Super God Gene – ตอนที่ 2565

ตอนที่ 2565 จระเข้ระดับพระเจ้า

 

หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทตกตะลึง ขณะที่พวกเธอมองดูดอลลาร์ฆ่าจระเข้ปีศาจตัวแล้วตัวเล่า พวกเธอก็เริ่มจะชินชากับมัน พวกเธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าดอลลาร์ทำแบบนั้นได้ยังไง

 

เขากำลังใช้วิชาเทเลพอร์ตของเวรี่ไฮเอาชนะสมาชิกของเวรี่ไฮ แม้แต่เอ็กซ์ควิสิทที่มักจะมีใบหน้าเย็นชาอยู่ตลอด เวลานี้ก็ยังดูตกใจ

 

ความจริงแล้วจระเข้ปีศาจ 2 ตัวสุดท้ายที่พบ เอ็กซ์ควิสิทได้ล้มเลิกความคิดที่พยายามแย่งพวกมันจากหานเซิ่น เธอหันไปจดจ่อกับการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นแทน เธออยากรู้ว่าเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วกว่าเธอได้ยังไง

 

เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกประหลาดใจเมื่อยืนยันได้ว่าก็อตส์วอนเดอร์ของหานเซิ่นเป็นแค่ขั้นต้นจริงๆ มันควรจะช้ากว่าเธอ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันไม่ช้าเลยสักนิดเดียว

 

ความจริงแล้วเขาดูเหมือนกำลังใช้ก็อตส์วอนเดอร์อย่างปกติโดยไม่มีลูกเล่นอะไร ซึ่งทำให้เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกแปลกใจ หลังจากที่เธอมองดูอยู่สักพัก ในที่สุดเอ็กซ์ควิสิทก็ค้นพบความจริง

 

“แรงโน้มถ่วงของดาวดวงดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบต่อเขา” ความสามารถในการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นไม่ได้รวดเร็วกว่าเธอ แต่เขาไม่ได้ถูกจำกัดการเคลื่อนไหวเหมือนกับเธอ หานเซิ่นสามารถใช้วิชาในการเทเลพอร์ตในความเร็วปกติ

 

การสันนิษฐานของเอ็กซ์ควิสิทนั้นถูกต้อง หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อหยุดฟันเฟืองจักรวาลของแรงโน้มถ่วง ซึ่งทำให้แรงโน้มถ่วงของดวงดาวไม่ส่งผลต่อเขา ขณะที่เอ็กซ์ควิสิทยังตกอยู่ภายใต้แรงโน้มถ่วงของมัน ด้วยเหตุนั้นเธอจึงเชื่องช้ากว่าหานเซิ่น

 

ศาสตร์ตงเสวียนนั้นคลายคลึงกับเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่พวกมันถูกพัฒนาในทิศทางที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์นั้นทำให้เวรี่ไฮเซ้นส์ขาดความสามารถนี้ไป

 

“พลังที่เมินเฉยต่อแรงโน้มถ่วงอย่างนั้นหรอ? นั่นเป็นอะไรที่น่าสนใจ”
เอ็กซ์ควิสิทพยักหน้า เผ่าเวรี่ไฮมีวิชาที่ส่งผลเหมือนกัน แต่เธอไม่ได้ฝึกพวกมัน ด้วยเหตุนั้นเธอจึงไม่ได้ประหลาดใจมากนัก

 

“ดูเหมือนว่าแรงโน้มถ่วงของดาวดวงนี้จะไม่มีผลกับเขา ข้าคงต้องรอจนกระทั่งจระเข้ระดับเทพเจ้าปรากฏตัวออกมา”
ยังไงซะเอ็กซ์ควิสิทก็ไม่ได้คาดคิดว่าแค่จระเข้ปีศาจระดับราชันจะทำให้หานเซิ่นแสดงพลังที่แท้จริงออกมา เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูหานเซิ่นสังหารจระเข้ปีศาจธรรมดา เธออยากจะเห็นเขาเผชิญหน้ากับจระเข้ระดับเทพเจ้า

 

ซีโน่เจเนอิคระดับราชันไม่ได้หาตัวได้ง่ายนัก แต่พวกเขาทั้ง 3 คนก็หาจระเข้ปีศาจระดับราชันได้หลายสิบตัวตั้งแต่มาที่นี่

 

เนื่องจากแรงโน้มถ่วงและอุณหภูมิที่น่ากลัวของดวงดาว ยอดฝีมือระดับราชันที่ไม่สามารถเทเลพอร์ตได้จะตกอยู่ในอันตรายเมื่อพวกเขามาที่นี่

 

หลังจากที่หานเซิ่นฆ่าจระเข้ปีศาจไป 7 ตัว การเดินทางอีกครึ่งวันของพวกเขาก็ไม่พบซีโน่เจเนอิคอีกเลย

 

“ดูเหมือนว่าจระเข้ปีศาจจะถูกพวกเรากำจัดไปจนหมดแล้ว มันยังมีสถานที่อื่นอีกไหมที่มีซีโน่เจเนอิคระดับราชัน?” หานเซิ่นถาม

 

“ไหนๆพวกเราก็มาที่นี่แล้ว พวกเราควรจะค้นหารอบดาวต่ออีกหน่อยเผื่อในกรณีที่พวกเรามองข้ามอะไรไป” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

หานเซิ่นเห็นด้วยกับเรื่องนั้น มันเป็นเรื่องยากที่จะหาซีโน่เจเนอิคระดับราชัน ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าไม่มีซีโน่เจเนอิคระดับราชันเหลืออยู่ที่นี่อีกแล้ว

 

พวกเขาค้นหารอบดวงดาวกันต่อ และหลังจากที่เดินทางไปอีกสักพัก พวกเขาก็พบกับจระเข้ปีศาจอีกตัว แต่ทว่าครั้งนี้หานเซิ่นไม่ได้เทเลพอร์ตเข้าไปโจมตีมันในทันที

 

เพราะยังไงซะหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็พาเขามาที่นี่ เขาจะรู้สึกแย่ถ้าเขาฆ่าพวกมันทั้งหมดคนเดียว ด้วยเหตุนั้นเขาจึงปล่อยจระเข้ปีศาจตัวนี้ให้กับพวกเธอ

 

เอ็กซ์ควิสิทดูเหมือนจะมองความใจกว้างของหานเซิ่นด้วยความดูถูก แต่ทว่าเมื่อหลี่เคอเอ๋อสังเกตว่าหานเซิ่นไม่เคลื่อนไหว เธอก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร เธอเทเลพอร์ตไปข้างหน้าเพื่อสังหารจระเข้ปีศาจโซ่

 

หลี่เคอเอ๋ออ่อนแอกว่าเอ็กซ์ควิสิท แต่การฆ่าจระเข้ปีศาจโซ่ระดับราชันนั้นก็เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเธอ

 

หลังจากที่ฆ่าจระเข้ปีศาจตัวนั้นไปแล้ว พวกเขาก็สังเกตได้ถึการเคลื่อนไหวตรงหน้า ดูเหมือนกับว่ามีบางสิ่งกำลังออกมาจากข้างล่างนั่น

 

“จระเข้ปีศาจอีกตัว?” หานเซิ่นมองไปทางนั้น หลังจากนั้นเขาก็เห็นจระเข้ปีศาจตัวหนึ่งปรากฏตัวออกมา

 

แต่จระเข้ปีศาจตัวนี้ดูแตกต่างไปจากจระเข้ปีศาจตัวอื่น มันดูคล้ายคลึงกับตัวอื่นๆ แต่จระเข้ปีศาจตัวนี้มีขนาดเล็กกว่าปกติ มันมีขนาดพอๆกับจระเข้ธรรมดาเท่านั้น และมันก็ไม่มีปีก

 

จระเข้ปีศาจตัวอื่นมีร่างกายโลหะสีแดง แต่ทว่าจระเข้ปีศาจตัวนี้เป็นสีดำสนิท ถ้าร่างกายของมันไม่ได้ปลดปล่อยแสงออกมาอย่างประหลาดล่ะก็ มันก็ดูเหมือนกับจระเข้ธรรมดาในแว็บแรก

 

หานเซิ่นหลี่ตาลงขณะที่สังเกตจระเข้ปีศาจ และคลื่นความตึงเครียดก็ซัดผ่านร่างกายของเขา เขาจะรู้สึกแบบนี้ก็ต่อเมื่อตกอยู่ในอันตราย

 

ขณะที่หานเซิ่นสังเกตจระเขี้ปีศาจตัวเล็กตัวนี้ เขาก็นึกถึงท่าทางของเจ้าเตาหลอมทองแดงขึ้นมาได้ เขาสามารถคาดเดาได้ว่าสิ่งมีชีวิตนี้คืออะไร

 

‘นึกว่าเตาหลอมทองแดงหวาดกลัวแรงโน้มถ่วงและความร้อน แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพราะมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ที่นี่อย่างนั้นสินะ?’
หานเซิ่นไม่ได้ตกใจกับเรื่องนี้ เขากลับดีใจแทน หานเซิ่นนั้นใกล้จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเก็บยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าสะสมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

 

ถ้าเขากลายเป็นระดับเทพเจ้า เขาก็จะเข้ามาในคอร์แอเรียไม่ได้อีก ด้วยเหตุนั้นเขาต้องฆ่าคอร์ซีโน่เจเนอิคในขณะที่เขายังมีโอกาส

 

“ระวังตัว จระเข้ปีศาจตัวนี้เป็นระดับเทพเจ้า” หลี่เคอเอ๋อเตือนพวกเขา

 

เอ็กซ์ควิสิทไม่ได้พูดอะไร เธอสัมผัสได้ถึงตัวตนของจระเข้ตัวนี้นานแล้ว วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์นั้นเหนือกว่าศาสตร์ตงเสวียนในเรื่องนี้

 

ศาสตร์ตงเสวียนนั้นจะสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อยู่ในอาณาเขตของมันเท่านั้น ส่วนเวรี่ไฮเซ้นส์นั้นเกี่ยวกับที่ท้องฟ้าและผู้ฝึกกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อเอ็กซ์ควิสิทมายืนอยู่บนดวงดาว เธอก็เห็นทุกสิ่งบนดวงดาวนี้ได้อย่างชัดเจน เธอไม่จำเป็นต้องใช้อาณาเขตเพื่อค้นพบสิ่งที่อยู่รอบๆตัว

 

และวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ของเธอยังถือว่าอยู่ในขั้นต่ำ ถ้าเธอฝึกถึงระดับที่สูงที่สุด เธอก็จะเห็นและสัมผัสได้ถึงสิ่งต่างๆทั่วทั้งจักรวาล

 

แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ทฤษฎีเวอร์ชั่นสมบูรณ์ของวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์เท่านั้น มันยังไม่มีใครในเวรี่ไฮที่ฝึกจนเชี่ยวชาญถึงขั้นนั้น

 

วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์มุ่งเน้นไปที่สัมผัสของผู้ฝึก ความสามารถในการสัมผัสสิ่งต่างๆของมันเหนือกว่าศาสตร์ตงเสวียน แต่ความสามารถในการควบคุมของมันด้อยกว่าศาสตร์ตงเสวียน ทั้ง 2 วิชามีข้อดีข้อเสียของตัวเอง

 

หานเซิ่นสังเกตจระเข้ระดับเทพเจ้า ดวงตาของมันดูเหมือนสิงโตขณะที่มันจ้องมองมาที่พวกเขา

 

มันอาจจะเป็นเพราะรูปร่างใบหน้าของจระเข้ แต่จระเข้ระดับเทพเจ้านั้นดูเหมือนกับว่ากำลังมองหานเซิ่นและคนอื่นๆด้วยความดูถูก และมันก็ดูเหมือนกับว่าไม่ได้สนใจอะไรในการมีอยู่ของพวกเขา

 

ในจังหวะที่หานเซิ่นกำลังจะเคลื่อนไหว จระเข้ระดับเทพเจ้าก็ปลดปล่อยแสงสีดำออกมา แสงนั้นเหมือนกับหลุมดำที่ดูดกลืนทั้งดวงดาว

 

หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจมน้ำ เขาร่วงลงกับพื้นผิวของดวงดาวด้วยแขนขาที่ยื่นออก

 

หานเซิ่นไม่ใช่แค่คนเดียวที่ร่วงลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทเองก็ร่วงลงมาเช่นกัน พวกเธอไม่ได้ดูเหมือนกับผู้หญิงที่สง่างามอีกต่อไป

 

หานเซิ่นรวบรวมพลังทั้งหมดและพยายามจะยืนขึ้น แต่เขารู้สึกราวกับว่ากำลังถูกดูดด้วยแม่เหล็กที่รุนแรง เขาไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ เขาไม่สามารถยกหัวขึ้นมาจากพื้นได้ด้วยซ้ำ

 

หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน พวกเธอไม่สามารถลุกขึ้นมาได้

 

พวกเขาทั้ง 3 คนนอนกางแขนขาออกอยู่บนพื้น และพวกเขาทั้งหมดได้แต่มองไปทางจระเข้ตัวเล็กที่กำลังเข้ามาหาพวกเขา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset