Super God Gene – ตอนที่ 2622

“เจ้าบอกได้ไหมว่าสิ่งของชิ้นไหนที่เป็นสมบัติจีโน?” หานเซิ่นถามเอ็กซ์ควิสิท

 

เอ็กซ์ควิสิทส่ายหัว “ไม่”

 

หานเซิ่นสังเกตทั่งตีเหล็กอีกสักพัก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเดินไปบนถนนต่อ

 

“เจ้าคิดจะยอมแพ้ก่อนที่จะลองดูอย่างนั้นหรอ?” เอ็กซ์ควิสิทถามเมื่อเห็นหานเซิ่นเดินออกมา

 

“เดิมพันว่ามีผู้คนนับไม่ถ้วนจากปราสาทนภาที่พยายามจะเอาทั่งตีเหล็กนั่น ข้ายืนอยู่ตรงนั้นสักพักหนึ่ง แต่สายตาของช่างเหล็กนั้นไม่เป็นมิตรเลยสักนิด ข้าจึงเลือกไปที่อื่นที่การต้อนรับดีกว่านี้” หานเซิ่นพูดขณะที่มองไปรอบๆ

 

ขณะที่หานเซิ่นเดินไปรอบๆเมือง ประชากรภายในเมืองก็มองมาที่เขาเช่นเดียวกัน เมืองไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักกันเป็นอย่างดี คนนอกที่เข้ามาจึงโดดเด่นเป็นพิเศษในที่แห่งนี้

 

ผู้คนในเมืองกำลังมองหานเซิ่นด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร แต่หานเซิ่นเข้าใจทัศนคติของพวกเขา ในอดีตศิษย์ของปราสาทนภาคงจะเคยมาพยายามขโมยของของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าผู้คนในเมืองไม่ชื่นชอบการที่คนนอกเข้ามา

 

ที่ยวิ๋นฉางคงไม่ยอมบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเมืองราชาดำกับเขา นั่นคงจะเป็นเพราะศิษย์ของปราสาทนภาไปทำอะไรหลายอย่างภายในเมืองที่ไม่มีใครคนไหนภาคภูมิใจ

 

ผู้คนภายในเมืองนั้นไม่ชื่นชอบคนนอก แต่พวกเขาก็ไม่ได้เข้ามาหาเรื่องอะไร พวกเขาแค่จ้องมองหานเซิ่นด้วยสายตาที่เย็นชา มันเหมือนกับว่าพวกเขาเคยถูกเอาเปรียบมาก่อน

 

ศิษย์ของปราสาทนภาที่เข้ามาถูกจำกัดพลังภายในเมืองแห่งนี้ แต่พวกเขายังคงมีความแข็งแกร่งทางกายภาพอยู่ ผู้คนที่นี่ไม่สามารถต่อต้านพละกำลังแบบนั้นได้

 

ถ้าไม่ใช่เพราะกฎของเมืองราชาดำ ศิษย์ของปราสาทนภาคนไหนก็สามารถถล่มทั้งเมืองด้วยกำปั้นของพวกเขา

 

“ไม่แปลกใจเลยที่ลุงฉินบอกว่าทุกวันนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะเอาบางสิ่งในเมืองราชาดำออกไป”
หานเซิ่นยิ้มแห้งๆออกมา เขาไม่เก่งเรื่องการพูดคุยและความสามารถในการสื่อสารกับคนอื่นของเขาก็ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เขาไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับอะไรมากจากเมืองแห่งนี้

 

แถมตอนนี้เขาก็ไม่สามารถใช้พลังของตัวเองได้ เขาพึ่งพาได้แค่สัญชาตญาณและสายตาของเขาเท่านั้น

 

หานเซิ่นลองเรียกวิญญาณอสูรออกมา แต่วิญญาณอสูรก็ถูกจำกัดเช่นเดียวกัน เขาไม่สามารถเรียกวิญญาณอสูรออกมาจากจิตได้

 

“เอ็กซ์ควิสิท เจ้ารู้ไหมว่าเผ่าพันธุ์ของผู้คนที่นี่คือเผ่าอะไร? ทำไมพวกเขาถึงได้ดูเหมือนกับคริสตัลไลเซอร์?” หานเซิ่นถามขึ้นมา

 

หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ เอ็กซ์ควิสิทก็พูด “นี่เป็นแค่รูปลักษณ์ของพวกเขา พวกเขาไม่ใช่คริสตัลไลเซอร์ที่แท้จริง จริงๆแล้วพวกเขาไม่เหมือนกับเผ่าพันธุ์ไหนในจักรวาลแห่งนี้ พวกเขาเป็นแค่สิ่งมีชีวิตของเมืองราชาดำ พวกเขาต้องใช้ทั้งชีวิตอยู่ภายในเมืองแห่งนี้”

 

“สิ่งมีชีวิตในเมืองอีกสี่เมืองเหมือนกับเมืองแห่งนี้หรือเปล่า?”
หลังจากที่หานเซิ่นถามไปแบบนั้น เขาก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมา เขาเป็นคนของปราสาทนภา แต่เขากำลังถามคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องที่อาจจะเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ของเขา

 

เอ็กซ์ควิสิทดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรมากกับคำถามของหานเซิ่น เธอส่ายหัวและพูด “เมืองทั้งห้าแต่ละเมืองจะแตกต่างกันออกไป ประชากรของแต่ละเมืองจะมีลักษณะพิเศษและอุปนิสัยที่ไม่เหมือนกัน เมืองอื่นไม่ได้ปลอดภัยเหมือนอย่างเมืองราชาดำ แม้แต่ระดับเทพเจ้าก็อาจจะตายได้ถ้าโชคร้าย”

 

หานเซิ่นและเอ็กซ์ควิสิทเดินชมเมืองต่อไปเรื่อยๆ หญ้า ไม้ อิฐและหินชนวนของเมืองแห่งนี้นั้นเก่ามากๆ

 

หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเดินบนถนนในภาพยนตร์ย้อนยุค ทุกอย่างนั้นดูเหมือนกับสมบัติ แต่พวกมันไม่ใช่

 

‘มันแย่จริงๆเมื่อไม่มีความสามารถในการสัมผัสสิ่งต่างๆ’
หานเซิ่นถอนหายใจ แต่ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่ามีแว่นตาของคริสตัลไลเซอร์อยู่ เขาไม่รู้ว่าเทคโนโลยีของคริสตัลไลเซอร์จะใช้งานในเมืองแห่งนี้ได้ไหม ดังนั้นเขาจึงลองดู

 

หานเซิ่นนำแว่นตาขึ้นมาสวมและมองไปที่ผู้คนในเมือง ข้อมูลแล่นผ่านเลนส์ของแว่นตา

 

“ล็อคเป้าหมาย…วิเคราะห์ข้อมูล…” เสียงของกลาสเซสดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น ข้อมูลยังคงเคลื่อนผ่านเลนส์ของแว่นตา

 

“ทำไมเจ้าถึงสวมแว่นตา?” เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไรแปลกๆ เธอมองไปที่แว่นตาของเขา

 

“ผู้คนไม่ชอบหน้าพวกเรา การสวมใส่แว่นตาเพื่อปกปิดใบหน้าอาจจะช่วยให้พวกเราขอสิ่งของจากพวกเขาได้” หานเซิ่นอธิบาย

 

เมื่อเอ็กซ์ควิสิทได้ยินหานเซิ่นพูดแบบนั้น เธอก็มองไปที่ผู้คนและพูด
“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ใครก็ตามที่เอาสิ่งของออกไปจากที่นี่จะถูกตราหน้าว่าเป็นภัย และพวกเขาจะกลับเข้ามาไม่ได้อีก”

 

หานเซิ่นหัวเราและไม่ตอบ เขาเริ่มเดินต่อไป ไม่นานหลังจากนั้นผลการวิเคราะห์ของกลาสเซสก็แสดงออกมา

 

“เป้าหมาย: ยีนกลายพันธุ์ชนิดAT6 เพศชาย อายุยีน: 34 ปี”
“ระดับยีน: ไม่มี”
“ศักยภาพยีน: ไม่มี”

 

“ยีนกลายพันธุ์ชนิดAT6คืออะไร?” หานเซิ่นถามกลาสเซสด้วยความสงสัย

 

“ATบ่งชี้ว่ามันคือสิ่งมีชีวิต หมายเลขหกหมายความว่ามันคือสาขาที่หกของสิ่งมีชีวิต” กลาสเซศตอบ

 

“ATหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นถามอีกครั้ง

 

“ATคือAT” ปัญญาประดิษฐ์ของกลาสเซสมีสติปัญญาระดับเด็กหกขวบ มันไม่สามารถอธิบายให้หานเซิ่นฟังได้

 

“พวกมันเกี่ยวข้องกับคริสตัลไลเซอร์หรือไม่?” หานเซิ่นเปลี่ยนวิธีการถามของเขา

 

“ไม่” กลาสเซสตอบ

 

หานเซิ่นลองถามมันเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์อื่นที่ดูคล้ายคลึงกัน แต่กลาสเซสก็ตอบว่าไม่ทุกครั้ง

 

“ข้าดูได้ไหมว่ามันมีสิ่งมีชีวิตATไหนอยู่บ้าง?” หานเซิ่นถาม เขายังไม่คิดจะยอมแพ้

 

“ข้อมูลไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถตอบคำถามได้” กลาสเซสตอบ

 

ในเมื่อเขาไม่สามารถถามข้อมูลจากกลาสเซสได้ หานเซิ่นก็หันความสนใจกับไปที่ตัวเมือง

 

กลาสเซสสามารถใช้งานได้ แต่มันสแกนได้แค่สิ่งมีชีวิตเท่านั้น มันไม่สามารถสแกนสมบัติได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงต้องพึ่งตัวเอง

 

“ถ้าเจ้ายอมติดตามข้าไปที่เผ่าเวรี่ไฮ ข้าบอกเจ้าได้ว่าสมบัติระดับเทพเจ้าอยู่ที่ไหนและจะเอามันมาได้ยังไง” เอ็กซ์ควิสิทพูดขณะที่พวกเขาทั้งคู่เดินวนไปรอบเมืองจนครบรอบ จนถึงตอนนี้หานเซิ่นยังคงมือเปล่า

 

“สมบัติระดับเทพเจ้าอยู่ที่ไหน?” หานเซิ่นรีบถาม

 

เอ็กซ์ควิสิทเคยถูกหลอกโดยหานเซิ่นมาครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ เธอจึงแค่มองเขาอย่างเงียบๆ

 

หานเซิ่นไม่สามารถหลอกให้เธอบอกข้อมูลเพิ่มเติมได้ ดังนั้นเขาจึงยักไหล่และพูด “อย่างน้อยๆเธอก็ควรจะบอกว่ามันเป็นสมบัติแบบไหน”

 

“เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ถ้าข้าบอกเจ้าไปว่ามันคืออะไร เจ้าจะหามันเจอ” เอ็กซ์ควิสิทกรอกตา

 

หานเซิ่นประหลาดใจ มันถือเป็นเรื่องยากที่เธอจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกแบบนั้น

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ” หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ หานเซิ่นก็ตัดสินใจกลับไปที่โรงตีเหล็ก

 

ปราสาทนภานั้นครองเมืองราชาดำมาเป็นเวลานานหลายปี ป่านนี้ของดีๆคงจะถูกเอาไปจนหมดแล้ว ถึงแม้มันจะมีของดีเหลืออยู่ แต่มันก็คงจะเป็นเรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะหามันเจอ จนถึงตอนนี้มีเพียงแค่ทั่งตีเหล็กเท่านั้นที่หานเซิ่นรู้สึกสนใจ และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาจะพยายามเอามันไป

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset