Super God Gene – ตอนที่ 2645

ขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยว่าก็อตสปิริตทัชต้องการอะไร จู่ๆเขาก็ได้รู้ความคิดของมัน “มอบหยดเลือดของเจ้าให้กับข้าอีก”

 

หานเซิ่นแปลกใจ เขาเคยพบก็อตสปิริตทัชตัวหนึ่งก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขารู้ว่าพวกมันสามารถทำการสื่อสารขั้นพื้นฐานได้ แต่ก็อตสปิริตทัชตัวนี้ดูจะแข็งแกร่งกว่าตัวก่อนที่เขาเคยเห็นมาก

 

ความคิดของก็อตสปิริตทัชตัวก่อนที่เขาเคยเห็นในปราสาทนภานั้นเบลอๆและไม่ชัดเจน แต่ความต้องการของก็อตสปิริตทัชตัวนี้ชัดเจนมากราวกับว่ามันพูดตรงเข้ามาในหูของเขา

 

“ทำไมข้าถึงต้องมอบเลือดให้กับเจ้าด้วย?” หานเซิ่นถามและมองไปที่ก็อตสปิริตทัช

 

“แลกเปลี่ยน” เสียงของก็อตสปิริตทัชดังขึ้นในจิตใจของหานเซิ่น

 

‘ก็อตสปิริตทัชนี้สื่อสารได้จริงๆ ถ้าพวกมันมีชีวิตอยู่นานพอ ดูเหมือนพวกมันจะวิวัฒนาการได้ เจ้าตัวนี้อยู่มาตั้งแต่สมัยที่อัลฟ่าของเผ่าเวรี่ไฮยังมีชีวิตอยู่ มันคงจะเดินทางไปทั่วจักรวาลร่วมกับอัลฟ่าของเผ่าเวรี่ไฮ มันพิเศษกว่าตัวอื่นจริงๆ’ หานเซิ่นแปลกใจ

 

“เจ้าจะแลกเปลี่ยนด้วยอะไร?” หานเซิ่นถาม

 

“ตามข้ามา” ก็อตสปิริตทัชพูด หลังจากนั้นมันก็กระพือปีกและเริ่มบินออกจากบ้านไม้ไป หานเซิ่นรีบอุ้มเป่าเอ๋อขึ้นมาและบินตามเจ้าแมลงตัวน้อยไป เขาอยากรู้ว่าก็อตสปิริตทัชตัวนั้นจะเสนออะไรให้กับเขา

 

เอ็กซ์ควิสิทเตือนเขาว่าอย่าได้ออกไปจากภูเขา ถ้าเขาออกไป เขาก็อาจจะตกอยู่ในอันตราย แต่นั่นไม่ได้หยุดเขาจากการตามก็อตสปิริตทัชไป เพราะตราบใดที่เขาไม่ออกไปไกลจนเกินไป มันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องกลัว

 

ก็อตสปิริตทัชบินอย่างรวดเร็วมากๆ มันรวดเร็วยิ่งกว่าหานเซิ่นซะอีก หานเซิ่นจำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อจะไล่ตามมันให้ทัน

 

พวกเขาบินไปเกือบทั้งวัน ก็อตสปิริตทัชไม่ได้บินเป็นเส้นตรงเช่นกัน มันซิกแซ็กไปมาทุกทิศทุกทาง เส้นทางการบินที่ประหลาดของมันนั้นบ่งบอกว่ามันหวาดกลัวบางสิ่งบางอย่าง

 

ภายในเอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้ามากมายป้วนเปี้ยนอยู่ทั่ว ซึ่งหานเซิ่นกังวลว่าอาจจะไปเจอกับพวกมันเข้า ถ้าเขาเจอกับซีโน่เจเนอิคที่เป็นระดับเทพเจ้าขั้นทรานมิวเทชั่นหรือสูงกว่า เขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับมันได้

 

แต่ความกังวลของหานเซิ่นไม่เป็นจริง ในระหว่างทางเขาไม่เห็นซีโน่เจเนอิคแบบนั้นเลยสักตัว ซีโน่เจเนอิคที่เขาพบเห็นเป็นแค่ซีโน่เจเนอิคที่ไม่ได้เป็นภัยอะไรต่อเขา

 

ที่สุดแล้วก็อตสปิริตทัชก็มาหยุดอยู่ที่หุบเขาแห่งหนึ่ง

 

หานเซิ่นเห็นว่าหุบเขานั้นเขียวชอุ่ม มันมีพืชผักอยู่มากมาย ซึ่งรวมถึงป่าไผ่ขนาดใหญ่ ไผ่นั้นเขียวขจีจนดูเหมือนกับหยก

 

ก็อตสปิริตทัชบินเข้าไปในป่าไผ่ และหานเซิ่นก็ตามมันไปติดๆ พวกเขาไปถึงพื้นที่ว่างในใจกลางของป่าไผ่ และในพื้นที่นั่นมีดอกไม้สีขาวขนาดเล็กอยู่

 

เมื่อหานเซิ่นเข้าไปใกล้ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่าดอกไม้สีขาวขนาดเล็กนั่นแตกต่างไปจากดอกไม้ธรรมดาๆ พวกมันดูเหมือนกับแฟรี่ที่สวมใส่ชุดคลุมสีขาว ใบหน้าเล็กๆของพวกมันดูสวยงาม และเมื่อหานเซิ่นมองดูใกล้ๆ เขาก็เห็นแม้กระทั่งขนตาของพวกมัน

 

แต่ดอกไม้แฟรี่ทั้งหมดหลับอยู่ มันยากที่จะบอกได้ว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆหรือเปล่า

 

ก็อตสปิริตทัชบินเข้าไปหาพวกมัน การกระพือปีกของมันสร้างสายลมที่รุนแรงพอจะปลุกให้เหล่าดอกไม้แฟรี่ตื่นขึ้นมา เมื่อพวกมันลืมตาขึ้นมา พวกมันทั้งหมดก็ไปรวมตัวกันในจุดๆเดียวราวกับว่าพวกมันหวาดกลัวต่อบางสิ่งบางอย่าง

 

“ข้าเสนอทั้งหมดนี่เป็นการแลกเปลี่ยน” ก็อตสปิริตทัชพูดขณะที่บินไปใกล้กับดอกไม้ มันใช้จิตใจเพื่อสื่อสารกับหานเซิ่นอีกครั้ง

 

“พวกนี้คืออะไรกัน?” หานเซิ่นมองไปที่ดอกไม้ขาวที่ดูเหมือนกับแฟรี่ เขาสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่ทรงพลังของพวกมัน

 

“ดอกไม้แฟรี่” ก็อตสปิริตทัชตอบ

 

“พวกมันทำอะไรได้?” หานเซิ่นถาม

 

“ก็อตคิงบีชอบพวกมัน” ก็อตสปิริตทัชพูดผ่านจิตใจของมันอีกครั้ง

 

“นั่นหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นไม่เข้าใจ

 

“ถ้าเจ้าต้องการจะดึงดูดก็อตคิงบี เจ้าจำเป็นต้องใช้พวกมัน…”
ถึงแม้ความคิดของก็อตสปิริตทัชตัวนี้จะชัดเจน แต่ความสามารถในการสื่อสารของมันก็ยังมีขีดจำกัดอยู่ มันสามารถพูดบางสิ่งที่ง่ายๆได้ แต่การอธิบายเรื่องที่ซับซ้อนนั้นอยู่เหนือความสามารถของแมลงตัวน้อยนี้

 

หานเซิ่นเข้าใจแค่ว่าดอกไม้แฟรี่พวกนี้สามารถใช้เพื่อดึงดูดก็อตคิงบีได้ และก็อตคิงบีก็คงจะมีประโยชน์อะไรบางอย่าง

 

แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่สิ่งที่ก็อตสปิริตทัชเชื่อ แต่หานเซิ่นไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับก็อตคิงบีมาก่อน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เจ้าแมลงเสนอนั้นเป็นอะไรที่คุ้มค่าหรือเปล่า

 

“เจ้าต้องการเลือดมากขนาดไหน?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่ก็อตสปิริตทัช

 

“หนึ่งร้อยหยด” ก็อตสปิริตพูดในจิตใจของหานเซิ่น

 

“นั่นมากเกินไป ดอกไม้หนึ่งดอกต่อเลือดหนึ่งหยดเป็นยังไง? ให้ข้านับก่อนนะ มันมีดอกไม้แฟรี่อยู่ทั้งหมดสิบเจ็ดดอก ดังนั้นข้าจะมอบเลือดให้กับเจ้าสิบเจ็ดหยด ตกลงใช่ไหม?” หานเซิ่นถาม

 

หานเซิ่นไม่ได้รีบตอบตกลงในทันที เพราะยังไงซะเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รับประโยชน์อะไรจากดอกไม้แฟรี่พวกนี้ แต่ทว่าเขาสนใจในตัวก็อตสปิริตทัช มันรู้จักเอาท์เตอร์สกายเป็นอย่างดี ดังนั้นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าแมลงอาจจะมีประโยชน์ต่อเขาในอนาคต

 

“ตกลง” ก็อตสปิริตทัชตอบด้วยความมั่นใจ

 

“ข้าจะใช้ดอกไม้พวกนี้ได้ยังไง?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่ดอกไม้แฟรี่

 

“ขุดรากพวกมันขึ้นมาและเอาพวกมันกลับไป” ก็อตสปิริตทัชตอบ

 

“พวกมันจะตายไหม?” หานเซิ่นมองดอกไม้ที่ดูเหมือนกับแฟรี่ เขาไม่อยากจะทำร้ายสิ่งมีชีวิตที่สวยงามโดยไม่จำเป็น

 

“ไม่ แต่หลังจากที่กลับไปแล้ว เจ้าต้องนำมันไปปลูกในสวน” ก็อตสปิริตทัชพูด

 

“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลง” หานเซิ่นพับแขนเสื้อและเริ่มขุดเอาดอกไม้ขึ้นมาทีละดอก

 

“เลือด” ก็อตสปิริตทัชพูดขณะที่บินมาบนมือของหานเซิ่น

 

หานเซิ่นไม่ลังเล เขาบีบเลือดสิบเจ็ดหยดออกมาและปล่อยให้มันนองอยู่บนฝ่ามือของเขา ก็อตสปิริตทัชบินลงไปหาเลือดราวกับหมาป่าที่หิวกระหาย มันดื่มเลือดทั้งหมดเข้าไปในชั่วพริบตา

 

ร่างกายคริสตัลของเจ้าแมลงเริ่มจะถูกย้อมด้วยแสงสีแดง มันเริ่มจะดูเหมือนกับงานศิลปะที่ทำขึ้นมาจากคริสตัลสีชมพู

 

หานเซิ่นขุดเอาดอกไม้แฟรี่ทั้งหมดขึ้นมาจากพื้น ดอกไม้แฟรี่ตัวสั่นขณะที่เขาทำการขุดพวกมันขึ้นมา พวกมันดูหวาดกลัว

 

“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้จะทำร้ายพวกเจ้า” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม ดอกไม้พวกนี้เป็นอะไรที่น่ารักมากๆ ถึงแม้พวกมันจะสามารถกินได้ แต่เขาก็ไม่อยากจะกินพวกมัน

 

ก็อตสปิริตทัชบินขึ้นจากมือของหานเซิ่นและเริ่มทำการขุดลงไปในพื้นที่อยู่ถัดไปจากรากของดอกไม้แฟรี่

 

“นี่เจ้ากำลังจะทำอะไร?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้

 

“ข้ากำลังจะนอน” เสียงของก็อตสปิริตทัชดังขึ้นในจิตใจของเขา หลังจากนั้นเจ้าแมลงก็จมหายลงไปใต้ดิน

 

หานเซิ่นถามอีกหลายคำถาม แต่เขาไม่ได้รับคำตอบจากก็อตสปิริตทัช ในตอนนี้เขารู้ว่าจำเป็นต้องกลับไปที่บ้านไม้พร้อมกับดอกไม้แฟรี่

 

“เอ็กซ์ควิสิทคงจะรู้วิธีการใช้ดอกไม้แฟรี่พวกนี้ เราควรจะถามเธอเมื่อเธอกลับมา” หานเซิ่นบินออกจากหุบเขาและตรงกลับไปที่บ้านไม้บนยอดเขา

 

แต่ทว่าก่อนที่หานเซิ่นจะกลับไปถึงบ้านไม้ รูปปั้นหยกก็สั่นไหวและเรืองแสงขึ้นมา นั่นบ่งบอกว่าเอ็กซ์ควิสิทกลับเข้ามาในระยะ เธอจะสัมผัสหานเซิ่นได้อีกครั้งหนึ่ง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset