Super God Gene – ตอนที่ 2571

ตอนที่ 2571 วิชาคริสตัลเฟอร์เนส

 

หานเซิ่นคิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็เอาผลไม้หลายลูกออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตาเพื่อมอบให้กับจระเข้น้อย

 

“จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยยังเป็นแค่เด็กทารก มันควรจะเอาใจได้ง่าย ทั้งหมดที่เราจำเป็นต้องทำก็คือทำให้มันดีใจ หลังจากนั้นเราก็จะทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ แต่มันจะเป็นมังสวิรัติหรือเปล่า? ในตอนนี้เราไม่มีเนื้อเก็บตุนเอาไว้เลย”
ตั้งแต่ที่หานเซิ่นเริ่มเก็บสะสมยีนซีโน่เจเนอิค เขาก็ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นเลย ผลไม้นั้นเป็นบางสิ่งที่เขาเก็บเอาไว้ให้กับเป่าเอ๋อ

 

แต่หลังจากที่เป่าเอ๋อค้นพบโสมสีม่วงนั่น เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่นอีก ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงเก็บพวกมันเอาไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตา

 

ถ้าคนๆหนึ่งต้องการให้ร่างกายของตัวเองวิวัฒนาการ พวกเขาก็ต้องทำอะไรมากกว่าแค่การฝึกวิชาจีโน ยิ่งคนๆนั้นมีระดับสูงมากเท่าไหร่ พลังงานที่ร่างกายต้องใช้ก็มากเท่านั้น และอาหารที่พวกเขารับประทานเข้าไปก็ต้องมีคุณภาพสูง นั่นเป็นหนทางเดียวที่พวกเขาจะได้รับพลังงานเสริมที่จำเป็น ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลจำเป็นต้องกิน มันแตกต่างกันเพียงแค่วิธีการและสิ่งที่พวกเขากินเท่านั้น

 

ยอดฝีมือระดับสูงนั้นมีชีวิตอยู่โดยปราศจากอาหารได้เป็นเวลานาน แต่สิ่งที่พวกเขาต้องจ่ายเพื่อแลกมากับเรื่องนั้นคือการกลืนกินพลังงานของตัวเอง ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนั้นเป็นเวลานานๆ ร่างกายของพวกเขาก็จะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง

 

ในตอนที่ผู้คนบอกว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องกินในขณะที่ฝึกนั้น มันเป็นอะไรที่ไร้สาระสิ้นดี ในชีวิตจริงคนเราจะตายถ้าไม่กินอาหาร การรอดตายเพียงแค่ใช้เวลานานกว่าสำหรับคนที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับคนที่อ่อนแอ

 

นี่ไม่ได้เฉพาะกับนักสู้ที่มีระดับพลังธรรมดาเท่านั้น ในประสบการณ์ของหานเซิ่นแม้แต่คนที่เรียกตัวเองว่า “พระเจ้า” ก็ต้องกินเช่นเดียวกัน แต่แทนที่จะกินเนื้อ พวกเขากินอายุขัยของผู้คนที่ทำการอธิฐานกับพวกเขา

 

จระเข้ระดับเทพเจ้าก็ต้องกินเช่นเดียวกัน แต่มันดูจะไม่สนใจผลไม้ที่หานเซิ่นมอบให้กับมัน มันใช้หางปัดผลไม้กระเด็นออกไป

 

“ดูเหมือนว่ามันจะไม่ชอบผลไม้หรือผัก ถ้าอย่างนั้นอาหารแบบไหนกันที่มันชอบกิน?”
หานเซิ่นพยายามคาดเดา แต่เขาไม่มีเนื้อจะแบ่งให้กับมัน แต่เมื่อลองคิดดูดีๆ หานเซิ่นก็ไม่คิดว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าจะกินเนื้อเช่นกัน ถ้ามันกินเนื้อล่ะก็ หานเซิ่น หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็คงจะกลายเป็นอาหารของพวกมันไปแล้ว

 

จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยส่งเสียงขู่หานเซิ่นอีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่ 2 และเห็นได้ชัดว่ามันกำลังเร่งให้หานเซิ่นไปทำงาน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงรีบเก็บกวาดเศษคริสตัลที่แตกกระจายรอบๆตัว

 

จระเข้น้อยทำตัวเหมือนกับผู้ตรวจการและคอยออกคำสั่งให้หานเซิ่นทำสิ่งต่างๆ เช่นการโยนคริสตัลที่แตกออกไปจากป้อมปราการและลงไปในทะเลลาวาด้านนอก

 

หานเซิ่นไม่ได้รีบร้อนหรือรำคาญ เขาแค่ทำเก็บกวาดตามที่จระเข้น้อยต้องการโดยหวังว่าเขาจะพบบางสิ่งที่มีประโยชน์ระหว่างที่ทำแบบนั้น

 

จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยดูพึงพอเมื่อเห็นหานเซิ่นตั้งใจทำงาน จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อเป็นหัวหน้างาน มันดูจะชื่นชอบการทำอะไรแบบนี้

 

หานเซิ่นไม่พบอะไรที่น่าสนใจระหว่างการเก็บกวาด ในที่สุดเมื่อจระเข้น้อยรู้สึกเบื่อ มันก็พาหานเซิ่นกลับไปที่สระว่ายน้ำพร้อมกับมัน

 

เมื่อหานเซิ่นไปถึงสระว่ายน้ำ เขาก็เห็นว่าหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทกำลังนวดหัวให้กับจระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่ พวกเธอยังใช้แปลงขัดร่างกายของมันอีกด้วย

 

หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทดูเป็นทุกข์อย่างมาก พวกเธอไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะถูกบังคับให้ทำงานอะไรแบบนี้

 

พวกเธอถูกสอนว่าในฐานะสมาชิกของเผ่าเวรี่ไฮ อนาคตของพวกเธอจะสดใส พวกเธอมีความฝันหลายอย่างที่อยากทำ แต่การเป็นสาวใช้ของจระเข้นั้นไม่อยู่ในความฝันของพวกเธอ พวกเธอรู้สึกอับอายอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนอย่างดอลลาร์อยู่ที่นี่และเห็นความอัปยศอดสูของพวกเธอ

 

จระเข้ระดับเทพเจ้าใหญ่นั้นเป็นเจ้านายที่ใช้งานหนัก แต่ที่สุดแล้วหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็ได้รับอนุญาตให้พักได้

 

“นี่เจ้าพบอะไรบ้างไหม?” เอ็กซ์ควิสิทถามหานเซิ่นขณะที่พวกเธอเดินเข้ามา

 

“แค่คริสตัลที่แตก นอกจากนั้นแล้วมันไม่ได้มีอะไรอย่างอื่นที่น่าสนใจเลย” หานเซิ่นเก็บกระดูกแขนเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตาเรียบร้อยแล้ว เขาไม่มีแผนที่จะแจ้งการค้นพบแขนกับพวกเธอ

 

“แล้วพวกเจ้าล่ะ?” หานเซิ่นถาม

 

“พวกเราจะหาอะไรได้? พวกเราทำงานเก็บกวาดของเสียตลอดทั้งวัน ข้าไม่รู้เลยว่าพวกมันกินมากขนาดไหนกัน พวกมันขี้เยี่ยวไปทุกหนทุกแห่ง” หลี่เคอเอ๋อพูดด้วยสีหน้าที่ดูมืดมน

 

หานเซิ่นสะดุ้ง เขารีบถามขึ้นมา “เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าพวกมันกินอะไร?”

 

“ข้าจะไปรู้ได้ยังไงว่าพวกมันกินอะไร? ขี้ของพวกมันเป็นก้อนแข็งๆ มันดูเหมือนกับวัตถุที่สร้างเป็นดวงดาวดวงนี้” หลี่เคอเอ๋อพูด

 

“ถ้าอย่างนั้นบางทีพวกมันอาจจะกินวัตถุที่มาจากดวงดาว” หานเซิ่นพูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่

 

“การรู้ว่าพวกมันกินอะไรมีประโยชน์อะไร?” หลี่เคอเอ๋อถาม

 

“อย่างน้อยมันก็ทำให้พวกเราเบาใจได้ ถ้ารู้ว่าพวกมันไม่ต้องการกินพวกเรา” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยักไหล่

 

“ถ้าข้าต้องติดอยู่ที่นี่ไปตลอด ข้ายอมตายไปซะดีกว่า” หลี่เคอเอ๋อไม่เห็นด้วยกับแนวการคิดของหานเซิ่น

 

“พวกเราไม่ได้มีอาหารติดตัวมากนัก พวกเราจำเป็นต้องหาหนทางออกไปจากที่นี่” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

“มีวิธีอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

“ตอนนี้ไม่” เอ็กซ์ควิสิทส่ายหัว

 

“ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดถึงเรื่องนั้น” หานเซิ่นพูดอย่างหม่นหมอง

 

พวกเขาทั้ง 3 คนพักผ่อนอยู่สักพัก แต่ไม่นานหลังจากนั้นจระเข้น้อยก็เดินเข้ามาและเร่งให้พวกเขากลับไปทำงานต่อ

 

จากพวกเขาทั้ง 3 คน หานเซิ่นเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ไปทำงานนอกบริเวณสระว่ายน้ำ ขณะที่หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทนั้นต้องติดแหง็กอยู่กับการรับใช้จระเข้ระดับเทพเจ้าบนชายหาด พวกเธอคอยเก็บกวาดของเสียและนวดจระเข้ระดับเทพเจ้า พวกเธอเป็นเหมือนกับสาวใช้

 

จระเข้ระดับเทพเจ้านี้คงจะเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ใช้สมาชิกของเผ่าเวรี่ไฮเป็นสาวใช้ของตัวเอง และดูเหมือนพวกมันจะเพลิดเพลินกับการรับใช้ของพวกเธอ

 

หานเซิ่นทำงานยกเครื่องมือที่ระเกะระกะกลับเข้าที่หรือไม่ก็เก็บกวาดอุปกรณ์ที่ถูกทำลาย ในตอนแรกจระเข้น้อยชื่นชอบที่จะออกคำสั่งให้เขาทำโน่นทำนี่ แต่หลังจากผ่านไปสักพัก มันก็ขี้เกียจและหยุดมาดู

 

เมื่อหานเซิ่นเป็นอิสระจากเจ้านายตัวน้อย เขาก็เดินสำรวจรอบๆป้อมปราการ ขณะที่เขาผ่านไปที่ลานกว้างแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ เขาก็ได้พบกับบางสิ่งที่น่าสนใจ

 

คริสตัลนั้นใช้สำหรับสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางเทคโนโลยี โดยมันปกติแล้วมันจะไม่ได้ถูกนำมาสร้างสิ่งของอย่างแผ่นจารึก แต่ในลานกว้างแห่งนั้น หานเซิ่นพบกำแพงคริสตัลที่มีตัวอักษรเขียนเอาไว้

 

เนื่องจากกำแพงคริสตัลนั้นพังทลาย หานเซิ่นจึงใช้เวลาเกือบ 3 วันกว่าจะเก็บรวบรวมและประกอบพวกมันกลับเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นเขาก็อ่านข้อความที่ถูกเขียนเอาไว้

 

“วิชาคริสตัลเฟอร์เนส… นี่ดูเหมือนจะเป็นวิชาจีโนตัวหนึ่ง แต่ชื่อของมันดูแปลกๆ มันทำอะไรได้กันแน่?” หานเซิ่นเริ่มอ่านเนื้อหาของมันอย่างละเอียด

 

มันเป็นเรื่องง่ายที่มนุษย์จะฝึกวิชาจีโนของคริสตัลไลเซอร์ แต่หานเซิ่นไม่ได้คาดหวังอะไรกับวิชาจีโนของคริสตัลไลเซอร์มากนัก เพราะเผ่าคริสตัลไลเซอร์ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องวิชาจีโน วิชาจีโนพวกเขาไม่ได้โดดเด่นอะไร

 

แต่หลังจากที่หานเซิ่นอ่านเกี่ยวกับคริสตัลเฟอร์เนส เขาก็ต้องตกใจ

 

นี่ไม่ใช่แค่วิชาจีโนธรรมดาๆทั่วไป มันเป็นเหมือนกับวิชาจีโนที่เทพส่งมาให้กับผู้คนที่รักในการกิน

 

วิชาคริสตัลเฟอร์เนสนั้นจะช่วยส่งเสริมกระเพาะของผู้ฝึก มันแตกต่างไปจากวิชาคอนซูมที่มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการย่อยอาหาร วิชาคริสตัลเฟอร์เนสนั้นจะเปลี่ยนกระเพาะของผู้ฝึกให้กลายเป็นเหมือนกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ มันจะปลดปล่อยพลังงานเพื่อย่อยอาหารอย่างรวดเร็วและพลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมาก็จะถูกดูดซับไปในทันที ซึ่งของเสียก็จะออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน

 

“ไม่แปลกใจเลยที่คริสตัลไลเซอร์ขึ้นชื่อเรื่องการวิจัยและพัฒนา แม้แต่วิชาจีโนของพวกเขาก็เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์”
หานเซิ่นหลงรักมัน เขาไม่คิดจะปฏิเสธวิชาจีโนใหม่ที่ช่วยในการกินยีนซีโน่เจเนอิค

 

แต่เมื่อหานเซิ่นอ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายของวิชาคริสตัลเฟอร์เนส เขาก็เห็นหมายเหตุที่ถูกเขียนเอาไว้

 

“วิชาคริสตัลเฟอร์เนสฉบับสาธารณะเหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเท่านั้น สำหรับคนที่อายุมากกว่า 16 ปี ฝึกวิชาคริสตัลคอร์แอคเตอร์”

 

“นี่มันฉบับของเด็ก?” หานเซิ่นรู้สึกรำคาญกับเรื่องนั้น แต่เขาไม่สามารถหาวิชาฉบับผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องฝึกฉบับของเด็กไปก่อน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset