Super God Gene – ตอนที่ 2709

เอ็กซ์ควิสิทพาหานเซิ่นไปกับเธอ ขณะที่เธอเทเลพอร์ตไปอีกหลายครั้ง แต่ก็อตสปิริตสตอร์มก็ยังเกิดขึ้นทุกครั้ง ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเทเลพอร์ตไปที่ไหน ก็อตสปิริตสตอร์มก็จะก่อตัวขึ้นเหนือหัวพวกเขาในทันที

 

“ทิ้งข้าไว้ที่นี่และเทเลพอร์ตหนีไป” หานเซิ่นเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อของเอ็กซ์ควิสิท เขารู้ว่าเธอใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตหลายครั้งเกินไป ร่างกายของเธอมีขีดจำกัดและเธอเกือบจะหมดแรงแล้ว

 

แต่เอ็กซ์ควิสิทเมินเฉยต่อสิ่งที่หานเซิ่นบอก เธอคิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็พูดขึ้นมา
“ข้าพบหนทางหนึ่ง พวกเราจะเทเลพอร์ตไปหาเป่าเหลียน เป่าเหลียนคงจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกดูดเข้าไปในก็อตสปิริตสตอร์มแน่ ดังนั้นถ้าพวกเราตามเขาไป เขาก็จะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลบพลังนี้ออกไปจากตัวเจ้า”

 

“แต่พวกเราจะหาเขาได้ยังไง?” หานเซิ่นส่ายหัวและยิ้มแห้งๆ

 

เอ็กซ์ควิสิทเทเลพอร์ตอีกครั้งและดวงตาของเธอก็เปลี่ยนสีอย่างช้าๆ เธอมองออกไปทุกทิศทุกทาง แต่เธอก็หาตัวเป่าเหลียนไม่เจอ

 

“เลิกหาเถอะ เขาคงจะออกไปจากก็อตแอเรียแล้ว เขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องตายไปพร้อมกับพวกเรา” หานเซิ่นพูด เขาเดาออกนานแล้ว และนี่ก็ช่วยยืนยันความสงสัยของเขา

 

“มันจะต้องมีหนทาง” ใบหน้าของเอ็กซ์ควิสิทดูต่างไปจากปกติ และนั่นเป็นเพราะว่าเธอกำลังหมดหนทาง เธอไม่สามารถควบคุมสถานที่อย่างก็อตแอเรียได้

 

“เจ้าควรจะรีบหนีไป ก็อตสปิริตสตอร์มนั้นติดตามข้า และข้าก็เป็นคนที่ท้าท้ายเป่าเหลียนเอง นี่เป็นความรับผิดชอบของข้า” หานเซิ่นพูด

 

เอ็กซ์ควิสิมส่ายหัว “เจ้าเป็นตัวไหมของข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย”

 

“ข้าคิดว่าสำหรับเวรี่ไฮแล้ว ตัวไหมเป็นเพียงแค่เครื่องมือ ถ้าข้าตายไป เจ้าก็แค่ต้องหาตัวไหมใหม่” หานเซิ่นพูด

 

เอ็กซ์ควิสิทสั่นไหว มันเป็นอย่างที่หานเซิ่นพูด ตัวไหมไม่ได้ต่างจากเครื่องมือที่ถูกใช้ในการวิวัฒนาการของเผ่าเวรี่ไฮ และหานเซิ่นก็ไม่ใช่แค่คนเดียวที่คิดแบบนั้น เวรี่ไฮที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์นั้นจะคิดกับตัวไหมไม่ต่างไปจากของเล่นของจักรวาล พวกเขาจะมองผู้คนและสิ่งมีชีวิตของเผ่าพันธุ์อื่นๆแบบนั้น

 

ในตอนนี้เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกสับสน จากสิ่งที่เธอถูกสั่งสอนมา สิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้เป็นอะไรที่ชัดเจน เธอควรจะหนีไปจากที่นี่และเลือกตัวไหมคนใหม่

 

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เอ็กซ์ควิสิทไม่ต้องการจะทำแบบนั้น เธอรู้ว่ามันไม่ช่วยอะไร แต่เธอยังคงพาหานเซิ่นเทเลพอร์ตไปครั้งแล้วครั้งเล่า

 

เธอไม่ได้เทเลพอร์ตไปหาหลี่เคอเอ๋อเช่นกัน เธอรู้ว่าการทำแบบนั้นไม่มีประโยชน์อะไร

 

‘เขาเป็นตัวไหมที่แข็งแกร่ง เราไม่มีวันหาตัวไหมแบบนี้ได้อีก ถ้าเราอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต เราจำเป็นต้องมีคนอย่างเขา เราต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยเขา’ เอ็กซ์ควิสิทอธิบายทั้งหมดนี้กับตัวเอง ทุกครั้งที่เธอเทเลพอร์ตไป เธอก็จะมองหาหนทางที่จะช่วยหานเซิ่น

 

แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามสักแค่ไหน มันก็ดูเหมือนจะไม่มีหนทางออกไปจากวิกฤตนี้ ถึงแม้เผ่าเวรี่ไฮจะถูกบอกว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด มันก็มีเพียงแค่ระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้ เอ็กซ์ควิสิทอ่อนแอกว่าที่จะทำแบบนั้น

 

ดวงตาของเธอเริ่มแดงก่ำ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำ หานเซิ่นรู้ว่าเธอถึงขีดจำกัดแล้ว เธอดูเหนื่อยล้ามากๆ

 

หานเซิ่นรู้สึกซาบซึ้งกับความพยายามของเธอ แต่เขาเองก็กำลังร้อนรนเช่นกัน เขาไม่กล้าจะคิดอะไรเมื่อเธอยังอยู่ใกล้ๆ เขาจำเป็นต้องให้เอ็กซ์ควิสิทยอมปล่อยเขาไป เพื่อที่เขาจะได้คิดหาทางแก้ไขสถานการณ์นี้

 

แต่เอ็กซ์ควิสิทหัวแข็งเกินกว่าที่จะปล่อยเขาไปตามลำพัง พลังชีวิตของเธอเริ่มจะยุ่งเหยิง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นเพื่อพาหานเซิ่นหนีไป

 

หลังจากที่ใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นอีกครั้ง เอ็กซ์ควิสิทก็กระอักเลือดออกมา เธอใช้พลังมากเกินไป

 

“ข้ารู้สึกขอบคุณในความพยายามของเจ้า แต่เจ้าควรจะรีบหนีไป ข้าจะหาทางเอาตัวรอดด้วยตัวเอง” หานเซิ่นพูดขณะที่ช่วยพยุงเอ็กซ์ควิสิท

 

เอ็กซ์ควิสิทเช็ดเลือดที่มุมปาก เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นเมฆดำก่อตัวขึ้นมา สีหน้าของเธอดูไร้ความรู้สึกขณะที่พูดออกมา
“ถ้าข้ายังช่วยชีวิตตัวไหมไม่ได้ แบบนั้นข้าจะปลดล็อคศักยภาพเต็มที่ของสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นได้ยังไงกัน?”

 

เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกกังวลยิ่งกว่าเดิม ถึงแม้สถานการณ์จะคับขันมากๆ แต่เอ็กซ์ควิสิทก็ยังคงปฏิเสธที่จะหนีไป

 

ขณะที่ก็อตสปิริตสตอร์มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง เอ็กซ์ควิสิทก็จับตัวหานเซิ่นและใช้ก็อตส์วอนเดอร์เพื่อเทเลพอร์ตหนีไป

 

แต่ครั้งนี้ในตอนที่พวกเขาปรากฏตัวอีกครั้ง หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าพวกเขาเทเลพอร์ตได้ไม่ไกลพอจะหนีไปจากก็อตสปิริตสตอร์ม เอ็กซ์ควิสิทใช้พลังมากเกินไป และเธอไม่มีพลังเหลืออยู่ในตัวอีกแล้ว

 

เอ็กซ์ควิสิทสังเกตเห็นว่าพวกเขายังคงอยู่ใต้ก็อตสปิริตสตอร์มลูกเดิม และใบหน้าของเธอก็ซีดไป เธอพยายามจะเทเลพอร์ตอีกครั้ง แต่ทันทีที่เธอขยับร่างกาย เธอก็กระอักเลือดออกมาเพิ่มอีก

 

ร่างกายของเธอเหนื่อยล้าเกินกว่าจะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตอีกครั้ง

 

หานเซิ่นรู้สึกแย่กับเรื่องนี้ ถ้าเอ็กซ์ควิสิทยอมทิ้งเขาไป เขาก็อาจจะพอหาทางแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ แต่ความหัวแข็งของเอ็กซ์ควิสิทกำลังสร้างปัญหาให้กับเขา

 

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกซาบซึ้ง เพราะยังไงซะเหตุผลที่เอ็กซ์ควิสิทไม่จากไป ก็เพราะว่าเธอต้องการจะช่วยเขาให้ได้

 

‘มันจะมีสักกี่คนที่ยอมเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่น? เวรี่ไฮเป็นเผ่าพันธุ์ที่ซับซ้อนมากๆ แต่ทำไมผู้คนถึงกล่าวว่าพวกเขาไร้หัวใจ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด และสีหน้าที่ไม่สามารถอ่านได้ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ก็อตสปิริตสตอร์มกำลังก่อตัวขึ้น แต่เธอไม่สามารถหนีไปไหนได้

 

ทันใดนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็หันมาหาหานเซิ่น “หานเซิ่น ข้ากลัวว่าพวกเราจะไม่รอดไปจากที่นี่แล้ว”

 

“พวกเราจะไม่ตาย” หานเซิ่นพูด เขาใช้รูปปั้นหยกเพื่อหยุดการเชื่อมต่อระหว่างเขากับเอ็กซ์ควิสิท เอ็กซ์ควิสิทไม่รู้ถึงจิตใจและอารมณ์ของเขาอีกต่อไป

 

เอ็กซ์ควิสิทยังคงพูดราวกับว่าเธอไม่ได้ยินสิ่งที่หานเซิ่นพูด
“ข้าเคยคิดว่าสิ่งที่น้องสาวของข้าเลือกเป็นอะไรที่บ้าบอสิ้นดี ข้าคิดว่าเวรี่ไฮเซ้นส์คือความภาคภูมิใจของเผ่าเวรี่ไฮ มันคือมรดกของเผ่าเรา น้องสาวของข้าไม่ได้ภาคภูมิใจกับมรดก นางมักจะหาทางหลีกเลี่ยงการฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์อีกด้วย ข้าไม่เคยเข้าใจว่าทำไม”

 

ก่อนที่หานเซิ่นจะตอบอะไร เอ็กซ์ควิสิทก็พูดต่อ “แต่ตอนนี้ข้าเริ่มจะเข้าใจแล้ว การมีหัวใจที่เชื่อมต่อกับทั้งจักรวาลเป็นอะไรที่ว่างเปล่า เวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟ นี่คือคำสอนของเผ่าเรามาเป็นเวลายาวนาน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราแต่ละคนก็เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตหนึ่งในจักรวาล พวกเราไม่ใช่เครื่องจักร ในบางครั้งการมีหัวใจเป็นอะไรที่น่าดึงดูด”

 

“เจ้าไม่จำเป็นต้องฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์” หานเซิ่นพูด

 

เอ็กซ์ควิสิทส่ายหัว “ข้าไม่มีทางเลือก ชะตากรรมของคนในเผ่าเวรี่ไฮนั้นถูกกำหนดตั้งแต่ตอนที่พวกเราถือกำเนิด หลี่เคอเอ๋อไม่มีทางเลือก ข้าเองก็ไม่มีทางเลือก ข้าเคยคิดว่าหลี่อวี้เจินน่าสงสารที่ไม่มีโอกาสได้ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่ตอนนี้ข้าอิจฉาเขาและคนอื่น ถ้าข้ามีทางเลือก ข้าเลือกจะเป็นอย่างพวกเขา ข้าไม่อยากจะฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ ข้าต้องการจะเป็นสมาชิกธรรมดาของเผ่าเวรี่ไฮ”

 

“แต่นั่นไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว” เอ็กซ์ควิสิทพูดอย่างเยือกเย็นขณะที่มองไปที่ก็อตสปิริตสตอร์ม เธอดูใจเย็นอย่างมาก ดูเหมือนกับว่าเธอไม่กลัวตาย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset