Super God Gene – ตอนที่ 2561

ขณะที่จุดสีขาวส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆภายในความมืดมิด มันก็กลายเป็นอะไรที่มองข้ามไม่ได้ ยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามากมายสังเกตเห็นถึงการมีอยู่ของมัน และพวกเขาทุกคนก็มีใบหน้าที่ตกตะลึง

 

ขณะที่เขามองดูวิดีโอบนหน้าจอ จี๋หยางเซิงก็สังเกตเห็นจุดสีขาว แต่จุดสีขาวนั้นเล็กเกินไป เขาจึงไม่แน่ใจว่ามันหมายความว่าอะไรกันแน่

 

“โซ่สสาร นั่นมันโซ่สสาร! บาร์กำลังกลายเป็นระดับเทพเจ้า…”
โมโดโรที่อยู่ข้างๆเขาพูดขึ้นมาเมื่อสังเกตเห็นจุดสีขาว ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวและเขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง

 

“อะไรนะ? มิสเตอร์โมโดโร เมื่อกี๊นี้พูดว่าอะไร?” จี๋หยางเซิงคิดว่าเขาอาจจะได้ยินผิดไป ดังนั้นเขาจึงขอให้โมโดโรพูดซ้ำอีกครั้ง

 

ก่อนที่โมโดโรจะตอบอะไรกลับมา จี๋หยางเซิงก็ได้รับคำตอบอย่างที่ไม่สามารถผิดพลาดไปได้

 

จุดสีขาวนั้นขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว และพลังเดสทรอยเยอร์สีดำก็กลายเป็นสีขาวอย่างฉับพลัน มันเป็นเหมือนกับไฟที่เผาผลาญร่างกายของบาร์

 

มีเพียงแค่กระดูกสีดำของบาร์เท่านั้นที่ยังคงอยู่ แต่กระดูกเหล่านั้นตอนนี้กลายเป็นสีขาว และพลังเดสทรอยเยอร์สีขาวก็เริ่มสร้างเนื้อหนังขึ้นใหม่

 

ตูม!

ก่อนที่บาร์จะออกมาจากพลังเดสทรอยเยอร์สีขาว มิติของอวกาศรอบๆดูเหมือนจะบิดเบือนและฉีกขาด มันเหมือนกับว่าจักรวาลนั้นกำลังจะแตกสลาย ร่างกายของบาร์ร่วงหายเข้าไปช่องว่างที่เกิดขึ้น

 

เมื่อบาร์หายตัวไปแล้ว การพังทลายของอวกาศก็หยุดลง

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ข้าไม่คิดว่าบาร์จะเสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลงแล้ว แบบนั้นทำไมเขาถึงได้หายตัวไป?” หลายคนสับสนกับสิ่งที่เห็น พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆอวกาศรอบๆตัวบาร์ถึงพังทลาย

 

“เขากลายเป็นระดับเทพเจ้า คอร์แอเรียนั้นไม่อนุญาตให้คนที่เป็นระดับเทพเจ้าเข้ามาข้างใน ดังนั้นเมื่อเขาวิวัฒนาการกลายเป็นระดับเทพเจ้า เขาก็จะถูกถีบออกไปจากคอร์แอเรีย” คนที่เข้าใจสถานการณ์คนหนึ่งพูดขึ้นมา

 

“บาร์…กลายเป็นระดับเทพเจ้า…” จี๋หยางเซิงตกตะลึง หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา ถ้าเขายอมจ่ายยีนซีโน่เจเนอิค 2 พันยีนให้กับหานเซิ่น เขาก็คงจะเป็นคนที่กลายเป็นระดับเทพเจ้าแทนบาร์

 

“นี่บาร์กลายเป็นระดับเทพเจ้าจริงๆหรอเนี่ย?” ผู้ชมที่ดูอยู่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งจะได้เห็น

 

“เขากลายเป็นระดับเทพเจ้า? นี่มันต้องเป็นกลลวงบางอย่าง เจ้าจะบอกว่าหานเซิ่นทำให้คนอีกคนกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้สำเร็จอย่างนั้นหรอ?”

 

“นี่ใครช่วยอธิบายให้ข้าฟังได้ไหมว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?”

 

“เขาเป็นบิดาของเทพ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาทำแบบนั้นได้ และนี่ก็เป็นหลักฐานอีกอย่างที่ยืนยันว่าเขาอวยพรให้คนอื่นได้จริงๆ”

 

“ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2 พันยีน? เจ้าแค่จำเป็นต้องมียีนระดับราชัน 2 พันยีนเพื่อจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าอย่างนั้นหรอ? โลกนี้มันบ้าไปแล้วหรือว่าเป็นข้าที่กำลังจะเป็นบ้า? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่การกลายเป็นระดับเทพเจ้านั้นถูกขนาดนี้?”

 

ในตอนนี้ทั้งจักรวาลดูเหมือนจะเป็นบ้ากันไปหมด ทุกคนมองหานเซิ่นเหมือนกับรูปปั้นเทพ พวกเขาต้องการไปตรงหน้าหานเซิ่นและก้มลงกราบโดยหวังว่าหน้าผากของพวกเขาจะถูกสัมผัสและได้กลายเป็นระดับเทพเจ้า

 

“บาร์กลายเป็นระดับเทพเจ้าจริงๆ?” ลุงหกจ้องมองหน้าจอขณะที่อ้าปากค้าง

 

“ถ้าอยากรู้ว่าบาร์กลายเป็นระดับเทพเจ้าจริงหรือไม่ ทั้งหมดที่พวกเราต้องทำก็คือส่งคนไปที่เผ่าเดสทรอยเยอร์และถามความจริงจากปากเจ้าตัว” เหมิงเลี่ยพูด

 

ผู้นำของทุกเผ่าพันธุ์ทำเหมือนกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาอยากจะรู้เกี่ยวกับสถานะของบาร์ในตอนนี้ บาร์ไม่ได้หลบซ่อนตัว เขาออกมายืนอยู่ต่อหน้าทุกคนโดยที่ไม่ได้ปิดบังเรื่องที่เขากลายเป็นระดับเทพเจ้า

 

“เขากลายเป็นระดับเทพเจ้าจริงๆ”
ในตอนนี้ไม่มีใครสงสัยอีกต่อไป ขณะนี้ทุกคนในเผ่าพันธุ์ชั้นสูงมองหานเซิ่นเป็นเหมือนกับเทพ ทุกคนจัดเตรียมยีนซีโน่เจเนอิคของตัวเองโดยหวังว่าพวกเขาจะได้รับการอวยพรจากหานเซิ่น

 

ยีนซีโน่เจเนอิคราชัน 2 พันยีนถือเป็นตัวเลขที่สูง แต่เมื่อเทียบกับการกลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว นั่นถือว่าไม่เท่าไหร่ การแลกเปลี่ยนยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2 พันยีนกับการกลายเป็นระดับเทพเจ้านั้นถือเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าคุ้มค่า

 

ถ้าหานเซิ่นยินดีจะอวยพร ทุกเผ่าพันธุ์ก็ยินดีจะจ่ายค่าอวยพรจนกระทั่งพวกเขาหมดเนื้อหมดตัว

 

อาเธอร์มองบาร์ที่กลายเป็นระดับเทพเจ้า เขาดีใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2 พันยีนแลกกับการที่บาร์กลายเป็นระดับเทพเจ้านั้นเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ

 

แม้แต่เดียร็อบเบอร์เองก็ประหลาดใจ เขาคิดว่าการอวยพรของหานเซิ่นแค่จะช่วยส่งเสริมยีนของบาร์เท่านั้น เขาไม่ได้คาดคิดว่าบาร์จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าในทันที

 

“ชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว” เดียร็อบเบอร์รู้สึกเกรงกลัวขึ้นมา

 

มันไม่ใช่แค่เดียร็อบเบอร์เท่านั้นที่รู้สึกกลัว ยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงก็หวาดกลัวหานเซิ่นเช่นกัน นี่เป็นความกลัวที่พวกเขาไม่เคยได้ประสบมาก่อน

 

สิ่งมีชีวิตระดับราชันคนหนึ่งสามารถช่วยให้คนอื่นกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ มันเป็นอะไรที่น่าตกใจเกินกว่าจะเชื่อได้ การมีอยู่ของเขานั้นพลิกผันทั้งจักรวาลจีโน

 

ส่วนระดับราชันและขุนนางทั่วไปนั้นไม่ได้กังวลอะไรมากนัก พวกเขาแค่คิดว่าหานเซิ่นทำบางสิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์

 

“ก็อดฟาเธอร์นี่แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ น่าเสียดายข้าไม่มียีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2 พันยีน”

 

“ยีนซีโน่เจเนอิค 2 พันยีนเป็นสิ่งที่ข้าคงจะหามาไม่ได้ นี่เขาสนใจเอาผู้หญิงแทนไหม? ข้ายินดีจะจ่ายด้วยร่างกายของตัวเองถ้าเขาต้องการ”

 

“เลิกฝันกลางวัน ลองส่งกระจกดูตัวเอง นี่เจ้าคิดว่าตัวเองงดงามเหมือนอย่างผู้หญิงทั้ง 2 คนที่ก็อดฟาเธอร์มีอย่างนั้นหรอ?”

 

“เขามีทั้งพลังที่สุดยอดและผู้หญิงที่งดงาม เขามีทุกอย่าง”

 

หานเซิ่นได้รับสมญานามก็อดฟาเธอร์มา ก่อนหน้านี้ผู้คนเรียกหานเซิ่นว่าบิดาของเทพ แต่สมญานั้นถูกเรียกอย่างลับๆและมันไม่ใช่บางสิ่งที่จะถูกเรียกในที่สาธารณะ

 

แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้สมญานามก็อดฟาเธอร์ก็กลายเป็นอะไรที่แพร่หลาย มันทำให้เขาฟังดูเหมือนกับพ่ออุปถัมภ์ แต่มันไม่ได้หมายความแบบนั้น

 

ในตอนนี้คนที่หดหู่ที่สุดคือจี๋หยางเซิง เขาลากรถม้าให้กับหานเซิ่นเป็นเวลานาน และเขายังมอบยีนซีโน่เจเนอิค 5 ร้อยยีนให้กับหานเซิ่น แต่เขาไม่ได้รับอะไรกลับมา ขณะที่บาร์กลายเป็นระดับเทพเจ้า

 

ถ้าจี๋หยางเซิงมีโอกาสอีกครั้ง เขาก็คงจะบอกกับหานเซิ่นว่า “ตกลง ข้าจะมอบยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2 พันยีนให้กับเจ้า”

 

ถ้าเขารู้ว่าหานเซิ่นสามารถทำให้คนอื่นกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ เขาก็ยินดีจะจ่ายยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันมากกว่า 2 พันยีน เขายินดีจะจ่ายเป็น 2 เท่าของราคานั้น

 

ปัญหาเดียวคือตอนนั้นเขาไม่ได้เชื่อว่าหานเซิ่นจะทำให้คนอื่นกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้จริงๆ เพราะยังไงซะมันก็ฟังดูเวอร์ไปหน่อย

 

เมื่อหานเซิ่นกลับเข้าในคอร์แอเรีย ราชันจากทุกเผ่าพันธุ์ก็แห่กันมาพบกับเขา

 

“อาจารย์หาน ข้านำยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2 พันยีนมาให้กับอาจารย์ ถ้าอาจารย์ยินดีจะอวยพรให้กับข้า ข้าก็จะมอบพวกมันให้กับอาจารย์”

 

“ไสหัวออกไป! ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2 พันยีนอะไรกัน? เจ้าขี้ตระหนี่แบบนั้นต่อหน้าก็อดฟาเธอร์ได้ยังไง? ข้ามียีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2500 ยีน ข้าควรจะได้รับพรก่อน”

 

“ข้ามียีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 3 พันยีน…”

 

แม้แต่จี๋หยางเซิงเองก็นำยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2 พันยีนมาให้กับหานเซิ่น แต่เมื่อเขาเห็นผู้คนที่แห่กันมา เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสมากนัก เขารู้สึกเศร้าสร้อย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset