบิดเหมือนกับน้ำ แต่เขาก็รีบประกอบตัวขึ้นมาใหม่ ร่างกายของหานเซิ่นกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง แต่ใบหน้าของหานเซิ่นดูซีดไป

 

เขามีร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้เมื่อเหล่ายูนิคอร์นระดับครึ่งเทพได้รับการเสริมพลังจากยูนิคอร์นระดับเทพเจ้า หานเซิ่นก็ไม่สามารถต่อกรกับพวกมันได้อีกต่อไป

 

หลังจากนั้นยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพสีทองและม่วงก็วิ่งตรงเข้ามาหาหานเซิ่น พลังอาณาเขตที่น่ากลัวของพวกมันสร้างโล่ที่ทับซ้อนกันขึ้นมา โล่ที่ต่างสีนั้นมีพลังที่แตกต่างกัน

 

วินาทีต่อมา ยูนิคอร์นสีม่วงและทองก็ชนเข้ากับหานเซิ่นและบดขยี้ร่างกายของเขา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset