Super God Gene – ตอนที่ 2663

เนื่องจากหลี่เคอเอ๋อยังไม่ได้เลือกตัวไหม การประลองระหว่างตัวไหมจึงถูกเลื่อนออกไปอีกจนต้นไม้ดาราประสบกับการคุกคามของเหล่าแมลงอีกครั้งหนึ่ง แต่มันเพิ่งจะผ่านไปไม่นานหลังจากที่ด้วงดาราครั้งก่อนถูกเก็บกวาด ดังนั้นหานเซิ่นจึงรู้ว่าฝูงแมลงที่มาในครั้งนี้ไม่ได้มากนัก หานเซิ่นปล่อยให้ยักษ์หินและซีโน่เจเนอิคระดับราชันตัวอื่นอยู่ใกล้ต้นไม้ดารา เมื่อเขารับประกันความปลอดภัยของต้นไม้ดาราได้แล้ว เขาก็กลับมาที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์เพื่อฝึกและตกปลาต่อ

 

“ฮะ? ทำไมเราถึงตกได้อย่างอื่น?”
หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน หานเซิ่นดึงสายตกปลาขึ้นมาและสังเกตเห็นว่าสิ่งที่เขาตกขึ้นมาได้คือโล่แทนที่จะเป็นแผ่นกระดาษเหมือนกับทุกที โล่นั้นทั้งเก่าและทรุดโทรม มันเต็มไปด้วยสนิม หานเซิ่นจับมันด้วยมือของเขา และเพียงแค่เขาออกแรงหน่อยเดียวมันก็เพียงพอจะบดขยี้โล่เก่าๆนั่น

 

“นี่มันอะไรกัน? ทำไมเราถึงตกได้ของห่วยๆแบบนี้?”
หานเซิ่นรู้สึกผิดหวัง แต่หลังจากนั้นเขาก็คิดกับตัวเอง ‘ถ้าเราตกไม่ได้กระดาษสีเหลืองพวกนั้นแล้ว นั่นหมายความว่าเราตกพวกมันขึ้นมาจนครบแล้วอย่างนั้นหรอ?’

 

เนื่องจากเอ็กซ์ควิสิทไม่ได้อยู่ หานเซิ่นจึงนำเอาแผ่นกระดาษสีเหลืองทั้งหมดออกมาและเริ่มเรียงลำดับตามหมายเลขหน้าของพวกมัน ตอนนี้มันเป็นหนังสือที่สมบูรณ์แล้วจริงๆ

 

“สามร้อยหกสิบห้าหน้า นั่นเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญ” โดยเริ่มจากหน้าแรกสุด หานเซิ่นอ่านเนื้อหาของหนังสืออีกครั้ง

 

โดยปกติแล้วเมื่อเอ็กซ์ควิสิทอยู่ที่นี่ หานเซิ่นจะไม่กล้าคิดหรือฝึกอะไรนอกเหนือไปจากวิชาก็อตส์วอนเดอร์และเวรี่เรียลบอดี้ การมีเพียงแค่สองวิชาให้ฝึกเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าเบื่อ แต่ตอนนี้เมื่อเขามองไปที่คัมภีร์นภาอำพัน ความรู้สึกสนใจและความมีชีวิตชีวิตก็กลับมาสู่หานเซิ่นอีกครั้ง หนังสือเล่มนี้ทำให้เขารู้สึกหลงไหล

 

ถึงแม้คัมภีร์นภาอำพันจะมีเพียงแค่รูปภาพ แต่หลังจากที่หานเซิ่นสังเกตมันอย่างละเอียด เขาก็เริ่มจะรู้สึกหนาวขึ้นมา

 

สถานการณ์ทั้งหมดเป็นอะไรที่ประหลาด กระดาษแผ่นหนึ่งที่ตกขึ้นมาจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์จะมีภาพร่างกายของมนุษย์อยู่ได้ยังไงกัน?

 

หานเซิ่นคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่ภาพเหล่านั้นไม่ได้เป็นภาพของมนุษย์ แต่เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกับมนุษย์เท่านั้น แต่หลังจากที่ตรวจดูเส้นสีแดงและฟ้าในรูปภาพอย่างถี่ถ้วนแล้ว หานเซิ่นก็เริ่มจะขนลุกขึ้นมา

 

เส้นสีแดงและฟ้าในรูปภาพนั้นเหมือนกับวิชาโลหิตชีพจร ไม่สิ มันไม่ได้คล้ายคลึงกับวิชาโลหิตชีพจร แต่มันตรงกันข้ามกัน มันเหมือนกับวิชาโลหิตชีพจรที่กลับตาลปัตร

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนๆหนึ่งฝึกวิชาโลหิตชีพจรที่กลับตาลปัตร แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นคัมภีร์นภาอำพันนี้

 

“นี่มีใครบางคนพยายามจะใช้คัมภีร์นภาอำพันเพื่อหลอกเราอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าควรจะคิดยังไงกับสถานการณ์นี้ดี

 

เขาตกวิชาจีโนของมนุษย์ขึ้นมาจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ และมันยังเป็นวิชาโลหิตชีพจรเวอร์ชั่นกลับตาลปัตรอีก เรื่องทั้งหมดนี้เป็นอะไรที่แปลกมากๆ

 

แต่มันไม่สมเหตุสมผล ถ้าเรื่องทั้งหมดนี้จะถูกจัดฉากขึ้นโดยใครบางคน ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์นั้นเชื่อมต่อกับโลกปฏิสสาร ดังนั้นไม่มีใครสามารถลงไปที่นั่นได้ และถึงจะมีใครคนหนึ่งลงไปในทะเลสาบได้จริงๆ เขาก็ไม่ควรจะรู้ว่าหานเซิ่นนั้นฝึกวิชาโลหิตชีพจร

 

หานเซิ่นมองไปที่คัมภีร์นภาอำพันด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน เขาไม่กล้าจะฝึกมัน เขาไม่แม้แต่จะคิดเกี่ยวกับมัน

 

จริงๆแล้วเขาไม่จำเป็นต้องฝึกมัน ถ้าเขาหวังที่จะใช้มัน เขาก็แค่ต้องใช้วิชาโลหิตชีพจรอย่างกลับตาลปัตร

 

แต่หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาพยายามจะทำแบบนั้น ในคัมภีร์นภาอำพันเองก็ไม่ได้บอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเช่นกัน เขาไม่สามารถคาดเดาถึงผลที่จะตามมาหลังจากใช้วิชาจีโนในวิธีการแบบนั้นได้

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หานเซิ่นอยากไปถามใครสักคนในพยุหะโลหิต แต่เขากำลังอยู่ในเอาท์เตอร์สกาย ตอนนี้เขาถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แม้แต่การโทรไปหาสมาชิกของพยุหะโลหิตก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

หานเซิ่นเอาคัมภีร์นภาอำพันไปเก็บ เขาไม่กล้าจะมองดูมันอีกต่อไป ถ้าเขาเกิดสนใจมันขึ้นมาในอนาคต เขาก็สามารถใช้วิชาโลหิตชีพจรกลับหลังได้ทุกเมื่อ แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาทำแบบนั้น

 

“มันคงจะเป็นอะไรที่ดีมากๆถ้ากุนซือไวท์อยู่ที่นี่ด้วย ด้วยความรู้ของเขา เขาคงจะช่วยเราวิเคราะห์คัมภีร์นภาอำพันได้”

 

หานเซิ่นอยากจะใช้เวลาศึกษามากกว่านี้ ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ศึกษาความรู้ของสำนักเสวียนอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะรู้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

ในขณะที่เขากำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำต่อไป สัญลักษณ์สามเหลี่ยมของรูปปั้นหยกก็เรืองแสงขึ้นมาอีกครั้ง หานเซิ่นรีบสงบจิตใจและบังคับตัวเองให้คิดเกี่ยวกับวิชาเวรี่เรียลบอดี้

 

ไม่นานหลังจากนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็เทเลพอร์ตมาที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ แต่ทว่าครั้งนี้เธอไม่ได้มาตามลำพัง เธอพาหลี่เคอเอ๋อมาด้วย

 

หานเซิ่นไม่ได้เห็นหลี่เคอเอ๋อตั้งแต่ที่พวกเขาแยกกันในคอร์แอเรีย ตอนนี้เธอดูเศร้าๆ

 

เอ็กซ์ควิสิทแนะนำตัวหลี่เคอเอ๋อให้หานเซิ่นรู้จัก หลี่เคอเอ๋อจดจำหานเซิ่นได้ แต่เธอไม่ได้รู้ว่าเขาคือคนเดียวกันกับดอลลาร์

 

“หานเซิ่น ข้ามีบางสิ่งอยากให้เจ้าช่วย” หลังจากที่เอ็กซ์ควิสิทแนะนำตัว เธอก็พูดเข้าเรื่องโดยไม่เสียเวลา

 

“ข้าจะอะไรทำเพื่อช่วยเหลือเจ้าได้?” หานเซิ่นถามด้วยความประหลาดใจ เขาเป็นคนนอกในเอาท์เตอร์สกาย ดังนั้นเขาไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ซึ่งเรื่องนี้ต้องเป็นอะไรที่พิเศษถึงทำให้เอ็กซ์ควิสิทเลือกจะมาขอความช่วยเหลือจากเขา

 

“มันมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น ทำให้นางยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ นางจำเป็นต้องเลือกใครสักคน” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

หลี่เคอเอ๋อส่ายหัว ขณะที่ยังคงดูเศร้าสร้อยนางพูดขึ้นว่า “พี่สามไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมค้อมให้มากความ ตัวไหมที่ข้าเลือกปฏิเสธข้า และเขาไม่อยากจะเห็นหน้าข้าอีก ด้วยเหตุนั้นข้าจึงต้องเลือกตัวไหมคนใหม่”

 

หานเซิ่นพยายามหลีกเลี่ยงการคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขากลัวว่าเอ็กซ์ควิสิทจะสัมผัสได้ถึงความคิดของเขาและรู้ความจริงขึ้นมา

 

หานเซิ่นรู้ว่าหลี่เคอเอ๋อกำลังพูดถึงดอลลาร์ แต่เธอกล่าวหาเขาอย่างผิดๆ ที่เขาไม่เข้าไปในคอร์แอเรียนั้นไม่ได้เพราะเขากำลังหลีกเลี่ยงเธอ ความจริงแล้วเขาไม่ได้พยายามจะซ่อนตัวจากหลี่เคอเอ๋อเลยสักนิด เขาเพียงแค่ติดอยู่ภายในเอาท์เตอร์สกาย ทำให้เขาเข้าไปในคอร์แอเรียไม่ได้

 

“เจ้าอยากให้ข้าช่วยอะไร?” หานเซิ่นถาม เขาไม่รู้ว่าเอ็กซ์ควิสิทต้องการอะไร เขาตกลงจะเป็นตัวไหมของเอ็กซ์ควิสิทเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเขาไม่รู้ว่าจะสามารถทำอะไรเพื่อช่วยหลี่เคอเอ๋อได้

 

“เวลาเกือบหมดแล้ว แต่น้องสาวของข้ายังหาตัวไหมดีๆไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นข้าจึงมาขอให้เจ้าช่วย ถ้าเจ้าโน้มน้าวให้ไผ่เดียวดายยอมเป็นตัวไหมของนางได้ พวกเราก็จะซาบซึ้งอย่างมาก” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

“ข้าทำเรื่องนั้นไม่ได้จริงๆ ถ้าไผ่เดียวดายยินดีจะมา เขาก็คงจะไม่ยอมถูกขังแบบนั้น มันไม่มีอะไรจะเปลี่ยนใจของเขาได้” หานเซิ่นพูด

 

“เจ้าจะบอกว่าถึงแม้เจ้าจะขอร้อง เขาก็จะไม่ฟังเจ้าอย่างนั้นหรอ? ข้าก็คิดว่าเขายินดีจะไปแทนเจ้าซะอีก” เอ็กซ์ควิสิทพูดขณะที่จ้องไปที่หานเซิ่น

 

“ต้องขอโทษพวกเจ้าด้วย แต่ข้าคงจะช่วยพวกเจ้าในเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ”
หานเซิ่นส่ายหัว เขารู้ว่าสถานการณ์นั้นมันน่าอึดอัดขนาดไหน

 

ถึงแม้เขาจะมีรูปปั้นหยกของผู้นำปราสาทนภาอยู่ แต่เขาก็ยังต้องระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา มันเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าการให้โจรไปอยู่ในสถานีตำรวจ ถ้าเขาไม่ระวังตัวให้ดี เอ็กซ์ควิสิทก็จะมองเข้าไปในจิตใจของเขา เขาไม่ต้องการให้ไผ่เดียวดายมาประสบชะตากรรมแบบเดียวกับเขา

 

“ถ้าเจ้าโน้มน้าวไผ่เดียวดายไม่ได้ แบบนั้นมันก็มีอีกหนทางหนึ่งที่เจ้าจะช่วยพวกเราได้” เอ็กซ์ควิสิทหัวเราะคิกคักให้กับหานเซิ่น

 

“มันคืออะไร?” หานเซิ่นถาม เขาเริ่มจะรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา

 

“มันเป็นอย่างที่เจ้าคิด ข้าอยากให้เจ้าช่วยเป็นตัวไหมของน้องสาวข้าด้วยอีกคน” เอ็กซ์ควิสิทพูด ความกังวลของหานเซิ่นกลายเป็นความจริงขึ้นมา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset