Super God Gene – ตอนที่ 2549

คนในชุดเกราะหายไปจากสายตาของกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ หลังจากนั้นเขาก็ไปปรากฏตัวต่อหน้าหานเซิ่น หมัดของเขาชกไปที่ท้องของหานเซิ่น แต่ในจังหวะที่หมัดของคนในชุดเกราะกำลังจะไปถึงตัวหานเซิ่น จู่ๆร่างกายของหานเซิ่นก็หายไป เขาไปปรากฏตัวที่อื่น การหนีไปอย่างรวดเร็วของเขาเป็นผลจากวิชาเทเลพอร์ตที่เขาฝึกฝน

 

โดยที่ไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว คนในชุดเกราะชกอีกหมัดและร่างกายของเขาก็หายไปเหมือนกับครั้งก่อน เขาไปปรากฏตัวตรงหน้าหานเซิ่น

 

หานเซิ่นเทเลพอร์ตเพื่อหลบหมัดของคนในชุดเกราะอีกครั้งหนึ่ง

 

พวกเขาทั้งคู่แว็บไปแว็บมาอย่างรวดเร็ว มันเหมือนกับว่าพวกเขาสามารถอยู่บนท้องฟ้าจังหวะหนึ่งและอยู่บนพื้นในจังหวะต่อมา

 

กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์เคลื่อนที่เข้าไปเพื่อจะช่วยหานเซิ่น แต่หานเซิ่นบอกพวกเธอว่า
“ไม่ต้องเข้ามา… พวกเธอหลบการโจมตีของเขาไม่ได้ ใช้พลังของพวกเธอปกป้องตัวเองเอาไว้ และอย่าได้เปิดช่องโหว่ให้กับเขา”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ก็หยุดอยู่กับที่ พวกเธอมองดูหานเซิ่นและคนในชุดเกราะสีดำทำการต่อสู้กัน จันทราสวรรค์กางร่มกระดาษในมือ ดาบแสงแว็บขึ้นมาจากผิวของร่ม หลังจากนั้นมันก็ขยายตัวออกเพื่อห่อหุ้มพวกเธอทั้ง 2 เอาไว้

 

“คนในชุดเกราะนั้นไม่ได้ใช้ความสามารถในการเทเลพอร์ต” กู่ชิงเฉิงพูดอย่างมั่นใจขณะที่เธอมองการต่อสู้ตรงหน้า

 

จันทราสวรรค์พยักหน้า “มันไม่ใช่การเทเลพอร์ต มันเหมือนกับ… มันเหมือนกับ…”

 

“เทพสังหารหลัว” กู่ชิงเฉิงพูดในสิ่งที่จันทราสวรรค์ลังเลที่จะพูดออกมา

 

ชายแก่คนนั้นเป็นคนที่เคยสร้างหลักปักฐานในก็อตแซงชัวรี่ให้กับมนุษยชาติ

 

ในตอนที่พลังของเทพสังหารหลัวถึงจุดสูงสุด ออร่าที่ออกมาจากตัวเขานั้นเหมือนกับบุคคลในชุดเกราะ เขาเมินเฉยต่อกฎของอวกาศเพื่อจะฆ่าศัตรูของเขา

 

“ทำไมคนในชุดเกราะคนนี้ถึงได้มีพลังวิชาจำลองนภา? ไม่สิ… นี่มันพลังของศาสตร์มารนภา คนในชุดเกราะนี้เป็นเผ่าเดม่อนอย่างนั้นหรอ?” กู่ชิงเฉิงพึมพำออกมา

 

หานเซิ่นรู้ว่าคนในชุดเกราะไม่ได้ใช้วิชาเทเลพอร์ตประเภทอวกาศ แต่กำลังใช้พลังมารนภา มีพลังไม่มากนักที่จะต่อต้านพลังมารนภาได้ แต่ต้องขอบคุณที่ศาสตร์ตงเสวียนของหานเซิ่นเป็นหนึ่งในวิชาที่ทำได้

 

หานเซิ่นสามารถปัดป้องการโจมตีของคนในชุดเกราะได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร แต่พลังของเขาเหนือกว่าหานเซิ่นอย่างปฏิเสธไม่ได้ และนั่นหมายความว่าหานเซิ่นไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายแบบตรงๆได้

หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆเมื่อมองไปที่คนในชุดเกราะ เขารู้ว่าคนที่มาโจมตีเขาคนนี้นั้นแตกต่างไปจากเหล่าเดม่อนที่เขาเคยพบมาก่อนหน้านี้ แต่เขายังไม่แน่ใจว่ามันแตกต่างยังไง

 

จี๋หยางเซิงและเดม่อนคนอื่นมองดูการต่อสู้ผ่านกระจกบานหนึ่ง พวกเขาดูจะตกใจ แม้แต่จี๋หยางเซิงก็ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น

 

“ไม่แปลกใจเลยที่หานเซิ่นหนีจากการถูกไล่ล่าโดยเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงได้ เขาเป็นคนที่น่ากลัวมากๆ เขากำลังใช้พลังแบบไหนกันแน่ถึงหลบหลีกการโจมตีของพลังมารนภาได้” เดม่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมา

 

พวกเขารู้ว่าพลังมารนภาของเดม่อนดอลล์นั้นจะทำให้ทุกการโจมตีถูกเป้าหมาย นอกซะจากว่าศัตรูจะมีพลังเหตุและผลเหมือนกัน ถ้าศัตรูไม่มีพลังแบบนั้น แม้แต่การเทเลพอร์ตก็ไม่ช่วยให้พวกเขาหนีจากการโจมตีของเดม่อนดอลล์ได้

 

ศาสตร์มารนภามีพลังเหตุและผล ดังนั้นเมื่อเดม่อนดอลล์เล็งเป้าไปที่หานเซิ่น ถึงแม้หานเซิ่นจะเทเลพอร์ตหนีไป เขาก็ควรจะถูกโจมตีอยู่ดี

 

แต่การเทเลพอร์ตของหานเซิ่นช่วยให้เขาหลบหลีกการโจมตีของเดม่อนดอลล์ได้ มันเห็นได้ชัดเขากำลังใช้วิชาเทเลพอร์ตขั้นสูง และส่วนพลังอีกอย่างที่หานเซิ่นกำลังใช้นั้น จี๋หยางเซิงไม่สามารถคาดเดาได้ เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังได้เห็นอะไร

 

“ในตอนนี้เขาอาจจะหลบหลีกการโจมตีของเดม่อนดอลล์ได้ แต่ความพยายามของเขานั้นไร้ประโยชน์ เขาเชื่องช้าและอ่อนแอกว่าเดม่อนดอลล์ วันนี้พวกเราจะพาตัวเขาไปกับพวกเรา เผ่าพันธุ์ของพวกเราต้องการมากกว่าการอวยพรแค่ครั้งเดียว ผู้คนนับพันของพวกเราในอีกหลายสิบปี… ไม่สิผู้คนนับล้านของพวกเราในอีกหลายร้อยปีก็ต้องการสิ่งที่เขาจะมอบให้เช่นกัน”
จี๋หยางเซิงพูด เขาพยายามจะเร่งให้เรื่องนี้จบลงโดยเร็ว เขาใส่พลังของตัวเองเข้าไปในเขาสีม่วงเพิ่มขึ้น สัญลักษณ์ลึกลับบนเขาสีม่วงเรืองแสงสีม่วงออกมา

 

พลังในการมอบพรที่หานเซิ่นแสดงอออกมานั้นทำให้เผ่าพันธุ์อื่นต้องการพลังนั้นของเขา

 

ถ้าพวกเขาสามารถจับตัวหานเซิ่นไปได้ พวกเขาจะไม่ส่งตัวหานเซิ่นไปให้กับเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาจะเก็บตัวหานเซิ่นเอาไว้และบังคับให้หานเซิ่นมอบพรให้กับลูกหลานของพวกเขา

 

สัญลักษณ์ลึกลับบนเขาสีม่วงสว่างไสวมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้นคนในชุดเกราะที่กำลังโจมตีหานเซิ่นอยู่ก็หยุดนิ่งไป ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้น

 

กล้ามเนื้อของบุคคลปริศนาใหญ่โตขึ้นกว่าเดิมและชุดเกราะสีดำก็เริ่มบูดบวม ออร่าสีม่วงดำที่ชั่วร้ายหนาแน่นขึ้นภายในชุดเกราะ มันทำให้บุคคลในชุดเกราะดูเหมือนกับปีศาจจากขุมนรก ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงเหมือนกับสายฟ้า

 

“นี่…นี่มันชูร่าเช้นจ์” หานเซิ่นมองไปที่บุคคลในชุดเกราะด้วยความตกใจ

 

ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมบุคคลในชุดเกราะถึงให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดม่อนคนอื่น พวกเขาดูคล้ายคลึงกัน แต่หานเซิ่นรู้สึกว่าบุคคลตรงหน้าเขานั้นเหมือนกับชูร่าในสหพันธ์มากกว่า แต่ทว่าพลังที่เขาใช้เห็นได้ชัดว่าคือพลังมารนภา นั่นทำให้เขาดูเหมือนกับเป็นหนึ่งในเผ่าเดม่อน

 

เมื่อบุคคลในชุดเกราะใช้ชูร่าเช้นจ์ ออร่าของชูร่าก็หนักแน่นขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้ดีกว่าเดิม

 

‘ทำไมถึงมีชูร่าอยู่ที่นี่? เราไม่เคยพาชูร่ามาที่จักรวาลจีโน นอกซะจากเขาจะเป็นหนึ่งในชูร่าที่ออกมาโดยใช้โลงศพในสุสานของชูร่า… เขาคือหนึ่งในราชาของชูร่าอย่างนั้นใช่ไหม?’ หานเซิ่นมองคนในชุดเกราะที่ดูเหมือนกับเผ่าเดม่อนด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน

 

คนในชุดเกราะนั้นไม่ได้หยุดคิดเหมือนอย่างที่หานเซิ่นทำ หลังจากที่เขาเปลี่ยนแปลงเสร็จแล้ว ดวงตาที่เหมือนกับสายฟ้าสีม่วงของเขาก็จ้องมาที่หานเซิ่น หลังจากนั้นเขาก็ชกหมัดออกไป

 

หานเซิ่นหลบหมัดของคนในชุดเกราะ แต่ในตอนที่เขาเทเลพอร์ตหนีไป คนในชุดเกราะก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเขา เพลิงสีม่วงลุกโชติช่วงรอบหมัดของคนในชุดเกราะขณะที่ชกใส่ท้องของหานเซิ่น

 

ปัง!

ร่างกายของหานเซิ่นถูกส่งกระเด็นออกไปราวกับลูกอุกกาบาต เขากระเด็นไปชนดาวเคราะห์น้อยที่อยู่ใกล้เคียงและทะลุผ่านมันกับดาวเคราะห์น้อยอีกหลายดวง ก่อนที่หานเซิ่นจะทรงตัวได้ คนในชุดเกราะก็ปรากฏตัวตรงหน้าและชกหมัดใส่เขาอีกครั้ง เขาถูกส่งกระเด็นออกไปอีกหนหนึ่ง

 

หานเซิ่นกระอักเลือดออกมาขณะที่ถูกชกกระเด็นออกไป เขาไม่สามารถแม้แต่จะเทเลพอร์ตหนี

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset