Super God Gene – ตอนที่ 2557

ตอนที่ 2557 เจ้าเป็นผู้กอบกู้

 

การเดินทางของหานเซิ่นเป็นไปอย่างราบรื่น ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายติดตามเขามา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเรื่องเขา

 

ซึ่งนั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ แม้แต่เผ่าเดม่อนก็ไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น หานเซิ่นอยากจะได้เดม่อนดอลล์เพิ่ม แต่เขาไม่มีโอกาสที่จะทำแบบนั้น

 

วันต่อมาหานเซิ่นตัดสินใจปล่อยออทัมน์วินด์ไป เขาไม่จำเป็นต้องมีคนลากรถม้าถึง 2 คน และถ้าเผ่าเดม่อนไม่ปรากฏตัวออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำเรื่องแบบนี้

 

“ออทัมน์วินด์ เจ้าได้ทำตามสัญญาที่ให้เอาไว้แล้ว ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว”

 

จริงๆแล้วออทัมน์วินด์เป็นคนอัธยาศัยดี ดังนั้นหานเซิ่นไม่อยากจะทำให้เขาลำบากไปมากกว่านี้

 

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ออทัมน์วินด์ก็ส่ายหัวและพูดอย่างแน่วแน่
“ไม่ได้ ในเมื่อข้าพ่ายแพ้ ข้าก็ต้องทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับเจ้า”

 

“เจ้าลากรถม้ามาวันหนึ่ง นั่นเพียงพอแล้ว” หานเซิ่นตอบด้วยความแปลกใจ

 

“วันเดียวยังไม่พอ” ออทัมน์วินด์พูด
“ข้าจะช่วยเจ้าและพวกนางทั้ง 2 หนึ่งปีเป็นอย่างน้อย ไม่สิสิบปี! ข้ายินดีที่จะช่วยพวกเจ้าทั้ง 3 คน”

 

จี๋หยางเซิงรู้สึกโกรธ เขาคิดกับตัวเอง ‘เจ้านี่มันโง่จริงๆ ทำไมเจ้าถึงต้องการมาเป็นคนลากรถม้าด้วย?’

 

หานเซิ่นมองไปที่ออทัมน์วินด์และพูดอย่างไร้ความรู้สึก
“พวกเราไม่จำเป็นต้องใช้รถม้านี่อีก เจ้าไปได้แล้ว บางทีสักวันหนึ่งพวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง”

 

ออทัมน์วินด์ยังคงไม่ยินยอมที่จะจากไป เขาพูดขึ้นมา
“ถึงแม้พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องใช้รถม้านี่แล้ว มันก็ต้องมีเรื่องอื่นที่ข้าทำให้พวกเจ้าได้ ข้าล่าซีโน่เจเนอิคและทำอาหารเก่ง ให้ข้าทำงานให้กับพวกเจ้า”

 

“รีบไสหัวไปขณะที่พวกเรายังปล่อยให้เจ้ามีชีวิตรอด เลิกพูดจาไร้สาระ” จันทราสวรรค์พูดด้วยความรำคาญ

 

ออทัมน์วินด์ถอนหายใจและพูด “ถ้าเจ้ายืนกรานที่จะให้ข้าไป ข้าก็จะไป ข้าหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้พบพวกเจ้าทั้ง 2 อีกครั้ง”

 

หลังจากนั้นออทัมนด์วินด์ก็วางเชือกลงและจากไป เขาหันกลับมามองเป็นระยะๆราวกับว่าเขาไม่ต้องการจากไป

 

“ออทัมน์วินด์คนนี้จะทำทุกอย่างเพื่อสาวงาม เป็นผู้ชายเจ้าสำราญอะไรอย่างนี้” หานเซิ่นหัวเราะ เขารู้ว่าที่ออทัมน์วินด์อยากจะอยู่ต่อนั่นเป็นเพราะจันทราสวรรค์กับกู่ชิงเฉิง

 

หลังจากที่ออทัมน์วินด์จากไปแล้ว จี๋หยางเซิงก็เห็นหานเซิ่นมองมาที่เขา เขาคิดกับตัวเอง “ปล่อยข้าไป… ปล่อยข้าไป… ปล่อยข้าไป…”

 

“นี่เจ้ายังมัวรออะไรอยู่? รีบลากรถม้าของพวกเราไปเร็วเข้า” หานเซิ่นพูด

 

“เจ้า!” จี๋หยางเซิงโกรธ เขาอยากจะตบหน้าหานเซิ่นเป็นพันครั้ง แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือลากรถม้าต่อไป

 

ในมุมๆที่ไกลออกไปของโลกอันมืดมิด แสงสลัวๆส่องท่ามกลางซากปรักหักพังของปราสาทเก่าๆ

 

“เฒ่าแมว เจ้าแน่ใจหรือว่าตอนนี้ผู้นำเซเคร็ดน้อยจะเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่น่ะ?” อาเหมยถามขณะที่มองไปที่แมวเก้าชีวิต

 

“เฒ่าแมว เจ้าควรจะคิดเรื่องนี้ให้ดี ถ้ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับผู้นำเซเคร็ดน้อย ข้าจะฆ่าเจ้า” อีแร้งแก่พูดกับแมวเก้าชีวิตด้วยสายตาที่น่ากลัว

 

แมวเก้าชีวิตหัวเราะ “อย่าได้กังวล ข้าไม่ได้ตัดสินใจผิดในเรื่องนี้ ผู้นำเซเคร็ดน้อยกำลังจะกลายเป็นระดับราชัน นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่เขาจะได้รับยีนในก็อตแซงชัวรี่ ถ้าเขาเลื่อนเป็นระดับราชัน ฟันเฟืองของเขาก็จะสมบูรณ์ เมื่อถึงตอนนั้นมันจะสายเกินไปที่เขาจะได้รับยีนที่จำเป็น เขาต้องเก็บรวบรวมยีนในก็อตแซงชัวรี่ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นระดับราชัน หลังจากนั้นเขาก็จะใช้ฟันเฟืองของตัวเองเพื่อกลายเป็นระดับราชัน”

 

“แต่ผู้นำเซเคร็ดน้อยเป็นเพียงแค่ระดับดยุก เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาจะปลอดภัยในก็อตแซงชัวรี่?” อาเหมยถาม

 

“คนอื่นอาจจะเป็นอันตราย แต่ผู้นำเซเคร็ดน้อยจะไม่มีปัญหาอะไร”
แมวเก้าชีวิตหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ “ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจะติดตามผู้นำเซเคร็ดน้อยไปด้วย ข้าจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องร้ายอะไรกับเขา”

 

ผู้คนที่น่ากลัวเหล่านั้นบอกลาเสี่ยวฮวา ไม่นานหลังจากนั้นแมวและเด็กชายก็ถือตะเกียงเดินออกไป พวกเขาตรงเข้าไปสู่ความมืดมิด

 

“เฒ่าแมว ข้าอยากจะพบแม่ของข้า” เสี่ยวฮวาพูดกับแมวเก้าชีวิต เขาถือตะเกียงขณะที่เดินไปข้างหน้า

 

“ได้แน่นอน ตอนนี้เจ้าไปที่ไหนก็ได้ แต่เจ้าต้องรู้เอาไว้ก่อนว่าแม่ของเจ้ารักเจ้ามากๆ เมื่อเจ้ากลับไป นางก็คงจะอยากให้เจ้าอยู่กับนางและไม่อนุญาตให้เจ้าออกไปไหน แต่นั่นจะทำให้โลกนี้ถึงจุดจบและเมื่อเป็นแบบนั้นทั้งแม่ ครอบครัว และเพื่อนของเจ้าก็จะต้องตายกันหมด ถ้าเจ้าไม่แข็งแกร่งขึ้นและช่วยทุกสิ่งมีชีวิต อย่างนั้นแม่และพ่อของเจ้าก็จะต้องตาย แม้แต่น้องสาวที่น่ารักของเจ้าก็จะไม่รอด เจ้าได้เห็นวิดีโอของนางใช่ไหม? นี่เจ้าอยากให้พวกเขาถูกฆ่าตายอย่างนั้นหรอ?” แมวเก้าชีวิตพูด

 

“ข้าเป็นคนเดียวที่จะปกป้องโลกใบนี้ได้อย่างนั้นหรอ? มันไม่มีหนทางอื่นเลยหรือยังไง?” เสี่ยวฮวาถามขณะที่มองไปที่แมวเก้าชีวิต

 

“ใช่ เจ้าเป็นผู้กอบกู้โลกใบนี้ เจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่จะปกป้องทุกคนได้” แมวเก้าชีวิตตอบอย่างจริงจัง

 

“ก็ได้ พวกเราจะไปก็อตแซงชัวรี่ ข้าจะไม่ปล่อยให้พ่อแม่หรือน้องสาวของข้าต้องตาย ข้าจะปกป้องโลกใบนี่” ใบหน้าของเสี่ยวฮวาดูแน่วแน่กับเรื่องนี้

 

“ใช่แล้ว มันต้องแบบนั้น ปกป้องโลกใบนี้และเจ้าจะได้อยู่กับครอบครัวของเจ้า” แมวเก้าชีวิตพยักหน้า

 

ภายในก็อตแซงชัวรี่เขตที่หนึ่ง ถังหมิงเอ๋อถือมีดอยู่ในมือและวิ่งออกจากเมืองไปอย่างตื่นเต้น เธอเพิ่งจะอายุ 16 และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ แต่สิ่งที่แปลกก็คือเมืองที่เธออยู่นั้นว่างเปล่า เธอเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ที่นั่น

 

แต่เรื่องนั้นไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับถังหมิงเอ๋อ เธอเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และเธอก็มั่นใจในความสามารถของตัวเอง เธอไม่ได้สนใจที่ไม่มีใครคนอื่นอยู่ที่นี่ เธอแค่อยากจะรีบไปฆ่ามอนสเตอร์

 

หลังจากที่วิ่งออกไปได้สักพัก เธอก็เห็นเงาของสิ่งมีชีวิต 2 เงาอยู่ในทุ่งหญ้า ถังหมิงเอ๋อดีใจกับเรื่องนี้ เธอรีบวิ่งเข้าไปหาพวกมันขณะที่ถือมีดโลหะzอยู่ในมือ

 

แต่เมื่อถังหมิงเอ๋อเข้าไปใกล้ เธอก็ต้องตกใจ เงาของสิ่งมีชีวิตนั้นคือเงาของเด็กชายอายุ 12 ปีและแมวตัวหนึ่ง

 

เด็กชายคนนั้นมีริมผีปากสีแดงและฟันสีขาว เขาดูงดงามและเขาก็ดูเหมือนกับมนุษย์คนหนึ่ง

 

แต่มนุษย์จะไม่สามารถเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ได้ ถ้าพวกเขายังอายุไม่ถึง 16 ปี ถ้าพวกเขาเข้ามาก่อนหน้านั้น ร่างกายของพวกเขาก็จะได้รับความเสียหาย ดังนั้นเด็กชายคนนี้ไม่มีทางเป็นมนุษย์ไปได้

 

“เจ้าเป็นมนุษย์ใช่ไหม?” ถังหมิงเอ๋อถามขณะที่เข้ามาใกล้เด็กชายคนนั้น

 

“ข้าเป็นมนุษย์ พี่สาวเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกันใช่ไหม?” เสี่ยวฮวามองไปที่ถังหมิงเอ๋อด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาไม่ได้เห็นมนุษย์คนอื่นมาเป็นเวลานานหลายปี

 

ถังหมิงเอ๋อรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินว่าเขาเป็นมนุษย์ แต่เธอไม่คิดว่านั่นเป็นความจริง เธอใช้มีดชี้ไปที่เสี่ยวฮวาและพูด

“อย่าโกหก มนุษย์จะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาอายุ 16 เจ้ายังเด็กเกินไป เจ้าเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ก่อนหน้านั้นได้ยังไง?”

 

เสี่ยวฮวากำลังจะตอบ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ใต้ดิน ดิ้นพุ่งขึ้นมาราวกับน้ำพุและตะขาบยาวสิบเมตรก็โผล่ออกมาจากพื้น มันตรงเข้าไปโจมตีถังหมิงเอ๋อและเสี่ยวฮวา

 

“วิ่ง!” ใบหน้าของถังหมิงเอ๋อซีดไป เธอจับมือของเสี่ยวฮวาและวิ่งไปทางเมืองที่เธอออกมา

 

ก่อนที่เธอจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ เธอได้อ่านเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ที่นั่น เธอรู้ในทันทีว่านี่เป็นตะขาบปีศาจเลือดศักดิ์สิทธิ์ เธอเพิ่งจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ ดังนั้นเธอไม่สามารถเอาชนะมันได้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset