Super God Gene – ตอนที่ 2720

“เจ้าเป็นพระเจ้า?” หานเซิ่นถามและแกล้งทำเป็นตกใจ

 

“ใช่ ข้าคือพระเจ้า ข้าทำได้ทุกอย่าง” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าพูด

 

“แต่พ่อแม่ของข้าบอกว่าในโลกนี้ไม่มีพระเจ้าอยู่และวิทยาศาสตร์คือความเป็นจริง” หานเซิ่นมองพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าด้วยสายตาที่ไม่เชื่อ

 

“ถ้าอย่างนั้นพ่อแม่ของเจ้าก็โง่เขลา” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่ามองไปที่หานเซิ่นและพูดต่อ
“เจ้าเป็นคริสตัลไลเซอร์ ไม่แปลกที่เจ้าจะคิดแบบนั้น พวกเจ้าแค่รู้เกี่ยวกับการทำงานของจักรวาลเพียงอย่างสองอย่าง แต่พวกเจ้าก็คิดไปว่าพวกเจ้ารู้ทั้งหมดแล้ว นั่นเป็นอะไรที่โง่เขลา”

 

เห็นได้ชัดว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าคิดว่าหานเซิ่นโง่เง่า เขาพูดต่อไปว่า
“เจ้าจะอธิษฐานอะไรก็ได้ที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่นเจ้าอธิษฐานขอให้ตัวเองกลายเป็นระดับเทพเจ้า เจ้าอธิษฐานขอสมบัติระดับเทพเจ้าขั้นสูง หรือเจ้าอธิษฐานให้เจ้าได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองของเอาท์เตอร์สกายก็ยังได้ ข้าจะทำให้คำอธิษฐานของเจ้าเป็นจริงและแสดงให้เจ้าดูว่าพระเจ้าที่แท้จริงทำอะไรได้”

 

หานเซิ่นกระพริบตาปริบๆ เขาดูไร้เดียงสาขณะที่พูดออกมา “แต่ข้าไม่ได้ต้องการอะไรพวกนั้น”

 

“เจ้าไม่อยากเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างนั้นหรอ? เจ้าไม่อยากครอบครองจักรวาลหรือยังไง? สำหรับข้าแล้ว การมอบพลังแบบนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ ถ้าเจ้าทำการอธิษฐาน ข้าจะทำให้มันเป็นความจริงขึ้นมา”
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าพูดเพื่อพยายามจะล่อหลอกหานเซิ่น

 

“ข้าจำเป็นต้องมีอะไรพวกนั้นด้วยหรอ?” หานเซิ่นถามพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าด้วยสีหน้าที่ดูสับสน

 

พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าดูพร้อมจะตอบคำถามทุกอย่าง
“เพื่อที่เจ้าจะได้มีทุกอย่างที่ต้องการ ผู้หญิงที่งดงามของทุกเผ่าพันธุ์จะกลายเป็นของเล่นของเจ้า ยอดฝีมือของทุกเผ่าพันธุ์จะกลายเป็นทาสรับใช้ของเจ้า เจ้าจะเป็นผู้นำของทั้งจักรวาล ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลจะเชื่อฟังและหวาดกลัวเจ้า”

 

“นั่นฟังดูไม่เห็นจะดีตรงไหน ข้าไม่อยาได้อะไรพวกนั้น”
หานเซิ่นไม่ต้องการอธิษฐานอะไรแบบนั้น เพราะถ้าเกิดเขาทำการขอมากถึงขนาดนั้นล่ะก็ พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าก็คงจะเก็บค่าตอบแทนจนถึงกระดูกของเขา

 

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องการอะไร?” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าถามพร้อมกับขมวดคิ้ว ชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ดูโง่เขลา แต่คนที่โง่นั้นโน้มน้าวได้ยากกว่าคนส่วนใหญ่

 

“ในตอนนี้ข้ามีความสุขมากแล้ว ข้าไม่ได้ต้องการอะไร ถ้าเจ้าเป็นพระเจ้าจริงๆ ก็ควรจะเก็บคำอธิษฐานพวกนี้เอาไว้ให้กับคนที่ทุกข์ยากและจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ” หานเซิ่นพูด

 

หานเซิ่นรู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าอย่างราชาจุนไม่สามารถทำร้ายสิ่งมีชีวิตของจักรวาลจีโนตรงๆได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่กลัวว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าจะทำอะไรเขา

 

พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเจอกับคนของจักรวาลนี้ เขาจะหาหนทางทำให้คนๆนั้นทำการอธิษฐานขออะไรสักอย่างเสมอ แต่วันนี้เขามาที่นี่เพื่อตามหาจีโนโพรโทพลาสซึม เขาไม่มีอารมณ์จะมาเสียเวลาพูดคุยกับหานเซิ่น หลังจากที่จ้องมองหานเซิ่นอยู่ชั่วครู่ เขาก็หันกลับและไม่สนใจหานเซิ่นอีก เขาอยากจะเดินดูรอบๆเพื่อหาเบาะแสของจีโนโพรโทพลาสซึม

 

ในตอนที่หานเซิ่นเห็นว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าเลิกสนใจเขา หานเซิ่นก็อดกลั้นความโล่งใจเอาไว้ ชุดเกราะคริสตัลสีดำยังคงปิดผนึกร่างกายของเขา มันยังเร็วเกินไปที่จะดีใจ เพราะพระเจ้าแห่งความว่างเปล่ายังคงเดินอยู่รอบๆ

 

‘ถ้าเขาไม่ไป แบบนั้นเราก็ควรจะเป็นฝ่ายไปจากที่นี่แทน’
หานเซิ่นคิด เขาจะอยู่ให้ห่างจากต้นไม้ดาราจนกระทั่งพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าตัดสินใจจากไป

 

แต่หลังจากที่หานเซิ่นบินไปได้ไม่นาน พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าก็มาปรากฏตัวด้านหน้าของเขาอีกครั้ง

 

พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าไม่พบร่องรอยของจีโนโพรโทพลาสซึม ดังนั้นเขาจึงกลับมาหาหานเซิ่น

 

หานเซิ่นเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในบริเวณนี้ ถ้ามันมีจีโนโพรโทพลาสซึมในบริเวณนี้จริงๆ หานเซิ่นก็เป็นคนที่น่าจะได้เห็นมัน พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าไม่พอใจนักที่ไม่สามารถอ่านจิตใจของหานเซิ่นได้

 

ใบหน้าของหานเซิ่นยังคงไร้ซึ่งความรู้สึก เขายังคงบินไปข้างหน้าเรื่อยๆ เขาไม่อยากให้พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าเกิดสงสัยในตัวเขาขึ้นมา

 

ในตอนที่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าเข้ามาใกล้หานเซิ่น เขาก็พูดอีกครั้ง
“เจ้าคิดเกี่ยวกับข้อเสนอของข้าหรือยัง? เจ้ายังมีโอกาสที่จะทำการอธิษฐาน”

 

“ตอนนี้ข้ายังไม่ได้ต้องการอะไร เจ้าควรไปถามคนอื่นแทน”
หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆบินผ่านพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าไป

 

“ข้าบอกให้เจ้าทำการอธิษฐาน ดังนั้นทำการอธิษฐานซะ หยุดพูดจาไร้สาระ!”
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าดูเย็นชาขึ้นมา เขาโบกมือเพื่อฉีกมิติของอวกาศ หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าโลกกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

แต่หานเซิ่นไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกข่มขู่ เขาเข้าใจถึงธรรมชาติและข้อจำกัดของเหล่าคนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้านี้ เขาจะไม่ถูกขู่ให้กลัวง่ายๆแบบนั้น

 

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่รู้จักข้าดีพอ มันไม่สำคัญว่าเจ้าต้องการให้ข้าทำการอธิษฐานมากขนาดไหน เพราะข้าจะไม่ทำมัน เจ้าจะทำอะไรข้าก็ได้? ถ้าเจ้าเป็นพระเจ้าจริงๆ ก็ควรจะฆ่าข้าได้อย่างง่ายดาย” หานเซิ่นพูดด้วยสีหน้าที่แข็งกร้าว

 

พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าดูประหลาดใจ การฉีกมิติออกด้วยมือเปล่านั้นควรจะทำให้หานเซิ่นตื่นกลัว แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ควรจะตกใจจนพูดอะไรไม่ออก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างคนที่ไร้สมองคนนี้กลับไม่สะทกสะท้านต่อการแสดงพลังของเขาเลยสักนิดเดียว นั่นทำให้พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

 

ถ้าทำได้ พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าก็คงจะตบหน้าของหานเซิ่นจนตายและขโมยความทรงจำของเขาไป แต่เขาไม่สามารถโจมตีหานเซิ่นแบบนั้นได้ อย่างน้อยๆก็ไม่สามารถทำในจักรวาลนี้ได้

 

“ดีมาก” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันกลับและหายตัวไป หลังจากนั้นการแตกสลายของมิติก็กลับสู่สภาพปกติ

 

‘คนพวกนี้ทำอะไรในจักรวาลจีโนไม่ได้จริงๆ บางทีมันอาจจะมีเงื่อนไขบางอย่างที่ผูกมัดพวกเขา แต่ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็หมายความว่าเราจะไม่เป็นอะไร ถึงแม้ผู้คนที่อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้าทั้งหมดจะกลายเป็นศัตรูกับเรา ตราบใดที่เราไม่ทำการอธิษฐาน พวกเขาก็ทำอะไรเราไม่ได้’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

แต่ชุดเกราะคริสตัลสีดำยังคงไม่ปลดผนึกบนร่างกายของเขา ซึ่งทำให้หานเซิ่นรู้ว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่ายังไม่ได้ออกไปจากบริเวณนี้จริงๆ หานเซิ่นกลับไปที่ต้นไม้ดารา แต่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่ายังคงซ่อนตัวอยู่

 

ไม่นานหลังจากนั้นเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อก็พาเป่าเอ๋อมาที่ต้นไม้ดารา หานเซิ่นกระวนกระวายขึ้นมาในทันที พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าอาจจะทำอะไรหานเซิ่นไม่ได้ แต่เขาอาจจะพยายามให้คนรอบๆตัวเขาทำการอธิษฐาน เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อนั้นเป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่า

 

หานเซิ่นใส่ความกังวลเข้าไปในรูปปั้นหยกเพื่อที่เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อจะได้สัมผัสถึงความกังวลของเขาและระมัดระวังตัว

 

เมื่อเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อรู้สึกได้ถึงความกังวลของหานเซิ่น พวกเธอก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น หานเซิ่นบอกพวกเธอเกี่ยวกับพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าและแนะนำให้พวกเธอระมัดระวังเอาไว้

 

ขณะที่พวกเขาทั้งสามพูดคุยกัน เป่าเอ๋อก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ดารา เธอกำลังเล่นอยู่ผลไม้ดารา และทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งปรากฏกายบนกิ่งไม้ข้างๆเธอ

 

“หนูน้อย เจ้าต้องการนี่ไหม?” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่ากำลังถืออัญมณีที่งดงามอันหนึ่งอยู่ในมือ เขายิ้มให้กับเป่าเอ๋อและแกว่งอัญมณีไปมาขณะที่พูดกับเธอ

 

หานเซิ่นคิดถูกแล้วเรื่องที่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าจะเล็งเป้ามาที่คนรอบๆตัวเขา แต่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าไม่ได้เลือกเอ็กซ์ควิสิทหรือหลี่เคอเอ๋ออย่างที่หานเซิ่นคิดเอาไว้ พระเจ้าแห่งความว่างเปล่านั้นเล็งเป้าไปที่เป่าเอ๋อที่ดูไร้เดียงสา

 

เป่าเอ๋อมองไปที่อัญมณีในมือของพระเจ้าแห่งความว่างเปล่า ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset