Super God Gene – ตอนที่ 2640

หานเซิ่นใช้พลังเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ แต่ลูกธนูของเขาดูเหมือนจะสร้างความเสียหายกับเจ้าซีโน่เจเนอิคไม่ได้เลย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกธนูเข้าไปใกล้อีกฝ่าย หลุมดำก็จะดูดลูกธนูเข้าไป แต่ทั้งหมดนี่อยู่ในการคาดเดาของหานเซิ่น พลังและความสามารถของราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์นั้นอยู่ในข้อมูลที่เขาได้รับมา ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้คาดหวังให้ลูกธนูทำความเสียหายกับราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ตั้งแต่แรกแล้ว เขาเพียงแค่ซื้อเวลาเพื่อเข้าไปใกล้มัน

 

ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าไปใกล้ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ได้มากพอ เขาหมุนคันธนูงูหกคอและใช้มันเป็นเหมือนกับมีด สายลมที่คมเหมือนกับใบมีดตัดเข้าไปในเกล็ดของราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์และทิ้งรอยแผลลึกเอาไว้

 

‘เป็นอย่างที่ไฟล์ข้อมูลบอก ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์กลืนกินพลังงานได้ แต่มันดูดกลืนความเสียหายทางกายภาพไม่ได้’ หานเซิ่นคิด

 

ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์โกรธขึ้นมาหลังจากที่ได้รับความเสียหาย แต่หานเซิ่นยังคงใช้ธนูโจมตีต่อไปเรื่อยๆขณะที่บินไปรอบๆราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ราวกับแมลงวัน มันไม่สำคัญว่าราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์จะคำรามเสียงดังสักแค่ไหน มันก็ยังโจมตีไม่ถูกตัวหานเซิ่น หลังจากนั้นมันก็หันไปใช้การโจมตีในวงกว้างแทน แต่เสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูงก็สามารถป้องกันความเสียหายทั้งหมดได้ เจ้าซีโน่เจเนอิคไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้

 

อวี้คุนยืนอยู่ห่างๆและไม่ได้ทำอะไรมาก เขาแค่โจมตีเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์นิดหน่อยเท่านั้น

 

หานเซิ่นยังคงต่อสู้ในระยะประชิดต่อไป ซึ่งราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ก็ได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“เป็นผู้ชายที่น่ากลัวอะไรขนาดนี้ การเคลื่อนไหวและวิชามีดของเขาคล้ายคลึงกับวิชาใต้นภา แต่จะมีใครในเผ่าเราที่ฝึกวิชาใต้นภาได้ถึงขั้นนี้?” ซือหยาถามด้วยความแปลกใจ

 

จั่วอวี้บันทึกภาพการต่อสู้ระหว่างหานเซิ่นและราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์
“วิชาใต้นภานั้นไม่สมบูรณ์มาเป็นเวลานาน มันจึงมีศิษย์ไม่มากนักที่ฝึกวิชาใต้นภา และมันยังไม่มีใครคนไหนที่ฝึกจนถึงขั้นหานเซิ่น แต่ที่สุดแล้วมันจะมีคนที่ฝึกมันมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นสื่อการเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ”

 

ซือหยาส่ายหัว “นี่ไม่ใช่บางสิ่งที่จะมองดูและเรียนรู้ได้ การใช้วิชาแบบนี้เป็นอะไรที่วิเคราะห์ได้ยากมาก บอกตามตรงมันคงจะมีแต่คนที่ฝึกวิชาจนเชี่ยวชาญแล้วเท่านั้นถึงจะได้ประโยชน์จากการมองดูการต่อสู้นี้ ศิษย์ส่วนใหญ่จะไม่ได้อะไร ไม่ว่าพวกเขาจะดูวิดีโอนี้สักกี่ครั้ง บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่หานเซิ่นมีพรสวรรค์ระดับสิบเอ็ดเปลือก”

 

จั่วอวี้ส่ายหัวและพูด “ถึงอย่างนั้นการมีวิดีโอนี้ก็ยังดีกว่าไม่มี! ข้าหวังว่าเผ่านภาจะพัฒนายอดฝีมือเหมือนอย่างหานเซิ่นได้สักคน”

 

“ข้าไม่คิดว่าพวกเราต้องสงสัยในความสามารถของหานเซิ่นอีกต่อไป ระดับราชันขั้นที่เก้าคนหนึ่งกำลังจะฆ่าราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ ถึงแม้เขาจะมีสมบัติที่ทรงพลังอยู่ แต่เขาก็ยังคงน่ากลัวถึงแม้จะไม่ได้พึ่งพาพวกมัน ถ้าเขาเป็นสปาย เขาจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อปราสาทนภา ในตอนนี้พวกเรายังไม่รู้ที่มาที่ไปของเขา” ซือหยาพูด

 

“ถ้าเขาไม่ใช่สปาย แบบนั้นพวกเราก็โชคดีมากๆ นี่เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานเรา พวกเราจะต้องยืนยันตัวตนและอดีตของเขา” จั่วอวี้พูด

 

“นั่นเป็นความจริง แต่อารยธรรมของคริสตัลไลเซอร์นั้นสาบสูญไปเป็นเวลานานแล้ว พวกเราได้พยายามสืบอดีตของหานเซิ่นมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่หลังจากที่สืบไปถึงเผ่าเคท พวกเราก็ไม่มีเบาะแสจะสืบต่อ ดาวเคทถูกทำลายไปในสงครามเมื่อหลายปีก่อน ชาวเคทมากมายสูญเสียบ้านของพวกเขาไป มันไม่มีอะไรหลงเหลือให้พวกเราสืบหามากนัก” ซือหยาพูด

 

“แต่พวกเรายังคงต้องทำต่อไป เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของพวกเรา และท่านผู้นำก็จริงจังกับหานเซิ่น พวกเราจำเป็นหาให้ได้ว่าเขามาจากไหน ด้วยชื่อเสียงของเขา อิทธิพลของเขาภายในปราสาทนภามีแต่จะเพิ่มขึ้น” จั่วอวี้พูดขณะที่มองดูราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ต่อสู้กับหานเซิ่น

 

ที่สุดแล้วราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ก็ถูกตัดหัวด้วยสายธนูงูหกคอร์ เลือดของมันไหลออกมาราวกับสายฝน

 

“ซีโน่เจเนอิคราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
เสียงประกาศดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น เมื่อเขาไม่ได้เสียงประกาศพูดถึงวิญญาณอสูร เขาก็ดูผิดหวัง อวี้คุนเริ่มลากร่างกายของราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ออกไปจากเดม่อนอะบิสส์ เขาไม่สามารถปิดบังมันจากศิษย์ของปราสาทนภาที่อยู่รอบๆ ดังนั้นทุกคนจึงรู้ว่าหานเซิ่นและอวี้คุนช่วยกันฆ่าราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ได้สำเร็จ

 

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องนั้น ศิษย์ของปราสาทนภาคนหนึ่งไปเจอวิดีโอการต่อสู้ระหว่างหานเซิ่นกับราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ และวิดีโอนั่นก็ถูกแพร่กระจายไปทั่วปราสาทนภาอย่างรวดเร็ว

 

“วิชาที่อาจารย์หานใช้คือวิชาใต้นภาของเผ่านภาใช่ไหม?”
“วิชาใต้นภาทรงพลังถึงขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย?”
“แน่นอนว่ามันทรงพลัง ข้าได้ยินมาว่าจริงๆแล้วอาจารย์หานเซิ่นเป็นคนที่ช่วยในการปรับแต่งมัน”
“ถ้าอย่างนั้นดูเหมือนว่าข้าควรจะเริ่มฝึกวิชาใต้นภา”
“ใช่พวกเราควรจะฝึกมัน ในตอนที่อาจารย์หานทำการบรรยาย พวกเราควรจะขอให้เขาบรรยายเกี่ยวกับวิชาใต้นภา”

 

ศิษย์ของปราสาทนภามากมายเริ่มพูดกันถึงวิชาใต้นภาที่หานเซิ่นใช้ แต่หลังจากที่หานเซิ่นได้เห็นวิดีโอของตัวเอง เขาก็ได้แต่ขมวดคิ้ว

 

“ดูเหมือนว่าทางปราสาทนภาจะส่งคนมาจับตาดูเรา”
หานเซิ่นพูดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจไปหาผู้นำปราสาทนภาเพื่อบอกว่าเขายินดีจะเข้าร่วมกับเผ่าเวรี่ไฮ แบบนั้นในตอนที่เขากลับมา เขาจะได้รับทะเลดารากรมาเป็นของตัวเอง

 

เมื่อผู้นำปราสาทนภาได้ยินการตัดสินใจของหานเซิ่น เขาไม่ได้ดูดีใจ เขาพูดอย่างเคร่งขรึม
“ถ้าเจ้าต้องการจะไป เจ้าจำเป็นต้องทำบางสิ่งที่น่ารำคาญซะก่อน”

 

“สิ่งที่น่ารำคาญอะไร?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาคิดว่าการทำการตัดสินใจคือส่วนที่ยากที่สุด ตอนนี้มันยังจะมีเรื่องอะไรอีก

 

ผู้นำปราสาทนภาหลี่ตาและพูด “เอ็กซ์ควิสิทต้องการพาเจ้าไป แต่เจ้าทำให้นางพ่ายแพ้อย่างหมดรูปและล้มเลิกความหวังทั้งหมด ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการจะไป เจ้าจำเป็นต้องทำให้เอ็กซ์ควิสิทเลือกเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เจ้าจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเอง”

 

หานเซิ่นอ้าปากค้าง หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็พูด
“นี่มันอะไรกัน? ถ้าข้ารู้แบบนี้ ข้าก็คงจะไม่ทำให้นางพ่ายแพ้ไม่เป็นท่าแบบนั้น”

 

“ไม่ต้องหดหู่ไป การเอาชนะนางอาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายซะทีเดียว อย่างน้อยตอนนี้นางก็มองเจ้าต่างไปจากเดิม และนั่นหมายความว่านางจะนับถือเจ้ามากขึ้น แบบนี้เจ้าก็จะมีอิสระมากกว่าเดิม” ผู้นำปราสาทนภาพูดและหัวเราะออกมา

 

“ท่านช่วยส่งใครสักคนไปขอโทษแทนข้าไม่ได้หรอ?” หานเซิ่นถาม เขาเลือกจะเอาชนะเธออย่างเด็ดขาดและทำให้เธอต้องเผชิญกับความจริงที่เจ็บปวด เนื่องจากเขาไม่อยากไปที่เผ่าเวรี่ไฮ แต่ตอนนี้เมื่อเขาเกิดเปลี่ยนใจ เขาก็มารู้สึกตัวทีหลังว่าเขาเล่นงานเธอหนักเกินไป

 

“เจ้าเป็นคนเอาชนะนาง ดังนั้นเจ้าควรจะไปเปลี่ยนใจนางด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นถึงแม้เจ้าจะไปถึงเผ่าเวรี่ไฮ มันก็จะมีปัญหารอเจ้าอยู่ แบบนั้นทำไมเจ้าไม่จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนที่จะไป?”
ผู้นำปราสาทนภาตบไหล่ของเขาและพูดต่อ “อย่าพลาดล่ะ ข้าฝากความหวังเอาไว้กับเจ้า”

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์นี้ยังไงดี แต่เขาอยากได้ทะเลดารากร ด้วยเหตุนั้นเขาจำเป็นต้องทำตามที่ผู้นำปราสาทนภาบอก

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset