Super God Gene – ตอนที่ 2729

 

ในตอนที่วิชาโลหิตชีพจรถูกใช้อย่างกลับตาลปัตร มันก็กลายเป็นคัมภีร์นภาอำพัน ขณะที่แม็กแคกหกหูกระโดดเข้ามาตรงหน้าเขา หานเซิ่นก็ส่งลูกตบไปข้างหน้า และพลังของคัมภีร์นภาอำพันก็เข้าไปในตัวของแม็กแคกหกหู แม็กแคกหกหูเป็นระดับเทพเจ้า และหานเซิ่นก็ไม่ได้ใช้สมบัติอะไร ในสายตาของเจ้าลิงแล้ว เขาเป็นแค่ครึ่งเทพธรรมดาคนหนึ่ง เจ้าลิงจึงไม่มัวเสียเวลาหลบการโจมตีของหานเซิ่นและปล่อยให้การโจมตีของเขาเข้ามาถูกตัวของมัน เจ้าลิงนั้นกระหายที่จะฉีกร่างของหานเซิ่นเป็นชิ้นๆจนเกินไป

 

แต่ในตอนที่พลังของคัมภีร์นภาอำพันถูกตัวมัน ร่างกายของแม็กแคกหกหูก็สั่นไหว โลหิตชีพจรของมันกลับตาลปัตรและพลังของมันก็หายไปอย่างกะทันหัน ร่ายกายของมันเปลี่ยนแปลงและเหี่ยวเฉาราวกับว่ามันกำลังจะตาย

 

“เกิดอะไรขึ้น…” แม็กแคกหกหูเห็นร่างกายของตัวเองกำลังแห้งเหี่ยวไปเรื่อยๆ มันดูหวาดกลัวขึ้นมา

 

หานเซิ่นไม่ตอบ เขามองดูแม็กแคกหกหูอย่างสงบนิ่ง

 

ความเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายของแม็กแคกหกหูรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขนสีทองที่เรืองแสงราวกับดวงอาทิตย์มัวลงไป และดวงตาสีทองของมันก็ไม่ได้เปล่งประกายอีกแล้ว

 

หลังจากนั้นมันก็มีเสียงแตกหักประหลาดดังขึ้นมา โซ่สสารของแม็กแคกหกหูเริ่มแตกสลาย ในชั่วพริบตามันก็ถูกลดพลังจากระดับเทพเจ้าลงไปสู่ระดับราชัน มันยังคงมีพลังของครึ่งเทพ แต่พลังของมันด้อยกว่าก่อนหน้านี้มาก

 

“นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง?” ดวงตาของแม็กแคกหกหูเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว มันไม่อยากเชื่อว่ามันจะกลายเป็นระดับราชัน

 

“เจ้า…เจ้าทำอะไรกับข้า? นี่เจ้าใช้ลูกไม้สกปรกบางอย่างกับข้าอีกแล้วใช่ไหม?” แม็กแคกหกหูตะโกนใส่หานเซิ่น

 

“เจ้าลิง เจ้ารู้ไหมว่าข้ามีสมญานามในจักรวาลนี้ว่าอะไร?” หานเซิ่นถามขณะที่ยิ้มให้กับแม็กแคกหกหู

 

“ข้าไม่ได้สนใจสมญานามของเจ้า เจ้าใช้ลูกไม้สกปรกอะไรกับข้า?”

แม็กแคกหกหูตะโกนใส่หานเซิ่น แต่มันไม่กล้าจะโจมตีเขาอีกแล้ว

 

แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ลดระดับพลังของมันลงมาสู่ระดับราชัน มันไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้ ตอนนี้มันค่อนข้างหวาดกลัวหานเซิ่น และมันก็ไม่กล้าจะเข้าไปโจมตีเขาอีก

 

หานเซิ่นเมินเฉยต่อการร้องตะโกนของแม็กแคกหกหู เขาหัวเราะและพูด

“ในจักรวาลนี้ผู้คนเรียกข้าว่าบิดาของเทพ เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงได้รับสมญานามนี้มา?”

 

“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง บิดาของเทพ? นี่เจ้าจะอวดดีเกินไปแล้ว…” เมื่อได้ยินสมญานามของหานเซิ่น แม็กแคกหกหูก็โกรธยิ่งกว่าเดิม

 

เจ้าลิงนั้นเป็นระดับเทพเจ้า แต่หานเซิ่นดูเหมือนจะกล่าวอ้างว่าตัวเองมีระดับที่สูงกว่า เห็นได้ชัดว่าเจ้าลิงไม่เห็นด้วยกับเขา

 

หานเซิ่นมองไปที่แม็กแคกหกหูและพูด

“ผู้คนในจักรวาลนี้เรียกข้าว่าบิดาของเทพก็เพราะสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าเป็นเหมือนกับลูกหลานของข้า ข้าปล่อยให้พวกเขามาเป็นลูกชายและลูกสายของข้าถ้าพวกเขามีคุณสมบัติพอ ถ้าข้าไม่อนุญาตให้ชายคนหนึ่งกลายเป็นลูกชายของข้า อย่างนั้นความหวังสุดท้ายของเขาก็คือกลายเป็นหลานชายของข้า เช่นเดียวกับเจ้า เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกชายของข้า”

 

เจ้าลิงอึ้งไป มันอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อมันคิดเกี่ยวกับการที่หานเซิ่นลดระดับพลังของมันลงมาสู่ระดับราชัน สิ่งที่หานเซิ่นพูดก็ดูเหมือนจะสมเหตุสมผล

 

“ข้าไม่สน เจ้าต้องใช้ลูกไม้สกปรกบางอย่างกับข้า… ถ้าเจ้าคิดว่าตัวเองมีความสามารถพอ…”

 

“หุบปาก!” หานเซิ่นขึ้นเสียง เขาจ้องมองไปที่แม็กแคกหกหูด้วยสายตาที่เย็นชาและพูด

“ข้าเห็นว่าเจ้ามีพรสวรรค์ ข้าจึงไว้ชีวิตของเจ้า แต่เจ้ายังคงไม่ซาบซึ้งในความเมตตาของข้า เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้า? ในสายตาของข้า ระดับเทพเจ้าก็เป็นแค่เศษสวะ ถ้าข้าปล่อยให้พวกเขามีชีวิต พวกเขาก็จะมีชีวิตต่อไป แต่ถ้าข้าต้องการให้พวกเขาตาย พวกเขาก็จะต้องตาย ระดับเทพเจ้าเป็นเพียงแค่ของเล่นของข้า”

 

หลังจากนั้นร่างกายของหานเซิ่นก็ดูราวเป็นเทพ เขายกมือขึ้นและเตรียมตัวจะฆ่าแม็กแคกหกหู

 

แม็กแคกหกหูดูหวาดกลัว ตอนนี้มันเกรงกลัวต่ออิทธิฤทธิ์ของหานเซิ่นอย่างมาก ร่างกายของมันสั่นรัว

“อย่าฆ่าข้าเลย! ข้าจะยอมเชื่อฟัง…”

 

“ไม่ต้องกังวล มันไม่มีความจำเป็นต้องฝืนตัวเอง” หานเซิ่นจ้องมองไปที่แม็กแคกหกหู มือของเขายังคงยกขึ้นและเตรียมตัวจะฆ่าเจ้าลิง

 

แม็กแคกหกหูรีบพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้ฝืนตัวเอง ข้าไม่ได้ฝืนตัวเองจริงๆ… มันถือเป็นเกียรติสูงสุดที่จะได้ติดตามคนอย่างนายท่าน! นายท่านเปลี่ยนข้ากลับไปสู่ระดับเทพเจ้าได้ใช่ไหม?”

 

“นั่นไม่ใช่เรื่องยาก เข้ามานี่” หานเซิ่นดูเหมือนกับเทพ ขณะที่เขามองลงมาที่แม็กแคกหกหูจากเบื้องบน

 

แม็กแคกหกหูดูลังเลที่จะเข้าไปใกล้หานเซิ่น

 

“ถ้าข้าต้องการจะฆ่าเจ้า ทั้งหมดที่ข้าต้องทำก็คือยกมือ มันไม่ใช่เรื่องยากอะไร” หานเซิ่นมองไปที่แม็กแคกหกหูด้วยความดูถูก

 

แม็กแคกหกหูฝืนยิ้มออกมา “ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น ข้าไม่ได้สงสัยในเจตนาของนายท่าน…”

 

แม็กแคกหกหูรีบเข้ามาหาหานเซิ่น ร่างกายของมันสูงครึ่งหนึ่งของมนุษย์ และเมื่อมันมายืนอยู่ต่อหน้าหานเซิ่น มันก็ดูเหมือนกับเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง

 

หานเซิ่นมองไปที่เจ้าลิงและยกมือขึ้น เขาสัมผัสหัวของมันราวกับเป็นพ่อและพูด

“ข้า…หานเซิ่น…ในนามของเทพทั้งปวง…ขอมอบพลังศักดิ์สิทธิ์ชั่วนิรันดร์…เพื่อเปิดประตูแห่งโชคชะตา…”

 

หานเซิ่นแต่งคำพูดไร้สาระขึ้นมาเพื่อขู่แม็กแคกหกหู มันไม่ได้รู้ว่าเขาแค่กำลังถ่วงเวลาอยู่เท่านั้น หานเซิ่นจำเป็นต้องรอจนกระทั่งผลของคัมภีร์นภาอำพันหายไป หลังจากนั้นแม็กแคกหกหูก็จะกลับคืนสู่ระดับเทพเจ้าอีกครั้ง หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องใช้วิชาโลหิตชีพรด้วยซ้ำ เขาแค่ลูบไปบนหัวของแม็กแคกหกหูมั่วๆ

 

หานเซิ่นคำนวณเวลาและค่อยๆพูดการอวยพรที่แต่งขึ้นมา หลังจากที่เขาพูดจบ พลังของคัมภีร์นภาอำพันก็หายไป และร่างกายของแม็กแคกหกหูก็เกิดความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

 

แม็กแคกหกหูรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลง มันกลับกลายเป็นระดับเทพเจ้าอีกครั้ง ซึ่งทำให้เจ้าลิงเปี่ยมไปด้วยความปิติยินดีและความโล่งใจ

 

เจ้าลิงดีใจที่ได้กลับสู่ระดับเทพเจ้าอีกครั้ง และมันก็หวาดกลัวชายที่อยู่ตรงหน้าของมัน คนๆนี้สามารถเพิ่มหรือลดระดับของมันได้ตามใจชอบ

 

‘เจ้านี่น่ากลัวเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่ามันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่เขาเป็นบิดาของเทพ เขาอาจจะเป็นแค่ระดับราชัน แต่เราด้อยกว่าเขาในทุกด้าน สำหรับตอนนี้เราคงจะต้องหยุดท้ายทายเขา’ แม็กแคกหกหูพยายามปลอมตัวเอง มันหวาดกลัวอย่างมาก และมันไม่กล้าจะต่อสู้กับหานเซิ่นอีกต่อไป

 

ในตอนที่แม็กแคกหกหูกลับไปสู่ระดับเทพเจ้า มันก็คุกเข่าต่อหน้าหานเซิ่นและพูด

“ข้ายินดีจะติดตามนายท่านไปตลอดการ ข้าหวังว่านายท่านจะลืมเรื่องในอดีตและยินดีให้ข้าติดตามนายท่าน”

 

ขณะที่ปากของมันพูดแบบนั้น ในหัวของของแม็กแคกหกหูก็กำลังคิดอีกอย่างหนึ่ง

‘ให้ข้าหาจุดอ่อนของเจ้าได้ก่อนเถอะ หลังจากนั้นข้าจะหนีไปจากที่นี่และบางทีอาจจะฆ่าเจ้าได้ด้วย’

 

หานเซิ่นคาดเดาได้ถึงสิ่งที่แม็กแคกหกหูกำลังคิดอยู่ แต่เขาไม่ได้พูดเรื่องนั้นขึ้นมา เขาพูดไปว่า

“เจ้าควรจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดี เมื่อเจ้าเริ่มติดตามข้า มันจะไม่มีโอกาสมาเสียใจในภายหลัง”

 

“ข้าคิดเกี่ยวกับมันดีแล้ว ข้าจะติดตามนายท่านไปชั่วชีวิต และข้าจะจงรักภักดีต่อนายท่านเพียงผู้เดียว” แม็กแคกหกหูพูดเป็นตุเป็นตะ แต่เจตนาที่แท้จริงของมันตรงกันข้ามกับที่มันพูด

 

“ลุกขึ้นและบอกชื่อของเจ้ามา” หานเซิ่นพูด

 

“ข้าคือแม็กแคกหกหู ข้าไม่มีชื่อ” เจ้าลิงพูด

 

“ถ้าอย่างนั้นข้าต้องชื่อให้กับเจ้า” หานเซิ่นเงียบไปสักคู่ หลังจากนั้นเขาพูดขึ้นว่า

“ในเมื่อเจ้าเป็นลิงซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าและเป็นแม็กแคกหกหู อย่างนั้นข้าจะเรียกเจ้าว่าหมายเลขหกน้อย”

 

แม็กแคกหกหูอึ้งไปเมื่อได้ยินชื่อที่หานเซิ่นตั้งให้กับมัน

‘นั่นเป็นชื่อที่ห่วยแตก! เขาเงียบไปนาน และสุดท้ายเขาก็มอบชื่อที่เหมือนเด็กให้กับข้า’

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset