Super God Gene – ตอนที่ 2615

เมื่อเห็นแบบนี้ ยอดฝีมือของปราสาทนภาหลายคนก็ขมวดคิ้ว ถึงแม้ทางปราสาทนภาจะไม่ได้มีข้อห้ามในการใช้พลังบนถนนนภา แต่การไปยั่วยุเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์แบบนั้นไม่ใช่เรื่องดี ถ้าหานเหยียนไปทำให้เถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์โกรธ มันก็คงจะจบไม่สวย

 

ผู้นำปราสาทนภารู้สึกปวดหัวขึ้นมา “ทำไมคนตระกูลหานถึงได้เป็นแบบนี้กันหมด? นี่พวกเขาไม่มีคนคอยปลูกฝังพฤติกรรมที่ดีให้หรือยังไง? ผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นตัวปัญหาสำหรับผู้อาวุโสยวิ๋นแน่”

 

สีหน้าของยวิ๋นฉางคงดูไม่สู้ดีนัก ก่อนถึงวันนี้เขาไม่เคยคิดจะรับคนแบบนี้มาเป็นลูกศิษย์ เขาไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือหัวเราะกับภาพที่เห็นดี

 

ผู้อาวุโสหกหัวเราะจนท้องแข็ง เขาพูดขึ้นมา “หานเหยียนคนนี้… น่าสนใจจริงๆ… ผู้อาวุโสยวิ๋นนี่โชคดีจริงๆ”

 

หลังจากนั้นผู้อาวุโสหกก็หยุดหัวเราะไปอย่างกะทันหัน เขายังคงยิ้มค้างอยู่ แต่ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

 

ยวิ๋นฉางคงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่ค้างไปของผู้อาวุโสหก เขาก็หันกลับไปมองที่น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์

 

เมื่อสายตาของเขาเห็นน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ ยวิ๋นฉางคงก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจจะหยุดเต้น ดวงตาของเขาปูดออกมาเล็กน้อยขณะที่จ้องมองอย่างไม่อยากจะเชื่อ

 

มันไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสทั้ง 2 คนเท่านั้นที่ตกตะลึง ทั้งปราสาทนภาได้ตกอยู่ในความเงียบสงัด

 

ผู้นำปราสาทนภากำลังยกมันขึ้นมาจิบก่อนที่ร่างกายทั้งร่างแข็งทื่อไป ใบหน้าของเขาดูเหมือนกับว่ากำลังเห็นผี

 

หานเหยียนยังคงจับน้ำเต้าด้วยมือ 2 ข้าง แต่ตอนนี้ก้านที่เคยเชื่อมน้ำเต้ากับเถาวัลย์ได้ถูกตัดขาดไปแล้ว หานเหยียนเด็ดน้ำเต้าออกมาจากเถาวัลย์ได้สำเร็จ

 

คนของปราสาทนภาตกตะลึง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้เห็น พวกเขาไม่เคยคาดฝันว่าน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์จะถูกเด็ดออกมาแบบนี้

 

ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของปราสาทนภา มันมีคนที่เคยพยายามจะเด็ดน้ำเต้าออกมาจากเถาวัลย์ ถึงพวกเขาจะมีจำนวนไม่มาก แต่พวกเขาแต่ละคนก็ไม่ใช่แค่ศิษย์ธรรมดาๆของปราสาทนภา พวกเขาเป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้า

 

พวกเขาต้องการเถาวัลย์และน้ำเต้าเพื่อไปสร้างสมบัติระดับเทพเจ้า แต่มันเป็นไปได้ที่จะเด็ดน้ำเต้าออกมาโดยใช้กำลัง ถึงแม้ผู้นำปราสาทนภาต้องการน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็จำเป็นต้องทำพิธีกรรมพิเศษและมอบสมบัติที่จะมอบพลังงานให้กับเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์พึงพอใจ มันก็อาจจะมอบน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ให้เขาสักลูกหนึ่ง

 

ในตอนนี้ปราสาทนภามีสมบัติ 17 ชิ้นที่ถูกทำขึ้นมาจากน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ พวกมันทั้งหมดต่างเป็นอาวุธระดับเทพเจ้า สมบัติที่สร้างจากน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดนั้นเป็นถึงอาวุธระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลาย

 

แน่นอนว่ามันมีน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์บางลูกที่นำไปทำเป็นอาวุธไม่สำเร็จ ซึ่งพวกมันไม่ได้รวมอยู่ในสมบัติ 17 ชิ้นนี้

 

เพราะแบบนั้นทุกคนจึงรู้ว่าเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์เป็นพืชซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวขนาดไหน ถึงแม้ปราสาทนภาจะมียอดฝีมือระดับเทพเจ้าอยู่หลายคน แต่ไม่มีใครที่กล้าปฏิบัติไม่ดีกับมัน ในประวัติศาสตร์ของปราสาทนภาการใช้กำลังเด็ดน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ออกจากเถาวัลย์นั้นเคยถูกทำสำเร็จเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น

 

แต่ทว่าหานเหยียนเป็นเพียงแค่ระดับดยุก และเธอก็ไม่ได้สังเวยอะไรให้กับเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ มันยากที่จะเชื่อได้ว่าเธอจะเด็ดน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้ ทุกคนมองไปที่หานเหยียนราวกับว่าเธอเป็นคนบ้า

 

หานเหยียนดีใจ เธอคิดกับตัวเอง ‘ดูเหมือนว่ามันเป็นไปได้จริงที่จะเด็ดเอาน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์จากเถาวัลย์นี่ ถ้าน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์มีลมปราณศักดิ์สิทธิ์อยู่ เราก็ควรจะนำมันกลับไปวิจัย ตอนนี้ถึงเราจะเปิดมันออกไม่ได้ แต่หลังจากที่เราแข็งแกร่งขึ้น เราจะหาทางเปิดน้ำเต้านี้เพื่อเอาลมปราณศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายใน’

 

‘จริงด้วย ได้ยินมาว่าแต่ละคนจะข้ามถนนนภาได้เพียงแค่หนเดียวเท่านั้น เราควรจะเก็บมันไปให้พี่ชายและเป่าเอ๋อด้วย’
หานเหยียนคิดกับตัวเอง เธอเก็บน้ำเต้าใส่กระเป๋าและหันไปมองน้ำเต้าอีกลูกที่อยู่ข้างๆ

 

หานเหยียนกังวลว่าถ้าเธอพยายามเด็ดน้ำเต้าที่ขนาดใหญ่เกินไป เธอก็อาจจะเด็ดมันไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นเธอจึงเลือกลูกที่มีขนาดเล็กแทน

 

“นี่นางกำลังจะทำอะไร?” ผู้นำปราสาทนภาจ้องไปที่หานเหยียนด้วยสายตาที่เป็นกังวล เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา เขาเกือบจะกระโดดออกจากที่นั่ง ในตอนที่เขาเห็นหานเหยียนเอื้อมมือออกไปหาน้ำเต้าอีกลูก

 

ขณะที่หานเหยียนเอื้อมมือไปเด็ดน้ำเต้าออกมาจากเถาวัลย์ เธอก็พูดกับตัวเอง
“หนึ่งลูกสำหรับพี่ชาย หนึ่งลูกสำหรับเป่าเอ๋อ หนึ่งลูกสำหรับเมิ่งเอ๋อ และอีกหนึ่งลูกสำหรับหลิงเอ๋อของพวกเรา โอ้ อีกหนึ่งลูกสำหรับเสี่ยวฮวาด้วย”

 

น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ที่แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้ายังทำอะไรไม่ได้กำลังถูกเด็ดออกไปทีละลูกๆ หานเหยียนเก็บพวกมันไปจากเถาวัลย์ราวกับว่าเธอกำลังเก็บองุ่น เมื่อเธอเด็ดไปได้ 3-4 ลูก ดวงตาของผู้นำปราสาทนภาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว

 

คนอื่นๆในปราสาทนภาต่างก็ตกตะลึง พวกเขาพูดอะไรไม่ออก พวกเขาได้แต่อ้าปากค้าง ขณะที่หานเหยียนกำลังเด็ดน้ำเต้าออกจากเถาวัลย์

 

“นี่…นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง? ทำไมเถาวัลย์ถึงไม่ตอบสนองต่อนาง? นี่มันอนุญาตให้ระดับดยุกคนหนึ่งเก็บน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง…”
ผู้อาวุโสหกขยี้ตา เขาคิดว่าดวงตาของเขากำลังเล่นตลกอะไรบางอย่าง และเขาคงจะเห็นภาพหลอนไป

 

ยวิ๋นฉางคงหันกลับมาหาผู้อาวุโสหก หัวใจอของเขากำลังร้องตะโกนด้วยความปลาบปลื้ม เขาพยายามจะอดกลั้นมันเอาไว้ แต่เขายังคงยิ้มที่มุมปาก
“ผู้อาวุโสหก ลูกศิษย์ของข้านี้ช่างไม่เอาไหน นางไม่ได้รับลมปราณศักดิ์สิทธิ์ของน้ำเต้าแม้แต่ลูกเดียว ด้วยเหตุนั้นนางจึงต้องไปเด็ดมันมาด้วยตัวเอง นั่นเป็นอะไรที่บ้าจริงๆ…ฮ่าๆๆ!”

 

น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถใช้เป็นฐานสำหรับอาวุธระดับเทพเจ้าได้ แต่กระบวนการสร้างพวกมันเป็นอาวุธมักจะล้มเหลว และการใช้วัตถุที่หายากเสริมก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่ถึงอย่างนั้นน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ก็มีค่าเทียบได้กับยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ เมื่อเห็นหานเหยียนเด็ดพวกมัน 4 ลูกและเก็บเข้าไปในกระเป๋า ผู้นำปราสาทนภาก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เขาลุกขึ้นและพูดด้วยเสียงดัง

 

“หานเหยียน… รีบเข้ามาประตูปราสาทนภา หยุดเถลไถล!”
เสียงนั้นดังก้องทั่วทั้งปราสาทนภา แต่มีแค่หานเหยียนเท่านั้นที่ได้ยิน

 

หานเหยียนเป็นคนฉลาด เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น เธอก็รู้ว่าไม่ได้รับอนุญาตให้เก็บน้ำเต้าเพิ่มอีก เธอรู้สึกว่ามันน่าเสียดาย

 

แต่หานเหยียนไม่ได้อยู่บนเถาวัลย์นานกว่านั้น เธอเดินออกไปจากถนนนภาและมุ่งหน้าไปยังประตูปราสาทนภา

 

“นี่สายตาของข้าเล่นตลกหรือเปล่า? ข้าคิดว่าหานเหยียนนั้นเอาน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ไป 4 ลูก” ศิษย์ของปราสาทนภาคนหนึ่งถามด้วยความสับสน ดูเหมือนกับว่าเขาเพิ่งจะตื่นขึ้นมาจากการหลับไหล

 

“ข้าคิดว่าข้าเองก็เห็นเรื่องนั้นเหมือนกัน”

 

“สมแล้วที่เป็นน้องสาวของอาจารย์หาน ข้าอยากรู้จังว่าอาจารย์หานอยากจะได้น้องเขยไหม”

 

“ผู้หญิงตระกูลหานนี่น่ากลัวยิ่งกว่าตัวอาจารย์หานเสียอีก ลูกสาวของเขาได้รับการยอมรับจากน้ำเต้าทั้งหมด ขณะที่น้องสาวของเขาเด็ดพวกมันออกมาจากเถาวัลย์”

 

“นั่นมันแปลกจริงๆ ทำไมน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ถึงได้ปฏิบัติกับตระกูลหานดีแบบนั้น? เถาวัลย์ปล่อยให้หานเหยียนเก็บเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ไปโดยไม่ตอบสนองเลยแม้แต่นิดเดียว”

 

“นั่นเป็นเพราะตระกูลหานนั้นแข็งแกร่งกันทุกคน”

 

“นี่เจ้าโง่หรือยังไง? ถ้าเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ยินยอม เจ้าคิดว่าดยุกคนไหนจะเด็ดพวกมันได้อย่างนั้นหรอ?”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset