Super God Gene – ตอนที่ 2521

“ซีโน่เจเนอิคขุนพลหุ่นยนต์ทองระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูร”

 

หานเซิ่นรู้สึกดีใจ ‘ฉันได้รับวิญญาณอสูรของมัน นี่เรากำลังอยู่ในช่วงโชคดีหรือยังไงถึงได้รับวิญญาณอสูรติดต่อกันแบบนี้?’

 

เมื่อขุนพลเกราะทองสิ้นใจ ดาบใหญ่สีทองก็หลุดออกจากมือของมัน ดราก้อนวันและคนอื่นๆต่างรู้สึกดีใจ หลังจากที่เห็นแบบนั้นพวกเขาก็รีบเข้ามาหาหานเซิ่น

 

ไป๋ว่านเจียมองดูหานเซิ่นจากระยะไกล ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย สมาชิกของรอยัลไนท์ทุกคนตัวแข็งทื่อไป

 

ผลลัพธ์ของการต่อสู้เป็นอะไรที่น่าตกใจ ขุนพลเกราะทองนั้นถูกบอกว่าเป็นอะไรที่ยากเกินกว่าจะฆ่าได้ แต่แล้วดอลลาร์กลับทำสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว การมองไปที่ดอลลาร์นั้นเหมือนกับการมองไปที่เทพและปีศาจ มันทิ้งความประทับใจที่ฝังลึกไว้ในสมองของพวกเขาทุกคน

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

“ดอลลาร์คนนั้นจัดการขุนพลเกราะทองด้วยตัวคนเดียว นี่ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม?”

 

“มันน่ากลัวเกินไปแล้ว ดอลลาร์คนนั้นแข็งแกร่งเกินไป เขาเพิ่งจะสังหารซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าด้วยตัวคนเดียวขณะที่เป็นแค่ระดับราชัน มันจะมีเอ็กซ์ตรีมคิงคนไหนที่ทำอะไรแบบนี้ได้ไหม?”

 

“ถึงแม้จะมีคนอื่นที่ทำอะไรแบบนี้ได้ มันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะทำมันได้อย่างง่ายดายเหมือนที่ดอลลาร์ทำ เขาต้องเป็นระดับเทพเจ้าที่แกล้งทำตัวเป็นระดับราชัน”

 

หลังจากที่ผู้ชมได้เห็นการต่อสู้นั้น พวกเขาก็ถูกทิ้งให้ตกอยู่ในภวังค์เป็นเวลานาน

 

ผู้หญิงชุดเหลืองมองไปที่หานเซิ่น ดวงตาที่งดงามของเธอกลายเป็นอะไรที่ไม่สามารถอ่านออกได้

“ดอลลาร์คนนี้เป็นใครกันแน่? พลังของเขาคืออะไรกัน? น่าสนใจ นี่มันน่าสนใจจริงๆ นี่เขาแข็งแกร่งกว่าอวี้ซ่านซินอย่างนั้นหรอ?”

 

“ดอลลาร์ ขอบคุณเจ้ามาก พวกเราคงจะทำงานนี้ไม่สำเร็จ ถ้าไม่มีเจ้า…”

ดราก้อนวันทั้งตกใจและดีใจ เขาไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรดี ถ้าไม่ใช่เพราะดอลลาร์ เผ่าดราก้อนก็คงจะสูญเสียทุกสิ่ง ดอลลาร์นำชัยชนะมาสู่พวกเขาด้วยตัวคนเดียว

 

ในจังหวะนั้นดราก้อนวันคิดว่ายีนซีโน่เจเนอิคหนึ่งพันที่มอบให้กับดอลลาร์นั้นเป็นอะไรที่คุ้มค่าอย่างมาก

 

“เจ้าจะจ่ายยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันอีก 500 ยีนให้กับข้าได้เมื่อไร?”

หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่ดราก้อนวัน หลังจากที่เขาทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้ว เขาก็ต้องการค่าจ้าง

 

“พรุ่งนี้… ไม่สิ ขอเวลาพวกเราครึ่งชั่วโมง พวกเราจะส่งพวกมันให้กับเจ้าเดี๋ยวนี้!”

ดราก้อนวันรีบสั่งให้ดราก้อนใต้บังคับบัญชารีบไปเอายีนซีโน่เจเนอิคมาให้กับดอลลาร์

 

“ดอลลาร์ เจ้าสนใจจะรับงานอื่นอีกไหม?” เดียร็อบเบอร์เข้ามาหาพร้อมกับพูดด้วยเสียงต่ำ

 

หานเซิ่นส่ายหัว “ข้ายังมีเรื่องต้องทำ ข้าไม่มีเวลา”

 

เดียร็อบเบอร์รู้สึกผิดหวัง เหตุผลที่เขาปล่อยให้ดราก้อนวันเป็นคนจ้างดอลลาร์ก่อนก็เพราะตัวเขาเองยังไม่มั่นใจในความสามารถของดอลลาร์ เขาอยากจะเห็นความสามารถของดอลลาร์ก่อนที่จะตัดสินใจจ้าง

 

แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าดอลลาร์แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ เขาฆ่าขุนพลเกราะทองตามลำพังเลยก็ว่าได้ ตอนนี้เดียร็อบเบอร์จึงรู้สึกเสียใจกับความลังเลของตัวเองก่อนหน้านี้

 

“ถ้าเจ้ามีเวลา พวกเรามาตกลงราคากันได้” เดียร็อบเบอร์พูดอย่างมีความหวัง

 

“เอาสิ ข้าจะติดต่อเจ้าไปเมื่อข้ามีเวลา” หานเซิ่นพูด

 

หานเซิ่นส่งมีดเขี้ยวรอยสักมังกรคืนให้กับดราก้อนวัน เผ่าดราก้อนรีบนำเอายีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันอีก 500 ยีนมาให้กับหานเซิ่น หานเซิ่นรับพวกมันและออกไปจากคอร์แอเรีย หลังจากนั้นเขาก็นำพวกมันไปเก็บเอาไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตา

 

“ด้วยยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีน เราจะพัฒนาอาณาเขตหนึ่งไปถึงขั้นสุดท้ายได้เป็นอย่างน้อย” หานเซิ่นสังเกตกองยีนซีโน่เจเนอิคที่เขานำไปเก็บเอาไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตาอย่างพึงพอใจ

 

การได้เห็นยีนซีโน่เจเนอิคมากมาย ทำให้หานเซิ่นเริ่มมีน้ำลายไหลออกมา แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินหว่านเอ๋อส่งเสียงครวญครางบนชั้นล่างของหอคอย เมื่อเขาไปดูเธอ เขาก็เห็นว่าเปลือกตาของเธอกำลังขยับ ดูเหมือนว่าเธอจะกำลังตื่นขึ้นมา

 

หานเซิ่นตกใจ เขารีบพาหว่านเอ๋อออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตา

 

ก่อนหน้านี้หานเซิ่นใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดเพื่อฆ่าขุนพลเกราะทอง เขารู้สึกว่าผลกระทบของหว่านเอ๋อที่มีต่อเขาอ่อนลงไปแล้ว พลังของเธอไม่ได้ยกเลิกโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของเขาอีกแล้ว เขาคิดว่านั่นเป็นอะไรที่แปลก

 

ในตอนแรกหานเซิ่นแค่ต้องการจะใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดเพื่อทำลายดวงตาของขุนพลเกราะทองและรีบถอยออกไป เขาไม่ได้คิดว่าการฆ่าขุนพลเกราะทองจะใช้เวลานานแบบนั้น

 

ตอนนี้ดูเหมือนกับว่าการที่หว่านเอ๋อกำลังจะตื่นขึ้นมานั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น

 

หว่านเอ๋อนอนอยู่บนเตียงขณะที่ดวงตาของเธอค่อยๆเปิดอย่างช้าๆ เมื่อเธอเห็นหานเซิ่นอยู่ที่นั่น จู่ๆเธอก็กระโดดเข้ามาหาเขา เธอโอบแขนรอบคอของเขาและคดตัวกับอกของเขาเหมือนกับแมว เธอหลับตาลงและพูดอย่างร่าเริง

“พี่ชาย”

 

หานเซิ่นไม่รู้จะทำยังไงดี เขาดันนอกออกไปเล็กน้อย เขายังคงไม่รู้ว่าทำไมหว่านเอ๋อถึงได้เรียกเขาว่า “พี่ชาย”

 

“หว่านเอ๋อ เจ้าจำพี่ชายของเจ้าได้ไหม?” ขณะที่เขาพูดไปแบบนั้น แม้แต่หานเซิ่นเองก็คิดว่าคำพูดของเขาเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลก

 

“แน่นอนข้าจำพี่ชายตัวเองได้” หว่านเอ๋อเอนตัวเข้ามาหาหานเซิ่น เธอหลับตาลงราวกับว่าเธอกำลังฝันกลางวัน

“ข้าไม่อยากจะแยกจากพี่ชายไปไหนอีกแล้ว ข้าต้องการจะอยู่กับพี่ชายไปตลอดกาล”

 

“หว่านเอ๋อคนดี พี่ชายคนนี้ก็ต้องการจะอยู่กับเจ้าไปตลอดการเช่นกัน”

หานเซิ่นลูบหลังของหว่านเอ๋อเบาราวกับว่าเธอเป็นเด็กเล็กๆ และหลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “เจ้าจำชื่อของพี่ได้ไหม?”

 

“แน่นอนว่าข้าจำได้ ข้าจะลืมชื่อพี่ชายตัวเองได้ยังไง? ข้าจะไม่มีวันลืมชื่อของพี่ชายตัวเอง” หว่านเอ๋อถูใบหน้ากับอกของหานเซิ่นเหมือนกับแมว

 

“ถ้าอย่างนั้นชื่อของพี่คืออะไร?” หานเซิ่นถามอย่างเร่งรีบ

 

หว่านเอ๋อเงยหัวขึ้นมา เธอมองไปที่หานเซิ่นด้วยความสับสนและพูด

“นี่พี่ชายลืมชื่อของตัวเองอย่างนั้นหรอ?”

 

“แน่นอนว่าพี่จำชื่อของตัวเองได้! พี่แค่ทดสอบเจ้าเท่านั้น” หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคุณครูสอนเด็กอนุบาล

 

เมื่อได้ยินหานเซิ่นพูดแบบนั้น ใบหน้าของหว่านเอ๋อก็เริ่มกลายเป็นสีแดง มันดูงดงามและเธอดูเหมือนกับชิ้นคริสตัลที่กำลังจะร้องไห้

“นี่พี่ชายไม่เชื่อข้าอย่างนั้นหรอ?”

 

“แน่นอนว่าพี่เชื่อเจ้า หว่านเอ๋อ! พี่แค่ล้อเล่นเท่านั้น” หานเซิ่นรู้สึกว่าความแน่วแน่ของเขาอ่อนลงไป และเขาก็เปลี่ยนไปปลอบเธอแทน

 

หว่านเอ๋อหัวเราะ เธอวางแก้มลงบนอกของหานเซิ่นและหลับตาลง

“ข้าต้องการจะอยู่กับพี่เหมือนแต่ก่อน ข้าอยากจะพูดคุยและเดินทางกับพี่ไปทั่วจักรวาล แต่หว่านเอ๋อรู้สึกเหนื่อย ข้าอยากจะหลับเยอะๆ”

 

หานเซิ่นอยากจะรู้ชื่อพี่ชายของหว่านเอ๋อให้ได้ แต่เขาไม่รู้ว่าควรจะถามยังไงดี

 

หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าการรับมือกับหว่านเอ๋ออาจจะยากยิ่งกว่าการรับมือกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า การรับมือกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า อย่างน้อยเขาก็ยังพอมีโอกาสอยู่ แต่การรับมือกับหว่านเอ๋อ เขาไม่สามารถใช้กำลังของตัวเองได้อย่างเต็มที่ด้วยซ้ำ มันเหมือนกับการชกใส่ใยฝ้าย

 

“พี่ชาย… พวกเราจะไม่กลับไปที่เซเคร็ดอย่างนั้นหรอ? แค่พวกเรา 2 คน ตลอดไป ร่วมกัน ตลอดไป” หว่านเอ๋อพึมพำกับตัวเองและเสียงของเธอก็เบาลงเรื่อยๆ

 

หานเซิ่นอึ้งไป “นี่เจ้ามาจากเซเคร็ด? ถ้าอย่างนั้น พี่ชายของเจ้าคือใครกัน? มันเป็นใครบางคนจากเซเคร็ดอย่างนั้นหรอ?”

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset