Super God Gene – ตอนที่ 2515

 

ไป๋ว่านเจียไม่ได้คาดคิดว่าดราก้อนวันและคนอื่นจะจริงจังกับการฆ่าขุนพลเกราะทอง แต่จากที่เขาได้รู้ ดูเหมือนว่าดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ตั้งใจจะโค่นล้มขุนพลเกราะทองจริงๆ

 

“องค์ชาย ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ดูเหมือนจะไม่ได้ล้อเล่น ข้าคิดว่าพวกเขากำลังวางแผนจะต่อสู้กับขุนพลเกราะทองจริงๆ พวกเราควรจะเตรียมตัวด้วยไหม? พวกเราควรจะรีบเตรียมตัว ถ้าพวกเราต้องการจะแย่งฆ่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง?” อัศวินไนท์แมร์ถามไป๋ว่านเจีย

 

“พวกเราจำเป็นต้องเตรียมตัว แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ปล่อยให้พวกเราไปก่อน ถ้านั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ นี่พวกเขาคิดจริงๆหรือว่าดอลลาร์จะช่วยพวกเขาเอาชนะขุนพลเกราะทองได้จริงๆ? ไร้เดียงสายิ่งนัก”
ไป๋ว่านเจียหัวเราะและพูดต่อ “ถึงแม้ข้าต้องการจะโค่นล้มขุนพลเกราะทอง แต่ข้ายังคงต้องขอความช่วยเหลือจากอวี้ซ่านซิน ซึ่งมันจะเป็นอะไรที่มีราคาสูง แถมข้ายังจำเป็นต้องรวบรวมครึ่งเทพในกองกำลัง ถ้าข้าแค่พอมีหวังที่จะเอาชนะขุนพลเกราะทอง ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ก็กำลังฝันลมๆแล้งๆ”

 

หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ ไป๋ว่านเจียก็พูดต่อ “ปล่อยให้พวกเขาไปก่อน เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้แล้ว พวกเราจะดำเนินการต่อสู้ต่อจากพวกเขา มันจะช่วยประหยัดแรงพวกเรา อย่างนั้นแล้วมีเหตุผลอะไรที่พวกเราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาลงมือก่อน? ไปสืบมาว่าพวกเขาจะเริ่มโจมตีขุนพลเกราะทองเมื่อไร”

“ทราบแล้ว ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” อัศวินไนท์แมร์พูดและเดินออกไป

 

ในฐานทัพของดราก้อนและเดสทรอยเยอร์ ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์กำลังอธิบายแผนการของพวกเขาให้หานเซิ่นฟัง

 

“ด้วยพลังของพวกเรา พวกเราควรจะจำกัดการเคลื่อนไหวของขุนพลเกราะทองได้ 2-3 วินาที ในช่วงเวลานั้นพวกเราต้องการให้เจ้าใช้มีดเล่มนี้แทงใส่ดวงตาของขุนพลเกราะทอง เจ้ามีเวลาไม่มากนักและเจ้ามีเพียงแค่มีดเล่มนี้เล่มเดียว มันเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าต้องเข้าไปใกล้ขุนพลเกราะทอง ขณะที่พวกเราหยุดมันเอาไว้และทำลายตาทั้ง 2 ข้างของมัน ถ้าเจ้าทำพลาด ความพยายามทั้งหมดของพวกเราก็จะสูญเปล่า เจ้าทำได้ใช่ไหม?”
ดราก้อนวันถามอย่างจริงจัง ขณะที่ส่งมีดที่ขาวเหมือนกับหิมะให้หานเซิ่น

 

“ทำไมต้องแทงใส่ตาของมันด้วย?” หานเซิ่นรับมีดมาและลูบมันด้วยนิ้วมือของเขา

 

“ร่างของขุนพลเกราะทองนั้นห่อหุ้มด้วยเกราะสีทองทั้งตัว พลังป้องกันของมันสูงเกินกว่าที่พวกเราจะเจาะทะลวงได้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับครึ่งเทพที่เก่งกาจที่สุดก็เจาะทะลวงชุดเกราะของสัตว์ประหลาดตัวนั้นไม่ได้ ขุนพลเกราะทองมีจุดอ่อนอยู่ที่ดวงตา ดวงตาของมันถูกปกป้องโดยคริสตัลเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นครึ่งเทพธรรมดาก็ทำลายพวกมันไม่ได้อยู่ดี หนทางเดียวที่จะทะลวงผ่านการป้องกันคริสตัลนั้นคือให้ครึ่งเทพคนหนึ่งใช้มีดเขี้ยวรอยสักมังกรที่เป็นสมบัติของเผ่าดราก้อนเล่มนี้” ดราก้อนวันอธิบาย

 

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ดราก้อนวันก็พูดต่อ “จากคำของคนที่เคยไปล่าขุนพลเกราะเหล็กและขุนพลเกราะเงิน พวกมันถึงจะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า แต่สัมผัสของพวกมันไม่ได้ดีอะไร พวกมันพึ่งพาแค่ดวงตาเท่านั้น ถ้าดวงตาของพวกมันถูกทำลาย ขุนพลเกราะทองก็จะไม่เป็นอันตรายสำหรับพวกเราอีกต่อไป แถมเมื่อดวงตาของมันถูกทำลายไปแล้ว พวกเราก็จะโจมตีซ้ำใส่บาดแผลนั้นและฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย”

 

“นั่นหมายความว่าพวกเจ้ายังมีอาวุธอีกอย่างหนึ่งสำหรับฆ่ามันอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่มีดเขี้ยวรอยสักมังกร

 

มีดนั้นมีสีขาวเหมือนกับหิมะ มันแวววาวราบกับหยก และทั้ง 2 ด้านของมีดสลักรูปของมังกรน้ำแข็งเอาไว้ รอยแกะสลักนั้นดูละเอียดอ่อนและงดงาม

 

ในขณะที่หานเซิ่นถือมีดในมือ เขาก็รู้สึกหนาวเย็น เขาสามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณของมังกรอมตะที่คำรามจากภายในอาวุธ

 

ถึงแม้มันจะไม่ได้เป็นหนึ่งในสมบัติระดับเทพเจ้าที่ดีที่สุดในจักรวาล แต่มีดเขี้ยวรอยสักมังกรนี้เหมาะสมกับหานเซิ่นอย่างมาก การใช้มันไม่จำเป็นต้องใช้พละกำลังมากอะไร เพราะมีดนั้นคมพอที่จะตัดผ่านมิติได้

 

“ใช่ มีดนี้แค่ทำลายดวงตาของขุนพลเกราะทองได้เท่านั้น มันไม่ทรงพลังที่จะฆ่าซีโน่เจเนอิคนั่นได้ พวกเราได้เตรียมอะไรอย่างอื่นเอาไว้ แต่ภารกิจของเจ้าคือทำลายดวงตาของมัน เจ้าแค่ต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ ไม่ว่าสุดท้ายพวกเราจะฆ่าขุนพลเกราะทองได้หรือไม่ เจ้าก็จะได้รับยีนซีโน่เจเนอิค 1000 ยีนตามที่ตกลงกัน” ดราก้อนวันพูด

 

“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนั้น” หานเซิ่นพูดขณะที่วางมีดลง

 

“อะแฮ่ม ดอลลาร์ เจ้าถือครองมีดไปได้สำหรับตอนนี้ แต่สิ่งนี้เป็นสมบัติของเผ่าดราก้อน เจ้าจะจะนำมันไปไกลจากพวกเราไม่ได้” ดราก้อนพูดพร้อมกับไอออกมา

 

“จนกว่าจะฆ่าขุนพลเกราะทองได้ ข้าจะไม่ไปไหน” หานเซิ่นพูด

 

“ขอบคุณที่เจ้าเข้าใจดอลลาร์ มันยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เจ้าต้องจำไว้ เจ้าจะต้องใช้มีดเล่มนี้แทงใส่ดวงตาของมันโดยตรง การใช้วิชาอย่างดาบแสงจะไม่ได้ผลกับดวงตาของสิ่งมีชีวิตตัวนี้” ดราก้อนวันพูด

 

“ข้าจะจำเอาไว้” หานเซิ่นพยักหน้าขณะที่หมุนมีดเขี้ยวรอยสักมังกรในมือ

 

หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องฝึกซ้อมในเรื่องการฆ่าศัตรู แต่ครั้งนี้เขาจะล่าศัตรูที่เป็นระดับเทพเจ้า มันอาจจะอ่อนแอกว่าระดับเทพเจ้าของโลกภายนอก แต่เขาก็รู้ว่าจะชะล่าใจไม่ได้ ดังนั้นหานเซิ่นจำเป็นต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับงานนี้

 

แน่นอนว่าหานเซิ่นไม่ได้ทำงานนี้เพราะยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีนเพียงอย่างเดียว เขายังอยากจะลองดูว่าสามารถฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวนี้เพื่อเอาวิญญาณอสูรได้ไหม

 

สมบัติซีโน่เจเนอิคเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม แต่สำหรับผู้คนที่มาจากก็อตแซงชัวรี่แล้ว วิญญาณอสูรเป็นอะไรที่ดีกว่า

 

หานเซิ่นทำตามสัญญาที่ให้เอาไว้และไม่ออกไปจากฐานทัพ เขาอยู่ที่นั่นและใช้เวลาไปกับการฝึกใช้มีดเขี้ยวรอยสักมังกร ดราก้อนวันรู้สึกพอใจที่เห็นแบบนี้ ไม่ว่าเขาจะดูยังไง เขาก็เห็นว่าดอลลาร์เป็นคนที่เคารพในงานของตัวเอง

 

ดราก้อนทรีเดินเข้ามาหาดราก้อนวันและร่วมดูการฝึกของหานเซิ่น

 

“ท่านพี่ ท่านพี่คิดว่าดอลลาร์จะทำสำเร็จไหม? เขาจำเป็นต้องเข้าไปใกล้ขุนพลเกราะทองในเวลาอันสั้นและทำลายดวงตาของมัน แม้แต่ครึ่งเทพของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ และดอลลาร์ยังเป็นแค่ระดับราชัน… ท่านพี่ ถ้าท่านพี่ต้องการ ข้าจะขอให้อวี้ซ่านซินช่วย ด้วยการช่วยเหลือของเขา โอการสำเร็จของพวกเราก็จะสูงขึ้นมาก”

 

ดราก้อนวันส่ายหัว “การจะจ้างอวี้ซ่านซินไม่ใช่เรื่องง่ายแบบนั้น ถ้าทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการจะจ้างเขา มันก็ต้องจ่ายด้วยราคาที่สูง ซึ่งพวกเราไม่ได้มีทรัพยากรมากขนาดนั้น”

 

หลังจากนั้นดราก้อนวันก็มองไปที่หานเซิ่น สีหน้าของเขากลายเป็นอะไรที่ดูห่างเหินอย่างประหลาด เขาพูดขึ้นว่า
“ดอลลาร์นั้นอาจจะเป็นอวี้ซ่านซินคนต่อไป หรือบางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ”

 

ดราก้อนทรีมองดราก้อนวันด้วยความตกใจ เขาหันกลับไปมองชายที่กำลังฝึกอยู่ มันไม่ได้มีร่องรอยของการล้อเล่นอยู่ในโทนเสียงของดราก้อนวัน

 

ดราก้อนวันเปรียบเทียบดอลลาร์กับอวี้ซ่านซินผู้ยิ่งใหญ่ และเขายังบอกอีกว่าดอลลาร์อาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า นั่นถือเป็นคำชมที่หาได้ยากสำหรับคนอย่างดราก้อนวัน

 

อวี้ซ่านซินถูกเรียกว่าเป็นครึ่งเทพที่น่ากลัวที่สุดในจักรวาล แม้แต่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเองก็ไม่มีครึ่งเทพเลยสักคนที่จะเทียบชั้นกับอวี้ซ่านซินได้

 

ดราก้อนวันเองก็ไม่อาจจะเทียบกับอวี้ซ่านซินได้เช่นกัน ถ้าเขาสามารถพูดอะไรแบบนี้ออกมาด้วยความมั่นใจ มันก็แสดงว่าเขายอมรับว่าตัวเองด้อยกว่าดอลลาร์ มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าดราก้อนวันผู้ภาคภูมินั้นจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา

 

เมื่อเห็นสีหน้าที่ตกตะลึงของดราก้อนทรี ดราก้อนวันก็หัวเราะออกมา
“ข้าแค่บอกว่าเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าอวี้ซ่านซินเมื่อเขาเลื่อนระดับขึ้นแล้ว ตอนนี้เขายังไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนั้น แต่พวกเราจ้างอวี้ซ่านซินไม่ได้ ดังนั้นพวกเราจึงทำได้แต่พึ่งพาเขา”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset