Super God Gene – ตอนที่ 2656

“นี่เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่ถูกต้อง ฉันใช้วิญญาณอสูรไม่ได้ ฉันจำเป็นต้องใช้พลังของตัวเองเพื่อต่อสู้กับมัน แต่นั่นไม่เพียงพอที่จะเอาชนะด้วงดาราระดับเทพเจ้า” หานเซิ่นลำบากใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ด้วงดารามีพลังป้องกันสูงมากๆ แม้แต่ด้วงดาราระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟก็มีเปลือกที่แข็งแกร่งกว่าเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟส่วนใหญ่ ถึงแม้หานเซิ่นจะใช้เสื้อคลุมวิญญาณราชาขนนกหรือธนูงูหกคอร์ การจะเจาะทะลวงเปลือกของมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แถมมันเขายังไม่สามารถใช้พวกมันได้ในตอนนี้

 

“อย่าได้แม้แต่จะคิดเกี่ยวกับการจัดการกับด้วงดาราระดับเทพเจ้านั่น เราควรจะจดจ่อกับด้วงดาราระดับราชันเพื่อจะได้รับผลไม้ดารา” หานเซิ่นพูดกับตัวเองและมองไปรอบๆ

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าด้วงดาราพวกนั้นมาจากที่ไหน แต่พวกมันมีอยู่เป็นจำนวนมากจริงๆ ในตอนแรกหานเซิ่นกังวลว่าบนต้นไม้อาจจะไม่มีด้วงดาราหนึ่งพันตัวให้ฆ่า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันมีด้วงดาราอย่างน้อยหมื่นตัวกำลังลงมาบนต้นไม้

 

ในตอนที่ด้วงดารามาถึงต้นไม้ พวกมันก็กระจายตัวกันออกไปบนใบ กิ่งก้านและผลของต้นไม้ และถึงแม้ต้นไม้ดาราจะแข็งแรงมากๆ แต่เขี้ยวของพวกมันก็คมพอจะทิ้งรอยกัดเอาไว้บนเปลือกไม้ ในตอนนี้มันอาจจะดูไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไร แต่ถ้าพวกมันกัดแทะต้นไม้ทุกวันๆ มันก็คงจะขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่ต้นไม้จะโค่นลงมา

 

หานเซิ่นยังคงฆ่าพวกแมลงต่อไป เขาฆ่าด้วงดาราไปมากมาย ในเวลาสามถึงสี่ชั่วโมง เขาก็ฆ่าไปได้ทั้งหมดห้าร้อยตัว และเขายังได้รับวิญญาณอสูรมาอีกสามดวง

 

‘ดูเหมือนว่าเราคงจะฆ่าด้วงดาราได้สองพันตัวก่อนที่เวลาจะหมด นั่นหมายความว่าเราจะได้รับผลไม้ดารายี่สิบลูก แต่ผลไม้ดารามีขนาดใหญ่โต อย่างนั้นเราจะขนพวกมันกลับไปได้ยังไง?’ ขณะที่หานเซิ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งกำลังเข้ามาหาเขาจากด้านหลัง เขารีบเทเลพอร์ตหนีไปในทันที

 

หลังจากที่เขาเทเลพอร์ตไปแล้ว ด้วงดาราระดับเทพเจ้าก็มาถึงตำแหน่งเก่าของเขา มันบินลงมาบนกิ่งของต้นไม้และดวงตาสีฟ้าของมันก็จ้องมาที่ตำแหน่งใหม่ของหานเซิ่น

 

“โอ้ไม่นะ! ทำไมเจ้าตัวนี้ถึงหมายตาเรา?” หานเซิ่นจงใจหลีกเลี่ยงด้วงดาราระดับเทพเจ้าขณะที่เขาเคลื่อนที่ลงมาด้านล่างของต้นไม้ เขาไม่ได้คาดคิดว่าด้วงตัวนี้จะพยายามลอบโจมตีเขา

 

หานเซิ่นไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับมันมากนัก เพราะด้วงดาราระดับเทพเจ้าเริ่มจะโจมตีเขาอีกครั้งแล้ว ร่างกายสีฟ้าของมันกลายเป็นสายฟ้าที่พุ่งเข้าไปหาหานเซิ่น

 

หานเซิ่นไม่รวดเร็วพอจะหลบหลีกการพุ่งชนของด้วงระดับเทพเจ้า เขาต้องเทเลพอร์ตหนีไปอีกครั้งเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างเขากับด้วงระดับเทพเจ้า และเขาไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขาเทเลพอร์ตหนีไปอีกครั้งเพื่อเพิ่มระยะห่างจากเจ้าแมลงขึ้นอีก

 

แต่ด้วงดาราระดับเทพเจ้าไม่คิดจะปล่อยหานเซิ่นไป มันยังคงพยายามจะโจมตีใส่เขาต่อไป ความสามารถในการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นไม่ไกลมากพอ ทำให้เขาไม่สามารถสลัดด้วงดาราระดับเทพเจ้าหลุดไปได้ ทุกครั้งที่หานเซิ่นปรากฏตัวจากการเทเลพอร์ต ด้วงดาราระดับเทพเจ้าก็จะพุ่งเข้าใส่เขาราวกับลำแสงสีฟ้า หานเซิ่นไม่มีทางเลือกนอกจากเทเลพอร์ตต่อไป เขาไม่มีเวลาไปล่าด้วงดาราระดับราชันอีกแล้ว เพราะในตอนนี้เขาต้องใช้สมาธิไปกับการรับมือศัตรูระดับเทพเจ้า

 

หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เนื่องจากเขาถูกไล่ล่าโดยด้วงดาราระดับเทพเจ้า ทำให้เขาพลาดโอกาสที่จะฆ่าด้วงดาราระดับราชันตัวอื่นๆ ถ้าเขาฆ่าด้วงไม่ครบหนึ่งพันตัว เขาก็ไม่แน่ใจว่าชายแก่จะอนุญาตให้เขาเก็บผลไม้ดาราไปไหม

 

“แปลกจริงๆ ทำไมด้วงดาราระดับเทพเจ้าตัวนี้ถึงไม่ยอมปล่อยเราไป?”
หานเซิ่นขมวดคิ้ว มันเหมือนกับว่าเจ้าแมลงตัวนี้ถูกบังคับให้จู่โจมเขาอย่างไรอย่างนั้น

 

“นี่มันแปลกๆ ทำไมด้วงดาราระดับเทพเจ้าตัวนี้ถึงเอาแต่ไล่ล่าหานเซิ่น?” เอ็กซ์ควิสิทสับสนเช่นกัน ด้วงดาราไม่ค่อยมีสติปัญญา และการที่พวกมันหาต้นไม้ดาราเจอก็เป็นเพราะสัญชาตญาณเท่านั้น ถ้าสติปัญญาของพวกมันสูงกว่านี้ พวกเขาก็คงจะหนีไปเมื่อพวกมันสัมผัสได้ถึงชายแก่ที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้

 

หลี่อวี้เจินหัวเราะกับตัวเอง ในจังหวะที่ฝูงด้วงดาราบินลงมา เขาและหานเซิ่นเห็นพวกมันด้วยกันทั้งคู่ หลังจากที่สังเกตเห็นด้วงดาราระดับเทพเจ้า ไอเดียอย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา

 

เขาไม่ได้มีพลังจะควบคุมด้วงดาราระดับเทพเจ้า แต่เขาไม่จำเป็นต้องควบคุมมัน เขาแค่จำเป็นต้องมอบเป้าหมายให้กับเจ้าแมลง หานเซิ่นกำลังล่าด้วงดาราอยู่และกลิ่นของด้วงที่ตายไปก็ยังคงเกาะอยู่ตามร่างกายของเขา หลี่อวี้เจินเพียงแค่ใช้เทคนิคลับเพื่อทำให้ด้วงระดับเทพเจ้าดมกลิ่นของด้วงที่ตายไปได้ง่ายขึ้น แบบนั้นมันจะถูกดึงดูดไปที่หานเซิ่นแต่เพียงผู้เดียว

 

“การปรากฏตัวของด้วงดาราระดับเทพเจ้าตัวนี้ช่วยลดปัญหาของเราลงไปมาก เพราะยังไงซะเราก็จำเป็นต้องสั่งสอนบทเรียนให้กับเขา ตอนนี้เราไม่แม้แต่จะต้องทำมันด้วยตัวเอง” หลี่อวี้เจินหยุดให้ความสนใจหานเซิ่นและกลับไปใช้สมาธิกับการล่าด้วงดาราระดับราชันต่อ

 

ถึงแม้หานเซิ่นจะสามารถหนีจากการโจมตีของด้วงดาราได้ แต่เขาไม่มีเวลาไปฆ่าด้วงดาราระดับราชันอีกต่อไป

 

ชายแก่หลี่ตา แต่ใบหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เทคนิคของหลี่อวี้เจินถูกใช้อย่างลับๆ แต่มันไม่มีทางเล็ดลอดไปจากสายตาของเขา แต่ถึงอย่างนั้นชายแก่ก็ยังคงไม่พูดอะไร

 

เขาไม่ได้สนใจความบาดหมางระหว่างชายหนุ่มทั้งสองคน เขาแค่ต้องการคนที่สามารถปกป้องต้นไม้ดาราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สำหรับตอนนี้ผลงานของหลี่อวี้เจินถือว่าไม่เลว ความสามารถของเขาสูงกว่าคนอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน เขาพอจะรับหน้าที่เป็นคนเฝ้าต้นไม้ดาราได้

 

เทคนิคที่เขาใช้กับหานเซิ่นเป็นอะไรที่ไม่ยุติธรรม แต่มันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของเขา

 

หานเซิ่นรู้ว่าไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ดำเนินต่อไปได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่มีเวลาไปฆ่าด้วงตัวอื่น ซึ่งจะทำให้เขาไม่ผ่านการทดสอบ

 

‘ถ้าเรากำจัดมันไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเราก็แค่ต้องเมินเฉยต่อมัน’ สมองของหานเซิ่นเริ่มคิดคำนวณอย่างรวดเร็ว

 

เอ็กซ์ควิสิทกังวลเกี่ยวกับหานเซิ่น แต่สิ่งที่เขาทำต่อไปทำให้เอ็กซ์ควิสิทตกใจยิ่งกว่าเดิม

 

ขณะที่ยังคงถูกไล่ล่าโดยด้วงระดับเทพเจ้าอยู่นั้น หานเซิ่นก็เคลื่อนที่เข้าไปหาด้วงระดับราชันตัวหนึ่งหลังจากที่หลบหลีกการโจมตีครั้งต่อไปได้แล้ว

 

จากมุมมองของคนอื่น มันอาจจะดูเหมือนกับเรื่องบังเอิญ ในตอนที่หานเซิ่นหลบหลีกนั้น เขาแค่ไปเจอเข้ากับด้วงระดับราชันและฆ่ามันโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่เขาจะเทเลพอร์ตหนีการโจมตีครั้งต่อไปของด้วงระดับเทพเจ้า ทุกอย่างเป็นไปอย่างไหลลื่นจนดูเหมือนกับเป็นเรื่องบังเอิญ

 

แต่เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิดอย่างชัดเจน นี่ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ หานเซิ่นวางแผนในทุกการเคลื่อนไหวที่ทำ

 

ขณะที่ถูกไล่ล่าโดยซีโน่เนเจอิคระดับเทพเจ้า หานเซิ่นยังคงมีเวลาวางแผนทั้งหมดนั้น เอ็กซ์ควิสิทได้รับรู้ถึงวิธีการคิดของเขา แต่ถ้าเธอตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเขา เธอก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำแบบนั้นได้

 

ชายแก่ดูตกตะลึงเล็กน้อยหลังจากที่ได้เห็นการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของหานเซิ่น

 

ภายใต้การถูกไล่ล่าโดยด้วงระดับเทพเจ้า หานเซิ่นสังหารด้วงระดับราชันอีกตัวหนึ่งได้ และการโจมตีของเขาก็ยังคงแม่นยำเหมือนกับครั้งก่อนๆ การจู่โจมของด้วงระดับเทพเจ้าไม่ได้ลดความแม่นยำของเขาลงเลย เขายังคงรักษาความแม่นยำที่เหมือนกับมีดฝ่าตัดเอาไว้ได้

 

“เขาเป็นคนหนุ่ม แต่เขายังคงเยือกเย็นอยู่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่ได้ตื่นตระหนกและยังคงทำทุกอย่างตามแผนการ คริสตัลไลเซอร์คนนี้เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง เจ้าเลือกตัวไหมได้ยอดเยี่ยมมาก” ชายแก่พูดกับเอ็กซ์ควิสิท

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset