Super God Gene – ตอนที่ 2689

ภายในสวนๆหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ หลี่เคอเอ๋อกับเอ็กซ์ควิสิทกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหิน พวกเธอดูจะกำลังตกอยู่ในสภาวะสับสน

 

“เจ้าคิดเกี่ยวกับข้อบกพร่องของวิชาใต้นภาได้หรือยัง?” เอ็กซ์ควิสิทถามขณะที่มองไปที่หลี่เคอเอ๋อ

 

หลี่เคอเอ๋อส่ายหัว “แล้วพี่ล่ะ?”

 

เอ็กซ์ควิสิทส่ายหัวเช่นเดียวกัน เธอขมวดคิ้วและพูด
“สำหรับพวกเรา ตัวไหมคือหนทางสำหรับการได้รับความเข้าใจใหม่ๆ แต่ทว่าพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ สถานการณ์ของพวกเราในตอนนี้ทั้งดีและแย่ ในด้านบวกคือพวกเราได้เรียนรู้อะไรมากมายจากหานเซิ่น และเขาจะช่วยให้พวกเราได้รู้สึกว่าจิตใจที่ทรงพลังนั้นเป็นยังไง เขาจะช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพวกเรา แต่ถ้าพวกเราเอาแต่เรียนรู้ตามเขาเพียงอย่างเดียว พวกเขาก็แค่ก็อบปี้ความก้าวหน้าของเขาเท่านั้น พวกเราจะเป็นแค่ของเลียนแบบ และไม่สำคัญว่าพวกเราจะพยายามทำตามสิ่งที่เขาทำมากสักแค่ไหน พวกเราก็จะไม่มีวันได้ผลลัพธ์เดียวกับที่เขาบรรลุ เส้นทางที่พวกเราก้าวไปนั้นจะต้องนำไปสู่อนาคตที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวไหม พวกเราจำเป็นต้องบุกเบิกเส้นทางของตัวเอง แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ มันดูจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ”

 

หลี่เคอเอ๋อรีบพูดขึ้นมา “แต่จิตใจของหานเซิ่นแข็งแกร่งเกินไป ด้วยระดับของพวกเรา พวกเราไม่มีทางระบุข้อบกพร่องของเขาได้”

 

“ความจริงที่พวกเราพูดแบบนั้นออกมาถือเป็นอะไรที่แย่อย่างไม่ต้องสงสัย เขาควรจะเป็นตัวไหมของพวกเรา ไม่ใช่พวกเราเป็นตัวไหมของเขา ถ้าหานเซิ่นสร้างทัศนคติกับพวกเราว่าไม่อาจจะก้ามข้ามเขาไปได้ แบบนั้นพวกเราก็ถูกจำกัดโดยเขาเรียบร้อยแล้ว” เอ็กซ์ควิสิทพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“ถ้าอย่างนั้นพี่คิดว่าพวกเราควรทำจะยังไงดี?” หลี่เคอเอ๋อไม่สามารถคิดเกี่ยวกับหนทางแก้ไขปัญหานี้ได้

 

ถ้าหานเซิ่นสร้างภาพของความไร้เทียมทานที่ลบไม่ออกกับพวกเธอ แบบนั้นพวกเธอก็จะอยู่ใต้เงาของเขาไปตลอดการ นั่นไม่ใช่ตัวไหมที่พวกเธอแสวงหา

 

“หานเซิ่นจำเป็นต้องพ่ายแพ้สักครั้ง ความพ่ายแพ้คือหนทางเดียวที่จะลบล้างภาพความไร้เทียมทานของเขาออกไปจากหัวใจของพวกเรา” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

“แต่เชลก็ยังพ่ายแพ้ต่อเขา ข้าไม่คิดว่าจะมีตัวไหมคนไหนที่จะต่อกรกับเขาได้” หลี่เคอเอ๋อมองเอ็กซ์ควิสิทด้วยความสับสน เธอไม่แน่ใจว่าพี่สามของเธอหมายถึงอะไร

 

“ทำไมถึงคิดว่ามันต้องเป็นตัวไหมที่จะทำให้เขาพ่ายแพ้? ตอนนี้หานเซิ่นได้อันดับที่หนึ่งในการประลอง แบบนั้นเขาควรจะไปที่เจลเดม่อนฮอลล์ เขาจะเริ่มฝึกฝนที่นั่น อย่างแรกมันจะช่วยเขาในการฝึกฝนอย่างมาก อย่างที่สองเขาคงจะถูกบดขยี้ เมื่อเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เขาก็จะสูญเสียความมั่นใจและความอวดดีไป อย่างที่สามมันจะทำให้ทัศนคติที่พวกเรามีต่อเขาเปลี่ยนไป พวกเราจะไม่มองเขาเป็นคนที่ไร้เทียมทานอีกต่อไปถ้าพวกเราเห็นเขาพ่ายแพ้” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

“นี่เป็นไอเดียที่ดีมากๆ ตอนนี้พวกเรารีบไปสมัครเข้าสู่เจลเดม่อนฮอล์ให้กับเขากัน ผู้อาวุโสโอเพ่นสกายได้รับผลประโยชน์จากหานเซิ่น ดังนั้นข้าเชื่อว่าเขาจะไม่ปฏิเสธคำขอเข้าร่วมของหานเซิ่น” หลี่เคอเอ๋อตอบอย่างดีใจ

 

หานเซิ่นและเป่าเอ๋อยังคงตกปลาอยู่ที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ หลี่เคอเอ๋อมอบเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ให้กับเป่าเอ๋อ ดังนั้นหานเซิ่นไม่จำเป็นต้องผลัดกันตกปลากับเธออีกต่อไป แต่หานเซิ่นยังคงรู้สึกหดหู่ หลังจากที่เขาตกคัมภีร์นภาอำพันขึ้นมาได้ ของอย่างอื่นที่เขาดึงขึ้นมาจากทะเลสาบก็เป็นขยะทั้งนั้น ชุดเกราะขึ้นสนิมและอาวุธที่หักเป็นภาพที่เห็นบ่อยๆ เขายังตกได้แม้กระทั่งเศษของรูปปั้นที่แตกหรืออะไรทำนองนั้น

 

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แย่เป็นพิเศษ ในครั้งนั้นหลังจากที่เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ของเขากระตุก เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นบางสิ่งที่หนักมากๆ นั่นทำให้เขาสันนิษฐานไปทันทีว่ามันต้องเป็นบางสิ่งที่มหัศจรรย์ เขาใช้เวลาอยู่ครึ่งวันเพื่อจะดึงมันขึ้นมา แต่หลังจากที่เขาดึงมันขึ้นมาได้ เขาก็เห็นว่ามันเป็นแค่รูปปั้นขาขาดที่สูงสามเมตร

 

ในบางครั้งเป่าเอ๋อสามารถตกชิ้นอัญมณีขึ้นมาได้ แต่หานเซิ่นไม่รู้ว่าพวกมันเอาไว้ใช้ทำอะไร

 

ตลอดเวลาที่พวกเขาตกปลากันอยู่นั้น หมูทั้งสิบหกตัวก็ยังคงตามติดเป่าเอ๋อ พวกมันกินขนมที่เป่าเอ๋อมอบให้กับพวกมันอยู่เป็นประจำ แต่พวกมันไม่โตขึ้นเลยสักนิดเดียว พวกมันแต่ละตัวยังคงมีขนาดเท่ากำปั้น พวกมันดูตัวเล็กน่ารัก แต่หานเซิ่นคิดว่าพวกมันไร้ประโยชน์ ถ้าพวกมันไม่ได้ใช้เวลาในการกินและนอน พวกมันก็แค่ตามหลังเป่าเอ๋อไปไหนมาไหนแค่นั้น

 

“พ่อมานี่เร็ว! หนูตกบางสิ่งได้ มันหนักมากๆ” จู่เป่าเอ๋อก็พูดขึ้นมา

 

หานเซิ่นรีบเข้ามาหาเธอและช่วยเธอดึงเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ขึ้นมา เขารู้สึกว่ามันเป็นบางสิ่งที่หนักมากจริงๆนั่นแหละ มันเหมือนกับว่าสิ่งที่อยู่ที่ปลายสายคือภูเขาลูกน้อยๆ

 

หานเซิ่นและเป่าเอ๋อใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อพยายามดึงเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ขึ้นมาจากทะเลสาบ หลังจากที่ดึงอยู่สักพักใหญ่ๆ ในที่สุดพวกเขาก็เห็นบางสิ่งค่อยๆขึ้นมาจากก้อนเมฆ พวกเขาเห็นส่วนมุมสี่มุมของมันโผล่ขึ้นมาจากเมฆหมอก

 

“นั่นมันอะไรกัน?” หานเซิ่นตกใจในตอนที่ได้เห็นมัน

 

จากที่มองเห็น หานเซิ่นสามารถบอกว่ามันเป็นวัตถุที่ทำขึ้นมาจากทองแดง ขณะที่วัตถุทองแดงนั้นค่อยๆถูกดึงขึ้นมา มันก็ปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานหานเซิ่นก็เห็นว่าวัตถุที่โผล่ขึ้นมานั้นเป็นหัวของรูปปั้นแกะ

 

และมันไม่ใช่เพียงแค่หัวแกะแค่ตัวเดียว ทั้งสี่มุมของวัตถุเป็นหัวของแกะ

 

‘สิ่งนี้…ดูเหมือนกับลูกบาศก์สี่แกะ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองในตอนที่วัตถุทองแดงปรากฏขึ้นมาให้เห็น

 

ปัง!

เสียงขาดของบางสิ่งดังขึ้นมา ถึงแม้วัตถุทองแดงจะเกือบถูกดึงขึ้นมาจากทะเลสาบแล้ว แต่การดึงก็ถูกหยุดไป เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ที่ตกมันขึ้นมาได้นั้นขาด

 

หานเซิ่นมองดูลูกบาศก์สี่แกะจมกลับลงไปในเมฆหมอก เขาไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า แต่เขาเห็นว่าหัวของแกะทั้งสี่หัวดูเหมือนจะยิ้มอย่างแปลกๆให้กับเขา ขณะที่วัตถุทองแดงนั้นจมกลับลงไป

 

หานเซิ่นจ้องทะเลสาบด้วยความสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ขาดง่ายๆแบบนี้ หานเซิ่นและเป่าเอ๋อตกปลาด้วยเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์หลายต่อหลายครั้ง แต่เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

หานเซิ่นอยากจะไปถามกับหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิท แต่พวกเธอยังคงไม่กลับมา ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรอย่างอื่นนอกจากตกปลาต่อไป

 

“มันผ่านมาหลายวันแล้ว กุนซือไวท์น่าจะส่งข่าวกลับมาแล้ว เราควรจะขอให้หลี่เคอเอ๋อพาเราไปที่ทะเลทรายนั่นอีกครั้ง” หานเซิ่นพูดกับตัวเองขณะที่ตกปลาต่อไป เขารู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับคัมภีร์นภาอำพันที่ตกขึ้นมาได้

 

หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องฝึกวิชาจีโนประหลาดนั่น เขาแค่ต้องใช้วิชาโลหิตชีพจรอย่างกลับตาลปัตรเท่านั้น มันเป็นอะไรที่โชคดีขนาดไหนที่เขาจะเจอวิชาจีโนใหม่ง่ายๆแบบนี้?

 

‘หวังว่าคัมภีร์นภาอำพันจะเป็นอะไรที่มีประโยชน์’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง แต่หลังจากนั้นจู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกของเป่าเอ๋ออีกครั้ง “พ่อ หนูตกบางสิ่งได้อีกแล้ว พ่อรีบมาช่วยหนูดึงมันขึ้นมาที!”

 

หานเซิ่นเห็นเป่าเอ๋อใช้มือจับเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์เอาไว้แน่น เธอดูพยายามดึงอย่างสุดแรง ดูเหมือนว่าเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์จะตกบางสิ่งที่หนักอึ้งขึ้นมาได้เหมือนกับก่อนหน้านี้

 

หานเซิ่นรีบเข้าไปช่วยเป่าเอ๋อดึงเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ขึ้นมา ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เธอตกได้ในครั้งนี้ มันก็หนักยิ่งกว่าลูกบาศก์สี่แกะซะอีก

 

หานเซิ่นและเป่าเอ๋อต่อสู้กับน้ำหนักที่มหาศาล มันเหมือนกับว่ามีพลังบางอย่างกำลังดึงสวนทางกับพวกเขา พวกเขาเริ่มจะจับเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์เอาไว้ไม่อยู่

 

หมูน้อยทั้งสิบหกตัวรีบเข้ามาช่วย พวกมันเรียงแถวกันและใช้ปากงับที่เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์เพื่อช่วยพวกหานเซิ่นดึงมันขึ้นมาราวกับเป็นการแข่งขันชักเย่อครั้งใหญ่

 

คนสองคนและหมูสิบหกตัวดึงเส้นไหมอย่างสุดชีวิต หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ในที่สุดพวกเขาก็เห็นบางสิ่งขึ้นมาจากทะเลสาบ

 

ในตอนที่ได้เห็นมัน หานเซิ่นก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมา “มันเป็นลูกบาศก์สี่แกะอีกแล้ว!”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset