Super God Gene – ตอนที่ 2635

หลังจากที่พักรักษาตัวอยู่หนึ่งปี ตอนนี้หานเซิ่นก็เกือบจะมีสุขภาพดีเหมือนกับตอนก่อนจะใช้โล่เมดูซ่าส์เกซแล้ว แต่แทนที่จะทำให้ชีวิตของเขาง่ายขึ้น การฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บกลับนำปัญหาใหม่มาให้กับเขา

 

ก่อนหน้านี้ตอนที่ร่างกายของหานเซิ่นยังไม่หายดี ไม่มีใครมาขออะไรเขา แต่ตอนนี้เมื่อเขาหายดีแล้ว ผู้คนมากมายก็พยายามจะใช้อำนาจหรือความสัมพันธ์ของพวกเขากับหานเซิ่นเพื่อจะขอให้หานเซิ่นช่วยอวยพรให้กับลูกหลานของตัวเอง

 

บางคนนั้นง่ายที่หานเซิ่นจะปฏิเสธ ขณะที่บางคนนั้นเป็นเรื่องยาก อย่างเช่นยวิ๋นฉางคงและผู้อาวุโสหกที่เป็นคนคอยดูแลเผ่ารีเบท มันยังมีคนอื่นอีกที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับหานเซิ่น แต่พวกเขาเป็นระดับเทพเจ้าและเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของปราสาทนภา

 

ถ้าหานเซิ่นปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด เขาก็จะขัดใจทุกคนในปราสาทนภา แต่ถ้าหานเซิ่นรับคำขอของพวกเขา หานเซิ่นก็จะถูกขออย่างไม่หยุดจนไม่มีเวลาได้หยุดพัก

 

“หานเซิ่น เจ้าเป็นยังไงบ้าง?” ในตอนที่หานเซิ่นกลับจากหอคอยที่เจ็ดของสถานหยกขาว ปัญหาอีกอย่างก็มาหาเขา

 

หานเซิ่นเงยหัวขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกชื่อ ซึ่งมันเป็นเสียงของอวี้จิง เขากำลังขี่สัตว์ขี่ซีโน่เจเนอิคระดับราชันตัวหนึ่งมา ดูเหมือนกับว่าชายคนนี้จะมีความเป็นอยู่ที่ดี

 

“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าคงจะไม่ได้มาขอให้ข้าช่วยอวยพรให้หรอกใช่ไหม?”
อวี้จิงมักจะมีจุดประสงค์บางอย่างในตอนที่มาหาหานเซิ่น ลึกๆแล้วอวี้จิงเป็นนักธุรกิจที่ชั่วร้าย การได้พบกับเขาไม่เคยเป็นแค่เรื่องบังเอิญ

 

เมื่ออวี้จิงได้ยินหานเซิ่นพูดแบบนั้น เขาก็หัวเราะออกมา
“เจ้าคงจรำคาญกับการถูกผู้คนรบกวนในช่วงนี้สินะ แต่เจ้าไม่ต้องทนกับมันอีกต่อไป ความจริงแล้วข้ามีข้อเสนอที่จะนำความสงบสุขกลับมาสู่ชีวิตเจ้า”

 

“โอ้? ข้อเสนอนั่นคืออะไร?” หานเซิ่นมองอวี้จิงด้วยความสับสน เขาไม่เชื่อว่าอวี้จิงจะมาหาเขาเพียงเพราะจะช่วยแก้ไขปัญหา ชายคนนี้ไม่ใช่คนจิตใจดีแบบนั้น

 

อวี้จิงดูจริงจังในตอนที่พูด “ผู้คนมาหาเจ้าเป็นการส่วนตัวก็เพราะมันไม่มีช่องทางอย่างเป็นทางการที่จะขอการอวยพรจากเจ้า ถ้าเจ้าสร้างช่องทางอย่างเป็นทางการขึ้นมา อย่างเช่นการเปิดการประมูลเพื่อให้ผู้คนเสนอราคาสำหรับการอวยพร นั่นก็จะหยุดพวกเขาจากการมาหาเจ้าเป็นการส่วนตัว เจ้าจะหาเงินได้จำนวนมากและยังขจัดความเครียดไปจากชีวิตในเวลาเดียวกัน”

 

เมื่อหานเซิ่นได้ยินคำแนะนำนี้ เขาก็รู้ว่าอวี้จิงมีแผนการบางอย่างอยู่ แทนที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับหานเซิ่น มันจะเป็นอะไรที่น่ารำคาญยิ่งกว่าเดิม

 

การเปิดการประมูลนั้นจะทำให้เขาหาเงินได้เป็นจำนวนมาก แต่มันจะไม่หยุดบุคคลที่มีอำนาจของปราสาทนภาจากการติดต่อหานเซิ่นเป็นการส่วนตัว และถ้าหานเซิ่นปฏิเสธจะอวยพรให้กับคนที่ไม่ได้ทำการประมูล ผู้คนก็จะคิดว่าหานเซิ่นเป็นคนโลภมาก ถ้าเขาเพียงแค่ขายการอวยพรโดยไม่ช่วยเหลือทางปราสาทนภาโดยตรง ผู้คนก็อาจจะเกียจชังเขาขึ้นมา นั่นบอกหานเซิ่นว่าไอเดียการทำการประมูลนั้นคงจะไม่ได้ผล แต่ถ้าเขาเปลี่ยนวิธีการเล็กน้อย เขาจะให้ผู้นำปราสาทนภาเป็นช่องทางอย่างเป็นทางการที่จะตัดสินว่าความสามารถในการอวยพรของเขาจะถูกใช้ยังไง ผู้นำปราสาทนภาจะเป็นคนที่ระบุว่าใครจะได้รับการอวยพร ซึ่งจะช่วยลดภาระของหานเซิ่น

 

และถ้าบุคคลที่มีอำนาจของปราสาทนภาต้องการจะได้รับการอวยพรจากหานเซิ่น พวกเขาก็จะไปรบกวนผู้นำปราสาทนภาแทนที่จะเป็นหานเซิ่น

 

แน่นอนว่าหานเซิ่นไม่สามารถใช้พลังกับทุกคนได้ เขาจึงต้องโกหกว่าการทำการอวยพรจะส่งผลกระทบต่ออายุขัยและพละกำลังของเขา เขาสามารถบอกได้ว่าจำเป็นต้องใช้เวลาสองถึงสามปีกว่าผลข้างเคียงในทางลบของการอวยพรจะหายไป แบบนั้นเขาก็แค่ต้องทำการอวยพรนานๆครั้ง

 

หานเซิ่นยังกล่าวอ้างได้ว่าผู้นำปราสาทนภาเป็นคนที่ควบคุมว่าการอวยพรจะถูกแจกจ่ายยังไง แบบนั้นถ้ามีใครบางคนมาหาหานเซิ่นเป็นการส่วนตัว เขาก็สามารถบอกได้ว่าผู้นำปราสาทนภาสั่งห้ามเขาจากการอวยพรให้กับคนอื่นนอกเหนือจากช่องทางอย่างเป็นทางการ

 

ถ้าหานเซิ่นเสนอโอกาสที่มีค่าแบบนั้นให้กับผู้นำปราสาทนภา มันก็ไม่มีทางที่เขาจะปฏิเสธ

 

เมื่อคิดได้แบบนั้นหานเซิ่นก็คิดแผนการอย่างหนึ่งขึ้นมา และความหดหู่ในช่วงนี้ของเขาก็หายไป

 

“ข้าจะไม่เปิดการประมูล การอวยพรนั้นจะสร้างความเสียหายต่อร่างกายของข้า ข้าไม่คิดจะอวยพรให้กับคนอื่นนอกซะจากว่ามันจะจำเป็นนจริงๆ การได้รับทรัพยากรเพิ่มเติมนั้นไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอ” หานเซิ่นพูดกับอวี้จิง

 

“นั่นเป็นอะไรที่น่าเสียดาย” อวี้จิงพึมพำอย่างผิดหวัง

 

“นี่เจ้ามาหาข้าเพียงเพราะจะบอกข้าในเรื่องนี้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

“ที่จริงแล้วข้ามาที่นี่เพราะใครบางคนขอให้ข้ามาทำการแลกเปลี่ยนกับเจ้า” อวี้จิงพูด

 

“มันคงจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการอวยพรหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นถาม

 

อวี้จิงหัวเราะและพูด “แน่นอนว่าไม่ ญาติระดับครึ่งเทพของข้าอยากให้เจ้าช่วยฆ่าซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งให้กับเขา แต่ทว่ามันไม่มีโอกาสที่เขาจะมาพูดกับเจ้าต่อหน้าได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงส่งข้ามาแทน”

 

“ฆ่าซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่ง? ทำไมเขาถึงมาขอข้า? มันมียอดฝีมือมากมายอยู่ที่นี่ ถ้าเขาแค่ต้องการใครสักคน ทำไมเขาถึงเลือกข้า?”
หานเซิ่นไม่สามารถเชื่อได้ว่าครึ่งเทพคนหนึ่งจะต้องการความช่วยเหลือจากเขาเพื่อฆ่าซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่ง

 

“กรณีของญาติข้ามันเป็นอะไรที่พิเศษ เขาขอความช่วยเหลือจากคนที่เป็นระดับเทพเจ้าไม่ได้ และเขาต้องการจะล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวหนึ่ง เขาได้ยินว่าเจ้าและไผ่เดียวดายโค้นล้มซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวหนึ่งได้สำเร็จ และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องการให้เจ้าช่วยเขา เจ้าเจรจาต่อรองได้ ญาติของข้านั้นร่ำรวยมากๆ” อวี้จิงอธิบาย

 

ครึ่งเทพที่อวี้จิงพูดถึงคนนี้มีชื่อว่าอวี้คุน เขาเป็นหนึ่งในครึ่งเทพที่มีประสบการณ์มากที่สุดในปราสาทนภา เขามาจากรุ่นเดียวกับผู้นำปราสาทนภาและเป็นคนที่มีพรสวรรค์พอสมควร

 

เขามีโอกาสที่จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าเมื่อนานมาแล้ว แต่มีบางสิ่งเกิดขึ้นในครอบครัวของเขา ซึ่งหยุดเขาจากการทำแบบนั้น จนถึงตอนนี้เขาจึงยังไม่เป็นระดับเทพเจ้า

 

“อะไรที่สำคัญถึงขนาดที่เขาต้องเลื่อนการเพิ่มระดับเป็นเวลานานอย่างนั้น?” หานเซิ่นถาม

 

หานเซิ่นไม่ได้แค่ถามเรื่องนี้เพราะความอยากรู้อยากเห็น เขากังวลว่าเรื่องนี้อาจจะลากเขาเข้าไปในความขัดแย้งภายในของปราสาทนภา หานเซิ่นระวังตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับเรื่องแบบนั้น

 

อวี้จิงเข้าใจหานเซิ่น เขายิ้มและอธิบาย “เจ้าไม่ต้องกังวล มันไม่ได้มีใครในปราสาทนภาที่มีความบาดหมางกับลุงอวี้คุน ที่เขาไม่ได้กลายเป็นระดับเทพเจ้าก็เพราะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับลูกชายของเขา ลูกชายของเขานั้นไปเกี่ยวข้องกับคนผิดและเผยข้อมูลลับบางอย่างเข้าจนทำลายแผนการของปราสาทนภา ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับลุงอวี้คุน แต่เขาก็เข้าคุกสามสิบปีแทนลูกชาย เขาเพิ่งจะถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อไม่กี่ปีนี้”

 

“หนึ่งในระดับเทพเจ้าของพวกเราจะช่วยเหลือลุกอวี้คุน ถ้าเขาทำการขอตามกฎของปราสาทนถา เขามีสิทธิ์ที่จะขอความช่วยเหลือ แต่ลุงอวี้คุนนั้นอับอายมากเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกชายทำ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะขอความช่วยเหลือจากระดับเทพเจ้าคนไหน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาอยากจะร่วมงานกับเจ้า เจ้าไม่ต้องกังวลว่าเขาจะจ่ายไม่ได้ เขานั้นสูงอายุและมีเงินเป็นจำนวนมาก”

 

“ข้าขอเวลาคิดก่อน” หานเซิ่นตอบ สถานการณ์ของอวี้คุนเป็นอะไรที่ซับซ้อน ดังนั้นหานเซิ่นต้องการคำนึงเกี่ยวกับผลที่อาจจะตามมาหลังทำงานร่วมกับชายคนนั้นซะก่อน

 

“โอเค ให้คำตอบกับข้าโดยเร็วที่สุด ลุงอวี้คุนกำลังรออยู่ และข้าต้องการเอาคำตอบไปให้เขา” อวี้จิงพูด

 

หลังจากที่บอกลาอวี้จิง หานเซิ่นก็เดินทางออกจากเกาะหยกน้อยและมุ่งหน้าไปที่เกาะหลักที่ผู้นำปราสาทนภาอยู่อาศัย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset