Super God Gene – ตอนที่ 2616

‘ทำไมเราถึงไม่คิดเกี่ยวกับการเก็บน้ำเต้าออกมาจากถนนนภาบ้างนะ?’ หานเซิ่นคิดด้วยความเสียใจ

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังเสียใจกับความผิดพลาด หานเหยียนก็เดินไปถึงบันไดหินที่นำไปสู่ปราสาทนภา คำว่า “ปราสาทนภา” กำลังเรืองแสงสว่างไสว และความรู้สึกของมันก็เป็นอะไรที่ข่มขวัญ และทำให้รู้สึกเหมือนกำลังถูกกดขี่

 

แม้แต่ยอดฝีมือระดับราชันก็รู้สึกได้ถึงความกดดันต่อตัวอักษรเหล่านั้น ถ้าพวกเขาก้าวขึ้นบันไดนี้ไป ราชันส่วนใหญ่นั้นจะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองไปที่ตัวอักษรเหล่านั้น

 

คนของปราสาทนภาตั้งตารอดูว่าหานเหยียนจะเป็นยังไงในตอนที่เธอเดินขึ้นไปบันไดหินนั่น ผลงานของหานเหยียนบนถนนนภาเป็นอะไรที่ประทับใจ

 

“ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องสงสัยอีกต่อไปว่านางเป็นน้องสาวทางสายเลือดของหานเซิ่น นางแข็งแกร่งจริงๆ”

 

“นี่เจ้าลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนที่อาจารย์หานเดินขึ้นบันไดไปแล้วหรอ? เขาถูกแบกขึ้นไป ข้าไม่รู้ว่าน้องสาวของเขาจะประสบเหตุการณ์แบบเดียวกันหรือเปล่า”

 

“อาจารย์หานถูกแบกขึ้นไปก็เพราะเขาเข้าใจความหมายที่แท้จริงของพวกมัน มันไม่ใช่เพราะว่าเขาอ่อนแอ”

 

“เจ้าคิดว่าน้องสาวของเขาจะเข้าใจคำ 2 คำของปราสาทนภาเช่นเดียวกันอย่างนั้นหรอ?”

 

“นางเก็บน้ำเต้ามาราวกับว่าเด็ดลูกแอปเปิล นางเด็ดพวกมันมาถึง 4 ลูก การเข้าใจความหมายของคำทั้ง 2 คงจะไม่ได้ยากไปกว่าการเด็ดน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์”

 

“ข้าก็คิดแบบนั้น ดูเหมือนว่าคริสตัลไลเซอร์จะกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความสำคัญอีกครั้งหนึ่งด้วยตระกูลหาน”

 

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน หานเหยียนก็ก้าวขึ้นไปบนบันไดหิน หานเซิ่น ยวิ๋นซู่อีและกระเรียนพันขนยืนรออยู่ด้านนอกบันไดหิน ถ้ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับหานเหยียน พวกเขาก็จะเข้าไปเพื่อช่วยเธอ

 

หานเซิ่นไม่ได้กังวลว่าหานเหยียนจะถูกบดขยี้ภายใต้ความกดดันของคำทั้ง 2 ของปราสาทนภา เขากังวลว่าเธอจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำทั้ง 2 และปล่อยให้พวกมันเข้าไปในร่างกายเหมือนกับเขา ถ้าเธอเดินต่อไปไม่ไหว เขาก็จะแบกเธอขึ้นไปจนถึงด้านบน มันไม่เหมาะสมที่จะให้คนอื่นเป็นคนทำ

 

ส่วนในเรื่องของพรสวรรค์ของหานเหยียน หานเซิ่นมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม หานเซิ่นเชื่อว่าครอบครัวของเขามีหลายคนที่มีพรสวรรค์เหนือกว่าตัวเขา เขาเหนือกว่าคนอื่นด้วยความพยายามและความมุ่งมั่น มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรสวรรค์

 

แน่นอนว่าดวงก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน

 

เมื่อหานเหยียนก้าวขึ้นไปบนบันไดหิน เธอก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันของคำทั้ง 2 ในทันที เธอช้าลงไปภายใต้น้ำหนักที่กระทันหันและหัวของเธอก็ถูกกดลง

 

‘เราไม่ได้เป็นตัวแทนของตัวเองเท่านั้น เราเป็นตัวแทนของพี่ชาย เราจะก้มหัวขณะที่เดินขึ้นไปสู่ปราสาทนภาไม่ได้’
ด้วยความคิดนั้น หานเหยียนเงยหน้าขึ้นและต่อสู้กับคำ 2 คำของปราสาทนภา

 

แต่ทั้ง 2 คำนั้นมีพลังระดับเทพเจ้า เธอไม่สามารถต้านพวกมันได้ ยิ่งเธอพยายามจะต่อสู้ แรงกดดันที่เธอได้รับก็จะเพิ่มมากขึ้น กระดูกคอของเธอเกือบจะหัก

 

ร่างกายขั้นสุดยอดของเธอถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง หานเซิ่นไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับร่างกายขั้นสุดยอดราชาปลดปล่อยนภาของหานเหยียนมากนัก เขารู้แค่ว่ามันเป็นร่างกายขั้นสุดยอดธาตุเหตุและผล ส่วนเรื่องความทรงพลังของโหมดราชาปลดปล่อยนภานั้น หานเซิ่นยังไม่สามารถบอกได้ นอกซะจากว่าเขาจะได้ลองต่อสู้กับเธอ

 

หานเซิ่นเห็นว่าที่หานเหยียนเด็ดน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์มาได้นั้นก็เป็นเพราะร่างกายขั้นสุดยอดของเธอ แต่เขาไม่แน่ใจว่าเธอทำได้อย่างไร

 

ในตอนนี้เมื่อหานเหยียนใช้ร่างกายขั้นสุดยอดอีกครั้ง หานเซิ่นก็ให้ความสนใจกับมันอย่างเต็มที่และพยายามเข้าใจว่ามันมหัศจรรย์อย่างไร

 

ผู้นำของปราสาทนภาเห็นหานเหยียนพยายามต่อสู้กับคำทั้ง 2 คำของปราสาทนภา เขาก็ยิ้มออกมาและพูดกับผู้หญิงข้างๆ “นางยังคงเป็นแค่เด็ก”

 

“ทุกคนเคยเป็นเด็กกันทั้งนั้น” ผู้หญิงคนนั้นพูด
“การทำอะไรที่บ้าบิ่นในวัยเด็กไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ในบ้างครั้งเด็กก็จำเป็นต้องมีแรงผลักดันแบบนั้น”

 

ผู้นำปราสาทนภาหัวเราะและไม่ได้พูดอะไรอีก เขาบอกได้ว่าถึงสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ใครก็สามารถบอกได้ว่าเธอชื่นชมสิ่งที่หานเหยียนกำลังทำ ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน หานเหยียนที่ถูกข่มโดยคำทั้ง 2 ของปราสาทนภาก็เงยหน้าขึ้นมาและมองตรงไปข้างหน้า เธอเริ่มเดินออกไปสู่ประตูของปราสาทนภา

 

ยอดฝีมือของปราสาทนภาต่างดูสับสนและสงสัยว่าทำไมตอนนี้คำทั้ง 2 ของปราสาทนภาถึงไม่มีผลต่อหานเหยียน

 

“ไม่มีทาง! คำทั้ง 2 ของปราสาทนภาจะส่งผลต่อผู้คนที่ก้าวขึ้นมาบนบันไดหินเป็นครั้งแรก และผลของมันจะหายไปเมื่อก้าวขึ้นมาเป็นครั้งที่ 2 นี่เป็นครั้งแรกของหานเหยียน แต่ทำไมนางถึงไม่ได้รับผลกระทบอะไร?” ผู้อาวุโสหกดูสับสน บางสิ่งดูผิดปกติ
“ไม่สิ มันส่งผลกระทบกับนางในตอนแรก แต่หลังจากนั้นมันก็ไม่ส่งผลกับนางอีก นี่หานเหยียนคนนี้มีวิชาจีโนที่มหัศจรรย์แบบไหนกัน?”

 

“ผู้อาวุโสหก เลิกถามคำถามสักที มันคงจะเป็นเรื่องแปลกถ้าน้องสาวของหานเซิ่นเป็นคนปกติธรรมดาๆ” ยวิ๋นฉางคงพูดด้วยรอยยิ้ม

 

ยวิ๋นฉางคงตกลงรับหานเหยียนมาก็เพราะหานเซิ่นและยวิ๋นซู่อี เขาไม่ได้คาดคิดว่าหานเหยียนจะยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้ เขารู้สึกราวกับว่าเพิ่งจะถูกหวย

 

หานเหยียนเดินขึ้นบันไดหินไปอย่างเงียบๆ ขณะที่เธอทำแบบนั้น ศิษย์ของปราสาทนภาคนอื่นก็คิดว่ามีบางสิ่งผิดปกติ พวกเขาเริ่มจะรู้สึกตัวว่าคำทั้ง 2 ของปราสาทนภาสูญเสียประสิทธิภาพของมันไป มันยังคงทำงานและตอนนี้มันก็ทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันคำทั้ง 2 ก็เรืองแสงออกมา ถ้าศิษย์ของปราสาทนภามองดูดีๆ พวกเขาก็จะเห็นว่านั่นไม่ใช่แสงจริงๆ แสงสว่างที่พวกเขาเห็นคือคลื่นของจิตใจที่แข็งแกร่งเกินไป มันก่อตัวเป็นแสงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจนมองเห็นได้

 

ยิ่งหานเหยียนเดินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ความสว่างของพลังจิตใจของคำทั้ง 2 ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน มันกลายเป็นจิตใจที่ทรงพลัง หานเหยียนเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง แต่เธอกระตุ้นพลังจากคำทั้งสองได้มากถึงขนาดนี้ นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ

 

ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าคือความจริงที่ว่าจิตใจที่ทรงพลังขนาดนั้นยังคงไม่มีผลอะไรต่อหานเหยียน

 

จิตใจนั้นเป็นเหมือนกับแสงของดวงจันทร์ หานเหยียนเดินขึ้นบันไดหินในชุดขาวทั้งตัวราวกับแฟรี่ที่กำลังอาบในแสงจันทร์ เส้นผมสีดำของเธอลอยในแสงจันทร์ระยิบระยับ คนหนุ่มของปราสาทนภามากมายไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้

 

“นางเป็นแฟรี่ที่แท้จริง” สายตาของคนหนุ่มของปราสาทนภาเป็นประกายราวกับหมาป่าที่หิวกระหาย

 

ขณะเดียวกันหานเหยียนก็ยังคงเดินขึ้นไปภายใต้แรงกดดันของคำทั้ง 2 ของปราสาทนภา เมื่อเธอเดินพ้นบันไดขั้นสุดท้ายไป จากประสบการณ์ในอดีตของปราสาทนภา พลังจิตใจของคำทั้ง 2 คำก็จะเริ่มลดลงไป

 

แต่ครั้งนี้จิตใจของคำทั้ง 2 ของปราสาทนภาไม่ลดลง มันระเบิดราวกับภูเขาไฟ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset