Super God Gene – ตอนที่ 2511

หานเซิ่นและคนอื่นมีเห็ดประหลาดอยู่บนหัวของพวกเขา มันแทรกขึ้นมาและกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายพวกเขา ซึ่งถ้าเห็ดได้รับความเสียหาย สมองของพวกเขาก็จะได้รับความเสียหายไปด้วย

 

พวกเขาไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไงดี พวกเขาทุกคนมองหน้ากันและไม่แน่ใจว่าควรจะทำอะไรกับมันดี

 

โชคดีที่นอกจากการที่มีเห็ดงอกออกมาบนหัวแล้ว มันก็ไม่ได้มีอะไรอย่างอื่นเกิดขึ้นกับพวกเขา

 

“ทำไมบนหัวของกัปตันน้อยและพี่ใหญ่นกถึงไม่มีเห็ดขึ้น? นี่พวกเขาใช้เทคนิคลับบางอย่างอย่างนั้นหรอ?” โจรสลัดมองไปที่เป่าเอ๋อและนกแดงน้อยอย่างมีความหวัง

 

“พวกเขามีร่างกายที่พิเศษ พวกเขาไม่เหมือนกับพวกเรา” หานเซิ่นพูด

 

ความหวังทั้งหมดหายไป เมื่อหานเซิ่นพูดแบบนั้น และเหล่าโจรสลัดก็ดูเศร้ามากๆ พวกเขามองเห็ดบนหัวของกันและกันขณะที่ถอนหายใจออกมาด้วยความกลุ้มใจ

 

“เหมียว”

ขณะที่ทุกคนกำลังจมปลักอยู่กับความหดหู่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากที่ไหนสักแห่งบนเกาะแห่งนั้น

 

ลึกเข้าไปในป่าเห็ดเสือขาวกำลังมองมาที่พวกเขาด้วยสีหน้าที่อวดดี ใบหน้าของมันดูเหมือนกับมนุษย์อย่างน่าประหลาดใจ และมันก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายจนดูเหมือนกับว่ามันกำลังจะร้องไห้

 

หานเซิ่นไม่เคยเห็นเสือตัวไหนหัวเราะน่าเกลียดแบบนี้มาก่อน ถ้าเสือตัวนั้นรู้เกี่ยวกับเห็ดบนหัวของพวกเขา แบบนั้นมันก็ต้องเป็นต้นเหตุไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

 

นกแดงน้อยบินเข้าไปหาเสือขาวอีกครั้ง แต่เมื่อนกแดงน้อยบินเข้าไป เจ้าเสือขาวก็ขุดหนีลงไปใต้พื้น ไฟของนกแดงน้อยไม่สามารถสร้างความเสียหายกับพื้นได้ ไม่มีใครรู้ว่าพื้นนี้ทำมาจากอะไรกันแน่

 

หานเซิ่นเรียกนกแดงน้อยกลับมา พวกเขามองไปที่หินประหลาดรอบตัว พื้นของเกาะแห่งนี้ทำขึ้นมาจากหินประหลาดที่เหมือนกับทั้งโลหะและหยก ไม่มีใครบอกได้ว่าส่วนประกอบของหินพวกนี้คืออะไรกันแน่

 

“พวกเจ้าไปเก็บเห็ดมาส่วนหนึ่ง ดูสิว่าพวกมันจะกินได้ไหม” หานเซิ่นพูดกับเหล่าโจรสลัด

 

“กัปตัน ตอนนี้มันมีเห็ดอยู่บนหัวของพวกเราเรียบร้อยแล้ว ถ้าพวกเรายังกินเห็ดเข้าไปอีก พวกมันอาจจะเริ่มงอกออกมาทั่วร่างกายของพวกเรา?” หนึ่งในโจรสลัดขอร้องทั้งน้ำตา

 

“เลิกพูดจาไร้สาระและไปได้แล้ว!” หานเซิ่นมองพวกเขาอย่างอารมณ์เสีย

 

เหล่าโจรสลัดพากันออกไปเก็บเห็ดอย่างไม่ยินดี พวกเขากลัวว่าถ้าออกไปเก็บเห็ดมา ร่างกายของพวกเขาอาจจะกลายเป็นโฮสต์ของเห็ดจำนวนมากกว่าเดิม และพวกเขาก็กลัวว่าเสือขาวอาจจะปรากฏตัวออกมาเพื่อฆ่าพวกเขา พวกเขาแค่เดินไปถึงปากของวาฬขาวและหยุดอยู่ตรงนั้น พวกเขาไม่กล้าจะเดินออกไป

 

นกแดงน้อยพ่นไฟจากด้านหลังของพวกเขา และทำให้พวกเขาทุกคนต้องกระโดดออกไปจากวาฬขาวด้วยความกลัว

 

เหล่าโจรสลัดสั่นกลัวขณะที่พวกเขาเดินไปในดินแดนที่เต็มไปด้วยเห็ด แต่พวกเขาไม่ได้เดินออกไปไกลมากนัก หลังจากนั้นหานเซิ่นก็สั่งให้พวกเขาต้นพวกมันให้สุก

 

หลังจากที่เห็ดต้มจนสุกแล้ว เหล่าโจรสลัดก็ไม่กล้าจะกินพวกมันเข้าไป พวกเขามองลงไปยังเห็ดที่อยู่ในถ้วย หลังจากนั้นพวกเขาก็มองหน้ากัน ไม่มีใครที่กล้ากินมันเข้าไป

 

“ทำไมพวกเจ้ายังมัวชักช้าอีก? รีบกินเข้าไป” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“กัปตัน พวกเรายังไม่หิว… พวกเราไม่หิวจริงๆ”
ภายในหัวเหล่าโจรสลัดกำลังคิดกับตัวเองว่า ‘ทำไมเจ้าไม่มาลองกินเองล่ะ?’

 

“ไม่รู้ว่าพวกเราต้องติดอยู่ที่นี่นานแค่ไหน ด้วยเสบียงของพวกเรา พวกเราอาจจะอยู่รอดได้อีกไม่นาน จากนี้ต่อไปพวกเจ้าต้องกินเห็ดพวกนี้เพื่อความอยู่รอด ถึงแม้พวกเจ้าจะไม่กินมันในวันนี้ เวลาที่พวกเจ้าต้องกินพวกมันด้วยความหิวโหยก็ต้องมาถึงอยู่ดี แต่อย่าได้กังวลไป พวกมันเป็นแค่เห็ดธรรมดาๆ พวกมันจะไม่ฆ่าพวกเจ้า” หานเซิ่นหัวเราะ

 

“กัปตัน พวกเรายังไม่หิวจริงๆ พวกเราจะกินพวกมันในภายหลังตอนที่พวกเรารู้สึกหิวได้ไหม?” โจรสลัดคนหนึ่งถามขึ้นมา

 

“เจ้าคิดว่าได้ไหมล่ะ?” หานเซิ่นยิ้มให้กับเขา

 

เหล่าโจรสลัดเข้าใจว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกในเรื่องนี้ แต่บางสิ่งอาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขากินเห็ดเข้าไป การบาดเจ็บหรือตายถือเป็นความเป็นไปได้หนึ่ง แต่ถ้าพวกเขาไม่กินเห็ดเข้าไปในตอนนี้ หานเซิ่นก็คงจะจัดการกับพวกเขาด้วยตัวเอง

 

โจรสลัดกัดฟันและหยิบเห็ดขึ้นมาชิ้นหนึ่ง หลังจากที่รวบรวมความกล้าได้แล้ว พวกเขาก็หลับตาและใส่เห็ดเข้าปากของตัวเอง

 

ในตอนแรกพวกเขาดูหม่นหมอง แต่หลังจากที่เคี้ยวไปได้สักพัก พวกเขาก็ลืมตาขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

 

“กัปตัน นี่มันของดี! พวกมันสดมากๆ!” โจรสลัดคนหนึ่งพูดขึ้นมา มันไม่ได้มีเรื่องแย่อะไรเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขากินเห็ดเข้าไปเช่นกัน มันไม่ได้มีเห็ดงอกออกมาจากร่างกายของพวกเขาเพิ่มขึ้น พวกเขายังคงมีเห็ดงอกออกมาบนหัวของพวกเขาหนึ่งดอกเหมือนเดิม

 

“ช้าๆ ไม่ต้องรีบกิน ข้ากลัวว่าพวกเจ้าต้องกินพวกมันเป็นอาหารเป็นเวลาอีกพักใหญ่” หานเซิ่นพูด

 

หานเซิ่นรู้อยู่แล้วว่าเห็ดพวกนี้ไม่ได้เป็นพิษ ถ้าเขาไม่มั่นใจว่าเห็ดพวกนี้ไม่มีภัยอะไร เขาก็คงจะไม่สั่งให้เหล่าโจรสลัดกินพวกมัน

 

เห็ดบนหัวของพวกเขาไม่ได้ปรากฏขึ้นมาเพราะเห็ดที่อยู่บนพื้น พวกมันมาจากเห็ดที่เสือขาวนั้นพ่นออกมา สปอร์ภายในเห็ดพวกนี้เป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้หานเซิ่นและคนอื่นมีเห็ดงอกขึ้นมาบนหัว มันเห็นได้ชัดว่านั่นคือพลังของเจ้าเสือขาว แต่หานเซิ่นยังไม่แน่ใจว่าผลกระทบจากการที่มีเห็ดขึ้นบนหัวคืออะไรกันแน่

 

เสือขาวมักจะปรากฏตัวออกมาเป็นระยะๆ มันจะส่งเสียงร้องใส่หานเซิ่นเพื่อพยายามยั่วยุเขา แต่มันยังคงหวาดกลัวนกแดงน้อย ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่กล้าเข้ามาใกล้วาฬขาว

 

หานเซิ่นตัดสินใจเดินออกจากวาฬขาวและไปยังยานอวกาศที่เสือขาวเคยปรากฏตัวออกมา ยานรบนั้นดูเก่ามากๆและภายในของมันก็ขึ้นสนิม

 

มันไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่บนยาน หานเซิ่นพบแค่เสื้อผ้าที่ฉีกขาดและตัวยานก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เมื่อดูจากความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นฝีมือของเสือขาวตัวนั้น

 

หานเซิ่นไปที่ห้องควบคุมของยานรบและพบแผ่นดิสก์หลายแผ่น เขานำพวกมันกลับมาที่วาฬขาวและพยายามจะเปิดดูพวกมัน

 

แต่หานเซิ่นก็ต้องผิดหวังที่แผ่นดิสก์เหล่านั้นไม่สามารถใช้งานได้ ถึงแม้พวกมันจะปกติดี แต่พวกเขาคงจะต้องเคยถูกไฟฟ้าช็อตหรือไม่บางทีพวกมันก็อาจจะถูกทิ้งเอาไว้ในยานลำนั้นเป็นเวลานานเกินไป มันไม่มีแผ่นดิสก์ไหนที่เปิดได้ และวาฬขาวก็ไม่สามารถซ่อมแซมพวกมันได้เช่นกัน

 

หานเซิ่นยังพบเครื่องสื่อสารเก่าๆเครื่องหนึ่ง เขาดึงเอาเมมโมรี่การ์ดออกมา และโชคดี่วาฬขาวสามารถอ่านมันได้ หานเซิ่นดีใจกับเรื่องนั้น เขามองบนหน้าจอของวาฬขาวและสังเกตเห็นว่าเมมโมรี่การ์ดนั้นมีไฟล์วิดีโออยู่ทั้งหมด 37 ไฟล์

 

ไฟล์วิดีโอพวกนี้ถูกตั้งชื่อด้วยหมายเลข 1 ถึง 37 ไฟล์ทั้งหมดเชื่อมต่อกันเป็นลำดับ

 

เมื่อเห็นแบบนั้นหานเซิ่นก็เปิดไฟล์วิดีโอแรก เขามองดูมันตามลำพังในห้อง ไม่ว่าเนื้อหาของมันจะดีหรือร้าย เขาก็ยังไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเขาพบพวกมัน

 

“มิมิ มาหาแม่เร็ว” ทันทีที่หานเซิ่นเริ่มเล่นวิดีโอ เขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิง วิดีโอนั้นแสดงภาพของลูกแมวสีขาวที่กำลังเดินด้วยขาที่สั่นรัว เมื่อดูจากความไม่มั่นคงของมันแล้ว หานเซิ่นก็สันนิษฐานว่ามันเพิ่งจะเกิดขึ้นมา

 

สถานที่ในวิดีโอดูเหมือนจะเป็นในห้องควบคุมของยานรบลำนั้น

 

เห็นได้ชัดว่าเสียงที่หานเซิ่นได้ยินเป็นของผู้หญิงที่กำลังบันทึกวิดีโอของแมวสีขาวอยู่ ในตอนที่ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกว่ามันฟังดูคุ้นๆราวกับว่าเขาเคยได้ยินเสียงนั้นจากที่ไหนสักแห่ง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset