Super God Gene – ตอนที่ 2739

“ฉันซาบซึ้งในความหวังดีนาย แต่คนตระกูลถังไม่จำเป็นต้องให้ใครมาปกป้อง” ถังหมิงเอ๋อพูดอย่างไม่พอใจ เพราะยังไงซะหนิงปู้อ้าวก็พูดราวกับว่าเธอนั้นไร้ความสามารถ

 

“นั่นไม่ใช่เจตนาของฉัน ตระกูลของพวกเราเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ดังนั้นพวกเราควรจะช่วยเหลือกัน” ถึงแม้หนิงปู้อ้าวจะอวดดี แต่เขาไม่ได้โง่ เขารู้ว่าตัวเองพูดบางสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป

 

“ฉันเข้าใจเจตนาของนายดี แต่ฉันไม่จำเป็นต้องใช้ความช่วยเหลือ”
ถังหมิงเอ๋อพูด เธอจับแขนของเด็กชายและพูด “เสี่ยวฮวา พวกเราไปกันเถอะ”

 

เมื่อหนิงปู้อ้าวเห็นหญิงสาวที่เขาชอบสนิทสนมกับชายคนอื่น มันก็ทำให้เขาไม่พอใจ เขาวิ่งไปข้างหน้าเด็กผู้ชายและแกล้งทำเป็นแปลกใจ เขาถามขึ้นว่า “น้องชายชื่ออะไรนะ?”

 

“หานเสี่ยวฮวา” เด็กชายตอบขณะที่สบสายตากับหนิงปู้อ้าว

 

ในตอนที่เขาได้ยินแซ่หาน หนิงปู้อ้าวก็รู้สึกสะดุ้งขึ้นมา เขาหวาดกลัวแซ่นั้นอย่างมาก เนื่องจากบางสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่เขายังเด็ก

 

ครั้งหนึ่งบนชายหาดปีศาจ เด็กผู้หญิงตัวน้อยคนหนึ่งของตระกูลหานโยนเขาลงไปในทะเลลึก จนถึงตอนนี้หนิงปู้อ้าวก็ยังคงฝันร้ายถึงเหตุการณ์ในวันนั้น มันเป็นความทรงจำที่เขาหวาดกลัวที่สุด

 

‘หานเสี่ยวฮวา? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้ในตระกูลหาน บางทีเขาอาจจะเป็นแค่สมาชิกตระกูลอื่นที่ใช้แซ่หานเหมือนกัน’
หนิงปู้อ้าวรู้สึกโล่งใจขึ้นมา ตราบใดที่เสี่ยวฮวาไม่ได้มาจากตระกูลหาน เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องกังวล

 

เท่าที่หนิงปู้อ้าวรู้ ตระกูลหานมีแค่ลูกสาวคนหนึ่งเท่านั้น และเธอยังอายุน้อย ดังนั้นมันไม่มีทางที่เธอจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ในตอนนี้

 

เขายังเคยได้ยินเรื่องราวที่บอกว่าตระกูลหานเคยมีลูกชายคนหนึ่ง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ลูกชายคนนั้นได้หายตัวไป หนิงปู้อ้าวจำได้ว่าเด็กผู้ชายที่หายตัวไปนั้นมีชื่อหาหานเฟย เขาไม่ได้มีชื่อที่ตลกและล้าสมัยอย่างเสี่ยวฮวา

 

แต่เสี่ยวฮวาเป็นเพียงแค่ชื่อเล่นเท่านั้น สมาชิกในครอบครัวของเขาเรียกเขาว่าหานเสี่ยวฮวา แต่คนทั่วๆไปรู้จักเขาในฐานะหานเฟย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่หนิงปู้อ้าวจะไม่รู้จักชื่อนี้

 

“น้องเสี่ยวฮวา ถ้าน้องต้องการอะไร น้องพูดมาได้เลย พี่หนิงปู้อ้าวเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากๆ แม้แต่การฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับคนอย่างพี่” หนิงปู้อ้าวยิ้มให้กับหานเสี่ยวฮวาขณะที่เขาพูดโอ้อวด

 

“ขอบคุณพี่มาก พี่เป็นคนดีจริงๆ ถ้าฉันมีเรื่องอะไร ฉันจะไปขอให้พี่ช่วย” หานเสี่ยวฮวาพูดอย่างมีมารยาท

 

ในเซเคร็ด อาเหมยได้สอนเสี่ยวฮวาให้มีมารยาทกับสิ่งมีชีวิตอื่น แม้แต่ในตอนที่เขากิน เขาก็จะกินอย่างสุภาพบุรุษ เขาจำเป็นต้องรักษามารยาทไว้ตลอดเวลา

 

“ถ้าอย่างนั้นน้องเสี่ยวฮวามัวรออะไร? พี่พบมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งในทิศตะวันออกของเมือง พี่จะไปฆ่ามัน พวกเราไปด้วยกันเถอะ” หนิงปู้อ้าวพูดด้วยรอยยิ้ม

 

เขามั่นใจในพลังของตัวเอง เขาคิดว่าจำเป็นต้องแสดงพลังเพื่อทำให้หญิงสาวอย่างถังหมิงเอ๋อตกหลุมรักเขา

แต่หานเสี่ยวฮวาไม่ได้สนใจในการฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ์ ที่เขายังอยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขตที่หนึ่งนั้นเป็นเพราะเขามีปัญหากับการหามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด ถ้าเขาหาพวกมันได้ง่ายๆ เขาก็คงจะไปสู่ก็อตแซงชัวรี่เขตสองเรียบร้อยแล้ว

 

“เสี่ยวฮวา คุณหนิงอุส่าชวนเธอไป ดังนั้นพวกเราควรไปกับเขา” ทันใดนั้นถังหมิงเอ๋อก็กระพริบตาให้กับเขา

 

เธอเป็นคนฉลาด ดังนั้นเธอรู้ว่าหนิงปู้อ้าวคิดจะทำอะไร มันเห็นได้ชัดว่าเขาชอบเธอ และเธอก็รู้ว่าคนตระกูลหนิงนั้นหยิ่งยโสอย่างมาก ถ้าเธอไม่จัดการปัญหาซะตอนนี้ หนิงปู้อ้าวก็จะตามสร้างความรำคาญให้กับเธอไม่เลิก นั่นเป็นเหตุผลที่เธอบอกว่าพวกเขาควรจะไป

 

หนิงปู้อ้าวดีใจเมื่อได้ยินว่าเธอเห็นด้วย เขาเรียกวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ์ประเภทสัตว์ขี่สองตัวออกมาและพูด
“ระยะทางไกลพอสมควร ฉันจะมอบสัตว์ขี่เลือดศักดิ์สิทธิ์สองตัวนี้ให้กับพวกเธอ”

 

เขาไม่เคยลังเลที่จะโอ้อวดตัวเอง หนิงปู้อ้าวมักจะคิดอยู่เสมอว่าถ้าเขามีของดี เขาก็ควรจะให้คนอื่นได้รู้เกี่ยวกับมัน เพียงแค่พูดอย่างเดียวยังคงไม่พอ ดังนั้นในบางครั้งเขาต้องมอบพวกมันเป็นของขวัญเพื่อแสดงถึงความร่ำรวยของเขา

 

การมีสัตว์ขี่เลือดศักดิ์สิทธิ์สองตัวถือเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดา เพราะยังไงซะมันก็วิญญาณอสูรอยู่หลายประเภท ดังนั้นวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ์ประเภทสัตว์ขี่จึงหาได้ไม่ง่ายนัก

 

“ไม่เป็นไร เสี่ยวฮวามีสัตว์ขี่เรียบร้อยแล้ว ฉันจะนั่งไปกับเขา” ถังหมิงเอ๋อยิ้มให้กับเสี่ยวฮวาขณะที่พูด

 

หานเสี่ยวฮวาไม่พูดอะไร เขาแค่เรียกสัตว์ขี่ของตัวเองออกมา

 

ตูม!

มังกรสองหัวสีทองปรากฏกายตรงหน้าหานเสี่ยวฮวา วิญญาณอสูรสัตว์ขี่ที่อยู่รอบๆเริ่มจะกรีดร้องและพยายามจะวิ่งหนี ถ้าเจ้านายของพวกมันไม่ได้ควบคุมพวกมันเอาไว้ล่ะก็ พวกมันก็คงจะวิ่งหนีไปกันหมดแล้ว

 

หนิงปู้อ้าวอึ้งไป มันเป็นวิญญาณอสูรที่ทรงพลังมากๆ เขาเคยเห็นบางสิ่งแบบนี้ในตระกูล แต่พวกมันเป็นวิญญาณอสูรระดับสูงจากก็อตแซงชัวรี่เขตอื่น ในก็อตแซงชัวรี่เขตแรก เขาไม่เคยเห็นอสูรที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน

 

“นี่…นี่ไม่มีทางเป็นวิญญาณอสูรขั้นสุดยอดไปได้ นั่นเป็นไปไม่ได้ มันเป็นแค่การขู่แน่ๆ”
หนิงปู้อ้าวสงสัยอย่างมาก แต่เขาไม่ต้องการจะถามว่ามันเป็นวิญญาณอสูรแบบไหน ไม่อย่างนั้นมันก็จะทำให้เขาดูเหมือนกับคนบ้านนอกที่ไม่รู้เรื่องอะไร

 

“ไปกันเถอะ” หนิงปู้อ้าวฝืนยิ้มออกมา ขณะที่หานเสี่ยวฮวาและถังหมิงเอ๋อนั่งบนหลังของมังกรสองหัวอย่างมีความสุข

 

“เชิญคุณหนิงนำทาง” ถังหมิงเอ๋อพูดด้วยรอยยิ้ม

 

ถึงแม้หนิงปู้อ้าวจะอารมณ์เสีย แต่เขาก็ยังคงสั่งให้ทีมของเขาเดินหน้าไปด้วยความเร่งรีบ เขาพยายามจะทิ้งมังกรสองหัวเอาไว้เบื้องหลัง

 

แต่ในจังหวะที่พวกมันเริ่มวิ่งไป มังกรยักษ์ก็กางปีกขนาดใหญ่มหึมาและทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เมื่อเปรียบเทียบกับมังกรสองหัวแล้ว สัตว์ขี่เลือดศักดิ์สิทธิ์ของหนิงปู้อ้าวช้าเหมือนกับเต่า

 

“นั่นไม่มีทางเป็นวิญญาณอสูรขั้นสุดยอดหรอกใช่ไหม?” หนิงปู้อ้าวตกตะลึง อารมณ์ของเขาแย่ยิ่งกว่าเดิม เขาพยายามปลอบตัวเอง
“เด็กนั่นแค่โชคดีเท่านั้น สมาชิกในตระกูลของเขาอาจจะมอบมันให้กับเขา ในด้านพลังแล้วเขาไม่มีทางจะเทียบกับเราได้ ในตอนที่เราฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ์นั่นได้ ถังหมิงเอ๋อก็จะรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นลูกผู้ชายตัวจริง”

 

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง พวกเขาก็ไปถึงที่หมาย ที่นั่นพวกเขาเห็นมอนสเตอร์ที่ดูเหมือนกับยักษ์ มันกำลังพักผ่อนอย่างเงียบอยู่บนเนินเขา

 

หนิงปู้อ้าวออกคำสั่งให้เข้าโจมตี และเขาก็นำทีมเข้าต่อสู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้น

 

เจ้ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ์ลุกขึ้นและคำรามออกมาในตอนที่ทีมของหนิงปู้อ้าวเข้าล้อมมันเอาไว้ มันไม่สามารถตีฝ่าวงล้อมและถูกต้อนจากรอบด้าน

 

ทีมของหนิงปู้อ้าวเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ตัวหนิงปู้อ้าวเองก็ไม่ได้ออกคำสั่งเพียงอย่างเดียว เขาเข้าโจมตีเจ้ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันใช้เวลาอยู่ครึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะโค้นล้มยักษ์ตนนั้นได้สำเร็จ

 

หนิงปู้อ้าวพึงพอใจอย่างมาก เขาต่อสู้และออกคำสั่งทีมอย่างเต็มความสามารถ เขารู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา

 

เขายิ้มให้กับหานเสี่ยวฮวาและถังหมิงเอ๋อ เขาเริ่มจะเดินเข้าไปหาทั้งคู่ แต่หลังจากที่เดินไปไม่กี่ก้าว เขาก็ได้ยินเสียงคำรามที่ดังลงมาจากท้องฟ้า เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง และใบหน้าของเขาก็ซีดไป

 

มอนสเตอร์ตัวที่มาใหม่นั้นเป็นระดับเลือดศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับตัวที่พวกเขาเพิ่งจะฆ่าไป แต่มอนสเตอร์ตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่ามาก มันเหมือนกับภูเขาลูกน้อยๆขณะที่บินลงมาจากท้องฟ้า ทีมของหนิงปู้อ้าวยังคงอยู่ระหว่างการเฉลิมฉลองกับชัยชนะ พวกเขาไม่ได้รู้สึกตัวถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

“วิ่ง!” หนิงปู้อ้าวตะโกนขณะที่เริ่มวิ่งหนี แต่คนอื่นในทีมไม่ได้ตอบสนองรวดเร็วเหมือนอย่างหนิงปู้อ้าว ในจังหวะที่เขาหันไปมอง มอนสเตอร์ตัวนั้นกำลังจะบดขยี้คนของเขา หนิงปู้อ้าวทั้งตกใจและโมโห แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้

 

ทันใดนั้นก็มีบางสิ่งแว็บเข้ามาในสายตาของเขา มอนสเตอร์ตัวใหญ่ที่ลงมาจากท้องฟ้าหยุดชะงักไป การโฉบลงมาของมันถูกหยุดเอาไว้

 

หนิงปู้อ้าวรู้สึกตกใจ เขามองไปตามร่างกายขนาดมหึมาของมอนสเตอร์จนกระทั่งเขาเหลือบไปเห็นเสี่ยวฮวาที่ยืนอยู่ข้างใต้ ทุกคนที่อยู่รอบๆมองไปที่เสี่ยวฮวาด้วยความตกตะลึง พวกเขามองเด็กชายที่กำลังถือเจ้ามอนสเตอร์เอาไว้ราวกับว่าพวกเขากำลังมองเห็นผี

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset